มหาศึกคนชนเทพ ซากาตะ คินโทกิ (Sakata Kintoki)
ซากาตะ คินโทกิ เป็นตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ในการเข้าร่วมการต่อสู้กับฝ่ายเทพ ซากาตะ คินโทกิ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เจ้าหนูคินทาโร่เป็นตำนานหรือนิทานพื้นบ้านที่ว่าด้วยเรื่องราว ของคินโทกิที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับแม่2คน เพราะพ่อของเขาได้เสียชีวิตลงจากการฆ่าตัวตาย ในวัยเด็กเขามีชีวิตอย่างยากลำบาก แต่เขาก็มีเป็นเด็กแข็งแรงที่มีพละกำลังมาก สามารถจับปลาคร์าพยักษ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานที่โดงดั่ง มาจากการที่เขาสามารถสังหารยักษ์ชูเท็นโดจิ ที่มีความน่ากลัวเป็นอย่างมากลงได้ ก็ยิ่งเพื่มชื่อเสียงให้แก่เขา พอเวลาผ่านไปทุกคนก็ต่างลืมเลือนและคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือนิทานที่เอาไว้เล่าก่อนนอนเพื่อความสนุกสนานเสียมากกว่า จนกระทั่งการต่อสู้ระห่างมนุษย์และเทพเริ่มขึ้น บรุนฮิลรู้ดีว่าตำนานเหล่านี้เป็นเรื่องจริง เธอพร้อมที่จะปลุกตำนานนี้ให้ลุกขึ้นมา เพื่อฟาดฟันกับเหล่าทวยเทพ และพิสูจน์ว่าตำนานนี้คือเรื่องจริง เพื่อนำชัยชนะมาสู่มนุษย์…
ประวัติ แห่งยุค (ญี่ปุ่น)
ซากาตะ คินโทกิ หรืออีกชื่อที่ผู้คนมักจะกล่าวถึงเขา ว่าเขาเป็นตัวเอกของนิทานเรื่องเล่าที่ชื่อว่า “เจ้าหนูคินทาโร่”
ซากาตะ คินโทกิ หรือ เจ้าหนูคินทาโร่ ตามประวัติและการกำเนิดไม่แน่ชัด แต่ถูกกล่าวถึงว่าเขาคือ 1 ใน 4 ซามูไรผู้ติดตามให้แก่ มินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ (Minamoto no Yorimitsu ) และกล่าวขานว่าเป็นซามูไรที่แข็งแกร่งที่สุด นักประวัติศาสตร์ต่างคาดว่า ซากาตะ คินโทกิ น่าจะเกิดและอาศัยอยู่ในช่วงยุคเฮอัน ที่เมืองมินามิอาชิงาระ จังหวัดคานางาวะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อสันนิษฐานนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพราะข้อมูลและการบันทึกไว้ของเขาไม่สามารถที่จะหาข้อสรุปและยืนยันได้ จะมีเพียงตำนานที่กล่าวถึงของเขาเป็นเรื่องเล่าที่กล่าวว่า
ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว มีองครักษ์คู่ใจจักรพรรดิคนหนึ่งชื่อว่า ซากาตะ คุรันโด(Sakata Kurando) เป็นซามูไรที่มีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งมาก สร้างผลงานเอาไว้อย่างมากมาย จนเป็นซามูไรคนโปรดขององค์จักรพรรดิ ถึงขนานที่องค์จักรพรรดิประทานให้แต่งงานกับบุตรสาวของพระองค์ องค์หญิงซากิริ (Yaegiri) หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันได้ไม่นาน ด้วยความที่เป็นคนโปรด จึงทำให้มีขุนนางจำนวนมากต่างมีความอิจฉา ริษยา ที่คุรันโด ได้ดีมากกว่าตน พวกเขาต่างสร้างเรื่อง และใส่ร้ายคุรันโด จนคุรันโดถูกองค์จักรพรรดิไล่ออกมาจากวัง จึงทำให้เขากลายเป็น โรนิน(ronin)หรือ ซามูไรไร้นาย คุรันโดจึงพาภรรยาของตนออกเดินทางกลับไปบ้านเกิด ด้วยความที่รู้สึกอับอายและรับไม่ได้ที่ชีวิตตนตกต่ำลงอย่างมาก เขาจึงได้ทำการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความอัปยศนี้ที่ภูเขาแห่งหนึ่ง ก่อนที่เขายังไม่ทันเดินทางถึงบ้านเกิดตน
ซึ่งการกระทำของเขาสร้างความเสียใจแก่ ซากิริ เป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่เธอเกือบจะตัดสินใจฆ่าตัวตายตามเขาไป แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เมื่อเธอคิดถึงลูกที่อยู่ในท้องที่กำลังจะเกิดนี้ เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปอาศัยอยู่ในที่ห่างไกลแถบภูเขาอาชิงาระ เพียงเวลาไม่นานเธอก็ให้กำเนิดลูกชายและตั้งชื่อให้แก่เขาว่า คินทาโร่
เมื่อคินทาโร่เกิด เขาถือว่าเป็นเด็กที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก มีพละกำลังที่มากว่าเด็กปกติทั่วไป และกล่าวได้ว่าเมื่อเขาอายุยังไม่ถึงขวบ เขาก็สามารถเดินและวิ่งได้แล้ว เมื่อออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน คินทาโร่จะใส่ 腹掛け (haragake) สีแดง ซึ่งเป็นเอี๊ยมที่เด็กเล็กๆ ชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนนิยมใส่กัน ซึ่งแม่ของคินทาโร่ได้ปักตัวอักษร “Kin” ที่แปลว่าทองไว้บนเสื้อด้วย
ชีวิตในวัยเด็กของคินทาโร่ ส่วนมากเขาจะวิ่งเล่นและอาศัยอยู่ในภูเขา เพื่อนๆของเขาจึงเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ทั่วไปในภูเขา ด้วยการที่อาศัยอยู่กับพวกสัตว์เป็นเวลานาน คินทาโร่จึงสามารถพูดคุย สื่อสารกับพวกสัตว์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขาสนิทกับสัตว์ทุกตน ในเวลาว่าง เขามักจะเล่นซูโม่กับพวกสัตว์ และสามารถเอาชนะพวกสัตว์ต่างๆ ได้แทบทั้งหมด ขนาดหมีน้ำตาลที่ถือว่ามีพละกำลังแข็งแรงที่สุดในหมู่สัตว์ยังพ่ายแพ้ให้กับคินทาโร่ และยอมรับคินทาโร่ให้ขึ้นขี่หลังตน ไปไหน มาไหนด้วยตลอด นอกจากนี้ คินทาโร่ยังศึกษาการใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติ เขาสามารถที่จะจับปลาที่ตัวขนาดใหญ่มากกว่าตนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ คินทาโร่ยังถือว่าเป็นผู้นำแห่งขุนเขาแห่งนี่
เมื่อตอนเขาอายุได้ 5 ขวบ แม่ของคินทาโร่ ได้มอบขวานให้แก่เขาเป็นของขวัญวันเกิด และกำชับว่าถ้าไม่เกิดอันตรายอย่าใช้ขวานทำร้ายผู้อื่น คินทาโร่รับปาก เขาพกขวานไปไหนด้วยตลอดและดูแลรักษามันเป็นอย่างดี ถึงจะอยู่ในป่าในเขา แม่ของคินทาโร่ก็ยังอบรมสั่งสอนเขาเป็นอย่างดี คินทาโร่จึงเป็นเด็กที่สุภาพ และมีมารยาทที่ดีเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยสร้างเรื่องเดือดร้อนทุกข์ใจ ให้แก่แม่ของตนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
คินโทโร่ ก็ใช้ชีวิตอยู่ในขุนเขาเรื่อยมา จนวันหนึ่ง เจ้าลิงเพื่อนคู่ใจของเขา ได้เข้ามาเล่าให้ฟังว่าในเวลานี้ บนเขามีลูกเกาลัคขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความสนใจ ให้แก่คินทาโร่เป็นอย่างมาก เขาจึงขึ้นขี่หมีและรีบขึ้นไปบนเขาเพื่อเก็บลูกเกาลัด เพราะเวลานี้ เขาสู่ฤดูฝน ถ้าไม่รีบเก็บผลเกาลัดจะหล่นและเสียได้
คินทาโร่จึงรีบขึ้นเขาโดยทันที การเดินทางของเขาเป็นไปด้วยดี แต่เพราะตอนนี้เข้าหน้าฝนจึงทำให้ลำธารเต็มไปด้วยน้ำเป็นจำนวนมาก ลำธารที่เคยเล็กก็กว้างขึ้นมากกว่าเดิม จนไม่สามารถที่จะเดินทางข้ามได้ เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น คินทาโร่จึงได้สั่งให้เจ้าหมีช่วยตัดต้นไม้ เพื่อใช้นำมาสร้างเป็นสะพาน แต่เจ้าหมีก็พยายามที่จะตัดไม้แต่ก็ใช้เวลานาน ไม่ทันใจของคินทาโร่ เขาจึงลุกขึ้นและใช้ขวานตนตัดไม้ เพียงฟันไปแค่ครั้งเดียว ต้นไม้ก็ถูกโค่นลงได้อย่างง่ายดาย คินทาโร่จึงใช้ไม้นั้นสร้างสะพานในเวลาต่อมา
เมื่อสร้างสะพานเสร็จ ในขณะที่คินทาโร่กำลังจะก้าวข้ามสะพาน เขาถูกเรียกโดย มินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ ที่ในขณะนั้นเขาได้เดินทางผ่านมา พร้อมซามูไรอีกจำนวนหนึ่ง ในช่วงการเดินทางเขาได้เห็นทุกการกระทำของคินทาโร่ จึงรู้สึกประทับใจในความสามารถของคินทาโร่เป็นอย่างมาก จึงได้เสนอให้คินทาโร่มาอยู่กับตน มาเป็นซามูไรติดตามเขา และยังบอกว่า วันหนึ่งในอนาคต คินทาโร่จะกลายเป็นซามูไรผู้ยิ่งใหญ่
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น คินทาโร่จึงได้กลับไปหาแม่ของตน พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แก่แม่ของเขาฟัง เมื่อฟังจบแม่เขาจึงบอกว่า “คินทาโร่จะต้องเป็นซามูไรที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกับพ่อของตนได้อย่างแน่นอน” เมื่อฟังจบ คินทาโร่จึงได้บอกกล่าวลาแม่ของตน อีกทั้งยังขอบคุณที่แม่เลี้ยงดูอบรมเขามา และถ้าเขากลายเป็นซามูไรที่ยิ่งใหญ่แล้ว เขาจะกลับมารับแม่ไปอยู่ด้วยกับเขา เมื่อบอกลาแม่เสร็จคินทาโร่ได้กำชับกับพวกเหล่าสัตว์ให้ช่วยดูแลแม่ของตนแทนเขาด้วย และเขาก็ได้เดินทางไปพร้อมกับมินาโมโตะ
ในระหว่างที่อยู่กับมินาโมโตะ คินทาโร่ก็ได้รับการอบรม สั่งสอนต่างๆ ทั้งมารยาทการเข้าสู่สังคม และรวมถึงวิชาฟันดาบต่างๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กบ้านนอกที่อาศัยอยู่บนเขา แต่คินทาโร่กับเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย และมีมารยาทเป็นอย่างมาก เพียงเวลาไม่นานเขาก็ได้รับความรัก ความเอ็นดู จากผู้คนรอบข้างอย่างมากมาย และคินทาโร่ยังถือว่าเป็นเด็กที่มีความอัจฉริยะเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะสอนอย่างไร เขาก็สามาถที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อคินทาโร่โตขึ้น มินาโมโตะ จึงมอบชื่อให้กับเขาใหม่ว่า ซากาตะ โนะ คินโทกิ และรับรองให้เขาเป็น 1 ใน 4 ซามูไรผู้ติดตามของตน หลังจากนั้น คินทาโร่ หรือ คินโทกิ ก็สร้างผลงานให้แก่มินาโมโตะเอาไว้อย่างมากมาย หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของเขาจนกลายเป็นตำนานกล่าวถึงคือ การที่เขาสามารถสังหารยักษ์ชูเท็น-โดจิลงได้ โดยตำนานได้กล่าวถึงว่า ในสมัยยุคเฮอัน ได้ปรากฎตัวของยักษ์โบราณที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ค่อยดักปล้นและสังหารผู้คนที่ผ่านทางมา แถวภูเขาโอเอะ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนในเวลานั้น เป็นอย่างมาก
เมื่อเรื่องรู้ไปถึงองค์จักรพรรดิ จึงมีคำสั่งลงมาแจ้งแก่มินาโมโตะ ว่าให้มินาโมโตะหาวิธีจัดการยักษ์เหล่านี้เสีย เมื่อรับเรื่องมาแล้ว มินาโมโตะจึงได้ปรึกษาเหล่าลูกน้องคนสนิท และคินโทกิก็ได้เสนอวิธีจัดการยักษ์ชูเท็น-โดจิ โดยแผนการสังหารยักษ์ ด้วยการที่พวกเราจะต้องปลอมตัวเป็นนักบวชและนำสุราไปให้แก่ยักษ์ดื่ม เพราะสืบทราบมาว่า ยักษ์ชูเท็น-โดจิ มีความชมชอบการดื่มสุราเป็นอย่างมาก
เขาจึงจัดแจงและเรียกรวมพล จนสามารถแกล้งทำให้ชูเท็น-โดจิ ตายใจ ดื่มเหล้าที่พวกเขานำมาให้ เมื่อพวกยักษ์ดื่มเหล้าและเมาได้ที่ พวกมินาโมโตะและคินโทกิ จึงได้หยิบดาบออกมา และสังหารพวกยักษ์ชูเท็น-โดจิ ทั้งหมดและนำศรีษะของชูเท็น-โดจิไปฝังไว้ที่ใต้ภูเขานอกเมือง และในเวลาต่อมาดาบที่ใช้ตัดคอ จึงถูกตั้งชื่อไว้ว่าดาบ “โดจิกิริ”
เมื่อเขาได้กลายเป็นซามูไรที่ยิ่งใหญ่แล้ว ซากาตะ คินโทกิ หรือ คินทาโร่ ก็ได้เดินทางกลับไปยังภูเขา เพื่อไปรับแม่ของตนมาอยู่ด้วย ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขที่เกียวโตตลอดไป
เป็นอันจบตำนานของ ซากาตะ คินโทกิ หรือ คินทาโร่ ที่ครั้งหนึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีทั้งความสามารถและความกตัญญู ต่อมารดาของตนเองเป็นอย่างมาก วันเวลาผ่านไปเรื่องเล่าของเขาก็ยังอยู่ ยังมีผู้คนมากมายที่ยังกล่าวขานถึงตลอด จนในเวลาต่อมาจากเรื่องเล่าขาน ก็กลายเป็นนิทานที่เอาไว้อ่านเพื่อสร้างความสนุกสนานให้แก่เหล่าเด็กๆ ในรุ่นหลังได้รับฟัง และยังถูกกล่าวถึงเรื่อยมาจนปัจจุบันว่าเรื่องเล่านิทานนี้ คือหนึ่งในประวัติชีวิต ของชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นซามูไรที่ยิ่งใหญ่ ที่มีนามว่า ซากาตะ โนะ คินโทกิ….
ในส่วนอนิเมะ เรื่องมหาศึกคนชนเทพ
ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพนั้น ได้หยิบยกนำเอาตัวประวัติของ ซาตาตะ คินโทกิ หรือ เจ้าหนูคินทาโร่ ได้หยิบยกนำมาใช้เป็นหนึ่งในตัวละครของมหาศึกคนชนเทพ โดยประวัติและที่มา รวมถึงรูปร่างหน้าตาต่างๆ ยังไม่ปรากฎในมังงะ จะมีเพียงแต่ชื่อที่บรุนฮิล ได้เสนอให้เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนทั้ง13ของฝ่ายมนุษย์ในการลงต่อสู้ในศึกครั้งนี้ ซึ่งประวัติและความเป็นมาของคินโทกินั่น มีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดากล่าวขานว่า เขานั้นแข็งแรงเป็นอย่างมากในวัยเด็ก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยัน ที่บรุนฮิลค่อนข้างมั่นใจว่า นอกจากเรื่องเล่าในนิทานแล้ว คินโทกิจะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ที่น่าจะต่อกรกับเหล่าทวยเทพได้อย่างแน่นอน เพราะเขาคือเจ้าหนูคินทาโร่ จอมพลังที่จะนำชัยชนะมาสู่มนุษย์โลกนั่นเอง…
(ข้อมูลข้างต้นรวมถึงพลังของซากาตะ คินโทกิ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กล่าวมาได้ เพราะข้อมูลพลังของเขายังไม่เปิดเผย รวมถึงคู่ต่อสู้ของเขาก็ด้วย แต่ดูจากลักษณะและประวัติ รวมถึงตำนานของเขาแล้วว่าเป็นเจ้าหนูจอมพลัง และยังเป็นหนึ่งในซามูไรที่มีฝีมือแข็งแกร่งคนหนึ่ง ใน4ผู้ติดตามของมินาโมโตะ ผู้เขียนก็ขอคาดเดาไว้ว่าคินโทกิ น่าจะได้ต่อสู้กับเทพซูซาโนโอะ ที่เป็นหนึ่งในตำนานและยังเคยเป็นมนุษย์มาก่อน ตำนานทั้งสองบทนี้ ถ้าได้มาต่อสู้กัน ก็น่าจะเพิ่มความสนุกไม่มากก็น้อย อาจจะเป็นแมตหยุดโลกอีกคู่ก็อาจจะเป็นได้ คู่ต่อสู้เกิดจากการคาดคะเนของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และถ้าผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณครับ..)
มหาศึก คนชนเทพ ซากาตะ คินโทกิ (Record of Ragnarok)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending