กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง (อุซป) ทะเลอีสบลู Straw Hat Pirates
กลุ่มโจรสลัดไม่ว่าจะกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ ต่างก็ประกอบด้วยสมาชิกบนเรือที่สำคัญต่างๆเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกัปตัน ต้นหนเรือ หรือแม้แต่สมาชิกลูกเรือทั่วไป ก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการที่จะก่อตั้งกลุ่มโจรสลัดขึ้นมา แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันไปกว่าเหล่าสมาชิกประจำกลุ่มก็คือ เรือโจรสลัดอันเป็นสิ่งสำคัญต่อทุกๆกลุ่มเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่เป็นเพียงพาหนะเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่จะใช้เพื่อต่อสู้กับกลุ่มต่างๆในท้องทะเล ที่ถ้ากลุ่มไหนมีเรือที่ดีกว่า กลุ่มนั้นก็มักจะได้เปรียบในการต่อสู้เสมอ แต่สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากการมีเรือที่ดีแล้ว เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ พลแม่นปืนหรือพลปืนใหญ่ประจำเรือ ที่จะคอยช่วยให้ความสามารถทางการต่อสู้ของเรือนั่นสูงยิ่งขึ้น ในหลายๆครั้งไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน พลยิงประจำเรือก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง การมีพลยิงที่ดีประจำเรือก็สามารถเพิ่มความน่ากลัวให้กับกลุ่มนั้นๆได้อย่างมากมาย จึงไม่แปลกที่หลายๆกลุ่มจะพยายามตามหาพลยิงประจำเรือที่มีความสามารถมาร่วมกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโจรสลัดแถวหน้าหรือทหารเรือระดับสูง ก็มักจะมีพลยิงที่มีความสามารถระดับสูงอยู่ในกลุ่มเสมอ และแน่นอนกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเองก็มีเหมือนกัน เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น จ้าวแห่งการซุ่มยิงที่ไม่ว่าจะเป็นเป้าเล็ก เป้าใหญ่หรือจะอยู่ไกลขนาดไหน เขาก็สามารถที่จะยิงได้แบบไม่พลาดเป้าเลยซักครั้งเดียว และชื่อของบุรุษที่มีความสามารถสูงคนนี้ก็คือ”อุซป”
พลแม่นปืนประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง อุซป (Usopp)
-ค่าหัวN/A(ยังไม่มีค่าหัวใน อีสบลู)
-อายุ17(ไทม์ไลน์ปัจจุบัน19)
-เกิด1เมษายน/สูง176ซม.
-จากทะเล “อีสบลู”
พลแม่นปืนประจำ กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง อุซป เขาเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเป็นคนที่4 (ถ้าเรียงการยอมรับเข้ากลุ่มอุซปจะเป็นสมาชิกคนที่3 ส่วนนามิจะยอมรับเข้ากลุ่มจริงๆเป็นคนที่5) มีหน้าที่เป็นพลแม่นปืนประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ทำหน้าที่ควบคุมปืนใหญ่ประจำเรือและพ่วงหน้าที่เป็นนักประดิษฐ์ประจำกลุ่มไปอีกตำแหน่ง พลังการต่อสู้ของอุซปถ้าจัดระดับในกลุ่มแล้ว เขาจะจัดอยู่ในระดับเดียวกับนามิ มีพลังการต่อสู้ที่น้อยแต่ถ้าถึงเวลาที่เขาต้องต่อสู้อย่างจริงจังละก็ เขาจะสามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างมากมาย ถึงขนาดที่ว่าไม่ว่าจะโดนอัดจนยับเยินเละเทะมากแค่ไหน เขาก็จะพยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ ด้วยพลังใจที่พร้อมจะต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยมของเขานี้ ในหลายๆครั้งก็ได้พิสูจน์ออกมาแล้ว ว่าเขานั้นสามารถที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าตัวเองลงได้
โดยเฉพาะความแม่นยำในการยิง อุซปถือว่ามีความสามารถที่สูงมาก ไม่น้อยหรือด้อยไปกว่าใครเลย อาจจะเป็นเพราะอุซปมีพ่อเป็นถึงพลซุ่มยิงของกลุ่มโจรสลัดผมแดงแชงคูส ที่มีชื่อว่ายาซป จึงไม่แปลกที่อุซปจะได้รับการสืบทอดความแม่นยำนี้มาจากพ่อของเขา อุซปยังมีนิสัยที่ชอบพูดมากและโกหก ในบางครั้งคำพูดของเขาก็สามารถที่จะทำให้ศัตรูไขว้เขวได้อยู่บ่อยๆ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า สาเหตุที่มำให้อุซปติดนิสัยชอบโกหกนั่นเกิดมาจากอะไร
ในอดีตอุซปเกิดและเติบโตขึ้นที่หมู่บ้านซีล๊อป ซึ่งหมู่บ้านซีล๊อปนั่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลอีสบลู ชาวบ้านทั่วไปต่างประกอบอาชีพทางการเกษตรเลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก อยู่กันอย่างสงบสุข ในวันหนึ่งอุซปตอนเด็กได้รีบวิ่งกลับมาบ้านเพื่อมาหาแม่ของเขาที่กำลังนอนป่วยอยู่ เจ้าตัวได้บอกกลับแม่ของเขาว่า โจรสลัดมาแล้วพวกพ่อได้กลับมาแล้วเขาจะมารับเราแล้วนะ คำพูดนี้ของอุซปนั่นเป็นคำโกหก ที่โกหกถึงพ่อของเขาที่ได้ออกเดินทางไปเป็นโจรสลัด นั่นได้กลับมาหาแม่ของเขาแล้ว เพื่อที่จะให้แม่ที่กำลังป่วยของเขานั้นรู้สึกดีขึ้น ในทุกๆวันเขาจะแต่งเรื่องโกหกต่างขึ้นมา เพื่อเล่าให้แม่ของเขาฟัง เขาหวังว่าคำพูดเหล่านี้จะทำให้แม่รู้สึกดีขึ้นได้ แต่ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงแม่ของเขาก็ยังจับได้ว่าเขาโกหก แต่เธอก็ไม่รู้สึกโกรธคำโกหกที่เขาพูดออกมาเลย เพราะเธอเข้าใจดีว่าอุซปสร้างเรื่องต่างๆขึ้นมาเพื่อต้องการให้เธอรู้สึกดีขึ้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลงเธอก็ได้บอกทิ้งท้ายว่าอุซปไม่จำเป็นต้องโกหกแล้ว และเธอก็ไม่เคยเสียใจที่ได้มีสามีเป็นโจรสลัด เพราะว่าพ่ออุซปนั่นเป็นชายที่ยอดเยี่ยมเขาไม่ได้ทิ้งครอบครัวไป เขาแค่ออกไปเพื่อทำตามความฝันอย่างลูกผู้ชายคนหนึ่ง และเธอก็หวังว่าสักวันอุซปจะเติบโตและกลายเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับพ่อหรืออาจจะเหนือกว่าเขาเลยก็ได้
หลังจากที่แม่ของเขาเสียลง อุซปก็ใช้ชีวิตในวัยเด็กเรื่อยมาคนเดียว ถึงแม้คนในหมู่บ้านต่างมาชวนให้เขาไปอยู่บ้านภายในหมู่บ้านด้วย เพื่อที่จะได้ทำให้เขาไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวต่อไป แต่เขาก็ไม่ไป เพราะอุซปชอบที่จะได้อยู่บ้านที่เป็นความทรงจำของเขากับแม่หลังนี้ต่อไป ในทุกๆวันเขามักจะป่วนพวกชาวบ้านด้วยคำโกหกว่า โจรสลัดมาแล้ว อยู่ในทุกๆเช้า เวลาเดิม7โมงเช้าเสมอ ซึ่งในตอนแรกชาวบ้านทั้งหลายก็ตกใจ แต่หลายๆครั้งเข้าก็รู้ว่าอุซปนั่นโกหก ถึงจะน่าโมโหแต่พวกชาวบ้านเองก็รู้ว่าที่อุซปนั่นทำลงไป ส่วนหนึ่งมาจากความเหงาและคิดถึงแม่ของเขา พวกชาวบ้านทั้งหลายจึงแกล้งที่จะทำเป็นโมโหวิ่งไล่ตามเขา ก็เพื่อที่จะเป็นสิ่งๆเล็กที่พวกเขาจะช่วยไม่ให้อุซบนั้นรู้สึกเหงาขึ้นมา การใช้ชีวิตแบบนี้ของอุซปในทุกๆวันก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวบ้าน หมู่บ้านซีล๊อปแห่งนี้ไป
การดำเนินชีวิตเป็นแบบนี้เหมือนเดิมในทุกๆเช้า ถึงมันจะไม่ดีที่โกหกชาวบ้านอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ช่วยไม่ให้เขารู้สึกว่าตัวเองนั่นโดดเดี่ยวได้ จนกระทั่งอุซปได้รู้ข่าวว่าซายะเด็กผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ต้องกำพร้าพ่อแม่จากอุบัติเหตุเรือล่มที่เกิดขึ้นได้ไม่นาน อุบัติเหตุในครั้งนั้นไม่ได้พรากชีวิตพ่อแม่ของเธอไปอย่างเดียว แต่ยังทำให้จิตใจของเธอแตกสลายเป็นอย่างมาก ด้วยที่ทุนเดิมร่างกายของซายะเองก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว พอเจอข่าวร้ายเกี่ยวกับพ่อแม่ก็ยิ่งทำให้เธอทรุดหนักลงไปอีก เมื่อเป็นเช่นนั้นด้วยการที่อุซปนั้นก็เป็นกำพร้าและรู้ว่าความรู้สึกการสูญเสียนั่นเป็นเช่นไร เขาจึงพยายามไปหาซายะทุกๆวัน ซึ่งตอนแรกเขาก็ถูกซายะไล่ไม่ให้มายุ่งกับเธอ แต่นานวันเข้าความผูกพันของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น ซายะจึงเริ่มเปิดใจคุยกับอุซปมากขึ้น
โดยในทุกๆวัน หลังจากปฎิบัติภารกิจในการโกหกพวกชาวบ้านตอนเช้าเสร็จ เขาก็มักจะหาเรื่องเล่าต่างๆไปเล่าให้กับซายะฟังเสมอ ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับซายะเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเรื่องที่อุซปจะเล่านั้นจะเป็นเรื่องที่แต่งมาเสียส่วนใหญ่ และซายะเองก็รู้ว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นรื่องแต่ง แต่เธอก็รู้สึกสนุกสนานไปกับมันได้อย่างเหลือเชื่อ แต่ความสนุกสนานมักจะถูกขัดลงอย่างเสมอด้วยฝีมือ พ่อบ้านที่ชื่อคุระฮาโดล ที่ไม่ค่อยชอบให้คุณหนูซายะไปคลุกคลีกับอุซปเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลที่ว่าอุซปมีพ่อเป็นโจรสลัดจึงไม่สมควรที่คุณหนูซายะจะคบหาด้วย เพราะวันหนึ่งคุณหนูซายะอาจจะเจอกับปัญหาเพราะเขาก็ได้ คุระฮาโดลจึงทำทุกวิธีทางเพื่อกีดกันไม่ให้คุณหนูซายะได้พูดคุยกับอุซป ไม่ว่าจะเป็นการจ้างบอดี้การ์ดมาเฝ้าหน้าประตูบ้าน ไปจนถึงสร้างกำแพงรั้วขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ว่าจะทำทางไหนก็ไม่สามารถที่จะห้าม การมาเจอกันของอุซปกับคุณหนูได้เลย การพูดคุยกันของทั้งคู่ก็ยังมีต่อไป
จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากที่อุซปได้ไปป่วนพวกชาวบ้านเสร็จ เขาก็ได้ทราบข่าวจากเด็กๆที่คอยติดตามอุซปว่าเห็นเรือที่มีสัญลักษณ์หัวกะโหลกมาจอดเทียบชายหาดเมื่อเช้า และหน้าจะเป็นเรือโจรสลัด อุซปจึงอาสาที่จะออกไปดูว่าเป็นเรือโจรสลัดจริงไหม จนได้มาพบกับกลุ่มคนลึกลับที่มีกัน3คนมีชาย2หญิง1 พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นโจรสลัด ซึ่งในทีแรกที่อุซปได้ยินว่าโจรสลัดก็ระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่พอเห็นว่าพวกที่มานี้ดูไม่ค่อยจะมีพิษมีภัยเท่าไหร่ เขาจึงวางใจพาไปยังหมู่บ้าน พร้อมทั้งแนะนำตัวและถามชื่อถึง3คนนั้น จนได้ทราบชื่อของทั้ง3คนว่าชื่ออะไรบ้าง ในขณะที่กำลังเดินไปหมู่บ้านอุซปก็ได้แวะไปหาซายะ อย่างเช่นเคยเหมือนเดิม แต่ในครั้งนี้ในระหว่างที่คุยกันอยู่นั่น บังเอิญคุระฮาโดลมาเจอเข้าพอดี คุระฮาโดลจึงทำการต่อว่าอุซปและดูถูกเขาต่างๆนาๆ จนในที่สุดอุซปก็หมดความอดทน เขาฟิวขาดจนได้ต่อยหน้าคุระฮาโดลเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้เขาได้ถูกไล่ออกจากบ้านของซายะไปในทันที
หลังจากที่ถูกไล่ออกมาจากบ้านแล้ว อุซปก็ได้เดินเล่นผ่อนคลายแถวๆบนเขาที่ติดกับชายทะเลกับลูฟี่ พวกเขาต่างคุยถึงเรื่องราววต่างๆมากมาย จนในที่สุดอุซปได้บังเอิญไปเจอคุระฮาโดลยืนคุยกับใครคนหนึ่ง เขาตั้งใจฟังจนจับใจความได้ว่า คุระฮาโดลแท้จริงแล้วเป็นโจรสลัดที่ชื่อว่ากัปตันคุโระและคนที่คุยด้วยก็เป็นโจรสลัดมีชื่อว่า จังโก้ พวกเขาตกลงกันไว้ว่าจะโจมตีหมู่บ้านในช่วงเวลาเช้ามืดและในแผนการณ์นี้พวกเขาจะสังหารคุณหนูซายะและฮุบเอาสมบัติทั้งหมดมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงทำให้อุซปตกใจมาก จนได้พลาดท่าทำเสียงดังขึ้นมาจนทั้ง2คนนั้นรู้ตัว จังโก้จึงใช้วิชาสะกดจิตของตัวเองโจมตีลูฟี่กับอุซป เป็นเหตุให้ลูฟี่โดนสะกดจิตจนหลับตกไปข้างล่างแน่นิ่งทำให้กับตันคุโระเข้าใจว่าลูฟี่เสียชีวิตลงแล้ว เขาจึงหันมาเห็นอุซปแต่แทนจะสั่งให้ลูกน้องล่าตัวอุซป เขากับปล่อยให้อุซบหนีไป เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าอุซปจะพูดอย่างไรชาวบ้านทั้งหมดก็ไม่มีใครเชื่อเขาแน่นอน
หลังจากที่รู้ความจริงเกี่ยวกับคุระฮาโดลแล้ว อุซปจึงรีบวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อเตือนให้พวกชาวบ้านต่างๆเข้าใจว่าคุระฮาโดลแท้จริงแล้วเป็นโจรสลัด เป็นไปอย่างที่กัปตันคุโระคิดไว้ ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรพวกชาวบ้านทั้งหลายก็ไม่มีใครเชื่อในคำพูดของอุซปเลย อีกทั้งพวกชาวบ้านยังเข้ามาต่อว่าอุซปต่างๆนาๆว่า อุซปตกต่ำถึงขนาดต้องใส่ร้ายคนอื่นแล้วหรอ เขาจึงถูกพวกชาวบ้านต่างไล่ให้ออกไปจากหมู่บ้าน ถึงแม้จะถูกชาวบ้านไล่ออกไปมากแค่ไหน อุซปก็ยังไม่ทิ้งความพยายามที่จะช่วยเหลือทุกคน โดยเฉพาะซายะที่เป็นเป้าหมายหลักของกัปตันคุโระ อุซปจึงได้ไปที่บ้านและพยายามเตือนซายะเกี่ยวกับคุระฮาโดล แต่ซายะกับไม่เชื่อเธอยังเสียใจมากที่อุซปกลายเป็นคนไม่ดีที่ใส่ร้ายคนอื่นแล้วหรือ เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นอุซปเลยไม่มีทางเลือก เขาจึงพยายามที่จะพาซายะหนี ในทันใดนั่นเอง ในช่วงที่ชุลมุนวุ่นวาย แมรี่หนึ่งในพ่อบ้านประจำบ้านของคุณหนูซายะได้เข้ามาช่วย เขาได้หยิบปืนขึ้นมายิงใส่อุซปเพราะเข้าใจว่าอุซปกำลังจะทำร้ายคุณหนู จึงทำให้อุซปได้รับบาดเจ็บจนต้องหลบหนีไปก่อน
หลังจากที่เขาออกมาจากบ้านของซายะแล้ว เขาได้เดินมาจนเจอกับพวกของกลุ่มลูฟี่ เขาจึงได้คุยและเล่าให้พวกลูฟี่ฟังถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นว่า พวกชาวบ้านไม่เชื่อในคำพูดของเขาเลย แต่ถึงทุกคนจะไม่เชื่อในคำพูดเขาก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงชาวบ้านทั้งหมดในหมู่บ้านนี้เป็นสิ่งที่เขารัก เขาจะต้องปกป้องให้ได้ ถึงแม้เขาจะสู้ด้วยตัวคนเดียวก็ตาม คำพูดนี้ของอุซปทำให้ลูฟี่ โซโล นามิ รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงได้อาสาที่จะช่วยเหลืออุซปเอง
การต่อสู้ระหว่างกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกับกลุ่มโจรสลัดคุโระจึงได้เริ่มขึ้น ด้วยแผนการณ์ของอุซปที่เมื่อพวกนี้ขึ้นฝั่งมาเขาจะเล่นงานพวกมัน ก่อนที่จะเข้าถึงหมู่บ้านเขาได้วางกับดักเอาไว้มากมายที่ทางขึ้นจากชายหาด แล้วเฝ้ารอจนเวลาเช้าที่พวกนี้จะบุกขึ้นมาได้มาถึง แต่ก็กลับไร้วี่แววจากพวกนั้นว่าจะมาทางนี้เลย ทันใดนั้นอุซปจึงคิดได้ว่าหรือพวกนั้นจะขึ้นมาอีกฝั่งหนึ่งที่ไม่ใช้ที่นี่ ทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องรีบวิ่งไปอีกฝั่งโดยทันที เกิดเป็นจังหวะซิทคอมขึ้นมายังไงยังงั้น แต่ไม่ว่าจะผิดแผนทีแรกไปอย่างไร ในที่สุดพวกเขาก็สามารถไปถึงและต่อสู้ป้องกันไม่ให้พวกโจรสลัดขึ้นฝั่งไปที่หมู่บ้านได้ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด จนในที่สุดเวลาได้ล่วงเลยไปเป็นเวลานานแล้ว พวกโจรสลัดก็ไม่สามารถที่จะบุกขึ้นฝั่งได้ จนกระทั่งกัปตันคุโระของพวกเขาได้ปรากฎตัวขึ้นมา พร้อมทั้งโมโหลูกน้องทั้งหมดที่ทำงานไม่ได้เรื่อง จนแผนของเขานั้นเสีย เขาจึงได้แสดงพลังของเขาออกมาเพื่อจะสังหารพวกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทิ้งทั้งหมดด้วยตัวของเขาเอง
การต่อสู้ในยกที่สองระหว่างกัปตันคุโระและกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางจึงได้เริ่มขึ้น การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด กัปตันคุโระได้แสดงฝีมือออกมาอย่างมากมาย เขาได้ใช้ทุกเทคนิคทุกวิชาที่ตัวเขามี หวังที่จะสังหารลูฟี่ให้ได้ แต่ไม่ว่าจะใช้อะไรไปเขาก็ไม่สามารถที่จะล้มลูฟี่ลงได้เลย การต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไปจนถึงนาทีสุดท้าย ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลงชัยชนะเป็นของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง กัปตันคุโระได้ถูกจัดการดับฝันอันแสนหวานของเขาลงในทันที
หลังจากที่การต่อสู้จบลง ซายะก็ได้มาขอโทษอุซปว่าเธอรู้ความจริงหมดแล้วว่า คุระฮาโดลนั่นเป็นโจรสลัดและต้องการจะฆ่าเธอและเธอก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เข้าใจอุซปผิดไป อุซปก็ยอมรับคำขอโทษและบอกว่าไม่เป็นไร ทุกคนปลอดภัยก็ดีแล้ว หลังจากนั่น อุซปได้กลับมาอยู่ที่บ้านเขาได้คิดถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น จนได้ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะเดินหน้าทำตามความฝันของเขาจริงๆเสียที เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางออกสู่ทะเล ในขณะที่กำลังเตรียมของอยู่นั้น ทางด้านซายะเองก็ได้ปรึกษากับแม่รี่ว่าจะต้องตอบแทนกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ช่วยเหลือเธอไว้ ด้วยการออกเงินค่าใช้จ่ายในการต่อเรือให้กับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเพื่อให้เป็นของขวัญในการลาจากครั้งนี้
เวลาผ่านไปจนในที่สุดก็ถึงเวลาเดินทางของพวกเขาแล้ว พวกลูฟี่ได้เตรียมตัว เตรียมของต่างๆที่จำเป็นต่อการเดินทาง เมื่อพวกเขาเตรียมของเสร็จแล้วก็ได้เดินทางมุ่งหน้าไปที่ชายหาดและที่ชายหาดนั่นเองพวกเขาก็ได้รับการเซอไพรส์โดยคุณหนูซายะที่ได้มามอบเรือเป็นของขวัญ โดยเรือที่เธอสั่งให้แมรี่ทำให้กลุ่มนั่น เป็นเรือชั้นคานาเวลระดับกลางที่มีหางเสือเรืออยู่ตรงกลาง มีชื่อว่า “โกอิ้ง แมรี่” สร้างความดีใจให้กับกลุ่มหมวกฟางเป็นอย่างมากที่ในที่สุด กลุ่มของพวกเขาก็ได้มีเรือเป็นของตัวเองจริงๆเสียที ทันใดนั้นอุซปก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมา เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเดินทางออกสู่ทะเลเหมือนกัน โดยเขาได้ทำการบอกลาซายะและบอกกับพวกลูฟี่ว่าสักวันหนึ่งเราจะได้พบกันอีกครั้งในท้องทะเล หลังจากที่พูดจบ โซโลก็ได้พูดขึ้นมาว่าเลิกเล่นและขึ้นเรือมาได้แล้ว แถมลูฟี่ก็ยังพูดอีกว่า นึกว่าเป็นพวกเดียวกันแล้วซะอีก จากคำที่ทั้งคู่พูดออกมานี้ทำให้อุซปรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองนั้นได้รับการยอมรับ เขาจึงขึ้นเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางโดยทันที และแล้วการเดินทางเพื่อที่จะเป็นบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของอุซปก็ได้เริ่มขึ้น…….