Anime

กลุ่ม โจรสลัดหมวกฟาง (ลูฟี่) ทะเลอีสบู ep1.2 Straw Hat Pirates

กลุ่ม โจรสลัดหมวกฟาง (ลูฟี่) ทะเลอีสบู ep1.2 Straw Hat Pirates

หลังจากที่ได้ล่ำลากับกลุ่มแชงคูสออกมานั้น ลูฟี่เองก็ได้พยายามเป็นอย่างมาก ในการึกฝนตนเองอยู่เสมอ เพราะหวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะต้องมีฝีมือ ที่เหนือกว่าแชงคูสให้ได้ และในวันที่เขาพร้อมแล้วเขาก็จะออกตามหาและนำหมวกฟางนี้ไปคืนให้กับแชงคูสด้วยตัวของเขาเอง แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้นเขาจะต้องผ่านและพบเจอกับเรื่องราวต่างๆมากมาย ที่จะเป็นตัวที่คอยพิสูจน์ว่าเขาจะสามารถไปถึงยังจุดหมายของเขาเขาได้ไหม และบทพิสูจน์เหล่านี้ก็คือการเดินทางในวัยเด็กของเขาที่ช่วยเป็นตัวเสริม พลักดันให้เขามีวันนี้ได้ ชีวิตในวัยเด็กของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เอส ลูฟี่ ซาโบ

เนื้อเรื่องเสริม กัปตันกลุ่ม โจรสลัดหมวกฟาง มังกี้ ดี ลูฟี่

เวลาได้ผ่านไปหลายวันนับตั้งแต่การไปของกลุ่มโจรสัดผมแดง แชงคูส ถึงมันจะดูหน้าเศร้าอยู่บ้าง แต่ชีวิตของลูฟี่เองก็ต้องเดินต่อไป เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งขึ้นมาให้ได้ จนกระทั่งการ์ปปู่ของลูฟี่ได้เดินทางกับมาเยี่ยมที่บ้านเกิดเพื่อมาหาลูฟี่นั้น เขาได้บอกกับลูฟี่ว่า จากวันนี้เป็นต้นไปเขาจะพาลูฟี่ไปอยู่กับคนคนหนึ่งที่รู้จัก โดยที่คนรู้จักนี้จะทำการเลี้ยงดูลูฟี่ให้ ลูฟี่จะได้ไม่ต้องเหงาเพราะที่นั่นมีเด็กคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันกับเขา แน่นอนในทีแรกลูฟี่ได้ปฎิเสธ และจะไม่ยอมตามปู่ของเขาไป จนเขาได้รับหมัดแห่งความรักจากปู่ของเขาไปอยู่หลายครั้ง จึงต้องยอมจำใจตามปู่ของเขาไป ซึ่งคนที่ปู่ของเขาจะฝากให้ไปอยู่ด้วยมีชื่อว่า “ดาดัน”

หลังจากที่เขาได้เดินทางออกจากหมู่บ้านมานั่น การเดินทางเป็นไปเป็นเวลาหลายวัน จนในที่สุด พวกเขาก็มาถึงบ้านของดาดัน และปู่ของลูฟี่ก็ได้เข้าไปหา ดาดัน พร้อมทั้งบอกให้ดาดันเลี้ยงดูลูฟี่ด้วย แน่นอน ดาดันปฎิเสธเพราะไม่อยากที่จะมีภาระเพิ่ม ลำพังแค่เลี้ยงดูเอสคนเดียวก็แย่แล้ว แต่กระนั้นเมื่อสบตาและได้รับคำพูดจากการ์ปว่าจะปฎิเสธคำขอของเขาหรอ จึงทำให้ดาดันต้องตกลงที่จะเลี้ยงดูลูฟี่ด้วยอีกคน การ์ปจึงพาลูฟี่มาพบ และแนะนำให้ดาดันรู้จัก หลังจากที่เขาแนะนำเสร็จการ์ปก็ได้เดินทางกลับไปทำงานของเขาต่อ ทิ้งให้ลูฟี่อยู่ในการดูแลของดาดันต่อไป

เมื่อการ์ปกลับไปแล้วดาดันจึงได้พาลูฟี่ ไปแนะนำให้รู้จักกับทุกๆคนในบ้านและได้บอก กฎในการอยู่ที่นี่ให้ลูฟี่ฟัง ว่าถ้าจะอยู่ที่นี่ ลูฟี่จะต้องดูแลตัวเอง ห้ามอ่อนแอ โดยที่นี่จะมีข้าวให้ลูฟี่กินแค่หนึ่งถ้วยและน้ำเพียงหนึ่งแก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือเขาต้องหาเอง พร้อมทั้งข่มขู่ลูฟี่ต่างๆนา เพื่อหวังว่าลูฟี่จะรู้สึกกลัวและร้องไห้ออกมา แต่กับกัน ลูฟี่กับไม่กลัวเพราะเขาเคยเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวกว่านี้มาแล้วหลายครั้ง ด้วยน้ำมือของปู่ของเขานั่นเอง

-ดาดันผู้ที่รับหน้าที่เลี้ยงดูลูฟี่กับเอส-

เมื่อคำพูดข่มขู่ของดาดันไม่ได้ผล ดาดันก็รู้สึกละเหี่ยใจเป็นอย่างมาก ว่าลูกหลานบ้านนี้นั่นเป็นยังไงกัน พิลึกกันทุกคนเลยจริงๆ ในขณะนั่นเองที่ทุกคนกำลังกินข้าวกันอยู่ เอสเด็กอีกคนหนึ่งที่อยู่กับดาดันก็ได้มาถึง ดาดันจึงแนะนำให้ลูฟี่ได้รู้จักกับเอส และบอกให้ญาติดีกันเข้าไว้นะ เพราะอายุก็รุ่นๆเดียวกันก็น่าจะสนิทกันเป็นเพื่อนกันได้ ลูฟี่จึงเข้าไปและพยายามจะตีสนิทกับเอส แต่ก็โดนเอสปฎิเสธไป เพราะเอสไม่อยากจะญาติดีหรือสนิทด้วยนั่นเอง

ลูฟี่ได้อยู่กับดาดันมาเป็นเวลาหลายวัน นับตั้งแต่ที่การ์ปมาฝากและก็จากไป โดยในทุกๆวันลูฟี่จะวิ่งตามเอส ไปด้วยทุกที่ในตอนเช้าและพยายามที่จะทำความรู้จักกับเอสให้มากขึ้น แต่เอสเองในตอนแรกก็ไม่อยากที่จะรู้จักกับลูฟี่มากนัก จึงพยายามเลือกเส้นทางที่อันตรายมากขึ้นทุกวัน เพื่อที่จะไม่ให้ลูฟี่ตามมาได้ เพื่อที่ลูฟี่จะได้ล้มเลิกความคิดที่จะตามเขา จนเวลาได้ผ่านไปถึง3เดือนแต่ลูฟี่เองก็ไม่ลดละ ความพยายามนั่นเลย

จนในที่สุด หลังจากที่เอสเข้าใจว่าสลัดลูฟี่ทิ้งไปได้แล้ว เขาได้เดินทางไปที่ฐานทัพลับที่เขาได้สร้างไว้กับเพื่อนเขา โดยที่เพื่อนสนิทของเขามีชื่อว่า “ซาโบ้” ที่ฐานนี้เองเอสได้พบเจอกับซาโบ้ โดยพวกเขาต่างวางแนที่จะรวบรวมเงินกัน เพื่อที่จะซื้อเรือและจะได้ออกเดินทางใช้ชีวิตแบบอิสระจริงๆเสียที ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั่น ลูฟี่ได้โผล่ออกมาทักพวกเขา ซึ่งในตอนแรกการปรากฎตัวของลูฟี่นั่น สร้างความตกอกตกใจเป็นอย่างมาก ให้แก่เอสกับซาโบ้ จนพวกเขาได้หารือกันว่าจะเอาอย่างไรกับลูฟี่ เอสได้เสนอว่าหรือจะฆ่าเขาทิ้งดีแต่ซาโบ้ได้ปฎิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า เอสหรือเขาใครเคยฆ่าคนจริงๆแล้วมั่ง และการฆ่าคนมันต่างจากการต่อสู้กับคนอื่นมากเลยนะ เอสจะทำได้หรอเพราะเขาเองก็ทำไม่ได้ หลังจากที่ซาโบ้พูดไปก็ทำให้เอสยอมรับในคำพูดของซาโบ้ จึงได้มากำชับกับลูฟี่ว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาดไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าลูฟี่ทิ้ง ลูฟี่จึงได้ตกปากรับคำและสัญญาว่าเขาจะไม่บอกใคร

จนมีอยู่มาวันหนึ่ง ลูฟี่ได้ออกเดินทางเพื่อที่จะไปพบเข้ากับเอส เขาได้ถูกพวกลูกน้องบลูแจม จับตัวไว้เพราะต้องการที่จะตามหาที่ซ่อนของเอสกับซาโบ้ ซึ่งลูฟี่เองไม่ยอมที่จะปริปากพูดออกไปเป็นอันขาด เขาจึงได้ถูกจับตัวไปทรมาน เพื่อที่จะให้ลูฟี่ยอมบอกที่ซ่อนของพวกเอสออกมาให้ได้

ตัดกลับมาที่ ทางด้านฝั่งเอสและซาโบ้ที่ในตอนนี้นั่น รู้ว่าลูฟี่ถูกจับตัวไปแล้ว เอสได้เสนอให้รีบขนสมบัติหนีไปซ่อนที่อื่นโดยด่วน เพราะไม่ว่าอย่างไรลูฟี่จะต้องบอกที่ซ่อนฐานทัพลับนี้แน่ แต่ผิดคาด เอสได้เห็นแล้วว่าไม่ว่าลูฟี่จะโดนซ้อมหรือทรมาณมากแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมบอกความลับนี้ให้ใครเป็นอันขาด

ซึ่งในเหตุการณ์นี้ได้สร้างความประทับใจ ให้เอสกับซาโบ้เป็นอย่างมาก จนพวกเขาทั้งคู่ได้พุ่งเข้าไปเพื่อช่วยเหลือลูฟี่ อย่างไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด จนในที่สุดเอสและซาโบ้ ก็ได้ช่วยลูฟี่ออกมาได้สำเร็จ

-เอส ซาโบ้ ได้ช่วยลูฟี่ได้สำเร็จ-

หลังจากที่ได้ช่วยลูฟี่ออกมาแล้ว เอสได้ถามลูฟี่ไปว่าไม่กลัวหรอ ทำไมไม่บอกว่าฐานของพวกเขาอยู่ไหนไปหล่ะ ลูฟี่ก็ตอบไปว่าถ้าบอกไปแล้ว เขาก็จะไม่ได้เป็นเพื่อนกับพวกเอสนะซิ ซึ่งในคำพูดนี้ได้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก จนในที่สุดเอสก็ได้ให้ความยอมรับ แก่ลูฟี่ พวกเขาทั้ง3คนจึงได้เป็นเพื่อนกันในวันนั้น พวกเขาได้ใช้ชีวิตและผจญภัยร่วมทั้งฝึกฝนฝีมือของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ภายในภูเขา คอมโบ

มีอยู่มาวันหนึ่งเอสและลูฟี่ได้รู้ความลับ หนึ่งของซาโบ้ นั่นก้คือ ซาโบ้ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าที่เกิดที่ภูเขากองขยะ แต่เขากับเป็นชนชั้นสูงของประเทศนี้แทน แต่ด้วยการที่เขาไม่ชอบชีวิตแบบชนชั้นสูง และไม่ต้องการที่จะถูกบังคับ เขาจึงหนีออกจากบ้านออกมาเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเขาต้องการ หลังจากที่ทั้งสองคนได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับซาโบ้จบ เอสจึงได้เสนอให้ทั้งสองคนมาดื่มเหล้า เพื่อสาบานกันว่านับต่อจากนี้พวกเราจะไม่ได้เป็นแค่เพื่อน แต่จะเป็นเหมือนกับพี่น้องที่คลานตามกันมา

โดยที่เอสได้เล่าว่าความฝันของเขา เขาจะเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่งที่จะไม่มีวันแพ้ใครบนท้องทะเลนี้ และจะสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ ทางซาโบ้เองก็ได้มีความฝันที่จะออกเดินทางท่องไปทั่วโลกเพื่อเขียนหนังสือขึ้นมา ส่วนลูฟี่นั่นได้ประกาศเลยว่าเขาจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้ หลังจากที่ทั้ง3คนได้พูดจบ ก็ได้ดื่มเหล้าสาบานเพื่อที่จะเป็นพี่น้องกันทันที

-ทั้ง3คนดื่มเหล้า สาบานเป็นพี่น้องกัน-

วันหนึ่งในขณะที่ลูฟี่ เอสและซาโบ้กำลังกินข้าวกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น เขาได้ถูกกลุ่มโจรสลัดบลูแจมเข้ามาโจมตีอย่างกะทันหัน แต่ในการโจมตีครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มุ่งหวังมาเพื่อแก้แค้นอย่างเดียว

แต่พวกเขากับได้รับการจ้างวานมาจากพ่อของซาโบ้ที่ต้องการที่จะมาพาซาโบ้กลับบ้าน พวกลูฟี่กับเอสเองก็พยายามต่อสู้เพื่อเข้าไปช่วยซาโบ้แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พวกเขาไม่สามารถที่จะไปช่วยซาโบ้ได้ แต่กับถูกเล่นงานกันจนหมดสภาพ เพื่อหยุดการโจมตีของกลุ่มบลูแจมนั่น ซาโบ้จึงต้องยอมที่จะกลับบ้านเพราะไม่อยากให้ลูฟี่กับเอสต้องบาดเจ็บเพราะตนอีก

ซาโบ้จึงต้องจำยอมและลาจากไป ก่อนไปเข้าได้ร้องขอให้พ่อของเขารับปากว่าจะไม่ทำอะไรพวกเอสและลูฟี่ พ่อของเขาได้รับปากและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบลูแจมที่จะกันไม่ให้ทั้งสองคนเข้ามายุ่งกับซาโบ้ได้อีก ในขณะที่ซาโบ้ได้กลับไปอยู่บ้านนั้น เขาได้รู้ข่าวว่าจะมีการเผาทำลายหมู่บ้านภูเขากองขยะขึ้น ซึ่งข่าวนี้เองทำให้ซาโบ้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขาจึงได้รีบพยายามที่จะไปเตือนพวกเอสใ้ห้รู้ แต่เขาก็ได้ถูกพวกยามเมืองจับกุมตัวไปก่อนที่จะได้ไปเตือนพวกเอสกับลูฟี่ และได้ถูกจับตัวนำส่งครอบครัวต่อไป

ตัดภาพกลับมาที่ทางด้านเอสกับลูฟี่ ที่ตอนนี้ได้ถูกพวกกลุ่มบลูแจมจับตัวไว้ พวกเขาได้ยื่นข้อเสนอให้พวกเอสกับลูฟี่มาทำงานให้พวกเขา เพื่อแลกกับการที่จะไม่เอาเรื่องที่ผ่านมา โดยงานนี้คือการนำของไปวางไว้ตามที่ต่างๆ ถึงแม้เอสกับลูฟี่จะไม่อยากทำงานด้วยแต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ จึงทำให้พวกเขาต้องจำใจทำงานให้พวกบลูแจม หลังจากทำงานให้พวกบลูแจมอยู่หลายวัน จนในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย งานที่บลูแจมได้รับมานั้นก็คือการเผาหมู่บ้านกองขยะแห่งนี้ แน่นอนเอสกับลูฟี่ไม่เห็นด้วยและได้พยายามต่อสู้เพื่อที่จะได้ออกไปเตือนคนอื่นถึงแผนการณ์นี้

แต่พวกเขาก็ล้มเหลวและพลาดท่าถูกพวกบลูแจมจับตัวได้ในที่สุด ซึ่งในขณะนั่นซาโบ้ก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน เขาได้ถูกพ่อกับแม่เข้ามาต่อว่า แต่ไม่ได้ว่าเพราะความเป็นห่วงว่าซาโบ้จะเป็นอันตรายไหม แต่เป็นห่วงถึงภาพลักษณ์หน้าตาของตัวเอง ที่ถ้าใครรู้ว่าซาโบ้นั่น พยายามที่จะหนีออกไปอยู่ที่ภูเขากองขยะอีก จะทำให้พวกตนเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุผลนั่นเองจึงทำให้ซาโบ้รู้สึกหมดความอดทน กปรกับที่ได้รู้ความจิงที่ว่า เหล่าขุนนางและชนชั้นสูงในประเทศนี้ ต่างรู้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นและจะต้องมีคนต้องตายเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ ยิ่งเป็นการทำให้ซาโบ้รู้สึกสิ้นหวัง ต่อประเทศนี้มากขึ้นไปอีก เขาจึงได้ทำการที่จะออกเดินทางออกสู่ท้องทะเล เพื่อที่จะได้มีชีวิตอิสระทำตามความฝันของเขา

-ซาโบ้ได้เดินทาง ออกมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ-

ในขณะที่เขากำลังแล่นเรือออกไปนั้น เขาได้ไปพบเจอกับเรือที่เดินทางกำลังเข้ามาที่ประเทศนี้ โดยที่เรือ ลำนี้นั่นเป็นเรือของพวก “เผ่ามังกรฟ้า” ชนชั้นสูงที่ปกครองและสร้างกฎระเบียบต่างๆของโลกนี้ พวกเขาได้ทำการสั่งให้ปืนใหญ่ประจำเรือยิงใส่เรือของซาโบ้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเรือซาโบ้นั่นเดินทางมาขวางหน้าเรือของพวกเขา จึงเป็นเหตุให้เรือของซาโบ้ถูกยิงจมลงไป

ในขณะที่ซาโบ้ได้ออกเดินทางนั่น เป็นจังหวะที่เอสกับลูฟี่ได้ถูกพวกบลูแจมจับกุมตัว บรรยากาศในตอนนี้นั่นโกลาหลเป็นอย่างมาก เพราะได้มีไฟปริศนาได้เผาหมู่บ้านกองขยะนี้และไฟได้ลุกลามเป็นอย่างมากแล้ว โดยที่ไฟที่เผาทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพวกบลูแจมนั่นเอง เหตุผลที่พวกบลูแจมได้ตัดสินใจที่จะเผาหมู่บ้านกองขยะนี้ เพราะได้รับข้อเสนอที่เมื่อพวกเขายอมรับที่จะทำงานนี้ พวกเขาจะได้รับรองให้เป็นพลเมืองของประเทศนี้อย่างแท้จริง หรือก็คือการได้เป็นพวกชนชั้นสูงนั่นเอง เขาจะได้ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ในกองขยะแห่งนี้ต่อไปแล้ว แต่ข้อเสนอที่ถูกยื่นมาให้นั่น พวกเขากับไม่ได้รับมันเพราะแท้จริงแล้ว

แผนการณ์ทั้งหมดเป็นการหลอกใช้พวกเขาให้ทำงานสกปรกนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกบลูแจมจะรู้แล้วว่าตัวเองถูกหักหลัง แต่จะทำอย่างไรได้ แม้พวกเขาจะคิดหนีในตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้เลย พวกเขาจึงได้พยายามที่จะเค้นหาที่ซ่อนสมบัติที่พวกเอสกับลูฟี่ ได้ทำการเก็บสะสมกันอย่างมานาน เพื่อนำมาเป็นทุนในการสร้างตัวเริ่มต้นกลุ่มโจรสลัดบลูแจมขึ้นมาใหม่ และจะได้ถือในโอกาสนี้ที่พวกเขาจะได้ล้างแค้นพวกนี้ไปในตัวด้วย

ในขณะที่พวกบลูแจมกำลังจับตัวเอสกับลูฟี่อยู่นั่น เอสได้ใช้จังหวะที่พวกนี้เผลอตัดเชือกที่พันธการตัวเองออก ต่อสู้กับกลุ่มบลูเแจมและได้พาลูฟี่หนีออกมาจากเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้หมู่บ้านกองขยะ ทันใดนั้นเองพวกเขาได้ถูกลูกน้องของพวกบลูแจมตามมาถึงและได้ทำการเข้าโจมตี การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ลูฟี่ได้พลาดท่าถูกหนึ่งในลูกน้องของบลูแจมโจมตี เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

จนในขณะที่ลูฟี่กำลังจะถูกสังหาร เอสที่เห็นภาพนั้นเข้า เขาได้ระเบิดพลังที่อยู่ในตัวเขาออกมาหรือก็คือ เอสใช้ฮาคิราชันย์ออกมาในช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตาย จนทำให้พวกลูกน้องของบลูเแจมได้สลบไปทุกคน แต่ถึงลูกน้องของบลูแจมจะสลบ แต่ตัวบลูเเจมก็มีฝีมือในการต่อสู้อยู่พอสมควร เขาได้ทำการไล่ต้อนเอส จนเอสเกือบจะเสียท่า

ในทันใดนั้น ดาดันได้โผล่ออกมา เพื่อช่วยเหลือทั้งคู่จนเป็นเหตุที่ดาดันได้ต่อสู้กับกับบลูแจม การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อได้จังหวะ ดาดันจึงสั่งให้ทุกคนหนี แต่มีอยู่หนึ่งคนที่ไม่ยอมหนี นั่นก็คือเอส เอสไม่อยากจะหนีไปไหนอีกแล้วเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขา และเขาก็จะต้องทำมันให้ได้ ดาดันจึงสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดพาลูฟี่หนีไป ส่วนเขากับเอสจะจัดการตรงนี้เอง

-ดาดันได้เข้ามาช่วยพวกเอสกับลูฟี่จากบลูแจม-

หลังจากที่ทุกคนได้หนีออกมาแล้วนั้น พวกเขาได้หยุดและรอดาดันอย่างมีความหวัง จนกระทั่งไฟได้ลุกลามและเผาหมู่บ้านกองขยะจนสูญสิ้น จนทุกคนได้เข้าใจว่าดาดันกับเอสคงจะตายไปแล้ว พวกเขาทุกคนต่างร้องไห้เสียใจกันเป็นอย่างมาก จนในที่สุดพวกเขาได้สังเกตเห็นบางอย่างที่กำลังเดินเข้ามา ภาพตรงหน้านั้นที่กำลังค่อยๆเข้ามาหาพวกเขา ก็คือเอสที่กำลังแบกดาดันเดินเขามา ภาพนั้นทำให้ทุกคนหายจากอาการเศร้าแปลเหลี่ยนเป็นดีใจ ที่เห็นว่าทั้งคู่นั่นยังไม่ตายและได้วิ่งเข้าไปเพื่อช่วยเหลือพวกเขา รวมกะทั่งลูฟี่ที่ฟื้นและได้วิ่งเข้าไปหาเอส เขาได้ร้องไห้และบอกว่านึกว่าจะเสียเอสไปแล้ว เอสได้ต่อว่าลูฟี่ที่แช่งให้เขาตาย

หลังจากที่ทุกคนกำลังดีใจกันได้ไม่นาน ข่าวร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในกลุ่มของดาดันได้ออกไปตามหาพวกเอส จนได้รับรู้ข่าวว่ามีเรือลำเล็กลำหนึ่งได้ถูกโจมตีจนจมไปในท้องทะเล และคนที่อยู่บนเรือที่โดนโจมตีนั่นก็คือซาโบ้

หลังจากฟังข่าวร้ายนั้นจบ ข่าวนี้เองทำให้เอสกับลูฟี่รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่พวกเขาได้สูญเสียหนึ่งในพวกพ้องคนสำคัญอย่างซาโบ้ไปแล้ว มันทำให้เอสรู้สึกโมโหและถามหาว่าใครเป็นคนฆ่าซาโบ้ เพราะว่าเขาจะไปแก้แค้นให้ซาโบ้ ในขณะที่เอสกำลังเดือดดาลและจะรีบไปแก้แค้นให้กับซาโบ้

เขากับถูกหยุดไว้โดยดาดัน ดาดันไม่อยากให้เอสไปแก้แค้นเพราะคนที่เอสจะไปแก้แค้นนั่นเป็นหนึ่งในพวกเผ่ามังกรฟ้าที่มีอิธิพลสูงมากที่สุดในโลกนี้ และเอสเองในตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรพวกนั่นได้เลย ไปก็มีแต่จะไปตายปล่าว ดาดันจึงสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดช่วยกันลุมจับเอสเอาไว้ เอสได้ถูกจับมัดไว้ติดกับต้นไม้เขาได้ดิ้นรนและตะโกนแข่งกับเสียงร้องไห้ของลูฟี่ ภาพนี้สร้างความสะเทือนใจให้แก่พวกดาดันเป็นอย่างมาก ถึงแม้ดาดันจะรักซาโบ้และผุกพันกันไม่ต่างจากพวกเอสเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้เอสไปตายได้ จึงได้แต่ทำใจ และให้เวลารักษาตัวของมันเอง เวลาผ่านไปอยู่หลายวัน จนทั้งคู่รู้สึกดีขึ้นมามากแล้ว ดาดันจึงได้ให้ลูกน้องคนสนิทของเขาเอาจดหมายฉบับสุดท้ายที่ซาโบ้เขียนถึงเอส ออกมาให้เอสอ่าน ใจความจดหมายนั้นกล่าวถึงเหตุผลที่ทำไมซาโบ้ ต้องออกเดินทางก่อนหน้าพวกเอส เนื้อในจดหมายว่าไว้ดังนี้

เอส ลูฟี่ บาดเจ็บรึเปล่าจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้? ฉันเป็นห่วงจริงๆ แต่ก็เชื่อว่าพวกนายทั้งสองคนจะไม่เป็นอะไร ขอโทษนะ แต่ในตอนที่พวกนายได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันก็คงออกทะเลไปแล้ว มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายและฉันก็พึ่งตัดสินใจจะออกเดินทางในเร็วๆนี้ ส่วนที่ฉันจะไป…ก็คงจะเป็นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่….เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกลายเป็นโจรสลัด ที่มีอิสระที่สุดในท้องทะเลและหวังว่าสักวันพวกเราจะได้เจอกันอีก สักวันหนึ่งบนทะเลอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยอิสรภาพแห่งนี้ แล้วก็เอส นายเป็นพี่ใหญ่ของพวกเรานะ?อาจจะดูแปลกไปหน่อย ที่มีพี่สองคนและน้องอีกหนึ่งคน แต่สายสัมพันธ์นี้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าของฉัน ลูฟี่เองในตอนนี้ก็คงจะร้องไห้เหมือนเด็กๆอยู่เลยนะ แต่หมอนั่นก็เป็นน้องเล็กของพวกเรา ยังไงก็ฝากดูแลหมอนั่นแทนฉันด้วยล่ะ….”

หลังจากที่อ่านจดหมายจบเอสก็ได้ร้องไห้ออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…..

หลังจากที่ได้อ่านจดหมายจบลงแล้ว เอสได้ไปหาลูฟี่และได้บอกใหเขาลุกขึ้นสู้พร้อมทั้งบอกถึงเป้าหมายและความฝันที่พวกเขาทั้งสามคนได้สาบานกันไว้ พกเขาจะต้องลุกขึ้นยืนหใม่ให้ได้อรกครั้ง และเป้าหมายของพวกเขาคือทำตามความฝันเดิมที่จะออกเดินทาง ตอนอายุ17ที่เป็นอายุที่ซาโบ้เคยบอกไว้ หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วพวกเขาก็ก้าวเดินต่อไป

เวลาผ่านมาอีกหลายปีจนเอสได้อายุ17แล้วเริ่มที่จะออกเดินทางในวันนั้นูฟี่ได้มาส่งเอสที่ท่าเรือ เอสได้อำลากับทุกคนและเริ่มออกเดินทางตามฝันของตัวเองและแน่นอนลูฟี่ได้โบกมืออำลา และได้สัญญาว่าสักวัน เราจะเจอกันในที่ไหยสักแห่งบนท้องทะเลแห่งนี้ และหลังจากที่เอสไปแล้วเวลาได้ผ่านมา3ปี จนลูฟี่เองก็ได้อายุ17เขาจึงได้ออกเดินทางตามหาความฝันของเขาเช่นเดียวกับพี่ชายของเขาทั้งสองคน การเดินทางของมังกี้ ดี ลูฟี่ ได้เริ่มขึ้นแล้ว…..

(จบไปแล้วกับประวัติกัปตันของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางมังกี้ ดี ลูฟี่ ที่แสนสนุกและโศรกเศร้าเหมือนกันกัน แต่ถึงอย่างไรเมื่อมีพบก็ย่อมมีลาจาก ลูฟี่เองก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะแต่ก็นั่นหล่ะทั้งหมเแล้วจะเป็นการพิสูจน์ ว่าเขาเหมาะสมที่จะได้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัดหรือไม่ เราก็คงต้องติดตามกันต่อๆไปในอนาคต และในครั้งหน้าก็จะเป็นการแนะนำสมาชิกที่เหลืออยู่ของกลุ่มลูฟี่กันต่อและหวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะครับ)

Straw Hat Pirates

กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง (ลูฟี่) 1.1

What's your reaction?

Excited
1
Happy
1
In Love
1
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Anime

แนะนำอนิเมะ Murai no Koi : Murai in Love (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “มุราอิ” เด็กหนุ่มชั้นมัธยมปลายผู้เงียบขรึมที่กำลังตกหลุมรักครูสาวแสนสวย “ทานากะ อายาโนะ” เข้าอย่างจัง เขาจึงพยายามที่จะจีบและบอกรักเธออย่างตรงไปตรงมา ทว่าอายาโนะกับไม่มีทีท่าจะหวั่นไหวหรือรู้สึกเขินอายแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วเธอนั้นชอบผู้ชาย 2D ในเกมเสียมากกว่า!
Anime

แนะนำอนิเมะ Chi – Chikyuu no Undou ni Tsuite : สุริยะปราชญ์ ทฤษฎีสีเลือด (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวเริ่มขึ้นในยุโรปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่ศาสนาและความเชื่อในพระเจ้ามีอิทธิพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก จนทำให้ความคิดต่าง ๆ ที่ขัดต่อคำสอนในพระคัมภีร์กลายเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะทฤษฎีดาราศาตร์ที่กล่าวว่า “โลกไม่ใช่ศูนย์กลาง แต่เป็นดวงอาทิตย์ต่างหากที่เป็นศูนย์กลาง” กลายเป็นความคิดของพวกนอกรีตไปโดยปริยาย
Anime

แนะนำอนิเมะ Kekkon Suru tte, Honto Desu ka? : แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ? (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “โอฮาระ ทาคุยะ” และ “ฮอนโจจิ ริกะ” สองเพื่อนร่วมงานที่รักสันโดษพวกเขานั้นเป็นคนที่เข้ากับใครไม่ค่อยเก่ง รักความสงบและชื่นชอบการได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง สำหรับพวกเขาแล้วชีวิตก็แค่ทำงาน เก็บเงิน และใช้ชีวิตโดยไม่สุงสิงกับใคร ทว่าในวันหนึ่งบริษัทที่พวกเขาทำงานอยู่นั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะเปิดสาขาใหม่ที่ต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการคัดเลือกบุคลากรครั้งใหญ่!

Comments are closed.

More in:Anime

Anime

แนะนำอนิเมะ Tsuma, Shougakusei ni Naru. (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของครอบครัว “Niijima” อันแสนอบอุ่นที่ประกอบไปด้วย Keisuke(พ่อ) , Takae(แม่) และ Mai ลูกสาวที่แสนน่ารักถึงจะมีบางครั้งที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่พวกเขาก็เป็นครอบครัวที่คอยดูแลซึ่งกันและกันอยู่เสมอ จนอยู่มาวันหนึ่ง Takae ก็ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลงกระทันหัน!
Anime

แนะนำอนิเมะ Kimi wa Meido-sama : เมดสาวนักฆ่า (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “โยโกยะ ฮิโตโยชิ” เด็กหนุ่มมัธยมปลายแสนธรรมดาที่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับเมดสาวแสนลึกลับที่จู่ ๆ ก็โผล่มาหน้าบ้านพร้อมกับบอกว่า “ช่วยจ้างฉันได้ไหม” โดยที่เธอนั้นมีความสามารถพิเศษทางด้านการต่อสู้และลอบสังหาร ทว่าเรื่องงานบ้านงานเรือนเธอกับเป็นมือใหม่ที่ฝีมือเข้าขั้นเลวร้ายสุดๆ!
Anime

แนะนำอนิเมะ Ao no Hako : กล่องรักวัยใส (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “อิโนมาตะ ไทกิ” เด็กหนุ่มสมาชิกชมรมแบดมินตันที่ในขณะนี้เขากำลังแอบชอบ “คาโนะ จินัตสึ” รุ่นพี่สาวแสนน่ารักหัวหน้าชมรมบาสเกตบอลหญิง และด้วยความขยัน มุ่งมั่น เอาจริงเอาจังของรุ่นพี่ก็ทำให้ไทกิพยายามอย่างหนักที่จะฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้เข้าใกล้เธอมากขึ้น