อาซาคุระ โย (Asakura Yoh) (2)
ชีวิตในวัยเรียน(โตเกียว)
หลังจากกลับมาจากอาโอโมริแล้ว โยก็ได้เรียนต่อที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอิซึโมะ จนกระทั่งเขาอายุได้13 เมื่อถึงตอนนั้น ทางบ้านอาซาคุระได้มีการหาลือและเห็นพ้องต้องกันว่า เพื่อเป็นการฝึกโยให้รู้จักการใช้ชีวิตไปในตัวพวกเขาจะส่งโย ให้ไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่โตเกียว เพื่อให้โยเรียนรู้การอยู่ด้วยตัวคนเดียว ฝึกความอดทนและวินัยการใช้ชีวิตให้แก่โย ซึ่งโยก็ไม่ได้ปฎิเสธ เขาไม่ได้มีอาลัยอาวรต่อโรงเรียนเก่าหรืออะไร สำหรับโยเองเขาไม่มีเพื่อนเลยตั้งแต่เรียนมา ด้วยการที่มีพลังชาแมนสามารถมองเห็นวิญญาณอีกทั้งตระกูลอาซาคุระยังขึ้นชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ จึงทำให้ทั้งผู้ใหญ่และตัวเด็กคนอื่นเอง ไม่กล้าที่จะเข้าหาโยหรือบ้านอาซาคุระเลย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในวัยเด็กโยจึงไม่มีเพื่อนเลยซักคนเดียว เมื่อเขาตัดสินใจและเก็บของเสร็จ โยก็ได้เดินทางจนมาถึงโตเกียวและได้เดินทางหาบ้านพัก
จนได้มาพบกับบ้านเช่าราคาถูกแห่งหนึ่ง ตัวบ้านเป็นบ้านทรงโบราณมีโรงอาบน้ำร้อนขนาดใหญ่ ในอดีตเคยเป็นโรงแรมที่ให้บริการบ้านพักพร้อมทั้งบ่อนำร้อนเพื่อสุขภาพ จนกระทั่งได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ทั้งเจ้าของและแขกที่มาใช้บริการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ภายหลังได้มีการปรับปรุงเพื่อเปิดบริการต่อโดยญาติเจ้าของที่เสียไป แต่เปิดได้ไม่นานก็ต้องเจ๋งไป เพราะไม่มีใครสามารถเข้าพักและหลับได้อย่างสนิท เพราะที่แห่งนี้ต่างเฮี้ยนเป็นอย่างมาก ผู้ที่เข้าพักต่างเห็นวิญญาณคนที่เสียไปเป็นจำนวนมาก จึงไม่มีใครกล้าที่จะมาพักอีก พอข่าวลือเริ่มแพร่ไปจนกว้างขวาง ในที่สุดโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ก็ถึงกาลอวสานไปในที่สุด ทั้งประกาศขายและประกาศเช่าก็ไม่มีใครกล้าเช่าอีกเลย
จนกระทั่งโยได้ขอเช่าและได้ราคาค่าเช่าที่ถูกเอามากๆ เมื่อมาถึงโยก็ได้ทำการเจรจากับวิญญาณทั้งหมดพร้อมทั้งให้ข้อเสนอว่า เขาจะไม่ไล่วิญญาณออกจากบ้านถ้าพวกเขาอนุญาติให้โยอยู่ที่นี่ โยจึงอาศัยอยู่ที่นี่ในระหว่างที่เรียนอยู่โตเกียว ชีวิตของเขาในวันแรกก็เหมือนที่เดิมๆที่ผ่านมา คือโยไม่มีเพื่อน เขาไม่สามารถสนิทกับใครได้เลย อาจจะเพราะด้วยบุคลิกของเขาที่มักจะหลับในห้องเรียนและเอาแต่นั่งเหม่อลอยอยู่บ่อยๆ ก็อาจจะทำให้คนรอบข้างเข้าถึงได้ยาก
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบสถานที่สถานที่สงบส่วนตัวของเขา ที่เขาสามารถจะดูดาวยามกลางคืนได้ ที่นั่นก็คือสุสานประจำเมือง ที่มีป้ายและหลุมศพของผู้จากไปอย่างมากมาย ที่นี่เองที่โยได้พบกับเพื่อนใหม่(วิญญาณ)ของเขาเป็นจำนวนมาก ก็ทำให้โยไม่ค่อยรู้สึกเหงาเท่าไหร่ ประจวบกับคืนนี้ เขาก็ได้บังเอิญเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวเล็กมากที่รีบวิ่งผ่านมาทางนี้และเห็นเขาเข้า โยจำได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเพื่อนในห้องเรียนของเขานั่นเอง แต่เวลานี้ตาของเพื่อนในห้องที่มองมาที่โยต่างเบิกกว้าง ผิดปรกติเสมือนกับว่าเขาสามารถเห็นบางสิ่ง
การกระทำนี่เองทำให้โยรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนในห้องเรียนเขาคนนี้ มองเห็นในสิ่งที่เหมือนกับเขา โยจึงเข้าไปทักทายพร้อมทั้งวิญญาณต่างๆมากมายก็เข้าไปพร้อมกับเขา เหตุการณ์นี้เองทำให้เพื่อนของเขาเป็นลมล้มไปในที่สุด
เมื่อช่วยเพื่อนเขาที่สลบไปส่งถึงบ้านแล้ว ในตอนเช้าเขาก็ไปเรียนตามปกติแต่ในระหว่างเรียนเขาก็ถูกเพื่อนเขาคนนี้เอาแต่ แอบตามแอบดูเขาตลอด จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกันจนโยได้รู้ว่า เพื่อนเขาคนนี้ชื่อว่า มันตะ เมื่อได้พูดคุยกัน โยจึงได้บอกไปว่าเขานั้นเป็นชาแมน มีความสามารถในการติดต่อและพูดคุยกับวิญญาณได้ ถึงจะดูน่าเหลือเชื่อเกินกว่าที่มันตะจะเชื่อได้ แต่ในระหว่างเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เป็นเหมือนข้อพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นคืออะไร ก็ทำให้เขาเชื่อในที่สุด
วันหนึ่งในขณะที่มันตะเลิกเรียนพิเศษเขาได้บังเอิญไปเจอกับพวกเด็กหัวโจกที่นำโดยริวดาบไม้เข้า ที่กำลังโมโหที่ว่าเบสเพลสของพวกเขากับถูกเด็กจากไหนไม่รู้บุกรุกเข้ามา ในขณะนั้นริวได้บังเอิญไปเหยียบป้ายสุสานของซามูไรในตำนานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจมีนามว่า อามิดามารุ ที่ว่ากันว่ามีอาถรรพ์การที่ริวเหยียบป้ายนี้จะทำให้เกิดโชคร้าย แต่ริวไม่เชื่อเรื่องผีสางจนขนาดตีป้ายจนพังเพราะว่าเรื่องพวกนี้นั้นงมงาย ในขณะที่ตีเสร็จ บังเอิญริวได้เหลือบไปเห็นเด็กคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ เด็กคนนั้นก็คือมันตะ เมื่อเห็นเป็นแบบนั้นทำให้ริวเข้าใจผิดคิดว่าเด็กที่แอบเข้ามาในเบสเพลสของเขานั้นก็คือมันตะนั่นเอง จึทำให้มันตะโดนพวกริวดาบไม้เล่นงานจนน่วม
เมื่อถึงตอนเช้ามันตะได้ไปโรงเรียนและถูกเพื่อนๆหัวเราะว่า เป็นไงแอบตามคนแปลกๆไปจนได้เรื่อง ในขณะนั้นโยก็ได้เข้ามา เขาได้บอกกับมันตะว่ารู้เรื่องทุกอย่างเพราะคนในสุสานบอกไว้หมดแล้ว ถึงมันตะจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่โยก็ยังลากมันตะออกไปเพื่อไปหาพวกริว พร้อมทั้งบอกว่ามันตะคือเพื่อนเขาต้องช่วยเหลือเพื่อนต้องช่วยเพื่อนสิ เมื่อมาถึงตรงพวกริวแล้ว โยได้ให้พวกริวขอโทษที่ทำไม่ดีไว้กับมันตะ แต่พวกริวไม่ขอโทษอีกทั้งยังจะเข้ามาทำร้ายโยอีก ในเวลานั้นโยจึงได้เรียกวิญญาณของซามูไรที่ริวได้ทำลายป้ายสุสานที่ชื่ออาบิดามารุออกมา และได้ทำการเข้าทรงรวมร่าง จนสามารถจัดการพวกของริวได้ในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้จบลง โยและมันตะก็ได้เป็นเพื่อนกันจริงๆเสียที สำหรับโยมันตะเป็นบุคคลที่เขาจะเรียกว่าเพื่อนได้อย่างเต็มปากเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
หลังจากนั้นโยและมันตะก็ได้สนิทกันมากขึ้น จนตอนนี้ทั้งคู่คือเพื่อนสนิทกัน และโยได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับชาแมนให้มันตะฟังรวมทั้งการแข่งขันชาแมนเพื่อหาชาแมนคิงและเขาจำเป็นต้องมีวิญญาณประจำตัว โยได้เลือกแล้วว่าเขาจะเอาอาบิดามารุมาเป็นวิญญาณประจำตัว แน่นอน แต่คำขอนี้ของเขากับถูกอาบิดามารุปฎิเสธ
เพราะอาบิดามารุไม่สามารถติดตามโยไปได้ในเวลานี้ เขารอใครบางคนอยู่ โยจึงอาสาที่จะตามหาสิ่งที่อาบิดามารุรออยู่ให้เจอ เขาจึงสืบเรื่องราวจนพบว่าอาบิดามารุนั้นรอดาบจากเพื่อนสนิทของเขาอยู่ โยจึงได้ตามจนได้เจอกับเพื่อนสนิทที่เป็นช่างตีดาบของเขาและสามารถเข้าทรงร่วมร่างกับช่า่งตีดาบ จนได้ตีดาบตามคำสัญญาที่ชื่อว่า ดาบฮารุซาเมะสำเร็จและนำไปมอบแก่อาบิดามารุ จนอาบิดามารุยังนึกขำว่าเพื่อนเขายังเฝ้ารอมาตั้ง600ปีไม่ยอมไปเกิดเพียงเพื่อจะมอบดาบเล่มนี้ ถึงตัวเขาจะอยากจะตามไปอัดหน้าซักเปรี้ยง แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะติดตามโยเป็นวิญญาณของโยไปตลอดนั่นเอง โยจึงได้อาบิดามารุมาเป็นวิญญาณประจำตัวในที่สุด
การเข้าร่วมชาแมนไฟต์
หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้ชีวิตร่วมกัน ผ่านเรื่องราวต่างๆมาอย่างมากมาย จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับเด็กนักเรียนต่างชาติคนหนึ่งที่มาจากประเทศจีน เด็กนักเรียนคนนี้มีชื่อว่า เต๋า เร็น เขาเดินทางมาเรียนที่ญี่ปุ่นนี้ เพื่อหาความรู้และตามหาวิญญาณที่แข็งแกร่งเพื่อนำมาเป็นของตน และเร็นเองก็ถูกใจวิญญาณประจำตัวของโยเป็นอย่างมาก จนเขาอยากที่จะได้นำมาเป็นของตน แน่นอน โยไม่ยอมมอบอาบิดามารุให้แก่เร็นเป็นแน่ การต่อสู้ของทั้งคู่จึงได้เกิดขึ้น การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดในทีแรกโยเกือบจะพลาดท่าถูกเร็นจัดการเพราะเร็นสามารถเข้าทรงร่วมร่างและใช้ฝีมือในการต่อสู้ได้แทบจะร้อยเปอเซนต์ซึ่งต่างจากโย ที่สามารถรีดพลังออกมาได้เพียงเจ็ดสิบเปอร์เซน แต่อาศัยที่อาบิดามารุมีฝีมืออยู่มากจึงทำให้โยรอดจากจุดตายมาได้ ในช่วงความเป็นและความตาย โยได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่มีวันมอบอาบิดามารุให้เป็นแน่และเขาจะส่งอาบิดามารุไปสู่สุขติ
ซึ่งการกระทำของโยนี้ทำให้เร็นโมโหเป็นอย่างมาก เพราะถ้าโยทำแบบนั้น เขาจะไม่มีวันได้วิญญาณนี้มาครอบครอง เร็นจึงทุ่มพลังเพื่อสั่งหารโย ในขณะนั้นเองด้วยการที่อาบิดามารุต้องการที่จะช่วยโยเป็นอย่างมาก จึงทำให้เขาและโยสามารถเข้าทรงรวมร่างกันได้ร้อยเปอเซนต์ จนสามารถเอาชนะเต๋าเร็นลงได้ในที่สุด แต่การชนะนี้โยก็ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากเช่นกัน เขาต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่เป็นเวลาหลายวัน
จนกระทั่งในวันสุดท้ายแอนนาได้โผล่มา พร้อมทั้งบอกว่าโยยังอ่อนแอและถ้าเขาสู้กับเร็นใหม่เขาจะแพ้ เพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอ แอนนาจึงมาเพื่อฝึกโยให้แข็งแกร่งขึ้น การฝึกนรกของแอนนากับโยก็ได้เริ่มขึ้น แอนนาได้อาศัยอยู่กับโยที่โตเกียว เขาได้ฝึกทางด้านร่างกายและจิตใจให้แก่โย
จนวันหนึ่งริวดาบไม้ได้ถูกวิญญาณของมหาโจรที่ชื่อโทคาเงโร่เข้าสิง เพื่อแก้แค้นอาบิดามารุที่สังหารตนไปเมื่ออดีต การต่อสู้ของพวกเขาทั้งคู่จึงได้เริ่มขึ้น ริวได้สั่งให้ลูกน้องจับมันตะไว้ข่มขู่โย พร้อมทั้งทำร้ายและใช้วิธีที่ขี้ขลาดเพื่อที่จะสังหารโยที่ตอนนี้เข้าทรงร่วมร่างกับอาบิดามารุอยู่ แต่ไม่ทันที่จะทำร้าย ลูกน้องทั้งหมดของริวกับเล่นงานริวแทนเพราะรับไม่ได้ที่ริวลูกพี่ที่เขานับถือนั้นเปลี่ยนไป แท้จริงแล้ว ริวนั้นเป็นคนดีที่เข้าใจและเป็นห่วงคนอื่นเสมอ ถึงภายนอกจะดูเหมือนนักเลงก็เหอะ ถึงจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดริวได้เพราะริวในตอนนี้ได้ถูกโทคาเงโร่สิงอยู่จึงทำให้เขาไม่ใช่ริวคนเดิมอีกต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยร่างกายของมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถทนรับการเข้าทรงได้เป็นเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายของริวตอนนี้ทรุดและกำลังจะตาย จนโยได้เสนอที่จะใช้ร่างกายตัวเองเข้าแลกเพื่อให้โทคาเงโร่ปล่อยร่างริวไป โทคาเงโร่จึงเข้าสิงโยในทันทีพร้อมทั้งยึดร่างกายของเขาไว้ ซึ่งการเข้าสิงโยทำให้แอนนาตกใจเป็นอย่างมาก เธอได้บอกว่าไม่น่าเชื่อว่าโยจะยอมให้สิงจริงๆ เธอคิดว่าโยจะหลอกให้โทคาเงโร่ออกมาจากร่างริวและอาศัยจังหวะนั้นจัดการเขาจากข้างในเสียอีก ซึ่งการกระทำนี้ของโยเป็นการกระทำที่เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจอบอุ่น ที่ครั้งหนึ่งโทคาเงโร่เคยได้รับจากแม่ของเขาเช่นกัน จึงทำให้โทคาเงโร่รู้สึกได้จากภายในร่างกายของโย เขาจึงยอมที่จะจากไปแต่โดยดี โดยที่ไม่ทำร้ายอะไรใครอีกเลย
จากเหตุหารณ์ที่โทคาเงโร่เข้าสิงริว จนทำให้เขาเกือบตายนี้ ได้ไปเปิดพลังวิญญาณทำให้ริวสามารถมองเห็นวิญญาณได้เหมือนชาแมน และเมื่อเขาฟื้นเขาก็อาสาที่จะติดตามโยและแอนนา ที่มีพระคุณช่วยและมอบชีวิตใหม่ให้แก่เขา เขายึดถือให้โยเป็นนายท่านและแอนนาเป็นนายหญิงของเขาตั้งแต่นั้นมา
จนกระทั่ง สัญญาณการแข่งชาแมนไฟต์ได้เริ่มขึ้นด้วยการมาเยือนของดาวหางแฝดสองดวงที่จะโคจรมายังโลกทุกๆ500ปี เป็นสัญญาณตามคำทำนายและบอกเล่าของเหล่าชาแมนทุกคนทั่วโลก ว่าถึงเวลาการแข่งขันคัดเลือกหาชาแมนคิงแล้ว และโยเองก็พร้อมที่จะเข้าร่วมในศึกครั้งนี้
ผ่านไปหลายวันหลังจากเหตุการณ์ ดาวหางแฝดเดินทางผ่านโลก โยได้ถามถึงการเริ่มการแข่งขันชาแมนคิงจะจัดขึ้นที่ไหน แอนนาได้บอกให้โยรู้แต่แรกแล้วว่า ในการทำนายของเธอการแข่งขันจะจัดขึ้นที่โตเกียว แต่ไม่รู้ว่าจะจัดขึ้นอย่างไร โยจึงเดินทางเข้าไปในตัวเมืองเพื่อหาข้อมูลต่างๆ เผื่อเขาโชคดีอาจจะเจอข้อมูลอะไรบ้าง ในขณะที่เดิน เล่นอยู่ในเมือง เขาได้บังเอิญไปพบกับชายต่างชาติคนหนึ่งที่ขายเครื่องประดับ เครื่องรางของขลังต่างๆ
โดยที่คนที่ขายต่างบอกและชวนให้โยช่วยซื้อและโยก็ได้ซื้อมาชิ้นหนึ่งจากคนขาย เมื่อซื้อเสร็จโยก็จากไป ในขณะที่โยเดินจากไปคนที่ขายเครื่องรางนี้ให้เขาก็คุยกับนกที่เป็นวิญญาณว่าเจอผู้ที่จะเข้าร่วมบททดสอบคัดเลือกนี้แล้ว เขาจึงได้แอบตามโยไปจนได้แสดงตัวออกมาเจอกับโยที่สุสานประจำเมือง สถานที่โปรดที่โยชอบไปนั่งเล่นเสมอ โดยที่พ่อค้าเร่คนนี้ได้แนะนำตัวว่าเขาชื่อว่า ซิลเวอร์เป็นผู้คุมกฎของเผ่าปัจน์มาเพื่อคัดเลือกหาชาแมนที่เหมาะสมจะเข้าร่วมในศึกชาแมนไฟต์นี้ และโยก็เป็นผู้ที่จะได้รับการคัดเลือก
แต่เขาจะผ่านบททดสอบนี้หรือเปล่า ซึ่งบททดสอบของซิลเวอร์คือ เขาจะต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อจะโจมตีให้โดนตัวเขาทีหนึ่งเพื่อผ่านการทดสอบและเมื่อผ่านแล้วจะได้รับออร่าเคิลเบล ของสำคัญที่ใช้เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันชาแมนไฟต์ โยจึงเข้าร่วมบททดสอบนี้ การทดสอบเป็นไปอย่างยากบำบากไม่ว่าโยจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำอันตรายกับซิลเวอร์ได้เลย
ในขณะที่โยเริ่มเหนื่อยล้าเหมือนจะถอดใจ ซิลเวอร์ได้ให้คำแนะนำแก่โยว่าดูที่การรวมวิญญาณของเขาว่าคืออะไรและโยควรที่จะปล่อยใจเพื่อรวมเป็นหนึ่งกับวิญญาณ การพูดของซิลเวอร์ช่วยให้โยได้หยุดคิด จนโยสามารถทำการโอเวอร์โซล ตามที่ซิลเวอร์พยายามสอนได้สำเร็จ และการทดสอบสุดท้ายของซิลเวอร์ก็ได้เริ่มขึ้น
โดยที่เขาจะทุ่มพลังโจมตีไปที่โยและโยต้องหาทางโต้กลับให้ได้ ครั้งนี้โยไม่ถอยเขาทุ่มกำลังทั้งหมดที่มี เข้าโจมตีจนสามารถทำให้ผ้าคาดหัวของซิลเวอร์หลุดลงได้ โยจึงผ่านบททดสอบนี้ เขาได้รับเลือกให้เข้าในการแข่งขันชาแมนไฟต์นี้ ในที่สุดการเดินทางเพื่อเป็นชาแมนคิงก็ได้เปิดม่านขึ้น เขาจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา เพื่อที่จะทำฝันนี้ให้สำเร็จ โยจะต้องเป็นชาแมนคิงให้ได้เพื่อตัวเขาและทุกคนรอบตัวเขาต้องสบาย!!
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending