กลุ่มโจรสลัดตัวตลก บากี้ (Buggy Pirates)
ทุกการเดินทางต้องมีก้าวแรกเสมอ ไม่ว่าจุดหมายจะห่างไกล ลำบาก หรือ ต้องฟันฝ่าอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีเป้าหมายและก้าวแรกในการเดินทาง เฉกเช่น ตัวเอกของเรา มังกี้ ดี ลูฟี่ ที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะตามหาวันพีช เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัดและก่อนที่จะไปถึง จุดหมายนั้น เขาก็จำเป็นที่จะต้องมีเหล่าลูกเรือคนสำคัญ ที่พร้อมจะติดตามไป เพื่อให้ฝันนั้นเป็นจริง และแน่นอนอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาพร้อมที่จะทำลายฝันเหล่านั้นก็ต้องมีมากอยู่แล้ว และนี่ก็คือหนึ่งในปัญหาที่เข้ามาเป็นบททดสอบว่า การเดินทางในครั้งนี้จะสำเร็จได้หรือไม่ อุปสรรคที่เข้ามาทดสอบเพื่อให้พวกเขาต้องฟันฝ่าและก้าวไปให้ได้ เป็นกลุ่มโจรสลัดที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายแห่งทะเล อีสบลู ที่เมื่อเด็กร้องไห้อยู่ เมื่อได้ยินชื่อเป็นต้องเงียบในทันที(เขาว่ามางี้) กลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้ก็คือ “กลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้”
กลุ่มโจรสลัดตัวตลก บากี้ (Buggy Pirates)
เป็นกลุ่มโจรสลัดที่ก่อตั้งขึ้นในทะเล อีสบลู ที่คอยสร้างปัญหาและสร้างความเสียหายมาตลอด พวกเขามีกัปตันที่มีฝีมือและเล่เหลี่ยมที่แพรวพราว แต่ก็ยังไม่จัดว่าเป็นภัยคุกคามที่อันตรายแห่งทะเล อีสบลู จากกองทัพเรือ(ไม่ติดมาตราฐานของกองทัพเรือ) ถึงแม้จะไม่เป็น แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่สร้างความเสียหายและน่ารำคาญมากให้แก่กองทัพ จนต้องมีการตั้งค่าหัว เพื่อ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนที่คิดจะจัดการ(นักล่าค่าหัว) มาจัดการงานนี้แทนกองทัพเรือ ถึงจะเป็นกลุ่มที่นอกสายตา แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีสมาชิกมาร่วมตัวกัน เพื่อทำตามความฝัน ที่พวกเขาจะรวบรวมและตามหาแผนที่ขุมสมบัติ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีเงินทองที่มากพอจะพาพวกเขาเข้าไปในแกรน ไลน์ และใช้เงินทองที่พวกเขาเจอนั้น ซื้อตัวเหล่าโจรสลัดกลุ่มต่างๆ และจำทำให้พวกเขาได้ครอบครองวันพีช นั่นเอง
กลุ่มโจรสลัดบากี้นี้ เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันของสมาชิกที่มีฝีมือ การต่อสู้ที่โดดเด่น เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเล่นกายกรรมแบบคณะละครสัตว์ ที่เป็นจุดโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครของกลุ่มนี้ ไม่ใช่แต่กัปตันเองแต่รวมถึงสมาชิกระดับชั้นแนวหน้าของกลุ่ม ที่มี ดังต่อไปนี้
กัปตันกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้
กัปตันกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้ “ตัวตลกพันเหรียญ บากี้”
-ค่าหัว 15,000,000ล้านเบรี
-อายุ37(ไทม์ไลน์ปัจจุบัน39)
-วันเกิด8สิงหาคม/สูง171ซม.
-จากทะเล “อีสบลู”
-ผลไม้ปีศาจ บาระ บาระ (bara bara)/ผลแยกร่าง
บากี้ เป็นกัปตันกลุ่มโจรสลัดตัวตลก เขามีรูปร่างผอมสมส่วน ชอบใส่เสื้อแบบพวกคณะละครสัตว์ตัวตลก โดยใส่เสื้อตัวตลกไว้ข้างในและคลุมด้วยเสื้อคลุมกัปตันเรือ และมักจะส่วมใส่หมวกแบบกัปตันอยู่ตลอดเวลา เขามีลักษณะเด่นอย่างเห็นได้ชัดเลย คือมีจมูกสีแดงที่อยู่ที่หน้าของเขา อันเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ที่เขาไม่ค่อยจะปลื้มซักเท่าไหร่ บากี้มักจะอารมณ์ขึ้นได้ง่ายถ้าถูกทักว่า จมูกโต หรือ จมูกสีแดง เขามักจะแสดงอาการโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งด้วยความที่เขากลัวการโดนล้อ มักจะทำให้เขาฟังคำพูดของคนอื่นผิดไปอยู่บ่อยๆ บ่อยครั้งนั้นเขาอาจจะลงไม้ลงมือกับคนรอบข้างได้ง่ายถ้าพยายามมอง จมูกของเขามากเกินไป และ บากี้เองไม่ชอบเด็กเป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเด็กๆมักล้อเลียนเขาเรื่องจมูก ในหลายครั้งที่เขาเผลอลงไม้ลงมือ กับพวกเด็กๆอยู่บ่อย จนเป็นการเข้าใจผิดว่าบากี้นั่นเป็นคนที่ป่าเถื่อนโหดร้าย แต่จริงๆแล้ว เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะสนุก มีอารมณ์ขันแบบฝืดๆ และยังเป็นพวกขี้อวด ขี้โม้ เกินจริง
แต่ถึงแม้เขาจะเป็นแบบนั้น แต่บากี้เองกับมีพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อ อยู่อย่างหนึ่ง นั้นก็คือ การที่เขามีคำพูดที่สามารถโน้วน้าวใจคนและในเรื่องความโชคดีของเขา ที่สามารถจะช่วยให้เขาเอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือ อาจจะเป็นความสามารถที่พิเศษที่เขาได้รับมาจากสวรรค์ ในการที่เขาสามารถจะเอาตัวรอดได้ในทุกสถาณการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการหนีจากการถูกกินก็ดี หนีจากที่คุมขัง หรือแม้แต่การหลบหนีครั้งใหญ่จากคุก อิมเพลดาว ได้ ล้วนแล้วเกิดมาจากโชคช่วยหรือฝีมือของเขาในตอนนี้เราก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นเลย
คือฝีมือการต่อสู้ ที่เจ้าตัวจัดเป็นนักสู้ที่ฝีมือบวกกับอาวุธต่างๆ และที่สำคัญที่สุดเลยคือ พลังจากผลปีศาจของเขาที่ช่วยเพิ่มความสามารถทางการต่อสู้ให้กับเขาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ฝึกมันแบบจริงๆจังๆก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสามารถของเขา ให้สูงมากยิ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะมาถึงวันนี้ได้นั้น บากี้เองก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อยๆ โดยในวัยเด็กของบากี้นั้น เขาได้ไปสมัครและได้รับเลือกให้เป็นเด็กฝึกงานของเรือ”ออโรแจ็คสัน” ของกัปตันกลุ่มโจรสลัด โกล โรเจอ ที่ในเวลาต่อมาคือ เจ้าแห่งโจรสลัด นั่นเอง
ในช่วงที่บากี้ได้ทำการฝึกฝนอยู่บนเรือของ โกล โรเจอ เขาได้มีเพื่อนหรือคู่แข่งที่เป็นเด็ก รุ่นราวคราวเดียวกับเขาอยู่คนหนึ่ง คือ แชงคูสเด็กหนุ่มที่มีผมสีแดงและส่วมใส่หมวกฟาง(ต่อมาคือ1ใน4จักรพรรดิ) สำหรับบากี้แล้วแชงคูสเป็นเหมือนคู่แข่งคนสำคัญ ที่เขามุ่งมั่นจะเอาชนะให้ได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทั้งการต่อสู้ก็ดี ทั้งเรื่องบนเรือการทำความสะอาด เขามักจะแข่งกันเสมอ ถือว่าการมีอยู่ของทั้งคู่ก็เป็นสีสัน อย่างหนึ่งให้กับกลุ่มโจรสลัดของโรเจอร์
จนกระทั่งวันหนึ่ง กลุ่มโจรสลัดของโรเจอร์ ได้เข้าทำการโจมตีกับกลุ่มโจรสลัดอีกกลุ่มกลางทะเล การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ผลัดกันยิงปืนใหญ่ เข้าใส่กันอย่างรุนแรง จนในที่สุดเรือของพวกเขาก็เข้าเทียบกัน จนเกิดการต่อสู้บนเรือที่โกลาหลทั้งสองลำต่างพยายามที่จะ จัดการอีกฝั่ง จนบากี้ได้บังเอิญกระโดดข้ามไปต่อสู้บนเรือฝ่ายศัตรู และเขาได้เจอกับกล่องที่ใส่แผ่นที่ลายแทงสมบัติไว้ บากี้ดีใจมากและรีบเก็บมันลงในกระเป๋าทันที
หลังจากจากการต่อสู้จบลง ชัยชนะเป็นของกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ ในชัยชนะครั้งนี้พวกเขาได้รับทรัพสมบัติมาเป็นจำนวนมาก หนึ่งในสมบัติที่ได้มานั้นมีผลไม้ปีศาจอยู่หนึ่งอัน ซึ่งในตอนนั้นผลไม้ปีศาจเป็นสิ่งที่หายากที่มีราคาสูงมาก ในตลาดมืดมีราคาสูงถึง 100ล้านเบรี นั่นยิ่งทำให้บากี้ตาลุกวาวเป็นอย่างมากและประจวบเหมาะที่ กัปตันโรเจอได้บอกว่าผลไม้ปีศาจนี้ถ้าใครอยากกินก็กินได้เลย จึงทำให้บากี้นั้นได้คิด ริเริ่มแผนการณ์ชั่วร้ายขึ้นมาทันที
โดยการที่เขาจะแกล้งปลอมผลไม้ปีศาจเอาของปลอมมาแทนที่ของของจริง เพื่อที่จะนำของจริงไปขายและในตอนนี้ที่ตัวเขาก็มีแผนที่ขุมสมบัติอยู่ จึงทำให้ความฝันที่จะบอกลาไปใช้ชีวิตใหม่ของเขาจะเป็นจริงขึ้นมา
เมื่อถึงเวลาบากี้ ได้ประกาศตัวต่อหน้าทุกคนว่าเขาจะเป็นคนที่กินผลไม้ปีศาจเอง เขาได้เดินขึ้นมาอยู่กลางเรือและเริ่มกินผลไม้ปีศาจต่อหน้าทุกคน ทุกคนต่างโห่ร้องและสงเสียงเชียกันยกใหญ่ หลังจากกินไปแล้วทุกคนบนเรือก็เฝ้ารอดูพลังที่เขาจะได้ อย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็นั่นแหละกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนทุกคนบนเรือต่างเข้าใจว่าผลไม้ปีศาจที่บากี้กินนั้นน่าจะเป็นของปลอม เพราะในเวลานั้นผลไม้ปีศาจปลอมต่างระบาดมาก ยิ่งเป็นการทำให้แผนนี้ของบากี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
ในคืนหนึ่งหลังจากที่ทุกคนหลับหมด บากี้ได้แอบย่อง ออกมาจากที่นอน มาอยู่บนเรือเล็กที่เตรียมจะหนีออกไปจากกลุ่ม โดยมีผลไม้ปีศาจและแผนที่สมบัติอยู่ในมือ ด้วยของทั้งสองอย่างนี้ จะทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีได้ในพริบตา ความฝันอันแสนหวานต่างเข้ามารุมล้อมในห่วงแห่งความคิดของเขานั้น
ในจังหวะนั้น เขากับถูกทักด้วยเสียงอันคุ้นเคยจากทางด้านหลังของเขา เจ้าของเสียงนั้นเป็นใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ เพื่อนรักคู่แค้นของเขา แชงคูสผมแดง การทักกันมาครั้งนี้ ทำให้บากี้ตกใจ จนเผลอกินผลไม้ปีศาจเข้าไปแต่โชคดีที่เขาแค่กินแต่ยังไม่กลืนมันลงไป หลังจากที่เรื่องไม่คาดฝันนี้กำลังจะผ่านพ้นไป ทันใดนั้นแชงคูสได้หันกลับมาเพื่อพูดกับบากี้อีกครั้ง ในครั้งนี้เขาไม่ได้โชคดีอีกต่อไปแล้ว ด้วยจังหว่ะที่ตกใจ ทำให้บากี้เผลอกลืนผลไม้ปีศาจลงไป จึงทำให้เขาตกใจมาก จนเผลอปล่อยมือที่ถือแผนที่เอาไว้ร่วงลงไปในทะเล ด้วยความกลัวที่จะเสียแผนที่จึงทำให้เขาลืมตัว โดดลงไปในทะเลในทันที ด้วยความสามารถของผลไม้ปีศาจที่ถ้ากินเข้าไปแล้ว จะไม่สามารถที่จะว่ายน้ำได้ จึงทำให้บากี้ค่อยๆจมลงไปในทะเล
ด้วยความสิ้นหวังที่คิดว่า ตัวเขาต้องตายแน่กับถูกช่วยเหลือ โดยคนหนึ่ง คนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ แชงคูส หลังจากที่บากี้ถูกแชงคูสช่วยขึ้นมาจากทะเล แทนที่เขาจะขอบคุณที่ได้รับการช่วยเหลือ บากี้กับแค้นแชงคูสและคิดว่าเรื่องเลวร้ายและแผนการที่เขาวางไว้ทั้งหมดกับพังไปไม่เป็นท่า เป็นเพราะแชงคูสคนเดียว
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป บากี้และแชงคูสก็ยังออกผจญภัยไปต่อบนเรือของโกล โรเจอร์ พวกเขาได้ฝึกฝนและเรียนรู้การทำงานบนเรือ จนเวลาผ่านไปมาถึงการสิ้นสุดของการเดินทางของกลุ่มโจรสลัลโรเจอร์ จึงทำให้พวกเขาทั้งคู่นั้นต้องออกเดินทางไปตามเส้นทางของตัวเอง
เหตุการณ์ที่เป็นจุดสิ้นสุด ของกัปตันโรเจอน์นั้น ก็เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขาเหมือนกัน การประหารกัปตันโรเจอน์จบลงแชงคูสได้เข้ามาชวนให้บากี้ไปเป็นโจรสลัดกับตัวเอง แต่บากี้ไม่ยอมตามแชงคูสไป เพราะคิดว่าแชงคูสจะให้ตัวเองไปเป็นลูกน้อง ทั้งคู่จึงแยกทางกันไปตั้งกลุ่มโจรสลัดของตัวเอง โดยแชงคูสได้ตั้งกลุ่มโจรสลัดแชงคูสผมแดงขึ้นมา ส่วนบากี้ก็สร้างกลุ่มโจรสลัดตัวตลกขึ้นมา แม้การเดินทางของทั้งคู่จะต่างกันไปมาก แต่ทั้งคู่ยังมีเป้าหมายเหมือนกันคือการครอบครองสมบัติวันพีชที่กัปตันของพวกเขาโรเจอร์ได้ทิ่งไว้
หลังจากวันนั้นผ่านมาหลายปี บากี้ตอนนี้ก็เป็นโจรสลัดที่เป็นตัวอันตรายตัวหนึ่งในทะเล อีสบลู ในขณะที่เขากำลังปิดเมืองปล้นอยู่นั้นเขาได้บังเอิญไปเห็นว่า แผนที่ลายแทงขุมสมบัติของเขาหายไป เหตุเกิดจากเขาถูกหัวขโมบที่แอบเข้ามาขโมย โดยหัวขโมยคนั้นมีชื่อว่า นามิ บากี้จึงสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดตามล่าหาหัวขโมยและเอาแผนที่คืนมาให้ได้ ระหว่างที่นามิกำลังหลบนี้นั้น ได้บังเอิญไปเจอกลับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใส่หมวกฟางเดินไปมาในเมือง ชายหนุ่มคนนั้นก็คือ ลูฟี่ตัวเอกของเรานั้นเอง ในช่วงจังหวะที่นามิได้เจอลูฟี่นั้น เธอก็ได้คิดแผนบางอย่างขึ้นมา นั่นคือ จับตัวลูฟี่เอาไปให้บากี้และโทษว่าลูฟี่เป็นหัวขโมยที่เข้ามา ขโมยของของกลุ่มเขาและเธอก็จะหาโอกาสหนีต่อไป เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะไม่มีโอกาสหนีได้เลย เธอจึงทำการหลอกลูฟี่และพาลูฟี่ไปมอบตัวกับบากี้
ในขณะที่มอบตัวลูฟี่ให้กับบากี้นั้น บากี้ก็สังเกตุเห็นหมวกฟางที่ลูฟี่ใส่ มันทำให้เขานึกถึงแชงคูสขึ้นมาและลูฟี่เองยังดีใจที่บากี้รู้จักกับแชงคูส แทนที่บากี้จะดีใจที่เจอคนรู้จักกับเพื่อนแต่เขากับนึกถึงตอนที่ตัวเอง ต้องกินผลไม้ปีศาจและสูญเสียแผนที่ขุมสมบัติไปนั้น จึงทำให้เขาโมโหมากจึง ได้ยื่นข้อเสนอให้นามิไปว่า ถ้าอยากจะเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดบากี้นั้น ต้องทำการฆ่าชายที่ใส่หมวกคนนี้เป็นการพิสูจน์ตัวเอง ให้กับกลุ่มเห็น
โดยใช้ปืนใหญ่แบบพิเศษที่ตัวเขาเป็นผู้สร้างขึ้นมา ยิงใส่ลูฟี่ นามิได้ยืนมองและเกิดความลังเลอยู่นาน จนในที่สุดเธอได้หันไปโจมตีใส่พวกกลุ่มโจรสลัดบากี้ เพราะทนที่จะต้องฆ่าคนบริสุธที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ลง จึงทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างนามิกับกลุ่มบากี้ ในช่วงที่ต่อสู้กันนามิเกือบพลาดท่าโดนจัดการ แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือไว้จาก หนึ่งในสมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง นักดาบล่าโจรสลัด โซโล จึงเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น บากี้เองก็ได้ทำการต่อสู้โดยล่อหลอก เพื่อดวนกันหนึ่งต่อหนึ่งกับโซโล โดยทำการใช้พลังของผลปีศาจ บาระ บาระ หรือผลแยกร่างของตัวเองหลอกให้โซโลฟันมา จนโซโลกับคิดว่าตัวเองชนะแล้ว
ในตอนที่กำลังเผลอนั้น บากี้ได้ แอบโจมตีจากทางข้างหลังเป็นเหตุให้โซโลได้รับบาดเจ็บ ในช่วงที่บากี้กำลังจะซ้ำเพื่อปิดฉากโซโล เขากับถูกลูฟี่ด่าว่า “ไอ้จมูกโตขี้ขลาด” ซึ่งคำคำนี้นั้น เป็นคำต้องห้าม ที่ห้ามใช้กับบากี้เป็นอันขาดซึ่งทำให้บากี้ในตอนนี้สติหลุดไปด้วยความโมโห จนเผลอทำให้กรงที่ขังลูฟี่ไว้หลุดออก จนเกิดเป็นเหตุการณ์ การต่อสู้ครั้งใหญ่ ของกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้และกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่าน บากี้เองต่างเอาอาวุธต่างๆนาๆขนมาใช้สู้กับพวกหมวกฟาง ทั้งระเบิดพิเศษบากี้บอล หรือ แม้แต่กระทั่งปืนใหญ่ชนิดพิเศษที่สามารถ ยิงให้บ้านหายไปเป็นแถบๆ
แต่ถึงแม้จะใช้อาวุธมาต่อสู้เป็นจำนวนมากแต่ก็ยัง ไม่สามารถเอาชนะกลุ่มหมวกฟางได้ ประจวบเหมาะกับการที่ต้องต่อสู้ไปและห่วงสมบัติที่ตัวเองขโมยมาจะหาย จึงทำให้บากี้ถูกจับได้ใน ขณะที่ตัวเองใช้พลังของผลแยกร่าง โดยตัวเองถูกจับนั้นเป็นผลงานของนามิ ระหว่างที่ส่วนตัวถูกมัด ทำให้ส่วนหัวไปประกอบกับขาแทนทำให้ พลังที่บากี้ใช้ในการต่อสู้ลดลง เป็นเหตุให้ในจังหวะนั้นเขากับถูกลูฟี่ ใช้ท่าหมัดยางยืดของเขา ซัดใส่ตัวเขาจนลอยหายออกไปกลางอากาศโดยที่เขายังพูดคำที่จะพูดไม่ทันจบเลยและชะตาเขาจะเป็นเช่นไรต่อไป…..
บากี้เป็นโจรสลัดที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่ยืดหยุ่น กล่าวคือเขามีท่าการต่อสู้ที่หลากหลาย บวกกับอาวุธที่เขาใช้นั้น ก็สามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้ของเขาให้สูงมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่พลังต่อสู้ที่ดีในระดับหนึ่ง แต่เรื่องการเอาตัวรอดบากี้เองก็จัดว่าเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน จึงไม่แปลกที่เรื่องราว ของกัปตันบากี้ จะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์ อยู่ตลอดเวลา ด้วยความสามารถทั้งหมดที่เขามี กัปตันบากี้ก็จัดว่าเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งคน(น่าจะแข็งแกร่งมั้งนะ) ในทะเลอีสบลู
(เอาล่ะครับจบไปอีกหนึ่ง โจรสลัดที่น่าสนใจมากๆ อย่างกัปตันบากี้ของเรา แต่เหมือนโชคชะตาของเขา กับ กลุ่มพระเอกของเรา ยังไม่จบง่ายๆพวกเขายังมีโอกาสได้กลับมาพบกันอีกหลายครั้ง และในepหน้าเราจะติดตาม ชีวิตของกัปตันบากี้กันต่อและจะรู้ว่าชายคนนี้มี โชคชะตาที่ไม่ธรรมดา เลยจริงๆ)