มหาศึกคนชนเทพ นิโคลา เทสล่า (Nikola Tesla)
นิโคลา เทสล่า เป็นหนึ่งในตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ ในการเข้าร่วมต่อสู้กับฝ่ายเทพ เทสล่าคือนักประดิษฐ์ นักฟิสิกส์ วิศวกรเครื่องกลและ วิศวกรไฟฟ้า ที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก ในช่วงปลายศตวรรษที่19จนถึงศตวรรษที่20 เขาก็ได้สร้างผลงานต่างๆเอาไว้อย่างมากมาย แม้ใครหลายคนจะคิดว่าเขาคือ นักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยน แต่ถึงจะมีหลายคนพูดแบบนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าความสามารถที่เขาอยู่นั้น ได้สรรสร้างฯผลงานที่มีประโยชน์เอาไว้อย่างมากมาย จนมาถึงทุกวันนี้ ด้วยความสามารถในการประดิษฐ์ของเขานี้เอง ทำให้บรุนฮิลมั่นใจในตัวเขา ให้เป็นตัวแทนในศึกครั้งนี้ด้วย ความสามารถทางด้านการประดิษฐ์และอัจฉริยะของเทสล่านี้ จะนำเอาชัยชนะมาสู่มนุษย์ได้….
ประวัติ แห่งยุค (เซอร์เบีย-อเมริกา)
นิโคลา เทสล่า เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปีค.ศ.1856(พ.ศ.2399) ที่หมู่บ้านสมิลยานจักวรรดิออสเตรีย(ปัจจุบันคือ ประเทศโครเอเชีย) เขาเกิดในครอบครัวชาวเซิร์บ ในวัยเด็กเทสล่ามีความสนใจ เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งเขามักจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อดูปรากฎการฟ้าผ่าอยู่เป็นประจำ เขาถือว่าเป็นเด็กที่ฉายแววอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขามีความจำที่ดีเลิศเป็นอย่างมาก เขาสามารถที่จะอ่านหนังสือและทำความเข้าใจในเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้นได้อย่างรวดเร็ว เขามีความจำที่ดี ไม่ว่าสิ่งใดที่เขาได้เห็นหรือค้นพบ เขาก็สามารถที่จะจดจำสิ่งนั้นได้โดยไม่มีทางลืมเป็นอันขาด โดยเฉพาะฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ที่เทสล่ามักจะสนใจเป็นพิเศษ
พอเวลาผ่านไป ความเป็นอัจฉริยะภาพของเทสล่าก็ได้แสดงให้ผู้คนได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันกับเขา ต่างให้การยอมรับว่าเทสล่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง แต่ด้วยนิสัยที่ชอบเก็บตัวและจดบันทึกค้นคว้าของเขา จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนต่างๆซักเท่าไหร่ บ่อยครั้งในช่วงวัยเด็กเทสล่าจึงมีเพื่อนที่สนิทกันค่อนข้างน้อยเป็นอย่างมาก อาจจะเพราะบุคคลิกที่แปลกประหลาดของเขาก็เป็นส่วนหนึ่ง
จนกระทั่งเมื่อเทสล่า อายุได้17ปี ความสามารถทางด้านอัจฉริยะภาพ ของเขาก็ได้แสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น เขาสามารถประดิษฐ์และจัดการสิ่งต่างๆที่เขาคิดค้นขึ้นในหัวของเขาได้เป็นอย่างดี ในเวลานี้เขาได้สร้าง แก้ไขสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่หลายๆคนคิดว่าไม่สามารถแก้ไขได้ เขาก็สามารถที่จะทำมันได้อย่างง่ายดาย
จนเมื่อเทสล่าอายุได้19ปี เขาก็ได้รับทุนในการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคที่เมืองกราซ ออสเตรีย รวมไปถึงมหาวิทยาลัยปราก ที่นั่นเองเทสล่าได้พยายามร่ำเรียนอย่างหนัก เขาใช้เวลาหมดไปในการนั่งอ่านหนังสือตั้งแต่ตีสามจนถึงห้าทุ่มทุกวัน และเขายังสามารถสอบวัดระดับการสอบที่ถือว่ายากที่สุด ผ่านมากกว่า9ครั้งด้วยคะแนนสูงสุด นับเป็นสถิติที่แทบไม่มีนักศึกษาคนไหนสามารถที่จะทำได้ แต่น่าเสียดายที่ในปีที่3 เทสล่าต้องจำใจลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนที่ตัวเองจะจบได้รับใบประกาศนียบัตร เพราะเขานั้นทะเลาะกับอาจารยที่สอนในมหาลัย เรื่องงานวิจัยหนึ่ง จนรุนแรงถึงขั้นที่เขาไม่สามารถจะทนเรียนต่อ กปรกับที่ตอนนี้ มหาวิทยาลัยไม่มีสิ่งใดให้เขาได้เรียนรู้แล้ว เทสล่าจึงออกมากลางคัน และเริ่มทำงานที่บูคาเลส
ที่บูคาเลสนี่เอง เทสล่าได้ค้นพบในระหว่างการทำงานเป็นผู้ช่วยของบริษัทโทรศัพท์ เขาได้ค้นพบว่า กระแสไฟฟ้าสลับมีข้อได้เปรียบมากกว่ากระแสไฟฟ้าตรง เนื่องจากลักษณะทางกายภาพมันสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลได้ในระยะทางไกล ในขณะที่กระแสไฟฟ้าตรงสามารถจ่ายกระแสไฟในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น นับเป็นความรู้ที่ช่วยเปิดโลกให้แก่เทสล่าเป็นอย่างมาก จนเมื่อเขาอายุได้28ปี เทสล่าจึงตัดสินใจเดินทางมาที่อเมริกา เพื่อทำงานและค้นคว้าวิจัยเรื่องกระแสไฟฟ้าของเขาต่อที่นี่
เมื่อเขามาถึงสหรัฐอเมริกา เทสล่าได้ถูกรับเลือกสอบสัมภาษณ์ในบริษัทของโธมัส อัลวา เอดิสัน ผ่านทางจดหมายแนะนำของหัวหน้าเขาที่บูคาเลส นับเป็นการเจอกันเป็นครั้งแรกของทั้งสองคน โธมัสถามคำถาม แก่เทสล่าเพื่อทดสอบเขา ซึ่งคำถามจำนวนมากล้วนแต่มีความยากเป็นอย่างมาก แต่เทสล่าก็สามารถตอบคำถามเหล่านั้น และยังแสดงถึงความเป็นอัจฉริยะภาพ อีกทั้งยังให้คำแนะนำแก่ เอดิสัน ถึงการใช้พลังงานกระแสไฟฟ้า ว่า พลังงานกระแสไฟฟ้าสลับนั้นดีกว่ากระแสตรง ซึ่งคำแนะนำนี้สร้างความไม่พอใจต่อผู้เชี่ยวชาญ ชาวอเมริกา รวมทั้ง เอดิสัน ก็ไม่ค่อยรู้สึกพอใจกับคำแนะนำนี้ ในเวลานั้น เอดิสัน รู้สึกไม่ค่อยชอบเทสล่าซักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า เทสล่าเป็นบุคลากรที่มีความสามารถอย่างแท้จริง
เอดิสันจึงตัดสินใจรับเทสล่าเข้าทำงาน พร้อมทั้งพูดเป็นนัยๆว่า ถ้าความคิดของเทสล่าถูก ทำไมเขาไม่รองแก้ปัญหาและปรับปรุงระบบไดนาโมที่จ่ายกระแสไฟฟ้าตรงนี้ดูหล่ะ และถ้าเทสล่าทำสำเร็จเข้าจะเสนอมอบเงินให้50,000ดอลลาร์(เทียบปัจจุบันเท่ากับ1ล้านเหรียญ) เป็นการตอบแทน เทสล่ารับปากที่จะทำให้สำเร็จ เพียงเวลาไม่นาน เทสล่าก็สามารถปรับปรุงและแก้ไขไดนาโมได้สำเร็จ
แต่เมื่อเขาทำได้สำเร็จแล้ว เอดิสันกับปฎิเสธที่จะมอบเงินรางวัลที่เขาตกลงไว้ให้กับเทสล่า พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องตลกที่เขาพูดไปอย่างงั้น ซึ่งการตอบของเอดิสันสร้างความโมโหให้กับเทสล่าเป็นอย่างมาก ในเวลาไม่นาน เทสล่าจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทของเอดิสัน
เมื่อลาออกจากบริษัท เขาได้ไปทำงานเป็นกรรมกรสร้างถนน และงานทุกอย่างที่ตัวเขาสามารถทำได้ แต่ถึงเขาจะทำงานต่างๆ จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนอยู่แล้ว เทสล่ายังแบ่งเวลาที่เหลือของเขาพยายามสานต่องานวิจัย และค้นคว้าสิ่งต่างๆ ของเขาต่อไป
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1877 เทสล่าในเวลานั้นได้คิดค้นระบบมอเตอร์รูปแบบใหม่สำเร็จ และได้ถูกบริษัทWestinghouse Electric & Manufacturing Company ของจอร์จ เวสติงเฮาส์ วิศวกรและนักธุรกิจชาวอเมริกัน ได้ซื้อลิขสิทธิ์มอเตอร์เหนี่ยวนำและแบบหม้อแปลงไฟฟ้าของเทสลา รวมทั้งจ้างเทสลาไปเป็นที่ปรึกษาด้วยค่าจ้างสูงถึง 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (มูลค่าปัจจุบันราว 54,500 ดอลลาร์) เพื่อไปสร้างโรงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แข่งกับบริษัท Edison Electric Light Company ของเอดิสันที่ใช้ระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่ในขณะนั้น
นับเป็นสงครามการแข่งขันเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด เอดิสันได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะโจมตีกระแสไฟฟ้าที่เทสล่าคิด ทั้งสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับผลเสียของไฟฟ้ากระแสสลับ โดยใช้สุนัข แมว รวมถึงช้าง เข้ามามีส่วนร่วมว่าเมื่อโดนกระแสไฟฟ้าสลับจะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เอดิสันทุ่มไปกับการหาเรื่องทำลายผลงานของเทสล่า ทั้งในรูปแบบใบประกาศ จนไปถึงภาพยนต์ จนกระทั่งฝั่งของเทสล่าเอง ก็ไม่ได้ยอมให้เป็นผู้ถูกกระทำแต่เพียงอย่างเดียว ทางเทสล่าก็ได้หาข้อมูลต่างๆมาหักล้าง อีกทังยังบอกถึงประโยชน์สูงสุดที่กระแสไฟฟ้าสลับที่สามารถมอบให้ได้ ทั้งราคาที่ถูกกว่า และกระจายได้ไกลมากกว่ากระแสไฟฟ้าตรงของเอดิสัน
การแข่งขันของทั้งสองดำเนินต่อไป จนเข้าสู่ปีที่2 การตัดสินต่างๆก็เริ่มออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า กระแสไฟฟาสลับของเทสล่า ได้รับความนิยมและยอมรับให้ใช้ในหลายๆเมือง มากกว่ากระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่เอดิสันคิดค้นขึ้น จนขณะนี้มีโรงไฟฟ้าที่สร้างโดยเวสติงเฮาส์ มากถึง30แห่ง และจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เมืองต่างๆ ในอเมริกา 130 เมือง ด้วยระบบกระแสไฟฟ้าสลับของเทสลา
ถึงจะเป็นความสำเร็จและการได้ล้างแค้นเอดิสัน แต่ชีวิตในบั้นปลายของเทสล่านั้นอาภัพและรันทดเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากตัวของเทสล่าเอง และการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ถือหุ้นต่างๆของเขา เพราะเทสล่าเป็นนักประดิษฐ์มากกว่าการเป็นนักธุรกิจ ส่วนนี้เองที่ทำให้เขาพลาดท่าตกหลุมพลางแห่งธุรกิจ แต่ถึงจะอย่างไรเทสล่า ก็พยายามและใช้เงินจำนวนมากที่เขาหามาได้จากการขายสิทธิ์บัตรแทบทั้งหมด ในการคิดค้นวิจัยโครงการต่างๆของเขาต่อ และวิจัยหลายครั้งก็มักจะมาพร้อมการพูดของผู้คนที่บอกว่า เขากลายเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง เพราะผลงานในภายหลังอาจจะบอกได้ว่าผู้คนที่ได้เห็น ไม่เข้าใจในการคิดของเขาแล้ว แต่ถึงหลายๆคนจะพูดอย่างไหร่เทสล่าก็ยังไม่หยุดคิดค้น เขาถึงกับกล่าวว่า ในผลงานนี้เขาใกล้จะวิจัย อาวุธเลเซอร์มหาประลัย สำเร็จแล้ว ผลงานในช่วงหลังส่วนหนึ่งที่เข้าคิดค้นขึ้นมีทั้ง x-ray,วิทยุ ก็ล้วนแล้วมาจากความคิดของเขาทั้งสิ้น
เทสล่านอกจากการเป็นนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ ที่เก่งเป็นอย่างมาก เขายังมีความประหลาดที่เขาสามารถจะสื่อสาร และเป็นมิตรกับนกพิราบได้ ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยนกพิราบปีกหักตัวหนึ่ง จนสามารถรักษาปีกและคิดค้นเครื่องช่วยให้ปีกของนกพิราบกลับมาใช้งานได้ และเมื่อรักษาเสร็จนกพิราบตัวนั้นก็ติดตามเทสล่าไปไหนมาไหนตลอด จะกล่าวคือเทสล่าสามารถที่จะสั่งและสื่อสารให้นกพิราบบินมาหาเขาได้ นับเป็นเรื่องประหลาดที่ผู้คนมักกล่าวถึงเกี่ยวกับเขา
ช่วงสุดท้ายในชีวิตของเทสล่า เขาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1943 เทสล่าได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค รวมอายุได้86ปี หลังจากเทสลาเสียชีวิต FBI ได้สั่งทุกฝ่ายว่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทสลาต้องถูกจัดการอย่างลับที่สุด และต้องรักษาความลับของสิ่งประดิษฐ์ของเขาให้เป็นความลับตลอดไป เป็นอันปิดตำนานนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่โลกเคยมีมา ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเสียชีวิตลงไปเป็นเวลานาน แต่ผลงานร่วมทั้งงานวิจัยต่างๆ ที่เขาได้คิดค้นขึ้น ก็ยังคยู่ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และเป็นแรงบันดาลใจตลอดมาจนถึงปัจจุบัน…
ในส่วนอนิเมะ เรื่องมหาศึกคนชนเทพ
ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพนั้น ได้หยิบยกนำเอาตัวประวัติของนิโคลา เทสล่า มาดัดแปลงเป็นตัวละครตัวหนึ่งในเรื่อง ยังไม่ปรากฎตัวว่ามีรูปร่างเป็นแบบไหนในมังงะ จะมีเพียงแค่ชื่อที่บรุนฮิล ได้เสนอไว้ แต่ด้วยประวัติความเป็นมาของนิโคลา เทสล่า ที่กล่าวว่าเขานั้นคือสุดยอดนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก ก็อาจจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเขานั่นน่าจะมีฝีมือการประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะทำให้เขามีความสามารถที่จะต่อสู้กับพวกเทพ และความคิดความสามารถในการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ก็หน้าจะเป็นเครื่องยืนยัน ให้บรุนฮิลรู้สึกมั่นใจ ว่าเทสล่าจะสามารถต่อสู้และมอบชัยชนะนี้ให้แก่ มนุษย์ได้ในศึกครั้งนี้!! เพราะเขาคือ นิโคลา เทสล่า ดาวความหวังอีกดวงของมนุษย์ชาติ…
(ข้อมูลข้างต้นรวมถึงพลังของนิโคลา เทสล่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กล่าวมาก็ได้ เพราะข้อมูลพลังของเขายังไม่เปิดเผย รวมถึงคู่ต่อสู้ของเขาก็ด้วย แต่ดูจากลักษณะและประวัติความเป็นมา ในความเป็นนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ ที่ชอบคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ผู้เขียนก็ขอคาดเดาไว้ว่านิโคลา เทสล่า อาจจะต้องได้ต่อสู้กับเทพโอดิน บิดาของเทพชาวนอร์ส หรือ ไม่ก็โลกิ เทพที่ขึ้นชื่อเรื่องการแกล้ง และยังชอบสร้างสิ่งใหม่ๆตามแบบฉบับของเขาตามตำนานเทพนอร์ส ก็อาจจะเป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่ต่อสู้เกิดจากการคาดคะเนของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และถ้าผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณครับ..)
มหาศึกคนชนเทพ นิโคลา เทสล่า (Record of Ragnarok)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending