กลุ่มโจรสลัด ตัวตลก บากี้ (Buggy Pirates)
หลังจากที่ถูกลูฟี่ กัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางซัดจนปลิวออกมาไกลจากเกาะที่พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่ แถมตอนนี้บากี้เองยังออกมาทั้งที่ ร่างกายของเขายังไม่ครบ32 ชีวิตที่ผกผัน ของบุรุษที่ยิ่งใหญ่กัปตัน ตัวตลก บากี้ คนนี้จะเป็นอย่างไร โชคชะตาจะเล่นตลกร้ายกับเขาอีกไหม ต่อจากนี้ บทพิสูจน์แห่งการเดินทางของกัปตันบากี้ ได้เริ่มขึ้นแล้ว!!!
เนื้อเรื่องเสริม ชีวิตการเดินทางของ บุรุษที่ยิ่งใหญ่ กัปตันบากี้
บากี้ได้ฟื้นขึ้นมาหลังจาก ที่โดนกัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง มังกี้ ดี ลูฟี่ ซัดใส่เขาจนปลิวมาไกลถึงที่เกาะล้างแห่งหนึ่ง เขางุนงงเป็นอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และลูกเรือของเขาหายไปไหนหมด ที่เกาะแห่งนี้ไม่มีอะไรมีเพียงแต่เศษไม้ที่มาเกยอยู่เป็นจำนวนมาก เขาคิดในใจว่าถ้ายังอยู่ที่นี่ ไปนานกว่านี้หล่ะก็คงไม่รอดแน่ๆ เพราะฉะนั้นในตอนนี้ที่ร่างกายยังมีแรงอยู่ บากี้จึงได้ใช้เศษไม้จำนวนมากที่เจอ ทำการสร้างแพหลบหนีขึ้นมาพร้อมทั้งคิดอยู่ในใจตลอดว่า “เจ้าหนุ่มหมวกฟางแค้นนี้ต้องเอาคืนให้ได้” หลังจากที่เขาสร้างแพหลบหนีของเขา บากี้ก็ได้ทำการเดินทางเพื่อตามหา ร่างกายและเหล่าลูกเรือคนสำคัญ ที่ได้หายไปของเขา “บากี้จะต้องหาเจอให้ได้”
ตัดภาพมาที่เมืองที่กลุ่มโจรสลัดบากี้ได้เข้าต่อสู้กับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ในตอนนี้ที่ไม่มีกัปตันจึงทำให้กลุ่มโจรสลัดบากี้นั่น ระส่ำระส่ายไม่มีผู้นำที่เป็นจุดศูนย์รวม กปรกับที่ในเวลานี้พวกเขา กับถูกบรรดาเหล่าชาวเมืองต่าง ลุกขึ้นสู้ เพราะจะไม่ยอมให้พวกโจรสลัดมาทำการ กดขี่ ขมเหง พวกเขาอีกต่อไป เป็นเหตุให้กลุ่มโจรสลัดบากี้ ต้องทำการหนีตาย
โดยในตอนนี้โมจิและคาบาจิต้องขึ้นรักษาการแทนกัปตันของพวกเขาบากี้ คำสั่งแรกของพวกเขาคือเผ่นไปตั้งหลักก่อน จึงทำให้พวกกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้ต้อง ทำการถอยทัพเป็นอันด่วนที่สุด หลังจากที่ถอยทัพออกมา พวกเขาได้ตกลงเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า ต้องจัดการกับปัญหาที่อยู่ตอนนี้เสียก่อน และค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงกับกลุ่มอีกที พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปที่เกาะแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งไม่หน้าจะมีใครอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ที่จะได้กระทำการอันเป็นสิ่งสุดท้ายแด่คนผู้นั้น “กัปตันบากี้ของพวกเรา”
ในระหว่างที่พวกกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้ กำลังเดินทางอยู่นั้น ก็ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ตอนนี้ บากี้เองก็เริ่มออกเดินทางด้วยแพที่สร้างมาเองด้วยมือของเขา การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะบากี้เองถึงจะมีฝีมือในการเดินเรือ อยู่พอสมควร แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ครบ32นี้ จะทำให้การเดินทางนั้นราบรื่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ประจวบเหมาะกับตอนนั้นแพของบากี้ ดันเข้าไปในอาณาเขตของ ปลาปิรันย่าทะเล ที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุดในทะเล อีสบลู ที่เรือขนาดกลางเองถ้าแล่นมาไม่ดี ก็อาจจะถูกเล่นงานจนจมได้ นับประสาอะไรกับแพที่บากี้สร้างมาจากเศษไม้ แค่ไม่กี่นาทีที่เข้าไปถึงอาณาเขต แพของบากี้ได้ถูกจู่โจมอย่างรุนแรง จนแพที่เขาสร้างนั้นแตกออก ด้วยความที่โชคของเขายังมีอยู่ เพราะในบริเวณนั้นยังมีเกาะแห่งหนึ่งไม่ไกล บากี้จึงใช้แรงและพลังทั้งหมดที่เขามี รีดมันออกมา เพื่อพาร่างกายไปจนถึงเกาะนั้นได้สำเร็จ
เมื่อมาถึงเกาะแล้ว ด้วยความที่ใช้พลังร่างกายไปค่อนข้างเยอะ จึงทำให้บากี้เองตอนนี้รู้สึกหิวมาก เขาต้องการอาหารเพื่อมาเป็นพลังงานอย่างด่วน ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขาจะไม่อยู่ที่เขาก็ตาม แต่เขาก็คิดว่าถ้าส่วนหัวกินลงไป ร่างกายก็คงได้ละมั้ง จึงได้พยายามมองหาอาหาร จนในที่สุดบากี้ได้ไปเห็นลูกนกตัวหนึ่ง ถึงแม้จะตัวเล็กไปหน่อย แต่ในเวลานี้มีให้กินก็ถือว่าดีแล้ว ในขณะที่กำลังจะเข้าไปจู่โจมลูกนก ทันใดนั้นเอง บากี้ได้รู้สึกเหมือนกับถูกจ้องมองมาจากทางด้านหลัง เขาหันไปและได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังเขา ยังไม่ทันได้เตรียมใจหรือทำอะไร บากี้ได้ถูกสิ่งลึกลับข้างหลังทำการโจมตี และได้รู้ว่าสิ่งนั้นก็คือ ตัวแม่นกที่มีขนาดใหญ่เท่ากับคน บากี้ที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจ จึงรีบวิ่งหนีโดยด่วน อย่างไม่คิดชีวิต
ในขณะที่หลบซ่อนตัวจากแม่นกนั้น บากี้ถึงแม้ในตอนนี้เขาจะมีร่างกายและพลังไม่เหมือนตอนปกติ แต่เสือร้ายอย่างเขายังไงก็ไม่สิ้นลายง่ายๆ ในช่วงหลบหนีเขาได้ทำกับดักเป็นหลุมพรางไว้ ล่อให้แม่นกวิ่งไล่ตามเขามาตกไปในหลุม และหลังจากนั้นแม่นกนี่แหละ จะเป็นอาหารให้แก่เขา แค่คิดอยู่ตอนนี้ก็ทำให้บากี้รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
อนิจจาแผนที่วางไว้กับไม่ได้ผล แม่นกดันรู้ว่าบากี้สร้างหลุมพรางไว้ จึงทำให้แผนที่บากี้วางไว้ในตอนนนี้นั้น ล้มเหลวพังไม่เป็นท่า จึงทำให้เขาโดนจับตัวไปและเตรียมขึ้นเป็นอาหารของแม่นกซะเอง ในช่วงที่ตัวเองรู้สึกสิ้นหวัง และคิดว่ายังไงตัวเองในตอนนี้ต้องไม่รอดแน่ๆ ปฎิหารย์กับถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแม่นกได้กินบากี้และรู้สึกว่ารสชาติไม่อร่อย จนต้องบ้วนเขาออกมาบนอากาศ ทำให้บากี้กระเด็นไปลอยอยู่บนอากาศเป็นเวลาซักพัก จนมาตกที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ
หลังจากที่เขากระเด็นมาไกล เขาได้รู้สึกตัว และเห็นว่าตัวเองในตอนนี้นั้น อยู่ล้อมรอบด้วยสัตว์ ที่มีลักษณะแปลกๆอยู่มากมาย เขาจึงมองไปรอบๆ จนมาสะดุดที่ชาย ที่มีหนวดเครายาว ผมฟูที่อยู่ในหีบสมบัติ ยังไม่ทันที่บากี้จะพูดอะไรออกไป ทันใดนั้นเอง ชายคนนั้น ได้หยิบปืนขึ้นมาและไล่ยิงเขาในทันที บากี้จึงรีบวิ่งหนีหลบลูกกระสุนแบบสุดชีวิต
หลังจากผ่านการหนีตายมาซักพัก ทำให้เขามีเวลาได้พูดคุยกับคนที่ไล่ยิงเขา จนทำให้คนที่ไล่ยิงหยุดยิงเขา เพราะเข้าใจแล้วว่าบากี้ ไม่ใช่คนที่จะมาขโมยสัตว์เหล่านี้ และได้ทำการขอโทษและแนะนำตัวว่า เขาชื่อว่า “ไกมอน” เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จพวกเขาก็ได้พูดคุยกันหลายๆอย่าง จนทำให้เกิดเป็นมิตรภาพที่ดี ของทั้งคู่ ในคืนนั้นพวกเขาเลยดื่มฉลองกันอย่างหนัก เพราะนานแล้วที่ไม่ได้เคยเจอคนที่คุยถูกคอกันมากแบบนี้มาก่อน
เมื่อถึงตอนเช้า ไกมอนได้ช่วยบากี้ ในการสร้างแพขึ้นมาใหม่ เพื่อที่บากี้จะได้ออกเดินทางตามหาพวกพ้องอีกครั้ง หลักจากผ่านไปไม่นาน แพที่พวกเขาช่วยกันสร้าง ก็เสร็จสมบูรณ์ บากี้จึงบอกลา ไกมอน และออกเดินทางต่อ เป็นการจากลาที่ดูเศร้าแต่ก็ยังอบอุ่นหัวใจ มิตรภาพในครั้งนี้ กัปตันบากี้คนนี้จะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด เขาถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ต่อมิตรภาพที่ได้รับมานี้ ในขณะที่พายแพต่อไปครั้งหน้าอย่างแนวแน่
ในช่วงเวลาที่บากี้ ได้ร่ำลาจาก ไกมอน ออกมาแล้ว ในขณะนั้น ทางด้านกลุ่มลูกเรือของบากี้ ได้แล่นเรือมาถึงเกาะเป้าหมาย ที่ซึ่งพวกเขานั้น จะได้ทำการบางอย่างที่สำคัญมากๆ ในกลุ่มโจรสลัดบากี้ นั่นก็คือ การจัดงานศพให้เป็นเกียรติ แด่กัปตันอันเป็นที่รักของพวกเขา “กัปตันบากี้”
งานศพที่จัดขึ้นโดยกลุ่มลูกเรือโจรสลัดบากี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้าเพราะ ในเวลานี้ทุกคนต่างเข้าใจว่า กัปตันบากี้อันเป็นที่รัก ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยน้ำมือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ลูฟี่ เพราะหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้เหล่าลูกเรือคิดแบบนั้น คือสภาพของร่างกายกัปตันบากี้ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา โดยไม่มีส่วนหัว จึงทำให้บรรดาลูกเรือต่างลงมติกันว่า กัปตันอันเป็นที่รักของเราน่าจะเสียชีวิตลงไปแล้ว การจัดงานดำเนินไปอย่างยาวนาน
จนกระทั่ง โมจี้และคาบาจิ ได้เปิดประชุมในกลุ่มขึ้นมา โดยเนื้อหาในการประชุมนั้นคือ ในตอนนี้กลุ่มโจรสลัดบากี้ไร้ซึ่งกัปตันแล้ว กลุ่มจะเดินหน้าไปแบบไหน ถ้าจะให้ยุบกลุ่มเลยในตอนนี้นั้น คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะจะทำให้วิญญาณของกัปตันบากี้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น จะไม่สงบสุข เพราะกลุ่มโจรสลัดตัวตลกนี้นั้น เป็นสิ่งที่กัปตันรักมาก ถ้าหายไปกัปตันคงจะเสียใจแย่ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเราทั้งหมดจะโศกเศร้าต่อการจากไปของกัปตันบากี้ แต่กลุ่มของพวกเราก็ต้องเดินหน้าต่อ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ในการคัดเลือก กัปตันคนใหม่ เพื่อที่จะคอยทำตาม เจตนารมณ์ที่มีของกัปตันบากี้ต่อไป
การลงคะแนนเสียงแบ่งออกเป็น2กลุ่มใหญ่ ที่กลุ่มหนึ่งสนับสนุนโมจี้ และอีกลุ่มสนับสนุนคาบาจิ จึงได้เกิดเหตุการณ์ การประลองกันของทั้ง2คนขึ้น โดยใครที่สามารถล้มอีกฝ่ายได้ คนนั้นจะได้เป็นกัปตันคนใหม่ของกลุ่ม การประลองของทั้งคู่จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ในช่วงที่เกิดการประลองกันอยู่นั้น ทางด้านกัปตันบากี้เองในตอนนี้ต่างพยายามพายแพที่เขาสร้างมาอย่าง มุ่งมั่น แน่วแน่ ที่จะตามหาเหล่าพวกพ้องคนสำคัญของเขาให้ได้ แต่เหมือนโชตชะตา ยังเล่นตลกกับตัวเขาไม่พอ ในระหว่างที่เขาพายอยู่นั้นได้มี ปูทะเลยักษ์ โผล่ขึ้นมาเพื่อหวังจะโจมตีกัปตันบากี้ เอาไปเป็นอาหาร เมื่ออยู่กลางทะเลไร้ซึ่งความหวังที่จะหลบนี้ได้แล้ว บากี้เองในตอนนี้ ก็คงเตรียมใจที่จะพบกับจุดจบของเขาเองแล้ว แต่เหมือนกับว่าวันนี้ ยังไม่ใช่วันตายของเขา
ในทั้นใดนั้นเอง ได้มีกระสุนปริศนายิงเข้ามาที่ตัวปู เพื่อช่วยเขา เจ้าของกระสุนปริศนานั้น กับเป็นผู้หญิงที่มีหุ่นแสนสวย ผิวของเธอนั้นเนียนนุ่มลื่นเหมือนกระดาน ในขณะที่บากี้กำลังรู้สึกงุนงง เขาก็ถูกเธอช้อนขึ้นมาจากน้ำแล้ว บากี้ได้ทำการแนะนำตัว และกล่าวขอบคุณสาวปริศนาคนนี้ สาวปริศนาก็ได้แนะนำตัวว่าเธอคือ “โจรสลัดหญิงกระบองเหล็ก อัลบีด้า”
หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ พูดคุยกันอยู่ต่อซักพัก จนในที่สุด อัลบีด้าได้นำรูปภาพสเก็ตของ ผู้ชายคนหนึ่งที่สวมใส่หมวกฟาง เอามาให้กับบากี้ดู พร้อมถามว่าเคยเห็นคนในรูปไหม แน่นอนเมื่อเห็นคนในรูปบากี้เองถึงกับช็อค เพราะคนในรูปของอัลบีด้านั้น จะเป็นใครไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่เจ้าหมวกฟางลูฟี่ บากี้จึงได้เล่าเรื่องที่ตัวเองพบเจอกลับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางให้อัลบีด้าฟัง หลังจากที่อัลบีด้าได้ฟังแล้ว ก็เข้าใจว่าตอนนี้พวกเราทั้งคู่นั้น มีศัตรูคนเดียวกัน จึงทำให้ทั้งคู่ได้จับมือ ตั้งกลุ่มพันธมิตรโจรสลัดขึ้นมา เพื่อที่จะต้องตามล่าและเอาคืนเจ้าหนุ่มหมวกฟางลูฟี่ให้จงได้
ตัดภาพกลับมาที่การประลองเพื่อชิงกัน ว่าใครจะได้เป็นกัปตันคนใหม่ของกลุ่มโจรสลัดตัวตลกบากี้ โดยโมจี้และคาบาจิทั้งคู่ต่างต่อสู้ ห่ำหั่น กันอย่างดุเดือด ต่างคนก็ต่างไม่มีใครยอมใคร ถ้าไม่บอกมาก่อนว่า ทั้งคู่นั้นเป็นกลุ่มโจรสลัดกลุ่มเดียวกัน ก็อาจจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการต่อสู้กันของคู่แค้นกันมาแต่ปางก่อน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด จนเสียงที่เชียร์กันครื้นเครงในตอนแรกนั้น ได้เงียบไป กล่าวคือพวกเขาทั้งสองคน ดวนกันมาตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ก็มืดค่ำดึกมากแล้ว นับเวลาที่ดวลกันมาตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วกว่า12ชั่วโมง แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีใครยอมใคร ขนาดกองเชียร์ตอนนี้ก็หลับไปกันหมดแล้ว การต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไป
เมื่อถึงตอนเช้านั้น ร่างกายของทั้งคู่ก็กรอบกันหมดแล้ว แต่จิตใจอันแนวแน่ที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของกัปตันบากี้ยังอยู่(มั้ง) จึงทำให้ทั้งคู่ยังไม่มีใครล้มใครได้เลย จนกระทั่ง ริชชี่สิงโตคู่ใจของโมจี้นั้นได้ ละเมอลุกขึ้นมาฟาดใส่ทั้งคู่จนสลบไป ประจวบเหมาะว่าเวลานั้นเริ่มมีคนในกลุ่ม เริ่มที่จะตื่นแล้ว พอได้เห็นภาพนั้นทุกคนต่างโห่ร้องดีใจที่การปละลองจบลง โดยผู้ที่ชนะคือ ราชสีห์ริชชี่นั่นเอง
หลังจากที่ราชสีห์ริชชี่ ได้ทำการล้มทั้งสองคนได้ เขาได้ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นกับตันกลุ่มโจรสลัดคนใหม่ ทุกคนต่างโห่ร้องดีใจ จนไม่ทันสังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวจากทางด้านหลัง ทันใดนั้นเองได้มีลูกเรือถูกโจมตีล้มลงไปหลายคน บุคคลปริศนาที่ได้โจมตีกลุ่มโจรสลัดบากี้ใหม่นั้น ก็คือ เหล่าชนเผ่าคุมาเตะ ด้วยการนำของกัปตันริชชี่นั้น พวกเขาได้ทำการต่อสู้ด้วยกำลังคนที่เหนือกว่า น่าจะชนะได้ไม่ยาก แต่กระนั้นพวกเขากับพ่ายแพ้ลงด้วยเวลาอันรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้แพ้ให้กับกลุ่มชนเผ่าคุมาเตะ ชะตากรรมที่พวกเขาจะต้องโดนนั้นคือ การถูกทำเป็นอาหาร เพราะชนเผ่าคุมาเตะเป็นเผ่าที่ชอบกินคนเป็นอย่างมาก โดยเมนูที่พวกเขาชอบนั้นก็คือ “ซุปคนใส่ไวน์แดง” พวกเขาจึงถูกจับใส่ลงหม้อไปทั้งหมด
ในขณะที่ทุกคน กำลังจะถูกกินนั้น เป็นเวลาเดียวกันกับที่กัปตันบากี้และโจรสลัดหญิงอัลบีด้า ได้เดินทางผ่านมาเจอกับเรือโจรสลัดของบากี้ ตอนนั้นเองบากี้ดีใจมากที่ได้เห็นเรือของตัวเอง แต่พอเขาเข้าไปใกล้กับไม่พบใคร กับเห็นแต่เพียงรอยเท้าจำนวนมาก ที่มุ่งหน้าเดินเข้าไปบนเกาะ บากี้ได้รีบเดินตามรอยเท้าพวกนั้น ไปจนมาพบกับโมจี้และคาบาจินอนสลบอยู่ บากี้ตกใจมากที่เห็นลูกน้องที่มีฝีมือของตนทั้งสองคนถูกเล่นงาน ในระหว่างนั้นเองทางด้านเหล่าชนเผ่าที่กำลังจะต้มพวกลูกเรือกลุ่มโจรสลัดบากี้นั้น พวกเขาได้ไปสังเกตุเห็นร่างกายคน ที่ถูกเชือกมัดไว้แน่นหนาตกอยู่ข้างๆ ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นอะไร ทำให้หนึ่งในนั้น ได้ไปเผลอตัดเชือก จึงทำให้ส่วนร่างกายของกัปตันบากี้ที่ถูกเชือกรัด มาเป็นเวลานานได้เป็นอิสระซะที ร่างกายนั้นได้ระเบิด อารมณ์ ความแค้น ที่ตัวเองต้องถูกพันธนาการ เข้าใส่กลุ่มชนเผ่าคุมาเตะซะจนวงแตกกระเจิง หลังจากระบายอารมณ์แล้ว ร่างเหล่านั้นได้ลอยและรีบพุ่งเข้าไปหาบางอย่างที่อยู่บนเขา
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้น เหล่าลูกเรือโจรสลัดบากี้ได้เห็นว่าร่างกายของกัปตัน สามารถขยับเองได้และพุ่งไปในทิศทางหนึ่ง พวกเขาได้มองตามการเคลื่อนที่ของร่างกายนั้นไป จนได้พบกับเงาปริศนาที่อยู่บนภูเขา เหล่าลูกเรือในตอนนี้ต่างใจเต้นและลุ้นว่าเจ้าของเงาปริศนานั้นจะเป็นใครไปไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ใช่กัปตันบากี้ของพวกเรา และเสียงหนึ่งที่ตะโกนออกมาก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า เจ้าของเสียงนั้นคือกัปตันบากี้ของพวกเราจริง เป็นเสียงที่คุ้นเคย เสียงดังที่ตะโกนออกมาว่า “หวังว่าจะไม่รอกันนานเกินไปนะ เจ้าพวกบ้า”
สิ้นเสียงการตะโกนของกัปตัน กับมาด้วยเสียงตะโกนโห่ร้องดีใจกันยกใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดบากี้ และการต่อสู้ของกลุ่มโจรสลัดบากี้กับชนเผ่าคุมาเตะได้เริ่มต้นขึ้น การต่อเป็นสู้เป็นอย่างดุเดือดและจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ของชนเผ่าคุมาเตะ
หลังจากการต่อสู่จบลง กัปตันบากี้ได้แนะนำให้รู้จัก กับพันธมิตรโจรสลัดที่เขาได้ก่อตั้งขึ้น พันธมิตรคนนั้นคือ โจรสลัดหญิงกระบองเหล็กอัลบีด้า โดยเป้าหมายการก่อตั้งพันธมิตรนี้คือ การทำลายกลุ่มหมวกฟางไห้พินาศสิ้นและพวกเขาจะต้องทำมันให้ได้….
(จบไปแล้วกับมินิสตอรี่ ของกัปตันบากี้ที่ยิ่งใหญ่ ที่ถึงแม้จะบอกว่ามินิ แต่เอาจริงแล้วพอเริ่มเขียนก็ไม่มินิเลยนะ 555 หลังจากนี้การผจญของกัปตันบากี้ จะเป็นยังไงต่อไป ต้องบอกก่อนเลยว่า การผจญภัยของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา และเหมือนเขากับพระเอกของเราลูฟี่ จะมีดวงชะตาที่ต้องมาโคจรเจอกันอยู่บ่อยๆ แต่จะขอพักเรื่องกัปตันบากี้และมาแนะนำ เรื่อง เหล่าลูกเรือกันมั่งในepหน้าครับ)