By AI AI
มหาศึก คนชนเทพ กษัตริย์ลีโอไนดัส (Leonidas)
กษัตริย์ลีโอไนดัส เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ ในการเข้าร่วมต่อสู้กับฝ่ายเทพ ลีโอไนดัสเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวสปาตัน เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักรบอย่างแท้จริง ด้วยร่างกายและพลังในการต่อสู้ของเขา เขาสามารถนำเอาทหารหรือนักรบชาวสปาตันเอาชนะศึกใหญ่ๆเรื่อยมา ถึงแม้ว่าในศึกสุดท้ายที่เขาได้สู้กับเซอซีส กษัตริย์จากเปอเซีย ในศึกนี้ทำให้เขาเสียชีวิตลงแต่วีรกรรมที่เขาสร้างไว้ก็ยังถูกกล่าวถึงเรื่อยมา โดยที่เขานำเอานักรบสปาตันทั้ง300เข้าสู้กับคนนับหมื่น ก็ถูกพูดถึงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นตำนานบทหนึ่งที่เล่าต่อกันมา ด้วยความสามารถและความแข็งแกร่งของเขานี้ บรุนฮิลจึงได้รับเลือกให้เขาเป็นตัวแทนในศึกครั้งนี้ด้วย ลิโอไนดัสพร้อมแล้วที่จะแสดงพลังของนักรบสปาตันให้เหล่าเทพได้เห็น….
ประวัติ แห่งยุค (สปาตัน กรีซ)
กษัตริย์ลีโอไนดาส ทรงประสูติเมื่อตอนปีที่ 540 ก่อนคริสตกาล นับว่าเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 กับภรรยาคนแรกของกษัตริย์อนาซิสไดดาสที่ 2 ที่เป็นบรรพบุรุษในการสืบเชื้อสายมาจากชาวดอเรียน กษัตริย์ลีโอนีดาสมีพระมเหสีชื่อ กอร์โก
ชีวิตในวัยเด็กของพระองค์นั้นก็เหมือน กับวัยเด็กของชาวสปาตันทั่วไป ที่พวกเขาจะต้องถูกฝึกอย่างหนักตั้งแต่ยังเด็กเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ รวมถึงฝึกความอดทนต่างๆ และเมื่อพระองค์อายุได้7ปี พระองค์ก็ต้องถูกนำตัวออกห่างจากมารดา เพื่อเข้ารับการฝึกเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ การฝึกนั่นทั้งหนักและเหนื่อย ลำบากเป็นอย่างมาก แต่ทุกการฝึกที่ผ่านล้วนเป็นบททดสอบที่เด็กชายชาวสปาตันทุกคนจะต้องผ่านไปให้ได้ เพื่อวันข้างหน้าพวกเขาจะได้เป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้แล้ว เหล่านักรบสปาตันยังถูกฝึกและกินอยู่รวมกัน เพื่อที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ความสามัคคีในการสู้รบพร้อมกัน อันเป็นหัวใจหลักในการต่อสู้ของชาวสปาตันที่พวกเขาจะสามารถไว้วางใจให้เพื่อนนักรบของเขา สามารถที่จะปกป้องเขาจากศัตรูข้างหลัง
ด้วยการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของนักรบสปาตัน จึงทำให้การรบกับพวกเขาเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก และเป็นนักรบที่ผู้รุกรานต่างๆหวังที่จะสู้เป็นกลุ่มสุดท้าย หรือ ถ้าเลี่ยงไม่สู้กับชาวสปาตันได้ก็เป็นสิ่งที่ดี และกษัตริย์ลีโอไนดาสถูกกล่าวถึงว่าเป็น นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักรบสปาตันรุ่นเดียวกัน นอกจากนี้ท่านยังได้รับการนับถือเป็นอย่างสูงจากนักรบสปาตันทั้งหมด
กษัตริย์ลีโอไนดาสได้ขึ้นครองราช เป็นกษัตริย์แห่งชาวสปาตันตั้งแต่ปี489-480ก่อนคริศตกาล ในช่วงเวลานี้เองได้มีเหตุการณ์ครั้งใหญ่ ที่ในภายหลังโลกจะต้องจดจำและบันทึกถึงความยิ่งใหญ่ กล้าหาญ ของกษัตริย์ลีโอไนดาส นั่นคือ ประวัติที่ท่านนำกองกำลังนักรบสปาตัน300นายรับมือกับกองทัพชาวเปอร์เซียของเซอร์เซสที่1 ที่นำทัพมา ถึง500,000คน ได้อย่างกล้าหาญ ตามบันทึกได้กล่าวไว้ว่า ในปี480ก่อนคริศตกาล กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย นามว่า เซอร์เซสที่1 ได้ระดมกำลังพลยกทัพจากเปอร์เซียเพื่อมุ่งหน้าเข้าโจมตีกรีซ ในการรวมทัพของเปอร์เซียในครั้งนี้มีจำนวนมากถึง500,000คน โดยได้นำทัพเข้าโจมตีผ่านไล่มาตั้งแต่มาซิโดเนียจนเข้าสู่ทวีปกลาง ในศึกครั้งนี้เซอร์เซสหวังที่จะพิชิตกรีซเพื่อล้างแค้นแทนพระบิดากษัตริย์ดาริอุสที่พ่ายแพ้ ไปในสงครามกรีซครั้งที่1 และครั้งนี้กองทัพเปอร์เซียนั่นแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ไม่มีทัพใดหรือเมืองใดสามารถที่จะต้านทานเอาไว้ได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทางด้านเมืองต่างๆจึงรวมกำลังจัดทัพขึ้นมาเฉพาะกิจ โดยที่ไม่ผ่านหรือรอลงความเห็นชอบจากสภาที่เอเธน ในการรวมกำลังกันนั้น นำโดยกษัตริย์ลีโอไนดัส สามารถรวบรวมได้มากถึง7000นาย เป็นกองกำลังพันธมิตรแห่งกรีซ(ทหารเอเธนส์-สปาร์ตา-นครพันธมิตร) เข้าต่อสู้กับกองทัพขนาดใหญ่ของเปอร์เซีย ด้วยจำนวนที่น้อยกว่ามาก แต่กำลังใจและความเชื่อมั่นในกษัตริย์ลีโอไนดาสของทุกคนนั้นสูง จึงทำให้ความกลัวแทบจะไม่มีเลยในกลุ่มนักรบนี้ เมื่อมีกำลังพลน้อยกว่า กษัตริย์ลีโอไนดาส จึงต้องวางแผนที่จะตั้งรับกองกำลังและสู้ผ่านช่องเขาแคบแห่งหนึ่ง ซึ่งช่องเขานี้จะเป็นการบีบให้กองทัพเปอร์เซียจำนวนมาก ไม่สามารถจัดแถวทัพรบตามกลยุทธของพวกตน และเป็นการบีบให้นักรบเปอร์เซียต้องเดินทัพผ่านที่แคบในจำนวนจำกัด
ซึ่งแผนการรบนี้ ถูกตั้งชื่อและเรียกในภายหลังว่า “ยุทธการที่เทอร์มอพิลี” ด้วยแผนการรบนี้เองจึงทำให้สามารถต้านทาน กองกำลังนักรบจากเปอร์เซียได้เป็นเวลามากถึง3วัน ซึ่งเหตุการนี้สร้างความโมโหเดือดดาลให้แก่เซอร์เซสเป็นอย่างมาก ที่นักรบเพียงหยิบมือสามารถต้านทานกองกำลังที่มากกว่าของพระองค์ได้ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรนักรบชาวเปอร์เซียก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนกำลังผ่านไปได้ ยิ่งผ่านไปนานมากเท่าไหร่ความสูญเสียของทหารเปอร์เซียก็ยิ่งมากขึ้น
จนกระทั่งการปรากฎตัวของ เอพิเทส ชายชาวกรีกคนหนึ่ง ที่มาพร้อมกับแผนการในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาได้ยื่นข้อเสนอเพื่อแลกกับเงินรางวัล โดยที่เขาจะบอกถึงช่องลับบนภูเขาที่จะสามารถเดินทัพผ่านทางช่องลับนี้ เพื่อตลบหลังนักรบชาวกรีซทั้งหมดได้ ด้วยข้อเสนอนี้เอง จึงทำให้เวลานี้เซอร์เซสมั่นใจที่จะสามารถพิชิตนักรบชาวกรีซได้
เมื่อข่าวช่องลับบนเขาล่วงรู้ไปถึงเซอร์เซสแล้ว ในเวลานั้นกษัตริย์ลีโอไนดัสจึงตัดสินใจ สั่งให้กองทัพพันธมิตรทั้งหมด ถอยทัพหนีไปตั้งหลักบนทวีปกลางทั้งหมด เหลือไว้เพียงนักรบสปาตัน300นาย ที่จะขอสู้เพื่อถ่วงเวลาให้ทัพพันธมิตรหลบหนีได้สำเร็จ นับเป็นความกล้าหาญเป็นอย่างมากของนักรบสปาตัน และกษัตริย์ลีโอไนดัส ที่พวกเขากล้าที่จะตัดสินใจต่อสู้จนตัวตายในศึกครั้งนี้ เพื่อถ่วงเวลาหนีให้แก่ทุกคน สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากในหมู่กองทัพพันธมิตรทั้งหมด
เมื่อรุ่งเช้าของการต่อสู้มาถึง เซอร์เซสได้ยื่นข้อเสนอให้พระองค์ยอมจำนน มาเป็นนักรบภายใต้บังคับบัญชาของเปอร์เซีย เพื่อแลกกับการไว้ชีวิต แต่กษัตริย์ลีโอไนดัสได้ปฎิเสธข้อเสนอนี้ พระองค์พร้อมที่จะสู้ตายอยู่ที่นี่ และการต่อสู้ก็เกิดขึ้น เมื่อกองทัพเปอร์เซียสามารถเดินผ่านช่องเขาและตีตลบหลัง เพียงเวลาไม่นาน กองทัพนักรบสปาตันทั้ง300ก็พ่ายแพ้ ถูกสังหารลงไปทั้งหมด รวมถึงกษัตริย์ลีโอไนดัสด้วย
เมื่อกษัตริย์ลีโอไนดัสตายแล้ว เซอร์เซสได้ตัดหัวพระองค์และนำมาเสียบประจาน พร้อมทั้งนำร่างกายของท่านแขวนไว้บนไม้ แต่ไม่นานเซอร์เซสก็คิดได้ว่า การกระทำของพระองค์นั้นเป็นการลบหลู่ เกียรติของกษัตริย์นักรบที่กล้าหาญคนหนึ่ง พระองค์จึงสั่งให้นำร่างและศรีษะลงมา ใส่ในโลงศพพร้อมทั้งจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ แด่กษัตริลีโอไนดัส หลังจากนั้นก็ให้สร้างอนุสรณ์สถานเป็นรูปสิงโตเหนือหลุมฝังศพ มีความหมายสื่อถึงความกล้าหาญของกษัตริย์ลีโอไนดัส
หลังจากนั้นเซอร์เซสก็ยกกองกำลังบุกเอเธนส์ต่อไป แต่ครั้งนี้ด้วยความกล้าหาญและการเสียสละชีวิตของกษัตริย์ลีโอไนดาส ได้เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความสามัคคีขึ้นมาในหมู่ชาวกรีซและพันธมิตร ในเวลานี้ทุกชนชาติพันธมิตรได้รวมกำลังพล และเข้าต่อสู้กับกองทัพเปอร์เซียของเซอร์เซส จนสามารถขับไล่กองทัพของพวกเปอร์เซียออกไปได้ทั้งหมด และหลังจากศึกนี้เปอร์เซียก็ไม่ยกทัพมาบุกกรีซอีกเลย นับเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของชนชาวกรีซ ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อรับมือกับกองกำลังที่มีจำนวนมากกว่าเอาไว้ได้ และเป็นการบอกเล่าถึงตำนาน วีรกรรมอันกล้าหาญของกษัตริย์ลีโอไนดัส ถึงแม้ว่าตัวท่านจะไม่สามารถอยู่ได้เห็นตอนสงครามจบ แต่จิตวิญญาณของท่านได้ส่งผ่านถึงนักรบทุกคน จนทำให้สามารถเอาชนะได้ ถึงแม้ว่าตัวท่านจะเสียชีวิตมาหลายปี แต่ตำนานของท่านก็ยังคงอยู่ พร้อมวีรกรรมความกล้าหาญที่ครั้งหนึ่งท่านได้นำนักรบสปาตัน300นายเข้าสู้กับกองกำลังนับแสนก็ยังถูกกล่าวขานเรื่อยมา จนมาถึงปัจจุบัน….
ในส่วนอนิเมะ เรื่องมหาศึกคนชนเทพ
ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพนั้น ได้หยิบยกนำเอาตัวประวัติของกษัตริย์ลีโอไนดัส นำมาดัดแปลงเป็นตัวละคนหนึ่งในตัวแทนของทางฝั่งมนุษย์ที่ จะต้องลงต่อสู้กับเหล่าทวยเทพ ในศึกแรคนาร็อกนี้ ยังไม่ปรากฎตัวว่ามีรูปร่างยังไงในมังงะ จะมีเพียงแค่ชื่อที่บรุนฮิล ได้เสนอไว้ แต่ด้วยประวัติความเป็นมาของท่านนั้นไม่ธรรมดา จะเห็นถึงพลังใจและกาย ที่ยิ่งใหญ่แม้ความตายอยู่แค่เพียงเบื้องหน้า ท่านก็ไม่เกรงกลัว อีกทั้งความสามารถในการต่อสู้และการป้องกัน ที่หน้าจะถือว่าเป็นจุดแข็งของท่านก็เหมาะแก่การต่อสู้ในศึกครั้งนี้!! นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่บรุนฮิลได้เลือกให้ท่านเป็นตัวแทนของมนุษย์ เพราะเธอมีความมั่นใจได้ว่าด้วยพลังที่ท่านมี จะสามารถนำชัยชนะมาสู่มนุษย์ได้…
(ข้อมูลข้างต้นรวมถึงพลังของกษัตริย์ลีโอไนดัส อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กล่าวมาก็ได้ เพราะข้อมูลพลังของเขายังไม่เปิดเผย รวมถึงคู่ต่อสู้ของเขาก็ด้วย แต่ดูจากลักษณะและประวัติความเป็นมา รวมถึงพลังในการต่อสู้ และการป้องกันที่ถือว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมากของท่าน ผู้เขียนก็ขอคาดเดาไว้ว่า กษัตริย์ลีโอไนดัสน่าจะได้สู้กับซูซาโนโอะเทพที่คาดว่ามีพลังโจมตีสูง หรือไม่ก็ โอดินราชาแห่งเทพชาวนอร์ส ที่ถือว่าเป็นนักรบเช่นเดียวกันกับท่าน ก็อาจจะเป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่ต่อสู้เกิดจากการคาดคะเนของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และถ้าผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณครับ..)
มหาศึก คนชนเทพ กษัตริย์ลีโอไนดัส (Record of Ragnarok)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending
