Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่30

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่30

 บท​ที่​30 การเลื่อนชั้นและออฟชั้นนักโทษ

“ความพอดี​ คือ​ รากฐานแห่งความสำเร็จ “

**กว่าจะตั้งสติและดึงความรู้สึกตัว​เอง​ กลับมาสู่ปัจุบันได้​ เล่นเราซะแย่ไปเป็นเดือน​ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาที่หม่นหมอง โทรมลงไปอย่างมาก​ หาความเป็นสง่าราศีแทบไม่เจอ​ หลังจากที่ออกศาล​ ผมไม่ได้ดูแลตัวเองเลย ปล่อยให้ไอ้แว่นน้องชายที่แสนดีในนี้เป็นคนคอยดูแล เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าผมไม่มีมันคอยดูแลในช่วงนั้น​ ผมคง​แย่​ คงได้เจ็บไข้ล้มหมอนนอนเสื่อเป็นแน่​ ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้แว่นไปเต็มๆ และ​อาการ​ที่ผมเป็น​​ในคุกเขาเรียกกันว่า​ อาการของคนหลุดหรือ รั่ว​ นั่นเอง​ มันน่ากลัวนะครับ​ อาการของคนที่เป็นแบบนี้​ ถ้าปล่อยไว้นานวัน​ โดยที่เราไม่หาทางแก้ไข หรือปรับอารมณ์ให้เป็นปรกติ โดยเร็วแล้วละก็​ มันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปตลอดเวลาอาการของคนหลุดหรือรั่ว ในคุกนั้นมีด้วยกันหลายแบบ อย่างผมเข้าเรียกซึมจุ๊บ บางคนก็มักจะพูดคนเดียว หัวเราะอยู่คนเดียว บางคนนี่จะไม่พูดไม่สุงสิงกับใครเลย สั่งให้ทำอะไรทำนะครับ แต่ทำถูกหรือผิดไม่รู้ คือกูทำอย่างเดียวจนเสร็จ

อาการเหล่านี้มันมีหลายรูปแบบครับ​ บางคนแกล้งทำก็มี เพื่อไม่ให้ใครมายุ่งวุ่นวาย แต่ผมบอกได้เลยว่าใครแกล้งทำเนี้ยคิดผิด เพราะอะไรนะเหรอ ก็ไอ้พวกที่หลุดหรือรั่วมันคือเป้าหมายในการโดนแหย่โดนแกล้งมากที่สุด แต่คนพวกนี้จะมีเหมือนกันอยู่อย่างนึง นั่นคือพวกเขาไม่มีพิษมีภัยกับใครและมักจะโดนกระทำซะมากกว่า ส่วนเหตุผลหลักๆเลยที่ทำให้เกิดขึ้น​ ก็เพราะไม่มีใครมาเยี่ยมกับ​รับความจริงไม่ได้นั้นเอง…**

หลังจาก​ที่อาบน้ำ​ และได้บอกไอ้แว่นเรื่องจำแนกวันพรุ่งนี้เสร็จ เหลือเวลาอีกเกือบครึ่ง ช.ม​ ถึงได้เวลากินข้าว เพราะต้องรอพี่เล็กกับ​พวกในบ้านที่อยู่บนโรงงาน3เลิกกันก่อน ถึงจะมากินข้าวพร้อมกัน ผมกับไอ้แว่นนั้นตอนนี้ยังอยู่กองกลางเข้าใหม่อยู่เลย พรุ่งนี้หลังจากจำแนกแล้ว ถึงจะได้รู้ว่า เราจะต้องมีหน้าทีทำอะไรหรือป่าว รึว่าจะอยู่ที่เดิม ทำให้ที่ผ่านมาผมกับไอ้แว่น วันๆนึงแทบไม่มีอะไรทำ​ นั่งๆนอนๆให้หมดวันไปไวๆ​ ถ้าถามผมว่าเบื่อไหมผมบอกได้เลยว่าเบื่อมากๆ ผมกับไอ้แว่นก็เลยเดินกันไปร้านพี่หล้าเพื่อหาอะไรกินกัน ฆ่าเวลา​ก็ได้ขนมเลย์มา1ห่อ กับน้ำอัดลมเย็น1ขวด​ในราคาบุหรี่1ซอง(60)

พี่ใหญ่​ ไอ้การจำแนกเนี้ยพี่รู้ป่ะว่าต้องทำไงบ้างและที่เราออก​ ออกไปเพื่ออะไร “ ไอ้แว่น​ถามผมในสิ่งที่มันอยากรู้และผมก็อธิบายให้มันฟัง(ตามที่ผมเล่าไปเมื่อตอนที่แล้ว) “แต่มึงกับกูคงยังไม่ได้ไปทำงาน ร้านค้าส​งเคราะห์กับโรงครัวหรอก เพราะโทษเกิน3ปีให้กูเดานะมึงกับกูไม่ได้ไปไหนหรอกอยู่ที่เดิม และ​กูจะบอกมึงนะไอ้แว่น หลังจากจำแนกพรุ่งนี้แล้ว ถ้ากูมีชื่อย้ายแดนแต่มึงไม่มี​ มึงต้องอยู่กับพี่เล็กนะ ห้ามย้ายไปไหนและมึงต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ทำตามหน้าที่ของเรา อย่าให้ใครมองเราเป็น เบ๊​ มึงรู้ใช่ไหม และก็ความมีน้ำใจเราให้ได้มันคือสิ่งที่ดี แต่อย่าให้จนเราแย่ มึงต้องคิดไว้เสมอว่า มึงหาเงินเองไม่ได้ มึงต้องขอคนข้างนอกใช้ มึงต้องสงสารเขาให้มากๆ​ และอีกเรื่องนึงกูขอให้มึงจำไว้นะว่า อย่าไปกู้หนี้ยืมสินใครเด็ดขาดหรือใครให้มึงไปค้ำประกันก็อย่าไปค้ำให้เขาถึงจะเป็นพวกในบ้านก็อย่าไป มึงเขาใจที่กูบอกนะ เพราะถ้าถึงเวลาแล้วกูจะไม่มีเวลาบอกมึง และที่กูบอกกูสอนมึง เพราะกูเห็นว่ามึงคือน้องชายของกู ในคุกมันอยู่ยากแต่ถ้ามึงอยู่เป็นทำอย่างที่กูบอกคิดให้เยอะๆนะมึงจะอยู่ได้​ ” 

ผมได้พูดในสิ่งที่อยากบอกกับไอ้แว่นหมดแล้ว และผมคิดว่าได้ทำในฐานะพี่ชายควรจะทำหมดแล้ว เพราะผมรู้ว่าในคุกมันไม่มีอะไรแน่นอน ผมคิดว่ายังไง ตัวผมจะต้องโดนย้าย ไปอยู่แดนเด็ดขาดแน่นอน แล้วผมก็จะไปอย่างไม่ลังเลเลย เพราะว่า แดนโน้น มันเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผม​ ผมคิดว่าผมสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่จะอยู่แบบนี้​ ในแดนนี้​ และที่ผมรีบบอกไอ้แว่นก่อน เพราะว่าผมกลัวว่ามันไม่มีชื่อย้ายเหมือนผม แต่ถ้ามันมีชื่อย้ายพร้อมกับผมก็ว่ากันอีกเรื่อง

พอไอ้แว่นได้ฟังในสิ่งที่ผมบอกกับมัน สีหน้าของมัน ดูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก แต่มันก็รับปากกับผม ว่ามันจะทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง ผมยิ้มให้กับมันและตบหัวมันแบบ หยอก​ หยอก ไป 1 ที ก่อนจะพูดว่า “มึงไม่ต้องทำสีหน้าแบบนั้นเลยนะ มึงอย่าเพิ่งคิดมาก​ ไม่แน่มึงอาจมีชื่อย้ายเหมือนกูก็ได้ ที่กูพูดกูเผื่อไว้เฉยๆ​” มันถึงยิ้มได้และมันก็เลยพูดกับผมอีกว่า “ไม่แน่พี่กับผมอาจไม่ได้ย้ายกันไปไหน​ก็ได้​ จริงไหม​ ไปกินข้าวดีกว่าพี่เดี๋ยวผมต้องเตรียมข้าว เตรียมจานอีกเดี๋ยวไม่ทัน ” ไอ้แว่นบอกกับผม 

มันมีหน้าที่ในบ้านคือเตรียมจาน กับตักข้าวไว้รอพวกในบ้าน เพราะว่าในแดนนี้ พวกที่มีบ้านกินเป็นบ้านต้องไปเอาจานชามเอาเอง จากพวกพี่เลี้ยงที่มีหน้าที่แจกจาน ชาม​ ส่วนข้าว กับ​ แกงหลวง เขาจะแจกให้ 3บ้านต่อข้าว1หม้อ แกง1หม้อ ดังนั้นก็จะมี บ้านพี่เล็ก บ้านพี่ไก๋ บ้านพี่อุ้ย 3บ้าน​ อ.เมืองกับยอดแกงหลวงที่ได้ ผมก็เลยช่วยมันอีกแรงนึง เพราะมัวแต่คุยกันเพลินจนเกือบลืมหน้าที่ของมันไป

จัดกับข้าวเสร็จไม่นานนัก พี่เล็กและเด็กในบ้านก็มากันพร้อมหน้าทุกคน พี่เล็กดูจะแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผม​ มันคงดูเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นละมั้ง แกจึงยิ้มๆแล้วพูดออกมาว่า “เป็นไงล่ะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้แล้วรึ  กว่าจะหายบ้าได้​ พี่นึกว่าต้องรับยาประจำ​ มาให้เอ็งกินซะแล้ว​ ไอ้ห่าทำตัวหลุดรั่ว​ เสียชื่อหมด”

พอผมได้ฟัง ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยิ้มให้แก เพราะว่าสิ่งที่แกพูด มันถูกทั้งหมดอยู่แล้ว แล้วพวกเราทั้งหมด ก็นั่งล้อมวงกินข้าวกันตามปกติ มีพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย พวกเราใช้เวลากินกันได้ไม่นาน เพราะว่า ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว​ ก่อนถึงเวลาที่จะขึ้นห้อง ซึ่งในเวลาที่เหลือ  ช่วงนี้ผมกับไอ้แว่น​นั้นไม่มีภารกิจส่วนตัวอะไรที่ต้องทำแล้ว​ นอกจากรอเวลาขึ้นห้องอย่างเดียว ก็เลยจุดบุหรี่สูบคนละมวนกับมัน แล้วก็พากันเดินเล่น​ไปคุยกับพวกบ้านนู้นบ้านนี้ทีเพื่อฆ่าเวลา ที่ยังเหลืออยู่มากก่อนขึ้นห้อง

จู่ๆไอ้แว่นมันก็ถามผมขึ้นมาถึงเรื่องการพาสชั้น(เลื่อนชั้น) ว่าที่เรา2คนตัดสินกันต้นเดือนสิงหานั้น ถ้าถึงเดือนธันวาคมที่ต้องมีการเลื่อนชั้นของนักโทษนั่น ตัวมันจะได้เลื่อนชั้นด้วยรึป่าว รึว่ามันอยู่ชั้นกลางเหมือนเดิม เพราะเราตัดสินกันเดือนสิงหาคม มันได้เลยการพาสชั้นที่ทำกันตอนเดือนกรกฎาคม ไม่กี่วันเอง ที่มันถามผมเพราะว่าปีหน้าราวๆกลางปี จะมีการพระราชทานอภัยโทษของในหลวงรัชกาลที่9 

“พี่ใหญ่​ว่า ผมจะได้เลื่อนชั้นเดือนธันวาคม​รึป่าว​ ” ผมก็เลยอธิบายถึงความน่าจะเป็น ในการเลื่อนชั้นของมัน “กู​ว่านะมึงน่าจะได้เลื่อนชั้นให้มึงเป็นชั้นดีตอนเดือนธันวาคมนะ เพราะตอนกูติดรอบแรกตอนปี 48 และ​49 จะมีอภัยเหมือนกับที่จะเกิดขึ้นปีหน้านี้ ตัวกูก็เกมกรกฎาตัดสินสิงหา เหมือนครั้งนี้ กูก็ได้เลื่อนชั้น และครั้งนี้สำหรับมึง​ ในความคิดกู มึงคง​ได้เหมือนกั​น​” บอกมันเสร็จ มันก็ถามผม​อีกว่า​ “แล้วพี่ละได้รึป่าว” 

ผมได้ยินคำถามของมันแล้ว เลยยิ้มขึ้นมาแบบเซ็งและบอกมันว่า “กู​อะเหรอ​ หมดสิทธ์ได้อะไรทั้งนั้น กูโดนแดง ต้องออฟชั้นอยู่ชั้นเลวปีครึ่งถึงจะปลดออฟกูเป็นชั้นกลาง และกูต้องรออีกปีครึ่ง ถึงจะชั้นเยี่ยมก่อน ถึงจะได้รับอภัยโทษ เหมือนคนอื่นเขา เอาง่ายๆกูต้องติดถึง3ปีก่อน แต่ถ้ามีอภัยก่อน3ปีกูจะไม่ได้อภัยเลย​ เนี้ยแหละโทษของพวกที่ติดคุก2-3รอบอย่างกู ส่วนมึงพึ่งรอบแรกมึงได้สิทธ์ทุกอย่างทั้งอภัยโทษ พักโทษมึงก็ทำได้ และวันลดอีก มึงอ่ะกลับบ้านก่อนกูแน่นอน” หลังจากพูดเสร็จ ผมและไอ้แว่นก็เดินไปที่ตู้ล็อคเกอร์เก็บของ เพื่อกินนมกันคนละกล่อง และ​สูบบุหรี่อีกคนละมวน ก่อนที่จะมีเสียงนกหวีดเป่าขึ้นมาเป็นสัญญาณบอกเวลาขึ้นเรือนนอนได้แล้ว และแล้วหนึ่งวันในคุกก็ได้หมดลง

เมื่อเช้าของวันจำแนกมาถึง ไอ้แว่นลงจากห้องปุ๊บ มันก็รีบตรงดิ่งไปร้านตัดผม เพื่อที่ให้ช่างเจ๋งตัดผมให้กับมัน​ เพราะได้นัดกับช่างเจ๋งไว้ก่อนแล้วเมื่อวานก่อนขึ้นห้อง พร้อมกับจ่ายค่าตัดผมเป็นที่เรียบร้อยก่อนแล้ว ส่วนผมก็เข้าส้วมถ่ายหนักเพื่อไว้เลยเพราะวันนี้ใช้เวลาทั้งวันแน่ๆและที่หน้าฝ่ายห้องน้ำนักโทษมันอยู่ไกล​ ถ้าปวดขี้ตอนนั้นมันเข้าลำบาก และ​ผมก็มาอาบน้ำชำระร่างกาย​ ยังไม่เสร็จดี ไอ้แว่นก็ตัดผมเสร็จและเดินมาอาบน้ำด้วยกัน 

หลังจากเราทำธุระส่วนตัวเสร็จ กินกาแฟแล้วก็มาเข้าแถวเคารพธงชาติเรียบร้อย เราสองคนก็มากินข้าวเช้ากันก่อนเลย จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดหลวงกันให้เรียบร้อย​ เพื่อรอเวลา9โมงเช้า เพื่อที่จะพร้อมกันที่หน้าประตูแดน​ รอออกไปจำแนกที่ฝ่ายควบคุมกลางต่อไป

ที่ฝ่ายควบคุมกลาง วันนี้มีนักโทษมาจำแนกลักษณะผู้ต้องขังทั้งสิน 150คน​ เฉพาะแดนที่ผมอยู่ 100คน​ และแดนเด็ดขาดชายอีกแดนในเรือนจำแห่งนี้อีก50คน จำแนกขนาดนี้เข้าแดนอีกที คงจะกินข้าวเย็นพอดี นักโทษมากันครบทั้ง2แดนแล้ว ทีนี้เด็กหน้าฝ่ายก็นำกระดาษรายชื่อทั้งหมดมาเช็คชื่อ เพื่อเรียงอันดับรายชื่อจาก 1ถึง150 จุดประสงค์ก็เพื่อตอนเข้าห้องไปจำแนก ลำดับหมายเลขจะได้ตรงกับชื่อตัวเองในใบรายชื่อที่เจ้าหน้าที่ถืออยู่ด้วย ผมมีชื่ออยู่ลำดับที่88 ส่วนไอ้แว่น90 แต่คนที่คั่นกลางเป็นเด็กที่มาจากแดนเด็ดขาด ซึ่งในตอนแรกที่เห็นหน้ามันผมว่าหน้าคุ้นๆแต่นึกไม่ออกว่าชื่ออะไร จนมันเอยปากทักผมนั้นแหละผมถึงนึกออก 

“พี่ใหญ่​ หวัดดีครับ จำผมได้เปล่าเนี้ย ผมติ๊กลพบุรี ที่กินอยู่บ้านพี่ต้นหลังคุกไง” ผมก็ทำหน้างงอยู่ “คนที่เตะหน้าไอ้หนึ่งถัง โจทย์พี่ไง ” พ​อมั​น​พูด​​เท​่​า​นี้ ภาพ​จำ​ในวันนั้นก็พุดขึ้นมาในหัวของผมทันที “อ๋อ… จำได้แล้วไอ้ติ๊ก มึงเป็นไงบ้างแล้วนี้มึงยังไม่ออกอีกรึ หรือรอบใหม่ และพวกไอ้ต้นเป็นไงบ้าง และไอ้บอยดำละเป็นไง สบายดีกันป่าวว่ะ ” ผมทักทายและถามถึงความเป็นอยู่ของพวกเพื่อนๆอ.เมือง​ ที่อยู่อีกแดนนึงด้วยความคิดถึง 

“ผมสบายดีพี่ ผมยังไม่ได้ปล่อยเลย แต่ก็ใกล้แล้วครับ ปล่อยอภัยปีหน้าชุดแรกต่ำปีแน่นอน ถ้ามันมีอย่างที่เข้าลือกันนะพี่ ส่วนพวกพี่บอยดำ พี่ต้น เขาสบายดีเหมือนเดิมครับพี่ พี่ต้นเป็นหัวหน้าห้อง2/5อยู่เหมือนเดิม ส่วนพี่บอยดำเป็นรองและก็เป็นหัวหน้าโรงงาน2 เหมือนเดิม​ พวกเขายังคุยเรื่องพี่กันเลยตอนพี่เกมเข้ามาแรกๆ และยังบ่นกันอยู่เลยว่าทำไมพี่ยังไม่ย้ายแดนมาสักที “ ผมได้ฟังแล้วจึงบอกให้มันไปบอกพวกๆ อ.เมือง​ด้วยว่า​ “กูไปแน่ไม่ต้องห่วงหลังจำแนกเนี้ยแหละ มีล็อตย้ายแดนเมื่อไหรกูลงชื่อไปแน่ แต่ถ้าให้ดี เดี๋ยวก่อนเลิกมึงเอาชื่อกูกับน้องกูคนนี่ไปให้ไอ้บอยนะ และกูฝากบอกมันว่า ให้ชัวร์​ก็ให้ลูกพี่ ทำเรื่องดึงตัวไปทำงานเลยไวดี​ ” 

หลังจากนั้นผมก็คุยกับไอ้ติ๊กอีกหลายเรื่อง โดยมีไอ้แว่นนั่งฟังไปก็หัวเราะไปกับเรื่องเราสมัยก่อนที่เคยผ่านมาของผม จึงทำให้บรรยากาศในการรอจำแนกไม่น่าเบื่อและทำให้เวลามันผ่านไปไวโดยที่ไม่รู้ตัวมารู้สึกตัวอีกที ก็ได้เวลาพักกลางวันของเจ้าหน้าที่ และตอนนี้ก็จำแนกไปแล้ว82คน เหลือแค่5คนก็จะถึงคิวของผม​สักที​ “ไม่น่าเกินบ่ายโมง20ถึงคิวผมสักที ” ผมบอกตัวเองในใจ… (โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมี​ขาว​ ขั้ว​ โลก​เหนือ​ ” 

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่30 การเลื่อนชั้นและออฟชั้นนักโทษ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที