By AI AI
อาซาคุระ โย (Asakura Yoh) (1)
เกิด 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1986
อายุ14 (ในเนื้อเรื่อง)
ราศี พฤษ กรุ๊ปเลือด A
วิญญาณประจำตัว อมิดามารุ(ปัจจุบัน) มาซามุเนะ(อดีต)
อาซาคุระ โย พระเอกของเรื่อง เขาเป็นผู้ที่จะได้รับการสืบทอดเป็นผู้นำตระกูลอาซาคุระ ในอนาคต มีนิสัยเฉื่อยชา สบายๆ ไม่ค่อยทุกข์ร้อนต่อสิ่งต่างๆรอบตัวเท่าไหร่ เวลาส่วนใหญ่ของโยจะหมดไปกับการนั่งเหม่อ ปล่อยตัวปล่อยใจ ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ โดยที่ไม่สนสิ่งใด
ในบางครั้งก็สร้างความหงุดหงิดให้กับคนที่อยู่รอบๆข้างได้ แต่ถ้าได้ลองสัมผัสแล้วจะรู้ว่า แท้จริงแล้วโยเอง ก็เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นไม่แพ้ผู้ใด ถ้าเพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นเขาก็จะทำ และโยเองยังเป็นคนที่มีจิตใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่แค่เฉพาะเพื่อน แต่ยังรวมถึงศัตรูด้วย ถ้าโยสามารถที่จะช่วยได้ เขาก็จะช่วยทันทีอย่างไม่มีการลังเล นอกจากนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของโยเองแล้ว บุคคลิกการแต่งตัวของเขาก็มีจุดสำคัญ ส่วนมากโยจะแต่งตัวสบายๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการแต่งตัวของโย ก็คือ เฮดโฟน ที่เขามักจะคล้องคอติดตัวเขาอยู่เสมอ พร้อมกับเพลง ของบ็อบlove(นักดนตรีผิวสีในอนิเมะ) เพลงสบายๆที่โยชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้ง โยก็จำเป็นที่จะต้องใส่ชุดต่อสู้ในการแข่งขัน ที่เป็นฝีมือการออกแบบตัดเย็บโดยคู่หมั้นของเขา แอนนา ที่โยจะไม่มีวันปฎิเสธที่จะไม่ใส่ได้
ความฝันในการเข้าร่วมการแข่งขันในศึกชาแมนไฟต์ของโย ก็คือการได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายๆ และอยากให้ผู้คนทั้งหมดบนโลกได้ใช้ชีวิตที่สบายเหมือนกับเขา โยจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นชาแมนคิงให้ได้ เพื่อจะทำฝันของเขาให้เป็นจริง
ชีวิตในวัยเด็ก
โยเกิดมาในตระกูลอาซาคุระ ตระกูลชาแมน ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในอิซึโมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ตระกูลของโยจะทำหน้าที่หลักๆเลยคือการทำนาย การปัดเป่ารังควานสิ่งชั่วร้าย รวมถึงการเสริมสร้างบารมีทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองก็เป็นงานประจำของตระกูลอาซาคุระและยังถือว่าตระกูลอาซาคุระนั้น เป็นตระกูลแรกที่มีบรรพบุรุษเป็นองค์เมียวจิที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่ในวัยเด็กโยจะถูกตาของเขา อาซาคุระ โยเม เคี่ยวเข็ญอย่างหนักฯ เพราะต้องการให้โยนั้นเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่เข็มแข็งและเป็นชาแมนที่ยิ่งใหญ่ เพราะในอนาคตเขาจะต้องเป็นผู้สืบทอดตระกูลอาซาคุระ ต่อจากตนนั่นเอง
การฝึกของโยจึงเริ่มขึ้น วันแล้ววันเล่า จนกระทั่ง ตอนโยอายุได้6ขวบ เขาก็ได้บอกกับตาว่าเขาเบื่อที่จะต้องทำการฝึกอีกต่อไปแล้วและจะล้มเลิกการฝึกนี้ แน่นอนตาของเขาไม่มีวันยอมให้โยล้มเลิกการฝึกเป็นเด็ดขาด เขาได้ต่อว่าและบอกว่าในอนาคตโยจะต้องมีบางอย่างที่สำคัญมากต้องทำ พร้อมทั้งเล่าเรื่องเกี่ยวกับตำนานที่ว่าไว้ในการแข่งขันเพื่อเลือกหา ราชันต์แห่งเหล่าดวงวิญญาณทั้งมวล หรือก็คือ ชาแมนคิง ที่ถ้าใครได้เป็นแล้วจะสามารถที่จะทำหรือสร้างอะไรใหม่แก่โลกก็ได้ หลังจากที่โยฝังจบ คำตอบของชาแมนคิง ได้จุดประกายความฝัน ที่เขาจะมีชีวิตอย่างสบายๆไม่ต้องทำอะไรและไม่ต้องมาลำบากเป็นผู้สืบทอดตระกูล โยจึงตั้งปณิธานให้ตัวเองว่า เขาจะเป็นชาแมนคิงให้ได้ หลังจากวันนั้น โยก็ฝึกวิชากับตาของเขาต่อไป
จนกระทั่ง เวลาผ่านไปจนโยอายุ10ปี ในวันหนึ่งโยได้กลับมาถึงหลังจากไปโรงเรียนมา ในวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่โยได้ไปเรียน เพราะโรงเรียนของโยได้ปิดเทอมฤดูหนาว เมื่อได้ปิดเทอมโยก็วาดฝันที่วันหยุดยาวนี้เขาจะได้ใช้ชีวิตสบายๆตามแบบฉบับเขา แต่ความฝันของเขาก็ต้องหยุดลง ด้วยคำสั่งของตาของโย ที่บอกให้เขาไปหายายที่อินาโมริ ในการไปหาครั้งนี้ เขาจะต้องไปเจอกับว่าที่คู่หมั้นของเขาที่นั่น คำพูดของตาทำให้โยตกใจว่าเขามีคู่หมั้น ถึงโยจะรู้อยู่แล้วว่ากฎของบ้านอาซาคุระ จะเคร่งมากเรื่องหาคู่ครองในการแต่งเข้า เพราะผู้ที่จะแต่งเข้าบ้านอาซาคุระได้จะต้องมีพลังชาแมนติดตัวมาอยู่เป็นจำนวนมากและการไปครั้งนี้ของเขาก็เพื่อการนั้น การเดินทางไปอาโอโมริของโย เขาไม่ได้เดินทางไปตามลำพัง แต่มีผู้ติดตามไปด้วยคือ วิญญาณประจำตระกูลอาซาคุระ แมวเก้าชีวิตมาตามุเนะ วิญญาณรับใช้ที่อยู่มาถึง1000ปี
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งคู่ได้เดินทางขึ้นรถไฟเพื่อเดินทาง ระหว่างทางโยก็ได้พูดคุยและเริ่มที่จะสนิทกับมาซามุเนะมากขึ้น จนรถไฟได้มาถึงอาโอโมริและโยก็เกือบจะตกรถไฟขบวนนั้น เพราะเขาหลับเพลินแต่โชคดีที่มาซามุเนะปลุกทัน จึงทำให้เขามาถึงอาโอโมริได้สำเร็จ เมื่อมาถึงอาโอโมริแล้ว โยจึงได้แวะหาของกินก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเขายังไม่ได้กินอะไรมาแล้วตั้งแต่เย็น จังหวะนั้นมาซามูเนะจึงได้ขอตัวร่วงหน้าไปพบยูคิโนะยายของโยก่อน ทั้งคู่จึงแยกทางกัน ในระหว่างทางที่โยกำลังจะเดินทางเพื่อไปพบยายของเขา
ทันใดนั้นโยได้บังเอิญไปเดินชนเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ในขณะที่กำลังจะขอโทษ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้ตบหน้าเขาในทันที พร้อมทั้งบอกว่าอย่ามาเกะกะขวางทาง!! การกระทำเช่นนี้ สร้างความตกใจปนประหลาดใจแก่โยเป็นอย่างมาก ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดต่อ เขากับถูกด่าสวนมาอีกว่า อย่ามาตีสนิทไม่งั้นจะฆ่า!! แค่คำพูดของเด็กผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้โยตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกและเด็กผู้หญิงลึกลับคนนั้นก็เดินจากไป พร้อมทั้งพูดทิ้งท้ายไว้อีกว่า คนนี้หรือที่จะเป็นสามีของเราในอนาคต คำพูดนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับโยเป็นอย่างมาก ตอนนี้โยรู้แล้ว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นคู่หมั้นที่ตากับยายของเขาหามาให้แน่ แต่คำพูดที่คู่หมั้นของเขาพูดออกมาก็ทำร้ายจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก โยจึงนั่งแวะพักเพื่อรักษาแผลใจของเขาที่รึมแม่น้ำแห่งหนึ่งในอาโอโมริ
ในขณะเดียวกัน ทางด้านมาซามุเนะที่ได้มาหาคิโนะ เมื่อได้เจอมาซามุเนะจึงได้ทักทายและพูดคุยถามถึงเรื่องราวทั่วไป อีกทั้งยังถามถึงคู่หมั้นของโย ยูคิโนะจึงได้ตอบเกี่ยวกับคู่หมั้นของโยว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่วิเศษเธอมีชื่อว่า แอนนา เป็นเด็กกำพร้าที่มีพลังชาแมนที่ติดตัวมาอย่างมหาศาลและมาพร้อมทั้งคำสาปที่ติดตัวมาอีกด้วย แต่ขอแค่มีพลังที่มหาศาลเพีงสิ่งเดียวก็จำเป็นอย่างมากแก่ตระกูลอาซาคุระแล้ว ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน มาซามุเนะก็แปลกใจที่ทำไมโยยังไม่มาถึงซักที เขาจึงบอกแก่คิโนะว่าจะออกไปดูโยเสียก่อน มาซามุเนะจึงรีบออกไปหาโยในทันที
เวลาเดียวกันทางด้านโยที่ตอนนี้กำลังนึกถึงเรื่องที่ตัวเองพบเจอกับแอนนาอยู่นั้น เขาก็ได้ถูกวิญญาณยักษ์ปริศนาที่โผล่ออกมาและเข้าโจมตีเขาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว โชคดีที่โยสามารถหลบการโจมตีนั้นได้ทัน แต่ยักษ์เองก็ไม่ปล่อยให้โยได้ทันตั้งตัวก็เข้าโจมตีต่ออย่างทันที ในขณะที่โยกำลังถูกโจมตีและคิดว่าตัวเองต้องไม่รอดแล้ว
มาซามุเนะก็ได้โผล่ออกมาและเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน จึงทำให้โยรอดพ้นจากอันตรายมาได้ ทั้งคู่จึงเดินทางมุ่งหน้าไปพบกับยูคิโนะคุณยายของโยต่อไป
หลังจากรอดจากเหตุการณ์ ถูกยักษ์จู่โจม โยก็ได้เดินทางมาพบกับคุณยายของเขา ผ่านการทักทายกันไปซักพัก แอนนาคู่หมั้นของโยก็มาถึง เธอได้มาและเห็นโยแต่ไม่มีคำทักทายอะไรออกมา มีเพียงแต่เอาของที่คุณยายของโยฝากซื้อมาให้และก็ไป การกระทำแบบนี้ทำให้โยโมโห ที่แอนนาแสดงพฤติกรรมไรก็มารยาท ไม่มีแม้แต่คำทักทายหรือความเคารพเลย เขาจึงคิดที่จะไปต่อว่าแอนนาซะหน่อยที่ทำกิริยาแบบนี้ แต่ก็ได้ถูกยายของเขาห้ามพร้อมทั้งให้เหตุผลว่า แอนนาเธอมีนิสัยไม่ค่อยสุงสิงกับใครและเธอก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ยายเองกฺ็ขอให้โยเข้าใจด้วย เมื่อพูดจบโยจึงหยุดการกระทำของตนในทันที
หลังจากคุยกันต่ออีกซักพัก โยก็ขอตัวไปนอน เป็นเวลาหลายวัน ที่แอนนาไม่ออกมาจากห้องจนถึงวันที่โยตัดสินใจว่าจะกลับแล้ว จึงได้ไปหาซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ในขณะที่กำลังซื้อของฝากเขาก็ได้เจอกับแอนนาที่มาหา อีกทั้งยังหาว่าเขาโรคจิตคิดเรื่องลามกในหัวอยู่อีก ในขณะนั้นโยก็ได้รู้ว่าแอนนามีพลังในการอ่านใจได้ พร้อมทั้งแอนนายังบอกกับโยว่า ให้โยออกไปห่างๆจากตัวเธอไว้ เพราะตัวเธอมีคำสาปถ้าใครอยู่ใกล้เธอคนนั้นจะโชคร้าย แต่ถึงจะบอกอย่างไร โยก็ยังรู้สึกว่าแอนนาน่าสงสาร และด้วยนิสัยของโยเขาจะปล่อยผ่านไม่ได้ โยจึงตั้งใจที่จะช่วยแอนนา ซึ่งแอนนาก็สามารถอ่านใจและรู้ความคิดของโย เธอจึงบอกว่าโยหน่ะโง่ ถ้ายังฝืนเข้าใกล้เธออีกเขาจะตายได้
หลังจากที่แอนนาพูดจบเธอก็เดินจากไป ไม่นานก็มียักษ์เข้ามาโจมตีใส่โยในทันที เป็นเหตุให้ในเวลานี้โยต้องสู้กับยักษ์ในร้านขายของฝาก แค่สู้กับยักษ์ก็ถือว่าแย่มากแล้ว แต่ในตอนนี้เจ้าของร้านก็ได้ออกมาและต่อว่าเพราะเข้าใจว่าที่ร้านตัวเองพังนี่เป็นฝีมือของโย การปรากฎตัวของเจ้าร้านนั้น ดึงความสนใจของยักษ์ จึงทำให้ยักษ์หันไปจู่โจมเจ้าของร้านแทน แต่โชคดีที่โยเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วจนสามารถช่วยเจ้าของร้านเอาไว้ได้ ในช่วงชีวิตที่เฉียดตายนี้เองจึงทำให้เจ้าของร้านสามารถมองเห็นยักษ์ได้และรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของยักษ์ไม่ใช่โย ช่วงจังหว่ะนั้นเอง โยได้รีบหยิบดาบที่เจ้าของร้านพกติดตัวมาเพื่อใช้เป็นอาวุธสู้กับยักษ์
การกระทำของโยนั่นกล้าหาญ แต่ดาบธรรมดาไม่สามารถทำอันตรายแก่ยักษ์ได้ และเขาจะต้องถูกยักษ์สังหารอย่างแน่นอน ในขณะนั้นแอนนาที่เห็นเหตุการณ์ได้บอกให้โยรีบหนีไป แต่ก็ไม่ทันแล้ว ยักษ์ได้โจมตีและกำลังจะสังหารโยด้วยความตกใจแอนนาจึงได้ตะโกนออกไปอีกครั้ง การตะโกนครั้งนี้ของแอนนา ทำให้ยักษ์ที่กำลังจะฆ่าโยนั้นหายตัวไป ต่อหน้าของคนทั้งคู่ ภาพนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับแอนนาเป็นอย่างมาก ที่ในที่สุดเธอก็สามารถสั่งให้ยักษ์หายไปได้
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับบ้านไปและนั่งดูทีวีด้วยกันสองคน ในระหว่างดูทีวีด้วยกัน นับเป็นครั้งแรกที่โยและแอนนาได้เปิดอกคุยกันถึงเรื่องต่างๆ โดยที่แอนนาได้บอกกับโยว่าตัวเธออ่านใจคนอื่นได้ จึงทำให้เธอสัมพัสได้ถึงความคิดลบของคนทั่วไป ความคิดเหล่านั้นสร้างความกดดันให้กับตัวเธอเป็นอย่างมาก จนมันได้สร้างและดึงดูดดวงวิญญาณต่างๆเข้ามาจนกลายเป็นยักษ์ในที่สุด ที่ถ้าใครอยู่ใกล้เธอก็จะถูกยักษ์ทำร้ายไปด้วย เธอจึงบอกว่าต่อจากนี้ให้โยนั้นไปจากชีวิตเธอซะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่โยก็ยืนกรานว่าเขาจะช่วยแอนนาให้ได้ เขาจะไม่ทิ้งแอนนาไปไหน คำตอบนี้ของโย ทำให้แอนนาโมโหเป็นอย่างมาก เธอได้ต่อว่าโยว่าโง่ ไม่กลัวตายหรอและจะทำแบบนี้เพื่อเธอทำไม โยไม่ตอบ แต่แอนนาสามารถอ่านใจเขาได้และรู้ว่าโยนั้นรู้สึกกับตัวเช่นไร เธอรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก จนเผลอตบหน้าโยเข้าอย่างจังและรีบวิ่งออกไปนอกห้องทันที
ในขณะที่แอนนากำลังจะออกจากห้อง โยก็ได้พูดว่าเขาจะเป็นชาแมนคิงเพื่อช่วยแอนนาให้ได้และเขาสัญญาว่าจะต้องทำให้สำเร็จ คำพูดนี้ของโยทำให้แอนนามีความสุขเป็นอย่างมาก ในเวลานั้นเป็นวันสิ้นปีพอดี ที่อาโอโมริเองก็จัดเทศการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่อยู่พอดี โยจึงได้ชวนแอนนาเพื่อไปร่วมงาน ถึงแม้แอนนาจะไม่อยากไปเพราะการไปเจอคนเยอะๆจะทำให้เธอรู้สึกแย่ จนทำให้เกิดยักษ์ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แต่โยก็ได้บอกว่าเขาจะดูแลเธอเอง ทั้งคู่จึงได้ไปร่วมงานพร้อมกันและก็เป็นอย่างที่แอนนาบอก ปัญหาก็ได้เกิดขึ้น เมื่อแอนนาไปร่วมงานเธอได้สัมผัสเข้ากับความคิดของผู้คนต่างๆเป็นจำนวนมาก จนเธอได้สร้างพวกยักษ์ออกมาอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นมีมหายักษ์ที่เป็นการรวมกันของวิญญาณยักษ์ทั้งหมด
ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความลำบากให้แก่ทั้งคู่เป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่มาตามุเนะได้เข้ามาช่วยไว้ เขาได้ต่อสู้และสังหารพวกยักษ์ไปอย่างมากมาย จนเกือบจะสามารถสังหารมหายักษ์ลงได้แต่ได้พลาดท่าไป จนมหายักษ์ได้จับตัวแอนนาไว้ การจับตัวแอนนาไปนี้สร้างความร้อนใจให้แก่โยเป็นอย่างมาก จนเขาพยายามที่จะรีบตามไปช่วยแต่ก็ถูกมาตามุเนะห้ามเอาไว้ก่อน เพราะทางที่มหายักษ์มุ่งหน้าไปนั้น มีชื่อว่าเขาสะพรึง ซึ่งเป็นสถานที่รวมไว้ซึ่งเหล่าวิญญาณมากมายการไปที่นั้นทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัว เป็นเรื่องที่โง่มาก และทางที่จะไปนั้นก็ค่อนข้างทุรกันดาร ไม่สามารถเดินไปได้แบบปกติเพราะในเวลานี้หิมะได้ปกคลุมไว้หมดแล้ว แต่โยก็ยังยืนกรานว่าเขาจะไปช่วย และโชคดีที่เขาบังเอิญพบเจอกับลุงเจ้าของร้านที่โยเคยช่วยไว้ ลุงเจ้าของร้านจึงได้อาสาขับรถไต่หิมะขึ้นไปส่งให้ เพราะเห็นว่าโยอยากไปที่นั่น
ในช่วงระหว่างที่อยู่บนรถ มาตามุเนะได้ถามความสมัครใจของโยอีกครั้งและคำตอบโยก็ยังเป็นเช่นเดิมคือ เขาตัดสินใจแล้วที่จะไปช่วยแอนนา มาตามุเนะจึงบอกถึงวิธีที่จะล้มมหายักษ์ให้แก่โย ว่าเขาจะทำหน้าที่รับใช้ตระกูลอาซาคุระเป็นครั้งสุดท้าย เพราะพลังวิญญาณของเขาเหลือน้อยแล้ว การสู้กับมหายักษ์เขาต้องทุ่มพลังทั้งหมดที่มีเพื่อสู้ หลังจากที่มาตามุเนะได้บอกจบ โยก็เกิดอาการที่ไม่อยากให้มาตามุเนะทำแบบนั้น แต่มาตามุเนะก็ได้ตัดสินใจและเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถชนะได้ โยจึงต้องจำใจยอมรับแผนนี้ของมาตามุเนะ พร้อมทั้งโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองทั้งหมด ที่พยายามฝืนพาแอนนาออกมาจนต้องพบเจอกับเรื่องนี้
แต่เหมือนกับมาตามุเนะจะอ่านใจของโยออก เขาได้บอกเพียงอย่าโทษตัวเองมันเป็นหน้าที่ ที่โยจะต้องทำเพื่อคู่หมั้นของตนและเขาก็ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่รับใช้ตระกูลอาซาคุระอย่างสุดความสามารถ คำพูดนี้ของมาตามุเนะ ถึงจะไม่แก้ให้อาการเสียใจและรู้สึกผิดของโยหายไปได้ แต่ก็ทำให้ตัวโยเองรู้สึกดีขึ้นมาแม้จะแค่นิดเดียวก็ตาม โยได้ถามมาตามุเนะว่าเมื่อสักวันเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่านี่ เขาจะสามารถเจอมาตามุเนะได้อีกครั้งไหม แน่นอนมาตามุเนะรับปากว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง ณ ที่ไหนสักที่อย่างแน่นอน
เมื่อมาถึงจุดหมายที่เขาสะพรึงแล้ว โยและมาตามุเนะได้ออกเดินตามหาจนมาพบเข้ากับมหายักษ์และเจอแอนนาที่โดนมหายักษ์ล้างสมองและพยายามดึงเธอเข้าสู่ด้านมืด ให้เธอจมปลักกับคำสาปแช่งต่างๆ จนแอนนาได้ออกปากไล่โย เพราะไม่อยากให้โยมายุ่งกับตนอีก แต่โยก็ปฎิเสธพร้อมทั้งบอกว่าเขาจะไม่ทิ้งแอนนาไปไหน เขาจะช่วยเธอเอง เมื่อโยตัดสินใจแล้ว เขาก็ได้เริ่มการรวมวิญญาณ นั่นคือ การโอเวอร์โซลครั้งแรกในชีวิตของโย กับมาตามุเนะ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด จนในที่สุด เขาก็สามารถช่วยแอนนาออกมาจากมหายักษ์ได้ อีกทั้งในช่วงสุดท้ายแอนนายังปฎิเสธมหายักษ์อีกทั้งยอมรับว่าตัวเองนั้นเครียดแค้นต่อโลกมากแค่ไหน แต่ก็รักโยมากเช่นกัน เธอไม่สามารถให้มหายักษ์ทำร้ายโยได้อีกแล้ว จึงทำให้มหายักษ์ไม่สามารถฟื้นฟูพลังวิญญาณของตน และถูกโยสังหารลงในที่สุด
หลังจากสังหารมหายักษ์เสร็จ การโอเวอร์โซลของโยและมาตามุเนะก็จบลง วิญญาณของมาตามุเนะก็หายไปพร้อมกับมหายักษ์ ถึงจะเสียใจแต่โยก็เข้าใจดี และคิดว่าการเดินทางเป็นเวลา3วันนี้กับมาตามุเนะช่างเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของเขาเลยจริงๆ โยและแอนนาก็ได้เดินทางกลับไปที่บ้านในที่สุด หลังจากการจากไปของมาตามุเนะแล้ว โยก็ได้พักอยู่อีกหลายวัน
จนกระทั่งเขาต้องเดินทางกลับบ้านของเขาที่อึซุโมะ พร้อมทั้งกล่าวลายายของเขา ในขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟ โยได้นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาก็รู้สึกดี ในทันใดนั้นแอนนาก็ได้โผล่มาบนรถไฟ เธอได้นั่งไปส่งเป็นเพื่อนโยจนถึงสถานีหน้า ในระหว่างเดินทางทั้งคู่ไม่มีแม้แต่คำพูด แต่โยก็เข้าใจว่าแอนนาจะพูดอะไรกับเขาและแอนนาก็เข้าใจเหมือนกันที่โยจะพูดกับตน พอใกล้ถึงสถานีหน้าแอนนาจึงได้กล่าวขอบคุณโยและลาก่อน พร้อมทั้งบอกอีกว่าเราจะได้พบกันใหม่อย่างแน่นอน….
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending
