Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้เองในวันสงกรานต์นั้น สำหรับคนไทยแล้วยังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทางจิตวิญญาณ เพราะเราจะเข้าวัดสรงน้ำพระ และทำ“สักอนิจจา” หรือการทำบุญอัฐิบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง 

นอกจากนี้คำว่า “สงกรานต์” ยังมาจากคำภาษาสันสกฤตซึ่งหมายถึงการโคจรของดวงอาทิตย์จากราศีหนึ่งไปยังอีกราศีหนึ่ง และในบทความนี้เองเราก็จะขอหยิบยกนำวันเทศกาลอันแสนสำคัญที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานมาให้รับอ่านกันใน “ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน” นั่นจะมีที่มาอย่างไร เชิญรับอ่านกันได้เลยจ้า..

ประวัติวันสงกรานต์

ประวัติศาสตร์ของสงกรานต์ในประเทศไทยสามารถย้อนไปถึงอาณาจักรสุโขทัย (ค.ศ. 1238-1438) และอาณาจักรอยุธยา (ค.ศ. 1351-1767) ในช่วงเวลาเหล่านี้ การเฉลิมฉลองจะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางจิตวิญญาณมากเสียกว่ายุคปัจจุบัน และเทศกาลนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสและขอพรจากพวกเขา ผู้คนจะสรงน้ำน้ำหอมบนมือผู้อาวุโส เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและขอพรปีใหม่ ในบางพื้นที่ของประเทศ ผู้คนจะปล่อยปลาลงในแม่น้ำและลำคลองเพื่อเป็นการทำบุญ ในสมัยก่อนคนไทยเราจะถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพราะถือว่าฤดูหนาว เป็นการเริ่มต้นปี โดยจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม

พอมาถึงช่วงยุคสุโขทัยได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามคติพราหมณ์ วันปีใหม่ไทยจึงเป็น วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 หรือประมาณเดือนเมษายน ต่อมาในปี พ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายน

จนมาถึงยุค จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในปี พ.ศ.2483 ซึ่งได้ประกาศให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่จนปัจจุบัน ซึ่งเป็นการนับแบบสากล แต่อย่างไรก็ตาม คนไทยในหลายภูมิภาค ก็ยังยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ และต่อมาก็มีการกำหนดให้วันสงกรานต์ตรงกับวันที่ 13 เมษายนนั่นเอง

เทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทย

เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยนั้น ถ้าหากสืบย้อนกลับไปจะพบว่าเทศกาลสงกรานต์นั้นได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลโฮลีของประเทศอินเดียแต่ต่างกันตรงที่อินเดียจะสาดสี แต่ของไทยจะเปลี่ยนเป็นการสาดน้ำแทน อีกทั้งในประเทศไทยเทศกาลสงกรานต์ยังถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการต่ออายุและชำระล้าง ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการสาดน้ำใส่กัน  หรือสรงน้ำพระพุทธรูปเป็นการชำระล้างบาปและเคราะห์ร้าย และเป็นการต้อนรับปีใหม่แห่งความโชคดีและพรต่าง ๆ 

นอกจากนี้ในวันสงกรานต์ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมญาติอันแสนอบอุ่น เนื่องจากคนไทยจำนวนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเฉลิมฉลองกับครอบครัว ในช่วงเทศกาลผู้คนยังนิยมไปวัดทำบุญตักบาตร พร้อมสรงน้ำบนมือของผู้อาวุโสเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

จนมาถึงในยุคปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา ตามท้องถนนทั่วประเทศไทย จะมีการเล่นสาดน้ำซึ่งเป็นส่วนเสริมสมัยใหม่ของเทศกาลนี้ และเชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากทางตอนเหนือของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อคลายร้อนในช่วงฤดูร้อนนั่นเอง.

กิจกรรมดั้งเดิมวันสงกรานต์

วันสงกรานต์นอกจากจะเป็นเทศกาลที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันว่าเป็นเทศกาลแห่งน้ำ หรือการเล่นสาดน้ำเพื่อคลายร้อนกันอย่างสนุกสนานแล้ว แต่เดิมนั้นเทศกาลนี้ยังมีกิจกรรมดั้งเดิมอันแสนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณอีกด้วย ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วกิจกรรมดั้งเดิมจะมีดังต่อไปนี้

การสรงน้ำพระ ทั้งในบ้าน และที่วัด เพื่อเป็นสิริมงคล และรวมถึงการทำบุญตักบาตรไหว้พระ 

การรดน้ำผู้ใหญ่ เป็นการรดเพื่ออวยพรให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า หรือครูบาอาจารย์ก็ตาม ให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานต่อไป

การดำหัว เป็นพิธีสงกรานต์ทางภาคเหนือ โดยจะคล้ายกับการรดน้ำผู้ใหญ่ในภาคกลาง เป็นการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่นั่นเอง

การขนทรายเข้าวัด มีความเชื่อว่า เพื่อคามเป็นมงคล ให้มีความสุขความเจริญ เงินทองมากมายเหมือนเม็ดทรายที่ขนเข้าวัด และอีกความเชื่อก็คือ การนำทรายที่ติดเท้าออกวัด เป็นบาป จึงขนทรายเข้าวัดเพื่อไม่ให้เป็นบาปอีกด้วย

จบไปแล้วกับประวัติของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งต้องบอกเลยว่าวันสงกรานต์นั้นเป็นเทศกาลที่แสนสำคัญในประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความสำคัญทางวัฒนธรรม แม้ว่าจะมีวิวัฒนาการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่จิตวิญญาณของเทศกาลนี้ก็ยังจะอยู่คู่คนไทยต่อไป นอกจากนี้เทศกาลสงกรานต์ยังเป็นวัฒนธรรมร่วม ของทั้งประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา ชนกลุ่มน้อยชาวไทในเวียดนาม มณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกา และทางตะวันออกของประเทศอินเดีย เพราะฉะนั้นแล้วเทศกาลนี้จึงเป็นทั้งเทศกาลที่สนุกสนาน และยังเป็นการรวมญาติมิตรสหายที่แสนสำคัญทั้งประเทศไทยเอง หรือต่างประเทศก็ตาม..

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun

What's your reaction?

Excited
0
Happy
2
In Love
2
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ
Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก

Comments are closed.

More in:Story

Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที
"วันเข้าพรรษา" ประวัติที่มา ความสำคัญ
Story

“วันเข้าพรรษา” ประวัติที่มา ความสำคัญ

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาล "วันเข้าพรรษา" ที่ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565 ที่จะถึงนี้ หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงที่มาและความสำคัญของวันสำคัญดังกล่าว