Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 67

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 67

บทที่67 ศึกตะลุมบอล

” ไม่มีสิ่งใดจะอยู่สูงไปได้ตลอด ถ้าเราไม่มั่นทำความดี เพราะความดีนั้นจะพาเราให้สูงกว่าความชั่วทั้งปวง “

** ตอนที่ผมมองดูปฎิทิน เฮ้ยตอนนี้มันใกล้ลอยกระทงแล้วนิหว่า และในมือถือของผมมันก็เด้งเตือนความทรงจำเมื่อ 2ปีที่แล้วว่า วันนี้คือวันลอยกระทง จึงทำให้ผมนึกถึงปีที่ได้ลอยกระทงขึ้นมา มันคือการลอยกระทงในรอบ5ปีของผม เพราะผมอยู่ในคุกมาและเทศการลอยกระทงเนี้ยขอบอกได้เลยว่า มันคือเทศการของคนที่มีคู่กันจริง ๆ

และเป็นเทศการของคู่รักรองลงมาจากวันวาเลนไทน์ ตามที่ข่าวในทีวีส่วนใหญ่บอกกัน ถ้าใครไม่มีคู่ไปลอยแต่มีเพื่อน ๆ ไปด้วยอันนี้ก็คงพอได้ แต่ถ้าใครคิดไปลอยกระทงคนเดียวอันนี้คิดผิดถนัด นอนอยู่บ้านดีที่สุด แต่สำหรับผมปีนี้ต้องไปลอยให้ได้เลย เพราะไอ้โควิดมันทำให้พวกเราไม่ได้ลอยกระทงกันเมื่อปีที่แล้ว จำกันได้รึเปล่า แต่ปีนี้ลุง(ตู่)เขาสั่งให้เปิดประเทศ เราก็ช่วย ๆ เขาหน่อย เพื่อเศรษฐกิจมันจะดีขึ้น และลุง(ตู่)เขาอาจจะใจดี มีเงินเยียวยาค่าน้ำท่วมให้กับเราสัก3000-5000มันคงจะดีนะ..(นี่กูฝันไปป่าวว่ะ555)**

ในเมื่อพูดกันดี ๆ แล้วไม่ต้องการกัน ก็ไม่ต้องคุยอะไรกันแล้วให้มากความ ในเมื่อคำตอบจากมัน ก็คือสภาพของไอ้หยีที่กลับมาแบบนี้ การมีเรื่องในคุกนั้นผมก็รู้อยู่เต็มอก ว่ามันไม่คุ้มกันหรอกครับ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็รับจบหมด แต่ในเมื่อเรื่องมันมาหาถึงขนาดนี้แล้ว และเราปล่อยผ่านไป ต่อไปข้างหน้าบ้านเรา จะไม่เหลือที่ให้ยืนอีกเลย เสียไม่ได้!! คือ สิ่งที่คนคุกนั้นยึดถือกันมานาน นานแต่ไหนแต่ไรกันอีกด้วย อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด และถ้าจะไปปิดเขาเราต้องปิดให้อยู่ เหมือนกับคำพังเพยที่ว่าตีงูต้องตีให้ตาย อย่าตีงูให้หลังหัก ไม่เช่นนั้นมันจะแว้งกัดเอาได้

ผมกับไอ้เบนซ์กึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่หน้าสุดกันสองคน สายตาก็สอดสายหาไอ้อารต์ เพื่อที่จะได้จัดการมันและปิดเกมส์ให้ไว เหล็กปลายแหลมยังเหน็บไว้ที่เอว แต่มือขวาผมยังคอยจับเอาไว้เพื่อที่จะใช้มันได้อย่างทันถ้วงที อีกไม่ถึง15เมตร ก็จะถึงบ้านที่มันอยู่กันแล้ว ผมกับไอ้เบนซ์วิ่งเต็มสปีดเพื่อไม่ให้มันทันตั้งตัว และแล้วการตะลุมบอลก็ได้เริ่มขึ้น

พวกมันที่ได้เตรียมพร้อมไว้รออยู่ ยังต้องสะดุ้งเมื่อเห็นพวกเราพุ่งมาแบบนี้ แล้วเป้าหมายที่ผมได้เล็งเอาไว้ มันยืนอยู่กลางวงล้อมของเด็กในบ้าน ไอ้อารต์ยืนตัวแข็งที่เห็นผมและไอ้เบนซ์ ถือเหล็กนำหน้ากลุ่มมาแบบนี้ แววตาของมัน บ่งบอกได้ถึงความตื่นกลัว ที่มีให้เห็นอย่างชัดเจน จะถอยไปไหนก็ไม่ได้ ในเมื่อกลุ่มบ้านที่มันอยู่นั้น ข้างหลังก็คือหลวดหนามแบบหีบเพลง

ซึ่งต่างจากหลวดหนามแบบปรกติ นั่นคือมันคมและถ้าใครเข้าไปติดอยู่ในหลวดหนามแบบหีบเพลงแล้วละก็ รับประกันได้เลยว่าเหวอะทุกราย และมีทางเดียวที่มันจะเอาตัวรอดไปได้ ก็คือฝ่าวงล้อมจากพวกผมเท่านั้น ผมสังเกตุเห็นว่าแนวหน้าของมันนั้น ในมือมีเพียงก้อนหิน กับช้อนสั้นที่เอามาทุบให้แบนและลับให้คมที่คนในคุกเรียกว่า “ช้อนมีด” มีไว้ตัดกระดาษหรือตัดถุงแกงไม่สามารถเอามาแทงคนได้ นอกเสียจากเอามาฟันให้รู้สึกแสบ ๆ ก็เท่านั้นเอง

“ไอ้สัตว์ใครไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยไปซะ ” ผมตะโกนบอกพวกมันสุดเสียง เพื่อที่อยากจะให้โอกาสพวกมันได้เลือก แล้วคำตอบที่ผมได้รับก็คือ ก้อนหินขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง ถูกเขวี้ยงมาทางพวกเรา แต่ความแรงมันแทบหายไปครึ่งหนึ่งได้ด้วยที่พวกเราบุกไปหามันโดยที่มันตั้งตัวไม่ทัน 

” ป็อก..โอ็ย!! ” ผมไม่รู้ว่าใครคือผู้โชคร้ายที่โดนก้อนหินในกลุ่มเรา แต่ได้ยินแค่เสียง ส่วนผมนั้นได้เอามือขึ้นมาบังหน้าไว้ทันก่อนที่ก้อนหินมันจะพุ่งมาโดนแขนผม ทำเอาปวดอยู่ไม่น้อย และพวกมันก็ทำได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็แค่มือเปล่า ๆ ไว้สู้เท่านั้น 

ถึงตาของพวกเราแล้ว และคนที่มันปาหินใส่ผมนั้นก็ได้เป็นคนแรกที่ได้ลิ้มรสชาติเหล็กในมือของผม มันตั้งตัวไม่ทันผมก็ปรี่มาใกล้มันแล้ว ก่อนที่ผมจะชักเหล็กออกมาเอามือซ้ายของผม โน้มคอมันลงมาให้ได้แทงถนัด ๆ ผมไม่อยากรุนแรงกับพวกปลายแถว ก็เลยไม่งัดเหล็กแทงแถวบอดมัน ผมกดเข้าไปที่พุงกระทิของมัน เอาแค่สั่งสอนให้หยุดพอ

 “ปุ๊ก!” เสียงเหล็กแทงเข้าไปในชั้นไขมันดังเข้าหูผมชัดเจน “แรงสัมผัสในมือของผม มันเหมือนกับเวลาเราเอามีดมาทิ่มหนังหมูสามชั้นยังไงยังงั้น ผมแทงมันไปแค่ครึ่งแรงที่มีเท่านั้น แต่ถ้าคนเราใจไม่สู้แล้วโดนนิดโดนหน่อย ก็ทิ้งตัวแล้วแบบที่มันกำลังทำ! มันลงไปนอนกุมท้องดิ้นพล่าน ๆ แต่ก็ไม่รอดส้นตีนพวกข้างหลังอยู่ดี

พวกมันต่างถอยกรูกันจนเกือบเสียขบวนอยู่แล้ว จู่ ๆ ร่าง ๆ หนึ่งก็พุ่งตัวมาด้านข้าง พร้อมกับไม้คมแฝกในมือ ไอ้บีหัวเรือใหญ่นั่นเอง มิน่าทำไมผมถึงไม่ยักจะเห็นมันในตอนแรก มันแอบซุ้มรอจังหว่ะอยู่นี่เอง มันง้างไม้ขึ้นสุดแขนหวังหวดใส่ผม ซึ่งผมเห็นแบบนี้มันก็ไม่มีทางจะโดนผมได้.. 

ผมฉากหลบไปด้านข้างพร้อมกับเตรียมแทงสวนมันออกไป แต่แล้วขาข้างซ้ายที่เป็นขาหลักในการหลบครั้งนี้ของผม มันได้ลื่นจะเป็นเพราะผลมาจากการเล่นบอล หรืออะไรก็แล้วแต่ มันได้ทำให้ผมเอียงและล้มลงไป หมดทางจะป้องกันคมแฝกของไอ้บีที่มาเป็นครั้งที่สองได้!!

มันเหมือนกับภาพสโลโมชั่นในสายตาของผม ไม้คมแฝกกำลังหวดลงมากลางศรีษะของผม และผมคงจะจบเกมเป็นแน่ แต่ก่อนที่ไม้จะมาถึงผม ไอ้แว่นมันพุ่งมาจากไหนไม่รู้ โดดเข้ามากันผมไว้ให้รอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ แต่ผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง 

” กร็อบ!! ” ไอ้แว่นแขนหักจากการที่มันโดดมาขวางเอาไว้ แต่มันก็มีทีเด็ดเพราะว่าในมือมันถือเหล็กสองคมเอาไว้ ซึ่งผมเองก็มาแปลกใจในภายหลังว่ามันไปเอามาจากไหน

ไอ้แว่นกลับตัวหันหน้าไปหาไอ้บี พร้อมกับตวัดเหล็กสองคมในมือ แทงเข้าไปที่หน้าของไอ้บีอย่างจัง  ” ปุ๊ป ” เสียงดังยังกับลูกบอลโดนตะปูตำก็ไม่ปาน

เหล็กแหลมจากมือของไอ้แว่น แทงแก้มไอ้บีทะลุเข้าไปอยู่ในปากของมันเพราะความคม เลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากปากของมันทันที ไอ้แว่นไม่ดึงมันออก แต่มันกลับเลือกที่จะโน้มตัวล้มทับไอ้บี และกดเหล็กให้จมเข้าไปอีก “หัวเรือใหญ่” บัดนี้ได้หักสบั้นลงโดยกิ่งไม้เล็ก ๆ แต่ใครจะรู้ได้ว่าเนื้อไม้นั้นแข็งดุจหินถ้าไม่ได้สัมผัสกับมัน.. ไม่มีเวลามาดูอะไรทั้งนั้น ผมรีบฝ่าวงล้อมลิ้วล้อทั้งหลาย เพื่อไปให้ถึงไอ้อารต์ ซึ่งในมือมันก็ถือเหล็กอยู่ทั้งสองมือรออยู่!!

ทางด้านของไอ้เบนซ์หลังจากที่พุ่งไปพร้อมกัน ด้วยการที่ตัวมันใหญ่ ก้อนหินเลยทำอะไรมันไม่ได้ มันเป็นพวกสายบู๊ชนแหลก แลกเป็นแลก บวกเป็นบวก ไม่มีถอยไม่มียุบให้เห็น มันไปทางไหนทางนั้นก็แตกกระเจิง มันวิ่งไล่แทงพวกไอ้อารต์สนุกมือ ไม่มีหลบไม่มีถอย แบบว่ามึงตีกูตีไป กูคว้ามึงได้กูแทงไม่เลี้ยง จนบนตัวของมันเต็มไปด้วยเลือด เลือดมันด้วยและเลือดคนอื่นอีกหลายคน 

จนในที่สุดก็ถึงตัวไอ้อารต์ ในตอนนี้มันเหลืออยู่แค่3คน คือมันและคนสนิทของมันอีก 2คน เพียงเท่านั้น!!

“ถึงตามึงแล้วไอ้อารต์ มาเลยมึงเข้ามา มากันให้หมดทั้งสามคนเลย” ไอ้เบนซ์ตะโกนใส่ไอ้อารต์ ในตอนนี้มันบ้าเลือดแล้วเต็มที่  ” ไอ้สัตว์เฮ้ย! ” ผมกระโดดถีบสมุนฝั่งซ้ายเข้ายอดอก พร้อมกับตะโกนด่าออกมา ไอ้คนนั้นกระเด็นตามแรงถีบของผมจนหลังมันไปติดหีบเพลงอย่างจัง ” โอ๊ยย!!” มันร้องเสียงหลง โดยที่ตัวของมันติดคาอยู่ในหีบเพลง

ผมหันจะไปใส่กับไอ้อารต์ตามที่ตั้งใจไว้ แต่กับเป็นไอ้เบนซ์ที่ยืนใส่เดี่ยว ๆ กับไอ้อารต์สองต่อสอง ยืนแรกกันคนละทีก็ว่าได้ ดูแล้วชวนให้หวาดเสียวยิ่งนัก ใครดีใครอยู่และใครจะทนได้นานกว่ากัน ผมไม่ยอมให้ไอ้เบนซ์ต้องมาเจ็บตัว โดยที่ไม่จำเป็นแบบนี้หรอกนะครับ ก็ในเมื่อพวกเราพับบ้านของมันราบคาบไปแล้วแบบนี้ 

ผมเลยกระโดดเตะเข้าบ้องหูมันเต็มแรง “เปี๊ยะ!” เสียงดังฟังชัดเต็มแข็งขวาข้างถนัด ไอ้อารต์เซถลาราวกับนกปีกหัก ค่อย ๆ เอียงที่ละนิด เหมือนภาพมันค่อย ๆ สโลจนล้มลงกับพื้น

“TKO”เสียงคนพากษ์ประกาศขึ้น ถ้าเรื่องนี้เป็นเกมส์เพลย์ชกมวยที่เราเคยเล่นกัน สภาพที่ไอ้อาร์ตค่อย ๆ ล้ม มันให้ความรู้สึกอย่างกับตอนเราเล่นเกมส์อยู่จริง “YOU WIN”…

แต่แล้วไอ้อารต์ ก็เกิดอาการชักกระตุกขึ้นมาอย่างแรง เหมือนกับคนที่เป็นลมชักและสักพักมันก็นิ่งไป ผมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นจนทำอะไรไม่ถูกอยู่เหมือนกันในตอนนั้น

” ไอ้ใหญ่!!ยืนทำเหี้ยอะไร วิ่งเร็วพี่มาแล้ว ” เสียงไอ้เบนซ์ตะโกนบอกกับผม จึงทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์กับการที่เห็นอาการของไอ้อาร์ต ผมจึงรีบใส่เกียร์หมาวิ่งหลบไปอย่างไว เสียงนกหวีดยาวของผู้คุม ได้ยินไล่หลังผมมาแต่ไกล พร้อมกับพวกเจ้าหน้าที่เรือนจำนับ10นาย ต่างวิ่งถือไม้กระบองกันเข้ามาในแดน เพื่อที่จะมาระงับเหตุที่เกิดขึ้น 

แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จะมาช้าไป เหตุการณ์มันได้ยุติลงแล้วสภาพเด็กในบ้านไอ้อาร์ต และ รวมถึงตัวมันเอง ต่างนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดกันเป็นจำนวนนับ 10 คน ส่วนคนที่พอลุกไหวหรือไม่ค่อยเป็นอะไรมาก ต่างก็ช่วยกันพยุงคนเจ็บที่โดนแทงโดนกระทืบ พาไปหน้าแดนเพื่อออก พ.บหาหมอต่อไป ส่วนพวกที่เหลือที่ไม่สามารถจะพยุงตัวเองขึ้นได้ ต่างก็นอนนิ่งรอรถเข็นข้าวคันใหญ่ในแดนมาบรรทุกพวกมันออก พ.บ ต่อไป

อีกด้วย ทางฝั่งของพวกเรานั้น ที่เจ็บหนักสุดเห็นทีจะเป็นไอ้แว่น เพราะแขนซ้ายของมันได้หัก จากการโดนคมแฝกของไอ้บีตีเข้าไปอย่างจัง มันเจ็บตัวเพราะช่วยผมเอาไว้แท้ ๆ ถ้ามันไม่บังเอาไว้ ผมเองคงเป็นที่นอนรอออกพ.บแน่นอน ผมร้อนใจเป็นห่วงมันยิ่งนัก ในตอนนี้พวกผม ต่างคนก็ต่างหลบการตามจับของเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครช่วยใครได้ในตอนนี้ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด” ผมมาหลบที่บ้านบังดุลตรงล็อคฝักบัว

 “ใจเย็น..ใหญ่ไม่ต้องห่วงไอ้แว่นมันหรอก บังเองเป็นคนดึงมันออกมาตอนที่มันล้มทับอยู่กับไอ้บี และบังก็ให้เด็กในบ้านพามันไปหน้าแดนให้ออกพ.บก่อนเรื่องจะจบซะอีก ไอ้เด็กนี่ใจมันได้ว่ะเล่นซะไอ้บีร้องยังหมา แก้มแทบฉีกได้มั้งคราวนี้แดกน้ำปากรั่วแน่นอน “บังดุลได้เล่าให้ผมฟังเพื่อให้ผมสบายใจ ผมได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจไปเปลาะนึง 

“ผมขอบคุณมาก ๆ นะบังที่ไม่ทิ้งมัน และเป็นธุระจัดการให้มันออกพ.บ และบังได้เห็นแขนมันเป็นไง หนักไหมครับมันหักช่วงไหน ” ผมถามอาการเบื้องต้นของไอ้แว่นจากบัง 

” แขนมันหักข้างซ้ายตรงต้นแขน บังว่าคงไม่หนักมากเท่าไหร่ เพราะตรงนั้นเนื้อมันเยอะ ไม่ถึงสองเดือนก็หายแล้ว ว่าแต่ใหญ่เป็นอะไรบ้างรึเปล่า ” บังดุลอดห่วงที่จะถามผมไม่ได้ 

“ไม่เป็นไรหรอกบัง แค่ก้อนหินโดนแขนนิดหน่อยเอง ส่วนลอยเลือดที่เปื้อนไม่ใช่เลือดผม เลือดใครบ้างก็ไม่รู้จำไม่ได้ ” ผมบอกกับบังพร้อมกับถอดเสื้อออกมาเพื่อทำลายหลักฐาน “จะห่วงตอนนี้ก็แค่ไอ้เบนซ์คนเดียวนี่แหละ นิสัยมันชอบท้าชนยืนปักหลักแลกกันไปเลย ไม่รู้โดนกี่รูกันแน่ แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้หลบไปไหนด้วย ” ผมพูดให้บังฟังว่าเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ที่สุด….

เหตุการณ์มันยังไม่ได้สงบเลยทีเดียว ก็ในเมื่อมันเหลือแต่ผู้บาดเจ็บให้เจ้าหน้าที่ได้จับ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้น แต่ละคนไวเหมือนปรอทกันทั้งนั้น จะไปจับใครได้ เหตุการณ์มันจะดำเนินต่อไปแบบไหน เอาไว้อ่านต่อฉบับหน้านะครับ (โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมีขาว ขั่ว โลกเหนือ” # คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 67

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที