คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่43
บทที่43 วันที่ 2 การย้ายแดน ep2
“คุณจะเดินไปสู่จุดหมายได้อย่างไร ถ้ามัวแต่ปาก้อนหิน ใส่หมาที่เห่าอยู่ตลอดทาง”
** ได้เข้าไปคุยกับรองผ.บแดน ได้เปิดอกคุยกันถึงเรื่อง ที่ผมจะเปิดโต๊ะบอลทำธุรกิจสีเทา ภายในแดนแห่งนี้ แกก็รับรู้และอนุญาติ กับเรื่องที่ผมบอกผมมีเวลาอีกแค่ปีหน่อยๆ ในการที่จะตักตวงผลประโยชน์ เก็บตังค์เก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพราะอีกแค่ปีกว่าๆ ป๋าเวียงก็จะเกษียณแล้ว นี่แหละครับ backup ของบ้านอ.เมือง ที่คอยดูแลและคอยช่วยเหลือเวลามีปัญหาอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เกิดเรื่องร้ายแรง แกจะเข้ามาช่วยเหลือให้ความผิดเหลือน้อยที่สุด หรือ ไม่ก็ไกล่เกลี่ยให้จบๆกันไป แล้วถ้าแกเกษียณไปแล้วนั้น ผมก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าต่อไปจะทำอย่างไร เพราะเดี๋ยวไอ้เบนซ์ก็ต้องปล่อยพร้อมกับในเวลาที่แกจะเกษียณอีกด้วย ก็เหมือนอย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้ ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับในคุก ถึงมันจะนิ่ง แต่ก็ไม่เคยอยู่นิ่งนานสักทีเดียว **
ผมนั่งคุยกับป๋าเวียงอยู่สักครู่ แล้วจึงขอตัวกลับออกมา “ป๋าครับเดียวผมขอตัวขึ้นกองงานก่อนครับ นี่บุหรี่เอาไว้สูบนะครับ ” ผมได้วางบุหรี่กรองทิพย์ 2 ซองไว้ให้กับป้าเวียง ก่อนที่จะขึ้นไปบนโรงงาน 2 เพราะผมคิดว่าไอ้แว่นคงกลับมาจากเยี่ยมญาติแล้ว ผมเห็นไอ้แว่นนั่งรอผมอยู่ข้างหลังโรงงาน แต่ผมเห็นสีหน้าของมันไม่ค่อยสู้ดีนักมันต้องมีเรื่องอะไรแน่ ผมจึงเดินไปหามันแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมันก็พูดกับผมว่า
“เรียบร้อยแล้วพี่ใหญ่ทุกอย่างที่พี่สั่งจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ “แล้วมันก็นั่งเงียบเหมือนเดิม เหมือนกับมันกำลังใช้ความคิด คิดถึงเรื่องอะไรสักอย่าง ผมเห็นอาการที่มันสับสนในตอนนี้ ก็เลยดูออก ผมคิดอะไรไม่ผิดหรอก จะให้ผมเดาก็เดาได้ไม่ยากหรอกครับ คนในคุกมีอยู่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นหรอกครับที่จะทำให้คิดมาก ถ้าไม่มีใครมาเยี่ยมหรือทางบ้านมีใครตายแล้ว งั้นก็คงเป็นเรื่องสุดท้าย เรื่องเมียนั่นเอง ผมเดาไม่ยากติดคุกเมียลื่น(มีผัวใหม่) มันเป็นของคู่กันในคุกครับ น้อยคนครับที่จะรอได้ ยิ่งอายุยังน้อยเป็นวัยรุ่นด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว เปอร์เซ็นต์ลื่นมีสูงครับ
“ไง..เป็นไรมึง มีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่าคุยมาได้นะ “ ผมได้เดินไปนั่งข้างมัน เพราะผมรู้ว่าตอนนี้ มันต้องการใครสักคนมากที่สุด นั่นก็คือคนที่คอยรับฟังมันนั่นเอง “ผมว่าเมียผมมันเปลี่ยนไปครับพี่ ผมว่ามันมีคนใหม่ไปแล้วล่ะ แม่บอกว่ามันไม่กลับบ้านมาวันนี้วันที่ 2 แล้วครับ มันบอกแม่ผมว่า มันกลับไปบ้านไปหาแม่มันแล้วก็ปิดมือถือ จนตอนนี้แม่ผมติดต่อไม่ได้เลยครับ ” มันได้เล่าถึงสาเหตุ ที่ทำให้มันเครียดและเป็นแบบนี้ ผมคิดในใจ กูเดาไม่ผิดจริงๆ เรื่องเมียนั่นเอง ผมจึงพูดปลอบใจมันไปก่อน
“มึงก็อย่าเพิ่งคิดไปไกล เมียมึงอาจไปหาแม่มันจริงไก็ได้ แต่ที่ปิดเครื่อง แบตหมดลืมเอาที่ชาร์จไป หรือ ไม่ก็โทรศัพท์พัง มันก็เป็นได้ มึงก็อย่าเพิ่งคิดอะไรที่มันร้ายๆสิว่ะ อย่าคิดอะไรไปก่อน เพราะมึงคิดไปมันก็เท่านั้นแหละไอ้แว่น มึงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เท่าที่มึงทำได้อย่างเดียวก็คือทำใจเข้าใจไหม “ ผมรู้ความรู้สึกของมันดี ถึงผมจะพูดอะไรไปในตอนนี้ ตัวมันไม่ค่อยจะรับฟังหรือเข้าใจหรอกครับ
แต่ถ้าผมไม่ถาม หรือ คิดที่จะพูดอะไรกับมันเลย อันนี้มันจะไม่ดีเป็นแน่ มันจะยิ่งทำให้ไอ้แว่นเครียดเข้าไปใหญ่ ต้องให้มันได้ระบายและต้องมีคนคอยรับฟังมัน ที่ตัวผมนั้นรู้และเข้าใจ ในสิ่งที่มันเป็นอยู่ เพราะผมก็เคยผ่านมาก่อน เคยเจ็บมาก่อน มันทรมานขนาดไหน ผมเข้าใจดี และความรู้สึกเจ็บในครั้งนั้นบางครั้งมันยังวนเวียนกลับมาหาผมอยู่เลย
คนที่เคยติดคุกหลายคนก็เคยผ่านมันมาก่อนทั้งนั้น แต่ความหนักกับความเจ็บที่ได้รับมันต่างกัน บางคนเจ็บน้อย แต่บางคนนี่สิเจ็บเจียนตาย ใครที่ไม่มีเมียแล้วติดคุก ผมถือว่าคนคนนั้นโชคดีครับ ไม่ต้องมีอะไรให้คิด ให้เครียดกับเรื่องภายนอก แต่ถ้าใครติดคุกแล้วมีเมีย คุณควรรู้เอาไว้เลยว่า คุณต้องทำใจให้ได้แต่เนิ่นๆ แล้วคุณต้องยอมรับความจริงที่จะเกิดให้ได้ ความจริงที่คุณเองนั้นเข้าใจดี คุณจะได้ไม่ต้องเสียใจมากยังไงล่ะครับ เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับตอนอยู่ในคุก “ความเจ็บปวดมันจะหลอมคนให้ทนทานครับ”
ผมเพิ่งนึกออกว่า ผมจะต้องบอกไอ้บอยดำถึงเรื่องที่ไอ้หมีจะย้ายแดนมาครั้งนี้ด้วย เกือบลืมไปแล้ว ผมจึงลุกออกจากตรงนั้นปล่อยให้แว่นใช้เวลาคิดและอยู่คนเดียว ในตอนนี้เหมาะกับมันที่สุด เพราะผมคิดว่าผมได้พูดได้บอกมันให้มันคลายวิตกไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ผมจึงเดินไปหน้าโรงงาน เพื่อไปหาไอ้บอยดำ
“ไอ้บอยดำ กูสั่งไอ้แว่น ให้มันบอกกับแม่มันเรียบร้อยแล้วนะ เรื่องเงินค่าย้ายแดนแล้วถ้ามึงต้องการจะใช้หรือจะโอนให้พี่ตอนไหน มึงบอกกู เดี๋ยวกูเอาเบอร์แม่มันให้มึงโทรไปบอกเขา เดี๋ยวเขาจะจัดการให้ แล้วกูซื้อน้ำเปล่าให้พี่ไว้ 3 แพ็คนะ กูจะให้อาทิตย์ละ 3 แพ็ค และอีกเรื่องนึงกูเกือบลืม ไอ้หมีมันจะย้ายมาแดนนี้นะ มันได้ลงชื่อขอย้ายมาแล้ว มึงรู้หรือเปล่าว่าจะย้ายแดนกันมาวันไหน ” ไอ้บอยดำ พยักหน้าเข้าใจในเรื่องเงินย้ายแดน ส่วนเรื่องย้ายแดนของไอ้หมีมันถึงพูดว่า
“ตอนแรกจะย้ายมาอาทิตย์นี้แหละ แต่อยู่ๆเขาก็ cancel ยังไม่ให้ย้ายมาตอนนี้ มันก็เลยยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่ะ สงสัยจะต้องมีเรื่องย้ายเรือนจำก่อนเป็นแน่ แต่ถึงยังไงถ้ามีการย้ายแดนมาก่อน กูต้องรู้ก่อน ยังไงเราจัดการกันทันอยู่แล้ว ” ผมนึกแปลกใจ กับเรื่องที่มันบอกว่าจะมีการย้ายเรือนจำเกิดขึ้น เพราะตามความจริง ช่วงเวลานี้ มันไม่น่ามีการจะต้องย้ายเรือนจำไปไหน มันเป็นช่วงสิ้นปี นี่ก็ปลายเดือนตุลาคมแล้ว เพราะถ้าจะย้ายเรือนจำ ส่วนมากจะเป็นต้นเดือนมกราคมมากกว่า
ผมถึงถามมันถึงสาเหตุที่จะมีการย้ายเรือนจำในครั้งนี้ “แล้วทำไมจะย้ายเรือนจำกันตอนนี้วะ มันแปลก มึงรู้ข่าวอะไรมาหรือเปล่าว่าจะย้ายเรือนจำไปไหน ” ไอ้บอยพยักหน้าแล้วบอกถึงสาเหตุที่มีการย้ายเรือนจำเกิดขึ้น “ก็พวกไอ้อิ๋วที่เกมยาตอนชุดดำจู่โจมแดนนู้นไง มึงก็อยู่ไม่ใช่รึ พวกมันยังไม่ได้ย้ายไปไหนเลย เขาจะให้พวกมันไปอยู่ซุปเปอร์แม็ก(คือแดนความมั่นคงสูงที่เรือนจำเขาบิน)ไม่วันพุธก็วันพฤหัสบดีนี้แหละย้ายแน่นอน “
พอผมรู้ มันก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ถึงเรื่องการย้ายเรือนจำตอนสิ้นปี สาเหตุนี้เองมิน่าทำไมเรื่องมันดูเงียบๆ นี่ก็ผ่านมา 3-4 เดือนแล้ว ที่เกิดเหตุการณ์ นั้นขึ้นมา “ไอ้ใหญ่ มึงเย็บแหเป็นใช่ไหม มึงทำได้หรือเปล่า” จู่ๆไอ้บอยดำก็ถามถึงเรื่องเย็บแหขึ้นมา “กูเย็บแหเป็น ตอนกูอยู่วัยหนุ่มปทุม กูเคยทำมาก่อน แล้วมึงถามกูเรื่องนี้ทำไมวะ ” ผมย้อนถามมันถึงจุดประสงค์ที่มันถามกับผม แล้วผมก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่มันถามเรื่องแหครับมันลุกขึ้นแล้วบอกให้ผมเดินตามเข้าไปในห้องของพี่เกียรติ
“พี่ได้หัวหน้ากองงานแหแล้วนะครับ ไอ้ใหญ่มันทำเป็นครับพี่ มันบอกกับผมเมื่อกี้ ” โถ่ไอ้เวรตะไลมึงหางานให้กูทำซะแล้ว ผมสบถด่ามันในใจ เล่นไม่บอกให้รู้กันก่อนเลยนะ ส่วนมันมองหน้าผมแล้วก็อมยิ้มเหมือนกับมันรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร
“ใหญ่คืองี้นะ จะมีกองงานเย็บแห เข้ามาลงที่แดนนี้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก น่าจะต้นปีหน้า เพราะปลายเดือนนี้ ก็จะปิดงบประมาณประจำปีแล้ ผอ. ฝ่ายฝึกวิชาชีพ เขาฝากบอกมาก่อนเนิ่นๆ ให้เตรียมคนเอาไว้ ยังไงเอ็งก็ช่วยดูพวกที่เย็บแหเป็นให้สักหน่อย เอาที่เป็นจริงๆเลยนะ ซัก 10 คน เพื่อจะให้มันเป็นครูฝึกแล้วก็หัวหน้าล็อคต่อไป ” พี่เกียรติ อธิบายให้ผมได้เข้าใจ ผมจึงตอบตกลงที่จะรับทำให้ จะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ในเมื่อไอ้บอยดำมันมัดมือชกผมซะขนาดนี้ ผมจะปฏิเสธไปก็ไม่ได้อยู่ดี
“ครับพี่ เดี๋ยวผมไปจัดการให้ครับ แต่พี่ครับยังไงช่วยขออุปกรณ์เย็บแห ของเขามาก่อนที่จะเปิดกองงานนะครับ เพราะเราจะต้อง ขึ้นหัวจอมให้พวกคนใหม่ก่อนอยู่ดี และก็ต้องทำหัวจอมไว้ก่อนด้วยครับ แล้วนี่เขาสั่งให้เย็บแหกี่เซนต์ครับ ” ผมได้อธิบายถึงรายละเอียดของการเย็บแหว่ามันต้องเตรียมการอะไรบ้าง ไม่ใช่จะเปิดกองงานแล้วก็ทำกันได้เลย ต้องให้เขาส่งของมาก่อนเปิดกองงานแหซัก 2 เดือนก็ยังดี
พี่เกียรติได้ฟังเขาก็คุยกับผมว่า จะเอาไปบอกผบ.ฝ่ายฝึกวิชาชีพอีกทีนึง ถึงสิ่งที่เราจะต้องเตรียมตัวก่อน แล้วจะไปถามเขาด้วยว่าจะต้องเย็บกี่เซนต์ จากนั้นผมกับไอ้บอยก็ลุกออกไปจากห้องพี่เกียรติ “มึงนี่นะ หางานให้กูจนได้ ไอ้บอยดำ มึงก็น่าจะบอกกูก่อน ไม่ใช่ถามกูแล้วก็ให้กูไปหาพี่กับมึงเลย “ ผมบ่นให้มันฟัง
“เอาน่า..กูไม่อยากให้คนอื่น เข้ามาทำแทน มึงก็รู้ว่าการเป็นหัวหน้า ผลประโยชน์มันมากขนาดไหน กูไม่อยากให้ของแบบนี้เปลี่ยนมือจากบ้านเรา เป็นของบ้านอื่น มึงก็ช่วยกันไปเว้ย มันก็ไม่ได้เสียหายอยู่แล้ว มีแต่ได้กับได้ไม่ดีไงว่ะ ” ก็จริงอย่างที่มันบอก ผมเลยหมดคำจะพูดกับมันและสายตาของผมก็เห็นไอ้แว่นยังนั่งอยู่ที่เดิม พร้อมกับอัดบุหรี่ไปด้วย เท่าที่ผมสังเกตุเห็นที่เขี่ยบุหรี่ มันเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ ไม่ต่ำกว่า 10 มวนเป็นแน่ ผมจึงตัดสินใจเดินไปหามันอีกที พร้อมกับบอกให้มัน หยุดการกระทำ ที่มีแต่จะทำร้ายตัวมันสักที
“โอ้โห!! ไอ้แว่น นี่มึงกะจะดูดไม่เผื่อวันพรุ่งนี้เลยใช่ไหม ชิบหาย 10 กว่าม้วนได้แล้วมั้ง เดี๋ยวก็ตายห่ากันพอดีหรอก ไป ไปกับกู ไปหาอะไรแดกกันที่ร้านไอ้คม กูหิว มึงนั่งอย่างนี้ทั้งวัน มันก็ไม่ช่วยอะไรมึงขึ้นมาได้หรอก ” ผมจึงพูดตัดบท ชวนไอ้แว่นมันลงไปข้างล่าง ดีกว่าให้มันมานั่งอยู่แบบนี้ ไอ้เรื่องแบบนี้การเข้าไปพูดปลอบใจ มันช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ เรื่องนี้ผมช่วยอะไรมันไม่ได้เลยที่ช่วยมันได้จริงๆ ก็คือเวลา..เพราะว่าเวลา..มันจะคอยเยียวยาคุณเอง….พบกันใหม่ตอนหน้าสวัสดีครับ ( โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาวขั้วโลกเหนือ “# คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่43
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun