Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่19

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่19

บทที่19 การเปลี่ยนแปลง ep 4

“ความสุขที่แท้จริง​ คือการมีอิสระภาพ​”

**บางครั้งความเงียบมันก็มอง ดูน่ากลัว เหมือนกับวันนี้นะที่อะไรๆมันจะดูปกติ เหมือนกับเมื่อคืนก่อนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ในแดน ท่าทางเฮฮาปาร์ตี้สนุกสนานกันเต็มที่ รวมถึงตัวผมและเพื่อนในบ้าน ตัวผมคิดเอาไว้แล้วว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างต้องจบเราจะสนุกกันเพียงพรุ่งนี้อีก 1วันก่อนที่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น​**

ค่ำคืนนี้มันช่างทรมาน​ และเป็นไปอย่างที่คิด นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายอยู่ทั้งคืน นอนพลิกไปพลิกมา อาการแบบนี้เป็นกันเกือบครึ่งห้อง ต่างคนก็ต่างนอนพลิกไป พลิกมาเจอกัน ต่างคนก็ต่าง ขำหัวเราะเสียงดังไม่ได้ ความรู้สึกของผม มันบอกได้เลยว่าทำไมค่ำคืนนี้มันยาวนานจัง นอนมองเวลามองดูนาฬิกา ตี 1 ก็แล้ว 2:00 น ก็ผ่านไป กว่าจะตี 3 ได้ ทรมานจริงๆ ผมนึกในใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ กูไม่ดูดซะดีกว่า ดูแล้วเก็บทรงไม่อยู่แบบนี้ มันทรมาน มันเป็นอาการดีดที่ทรมาน เพราะอะไร ที่ทรมานนั่นหรอ ก็คือ การที่ไม่มีอิสรภาพยังไงล่ะ เราไม่สามารถไปไหนได้ ขนาดเดินไปไหนยังเดินไม่ได้เลย นี่ดีดแล้วนอนอยู่เฉยๆ พอเถอะ ไม่เอาอีกแล้ว​ ผมเลยตัดสินใจลุกออกจากที่นอน เพื่อที่จะไปสูบบุหรี่ตรงบ็อคส้วม ที่​ที่พวกยามคืนนี้นั่งกัน บุหรี่ที่ให้ไอ้แว่นเอาขึ้นมาซองนึง ซึ่งตอนนี้เหลือไม่ถึง7มวน

แช๊ะ!! แช๊ะ!! “นอนไม่หลับหรอพี่ ” ไอ้ยาวหนึ่งในสมาชิกในบ้านของผมเอ่ยถาม มันมีหน้าที่รับผิดชอบขึ้นยามให้กับพวกในบ้านที่อยู่ห้องนี้ทุกคน แต่ก็ไม่ได้ให้มันขึ้นให้ฟรีหรอกนะ ก็ต้องจ่ายให้มันตามปรกติ แต่ที่ให้มันขึ้นให้ก็เพื่อมันจะได้มีรายได้ และอีกประเด็นก็คือ​ เราสามารถติดมันเอาไว้ก่อนได้ถ้าตอนนั้นเราไม่มี “อือ.. ดีดขนาดนี้ใครจะหลับลงว่ะ แม่งทรมานชิหาย” ผมได้พูดบอกกับมันพร้อมกับสูบบุหรี่ ไปด้วย​ “อ้าวแล้วนี่มึงขึ้นเวรให้ใครเนี่ย​” ผมถามมันด้วยความสงสัย​ ” ก็ขึ้นเวรให้พี่นั่นแหละวันนี้พี่โดนเวรตอนเขาประกาศชื่อพี่ไม่ได้ยินไง”อ้าว​กูโดนเวรหรอเนี่ย สงสัยตอนประกาศกูไม่ได้สนใจฟัง รู้งี้กูขึ้นเวรเองดีกว่า เพราะไหนๆ กูก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว งั้นเอางี้ มึงไปนอนที่กูเลยตอนนี้ เดี๋ยวกูรับช่วงต่อให้เอง” ผมพูดกับมันและให้มันไปนอนตรงที่ผม แต่มันกับสายหน้าและพูดมาว่า “ไม่เอาหรอกพี่!! เดี๋ยวพี่เล็กรู้ผมโดนส้นตีนเขาแน่ๆ​” และไม่ว่าผมบอกยังไง มันก็ไม่ยอมไปข้างเดียวจนในที่สุดผมก็ให้ยามที่ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ไปนั่งแทน แล้วผมก็ขึ้นไปนั่งเป็นยามแทนกับมัน ช่วงเวลา 3:00 น กว่าๆ บรรยากาศมันช่างเงียบสงัดดีเหลือเกิน บรรยากาศมันช่างเย็นสบาย มีลมพัดมาอ่อนๆ ลอดลูกกรงเข้ามา

ผมนั่งมองบรรยากาศภายนอกด้านหลังห้องขัง วิวตรงนั้นถึงแม้มันจะเป็นเพียง หลังคาบ้านคน ที่เห็นเรียงรายเป็นย่อมๆสีสันก็ต่างกัน แต่มันก็คือโลกภายนอกที่ผมสำผัสได้ วิวแค่นี้ผมก็สามารถจินตนาการถึงเรื่องข้างนอกไปได้ไกลแล้วละครับ​ ถึงแม้ผมไม่หน้าจะคิดถึงมัน เพราะมันมีแต่จะทำให้เราเป็นทุกข์ก็ตาม

ผมนึกถึงบ้าน.. บ้านที่ตอนนั้นผมอยู่ข้างนอกแทบจะไม่ได้กลับเลย นอกเสียจากเวลาจะน็อค จะหลับผมถึงจะกลับบ้าน เพราะผมคิดเสมอว่าไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยเท่าบ้านอยู่แล้ว นึกถึงพ่อกับแม่​ ซึ่งตอนที่ผมอยู่ข้างนอกนั้นก็ไม่ได้อยู่บ้าน​ ​และ​พูดคุยหรือจะสนใจท่านสักเท่าไหร  มัวแต่สนใจเรื่องของตัวเอง  สนกับไอ้ความสุข เหี้ย​ๆ​ จนทำให้ผมต้องมาอยู่ในนี้ไม่รู้ตั้งกี่รอบ และทุกครั้งมันก็ไม่พ้น​ พวกท่านทั้งสองคน​ ที่ต้องมาคอยส่งเสียดูแลผม แต่ผมกลับไม่ได้ดูแลพวกท่านเลย เนรคุณ.. คำนี้มันเหมาะกับผมที่สุด และ​กว่าที่ผมจะคิดได้ก็ต่อเมื่อผมต้องเข้ามาอยู่ตรงจุดที่ต่ำที่สุดตรงนี้ทุกที

สมน้ำหน้าสิ้นดี.. คำนี้มันเหมาะกับผมที่สุด​ คุณๆผู้อ่านก็คงจะคิดเช่นนั้น  เพราะ​ขนาดตัวผมเองผมยังคิดเลย เดือนกว่าแล้ว นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำจนถึงตอนนี้ ไม่มีใครมาเยี่ยมผมเลย และอีกไม่ถึงสิบวัน ผมก็จะขึ้นศาลตัดสินแล้ว ผมจะได้รู้โทษที่ผมจะต้องชดใช้ กับความผิดที่ผมได้ก่อมันขึ้นมา ตอนนี้ผมอยากได้กำลังใจจากพ่อกับแม่มากที่สุด ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆว่าท่านทั้งสองจะทิ้งผมแล้วจริงๆ  และถ้ามันเป็นแบบนั้น  ผมจะอยู่ต่อไปยังไง ผมไม่อยากจะนึกถึงมันเลย ถ้าวันนึงผมไม่เหลือใคร ไม่มีกำลังใจไว้คอยให้ยึดเหนี่ยวเราเอาไว้  ให้มันมีแรงสู้ต่อไปในโลกสี่เหลี่ยมเช่นนี้

ผมคิดได้อย่างนี้ อยู่ๆน้ำตาเจ้ากรรมมันก็เอ่อล้นจะไหลออกมาให้ได้  ผมได้แต่กัดฟันข่มใจและอดทนไม่ให้น้ำตามันไหลออกมาให้ใครเห็น  กลั่นมันเอาไว้ให้มันไหลย้อนไปข้างในใจเสียให้ได้.. และในที่สุดผมก็ชนะ ผมสามารถหยุดน้ำตาเจ้ากรรมไม่ให้มันไหลออกมาได้ “มันต้องดีขึ้น ตัวกูต้องดีขึ้นสิว่ะ” ผมพูดประโยคนี้ซ้ำๆอยู่ในใจ และถ้าเราไม่เปลี่ยนตัวเองในวันนี้ตอนนี้ และ​มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีละ ไอ้ใหญ่  ผมได้บอกกับตัวเองในใจ และถ้ามึงมัวแต่คิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้คอยทำมันก็ได้  มันก็คงจะมีอีกหลายๆเดี๋ยวตามมา “มึงต้องทำมันเลย” ผมได้บอกกับตัวเองในใจ​ และ​ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนในที่สุดผมได้เห็นแสงสีทองอ่อนๆอยู่ที่ปลายฟ้า และแล้วก็ได้เวลาของเช้าวันใหม่สำหรับในคุกแห่งนี้

แถว! เสียงเรียกแถวของยามคนนึงได้ดังขึ้น มันเป็นสัณญาณบอกให้นักโทษในห้องตื่นขึ้นมาเก็บที่นอน และรอลงจากห้องต่อไป  เสียงผู้คุมไขกุญแจห้องพร้อมกับเสียงนับยอดที่ดังออกมา​ ที่ละห้องๆ จนมาถึงห้องของผม นับเส็รจ ผู้คุมก็ไขประตูเปิดให้พวกนักโทษได้ไปทำกิจวัฒประจำวัน​เหมือนอย่างทุกๆวัน

“เหี้ยเอ๋ย.. ทรมานชิบหายนอนไม่หลับทั้งคืน” ไอ้หมีเดินมาบ่นให้ผมฟัง”ปวดหัวมึนหัวจัดเลยว่ะ” ไอ้ฮาทร์ได้พูดเสริมขึ้นมาอีกคน​“อย่างนี้มันต้องถอนใช้ไหมไอ้ใหญ่​ และที่มึงมีเหลือ อีกหล่ะ​” ไอ้หมีได้พูดถามกับผม ผมพยักหน้าตอบมัน เพราะตอนนี้ผมกำลังแปรงฟันอยู่​ “รอขึ้นโรงงานก่อน กูเก็บเอาไว้ข้างบน แต่วันนี้วันสุดท้ายเลยนะ ไม่มีต่อภาคสอง” ผมได้พูดทิ้งท้ายกับทุกคนไป

หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จ  สักพักใหญ่ๆก็ถึงเวลาเคารพธงชาติ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ15นาที ก็ถึงเวลาเลิกแถวแต่แล้ววันนี้ มันแตกต่างจากทุกวัน ไม่มีการปล่อยแถวใดๆทั้งสิ้น ได้มีคำสั่งให้นักโทษทั้งหมดอยู่รวมกันที่กลางสนาม  และห้ามไม่ให้ไปไหนทั้งสิ้น​ มันจึงทำให้นักโทษเริ่มแตกตื่นตกใจ และ​คิดว่ามันต้องเกิดเหตุอะไรที่ไม่ดีขึ้นเป็นแน่ แล้วมันก็เป็นตามนั้นจริงๆ บรรดาผู้คุมจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 40 นาย​ ได้ทยอยเดินเข้าแดนกันมา ซึ่งนั้นมันก็หมายความว่าเป็นอย่างเดียวคือ​ จู่โจมตรวจค้นอีกครั้​ง​ เป็นไปตามที่ผมได้คาดเดาเอาไว้ไม่มีผิด​ ที่เมื่อวานทำไม ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาวุ่นวายในแดนเลย​ มันก็เพื่อจุดประสงค์นี้นี่เอง

เพื่อที่จะย้อนรอยพวกนักโทษ ที่ยังหลงเหลือสิ่งของผิดกฏหมาย ยาเสพติดที่ต่างได้สุกซ่อนเอาไว้​ และ​ได้หลุดพ้นการตรวจค้นของชุดดำนั้นเอง

เหล่าบรรดาสิงห์ขี้ยาทั้งหลาย และ​พวกพ่อค้ายาที่หลงเหลืออยู่ต่างนั้งกันไม่ติด​ ผมเองก็ลุ้นอยู่ในใจว่าอย่าพึ่งมีการตรวจเยี่ยวเกิดขึ้นเลย​ ส่วนเรื่องที่ผู้คุมตรวจค้นจะเจอยาของพวกผมนั้นผมไม่ได้คิด​ เพราะผมเชื่อมือพี่เล็กว่าเขาต้องซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี เพราะอะไรที่ทำให้ผมคิดเช่นนั้นนะหรอ ก็เพราะผมสังเกตุอาการของพี่เล็กที่นิ่งไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลย ดูเป็นปรกติเหมือนที่เคย

และแล้ว มหกรรมการตรวจค้นอันยิ่งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางแสงแดดที่เริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆกับระยะเวลาในการตรวจค้นที่นานขึ้นนานขึ้น​ 1 ชั่วโมงผ่านไปสิ่งของที่ผิดกฎหมายก็เริ่มมีมากองขึ้นที่กลางสนามส่วนมากจะเป็นพวกถังสีที่บรรดานักโทษเก็บเอาไว้รองน้ำขัน สบู่​ เสื้อผ้าที่อยู่ตามจุดต่างๆก็โดนเอามากองไว้ซึ่งในคุกเรียกกันว่า สัมภารกไม่ใช่สัมภาระ​ อีกทั้ง เหล่าบรรดานวลน้องหนังสือสำหรับผู้ชายหลายเล่มด้วยกัน​ แล้ว​ ก็ถึงสิ่งที่พวกผู้คุมต้องการเจอมากที่สุด  ยาเสพติด​ เจ้าหน้าที่ได้ค้นเจอ​ แต่มันก็ไม่ได้มากมายเป็นยาบ้า ไม่ถึง 10 เม็ดด้วยกัน  และมันก็เป็นที่แน่นอนว่า ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของยาอันนี้ ถ้ามันไม่ค้นเจอกับตัวนักโทษก็ฝันไปเถอะว่าจะมีใครยอมรับมัน

แล้วเทพีแห่งโชค ก็เข้าข้างผมอีกครั้ง ยังไม่ได้มีการตรวจเยี่ยวเกิดขึ้น ผมเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก บรรดาสิงห์ขี้ยาทั้งหลายต่างยิ้มและดีใจ และเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันได้เป็นสัญญาณเตือนว่าอีกไม่นาน จะต้องมีการตรวจเยี่ยวเกิดขึ้นให้นอนวันนี้รอดตัวไป แต่ผมก็คิดถึงวันพรุ่งนี้เพราะถ้าพรุ่งนี้ เกิดตรวจเยี่ยวขึ้นมา ผมก็ต้องเกมอยู่ดีอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ผมต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงทั้งอาทิตย์ ก็ได้แต่ภาวนา ให้การตรวจเยี่ยว เกิดขึ้นวันจันทร์หน้าเป็นพอ เพราะถ้าหลุดพ้นอาทิตย์นี้ไป สารเสพติดในตัวผม ก็จะมลายหายไปหมดสิ้น ผมคงต้องลุ้นแบบวันต่อวัน และแล้วการตรวจค้นก็สิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 9:30 น และการตรวจค้นในครั้งนี้ก็ไม่มีผู้ใดโดนเอาผิด มันเป็นการตรวจค้น จู่โจม เฉยๆ ซึ่งมันก็สร้าง ความดีใจให้กับเหล่านักโทษเป็นอย่างมาก เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจค้น เรานักโทษ ที่ต้องทำงานอยู่บนโรงงาน ก็ทยอยเดินขึ้นกองงานกันไป ส่วนใคร ที่อยู่ข้างล่าง พวกกองกลางหรือพวกโยธา ทั้งหลาย ก็ทำหน้าที่กันต่อไป( โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมีขาว​ ขั้ว​ โลกเหนือ”

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่19

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที