เต๋า เร็น (Tao Ren)
เกิด 1 มกราคม ค.ศ.1986
อายุ 14 ปี (ในเนื้อเรื่อง)
ราศี มังกร กรุ๊ปเลือด AB
วิญญาณประจำตัว บาซอน
เต๋า เร็น เด็กนักเรียนจากประเทศจีน ฉากหน้าในการมาญี่ปุ่นของเร็นคือการเรียนหนังสือ แต่เป้าหมายที่แท้จริงของเร็นในการมาญี่ปุ่นครั้งนี้คือ มาตามหาข้อมูลการคัดเลือกชาแมนคิงและตามหาวิญญาณที่แข็งแกร่งนำมาเป็นของตน
เร็นเป็นคนที่มินิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองค่อนข้างสูง ที่ไม่ว่าสิ่งใดที่เขาต้องการแล้วเขาก็ต้องนำมาเป็นของตนเองให้ได้ เขามีความั่นใจในฝีมือของตัวเองเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งด้วยความมั่นใจในตัวเองที่สูงของเขาก็สร้างความลำบากใจให้คนอื่นได้อยู่เหมือนกัน แต่ถึงนิสัยเสียของเขาจะดูว่ามีเยอะ แต่ถ้าเกิดได้เป็นเพื่อนกับเขาอย่างจริงๆจะพบว่า เนื้อแท้ของเร็นนั้นเป็นคนที่รักพวกพ้องเป็นอย่างมาก ถ้าเพื่อพวกพ้องแล้วเขาจะช่วยโดยไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นอันตรายแต่อย่างไร และเร็นเองยังคิดว่าโยคือขู่แข่งคนสำคัญที่เขาจะต้องก้าวผ่านไปให้ได้
ชีวิตในวัยเด็ก
ชีวิตในวัยเด็กของเร็นนั้น ก็เหมือนกับชีวิตของเด็กที่เกิดในตระกูลชาแมนทั่วไป ที่ต้องฝึกและเรียนรู้วิชาต่างๆของชาแมน แต่แตกต่างกันที่เร็นเกิดมาในตระกูลเต๋า ตระกูลชาแมนเก่าแก่ของประเทศจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยโลดแล่นอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอดีต แต่ปัจจุบันตระกูลเต๋าถดถอยลงเป็นอย่างมาก ด้วยทั้งสงครามภายนอกและการถูกหักหลังกว่าหลายครั้ง จึงทำให้เวลานี้ตระกูลเต๋า ที่เคยยิ่งใหญ่เมื่ออดีต ต้องเก็บตัวเงียบกลายเป็นตระกูลลับ ที่ชาแมนประเทศจีนน้อยคนนักจะรู้จัก ด้วยเหตุนี้เอง เร็นเมื่อตอนเด็กจึงถูกเคี่ยวเข็ญฝึกหนักมาเป็นอยางมาก เพราะตระกูลเต๋าถือว่าเร็นนั้นเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมพลังชาแมนที่มากเป็นพิเศษ อาจจะถือว่าเป็นความหวังในการกอบกู้ตระกูลเต๋าเลยก็ว่าได้
ในทุกๆวัน เร็นต้องถูกฝึกฝนอย่างหนักและโดนปลูกฝังความคิด เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตระกูลตัวเอง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาถูกกระทำมาอย่างไรบ้าง พอนานไปเร็นก็เริ่มเป็นคนต่อต้าน และโกรธแค้นต่อโลกเป็นอย่างมาก เขาเริ่มเย็นชาและไม่สนใจต่อสิ่งต่างๆหรืออะไรรอบตัวเขา ถ้ามีอะไรมาขวางทางเขา เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลหรือเมตตาเลย สำหรับเขาทุกสิ่งล้วนไม่เคยมีค่า
จนกระทั่งเร็นเติบโตขึ้นจนอายุได้13ปี เขาก็เป็นชาแมนเด็กที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เร็นยังบรรลุศิลปะการต่อสู้ชั้นสูงของจีนตั้งแต่ยังเด็ก ต่อให้เขาไม่ใช้พลังชาแมนศัตรูที่สู้กับเขาก็มักถูกเขาจัดการได้อย่างง่ายดาย สำหรับเร็นในตอนนี้ เขาคิดว่าตัวนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากอีกทั้งเร็นได้ทราบถึงคำทำนายที่ส่งต่อกันมา เกี่ยวกับการคัดเลือกชาแมนคิงที่บอกว่า ไฟแห่งเกรทสปิริตจะถูกจุดและโหมกระหน่ำขึ้นที่ประเทศที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือนั่นก็คือญี่ปุ่นนั่นเอง เร็นจึงขออนุญาตและเตรียมเดินทางไปญี่ปุ่นในฐานะนักเรียนต่างชาติ 1เพื่อตามหาข้อมมูลของการคัดเลือกชาแมนคิง 2เขาหวังที่จะพบเจอชาแมนที่มีฝีมือหรือวิญญาณที่มีพลังวิญญาณสูงพิเศษที่เหมาะแก่การจะมาเป็นขุมพลังให้กับตระกูลเต๋า เหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้เร็นเริ่มเดินทางมาที่ญี่ปุ่น
ชีวิตนักเรียน
หลักจากที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่น เร็นก็เริ่มเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในโตเกียว เขาเริ่มออกสืบข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเลือกชาแมนคิง และออกตามหาวิญญาณที่แข็งแกร่งที่จะมาเป็นพลังให้กับตระกูลเต๋าไปในตัว ในขณะนั้นเขาได้บังเอิญไปพบเข้ากับเหตุการณ์เพลิงไหม้ตึกแห่งหนึ่ง และได้เห็นเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุรุ่นเดียวกันกับเขา ฝ่าเพลิงเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยุ่ในตึก เมื่อเร็นเห็นก็สัมผัสได้ทันทีว่าคนนี้เป็นชาแมน แถมยังได้เห็นความสามารถของวิญญาณประจำตัวของเขาที่เป็นซามูไร ก็ยิ่งทำให้เร็นรู้สึกสนใจและอยากได้วิญญาณตนนั้นมาเป็นของตัวเอง จะให้เขาเข้าไปแย่งวิญญาณซามูไรมาเลยตอนนี้ เร็นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่นิสัยของเร็นไม่ใช่พวกฉวยโอกาส เขาจึงปล่อยให้โยและวิญญาณประจำตัวของเขารอดไปในครั้งนี้ เพื่อพักฟื้นร่างกายและค่อยสู้กันอย่างยุติธรรมในวันหลัง เพราะเร็นมั่นใจในฝีมือตัวเองว่า ถ้าเขาต้องการอะไรแล้ว เขาก็สามารถนำมาเป็นของตนได้ทุกเวลา
หลังจากนั้นไม่นาน โชคชะตาก็นำพาพวกเขาทั้งคู่ได้มาพบกัน ในวันหนึ่ง เร็นได้กำลังสั่งสอนกลุ่มวัยรุ่นที่ติดเครื่องยนต์รถทิ้งไว้ ด้วยการทำลายรถพวกนั้นจนยับ โดยเร็นให้เหตุผลว่า รถยนต์ได้ติดเครื่องและปล่อยไอเสียเป็นมลพิษไปบนอากาศทำให้กลุ่มควันนั้น บดบังดวงดาวที่สวยงามบนท้องฟ้า พวกวัยรุ่นต่างโมโหที่รถของตนถูกเร็นตีจนเสียหาย พวกเขาคิดว่าเร็นเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาจึงเข้ามาหวังที่จะทำร้ายเร็น แต่ก็ได้ถูกเร็นจัดการจนแต่ละคนเจ็บตัวน่วมไปหมด
ในขณะนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้รีบขึ้นไปบนรถ เพื่อหวังจะขับรถยนต์พุ่งชนเร็นให้ตาย ภาพที่รถกำลังพุ่งชนนั้น ใครเห็นก็คิดว่าเร็นต้องถูกชนจนได้รับบาดเจ็บหรืออาจจะเสียชีวิตได้เลย ถ้าเป็นคนธรรมดาก็อาจจะแย่ แต่นี่เป็นชาแมนที่สามารถนำเอาพลังวิญญาณและวิญญาณของตัวเองนำมาใช้ได้
เร็นได้ทำการเข้าทรงรวมร่างกับวิญญาณประจำตัวของเขานั่นคือบาซอน ที่เมื่ออดีตเคยเป็นขุนศึกที่มีพลังการต่อสู้ และจัดว่าเป็นขุนศึกที่แข็งแกร่งแห่งยุคของตระกูลเต๋า ด้วยฝีมือของเขา ทำให้สามารถผ่ารถที่กำลังจะพุ่งชนขาดเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสร้างความตกใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่โชคดีของกลุ่มวัยรุ่นที่ถึงแม้รถจะถูกผ่าเป็นสองซีก หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถได้กระโดดออกมาจากรถได้ทัน จึงทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากหรือถึงขั้นเสียชีวิต เหมือนทุกอย่างกำลังจะจบ
ทันใดนั้น เร็นได้ยืนอยู่ตรงหน้าวัยรุ่นคนนั้น เขากำลังคิดที่จะฆ่าวัยรุ่นตรงหน้าทิ้ง เพราะวัยรุ่นคนนี้คิดร้ายต่อตัวเขาก่อน เป็นการไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง สำหรับเร็นมีโทษคือตายสถานเดียว เขากำลังจะสำเร็จโทษวัยรุ่นคนนั้น แต่ก็ได้ถูกโยที่เห็นเหตุการณ์ในเวลานั้นเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน เมื่อเร็นหันไปเห็นเข้า ก็จำได้ว่าคนที่เข้ามาช่วยวัยรุ่นคนนี้ เป็นคนเดียวกับที่เข้าไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในอาคารไฟไหม้เมื่อตอนนั้น และยังเป็นเจ้าของวิญญาณซามูไรที่ตนสนใจอีกด้วย เร็นจึงได้ทำการต่อสู้กับโยในตอนนี้ทันที
การต่อสู้ของทั้งคู่ดำเนินไปเป็นไปอย่างดุเดือด สำหรับบุคคลทั่วไปที่เห็นก็คงคิดว่าเป็นนักเรียนสองคนที่เป็นศิลปะการต่อสู้กำลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถ้าเป็นมุมมองของชาแมนด้วยกันศึกนี้คือการต่อสู้ของนักรบทั้งสอง ถ้าเป็นในชีวิตจริงก็คงเป็นไปไม่ได้ที่นักรบจากจีนยุคโบาณกับซามูไรจะได้มีโอกาสได้มาต่อสู้กันจริงๆ แต่นี่เป็นพลังของชาแมนจึงทำให้การต่อสู้แบบนี้เกิดขึ้นได้ การต่อสู้ดำเนินไปได้สักพัก ในตอนนี้ เร็นได้รู้แล้วว่าคู่ต่อสู้ตรงหน้าของเขาโย ยังมีพลังห่างชั้นกว่าเขาเยอะ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการเข้าทรงได้อย่างสมบูรณ์ เร็นจึงได้แสดงวิธีการเข้าทรงชั้นสูงให้โยได้เห็น ด้วยการเข้าทรงแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น ที่เขาสามารถดึงเอาพลังวิญญาณในการเข้าทรงออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
เพียงครั้งเดียว เร็นก็สามารถจัดการโยจนไปนอนกับพื้นได้อย่างง่ายดาย เร็นเองก็เข้าใจว่าตัวเองชนะแล้ว แต่ทันใดนั้น โยก็ฟื้นขึ้นมา ในช่วงวินาทีที่กำลังจะถูกเล่นงาน อาบิดามารุได้ใช้พลังของตัวเองเบี่ยงการโจมตีนั้นได้ทัน ซึ่งการกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของวิญญาณซามูไรตนนี้ จนขนาดที่เร็นยิ่งอยากที่จะได้มาครอบครองมากขึ้นไปอีก เร็นจึงเสนอให้โยมอบวิญญาณของอาบิดามารุให้แก่ตนเพื่อแลกกับชีวิตของตัวเอง แน่นอนโยไม่ยอมแลก อีกทั้งยังบอกอีกว่า เขาจะส่งอาบิดามารุไปสู่สุขติก่อน ก่อนที่เร็นจะจัดการเขาได้ ซึ่งถ้าโยทำแบบนั้น เร็นจะไม่มีวันได้วิญญาณอาบิดามารุมาครอบครองเป็นแน่ เร็นจึงได้รีบพุ่งเข้าโจมตีโยในทันที เพื่อที่จะปลิดชีพโย ก่อนที่โยจะส่งวิญญาณของตนไปสู่สุขติ
แต่โยที่ในเวลานี้ เขาไม่หน้าจะมีพลังเหลือแล้ว แต่เขากับสามารถเข้าทรงรวมร่างกับอาบิดามารุได้ อีกทั้งการเข้าทรงในครั้งนี้เขากับรับการโจมตีของบาซอนได้ จนเร็นรู้สึกแปลกใจและได้คิดแวบหนึ่งว่า หรือโยจะเข้าทรงได้ร้อยเปอร์เซ็นแล้ว แต่ไม่นานเร็นก็ได้สลัดความคิดนั้นทิ้งในทันที เพราะเป็นไปไม่ได้ที่โยจะเข้าทรงได้สมบูรณ์ในเวลาอันสั้น เร็นจึงได้ตั้งใจและรวบรวมพลังวิญญาณในการเข้าทรงร้อยเปอร์เซ็นอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาหวังที่จะปิดชีวิตโยในการโจมตีครั้งเดียว
การต่อสู้ตัดสินของทั้งคู่ก็ได้เริ่มขึ้น เร็นได้โจมตีและคิดว่าเขาต้องชนะ แต่ผิดคาด คราวนี้โยได้สวนกลับมาด้วยพลังวิญญาณการเข้าทรงแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเหมือนกันกับเร็น แถมของโยในตอนนี้ยังเหนือกว่า จึงทำให้เร็นพ่ายแพ้ไปในที่สุด นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกในฐานะชาแมนของเร็นเอง ที่เขากับแพ้ให้กับเด็กหนุ่มที่ใส่เฮดโฟนที่มีความคิดแบบโลกสวยคนนี้ มันทำให้เร็นรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมากในการพ่ายแพ้ครั้งนี้
การเข้าร่วมชาแมนไฟต์
หลังจากที่เร็นแพ้ให้กับโยในวันนั้น มันเป็นการพ่ายแพ้ที่เขาจะต้องจำไปจนตาย และยิ่งเพิ่มความเกลียดชังในตัวโยมากยิ่งขึ้น เขาจึงเริ่มฝึกวิชาการใช้พลังวิญญาณและร่างกายของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่ วันหนึ่งเขาจะต้องเอาคืนอาซาคุระ โยให้ได้ และยิ่งพี่สาวของเขาเองเต๋า จุน ยังไปแพ้ให้กับโยอีก ก็ยิ่งสุมไฟความแค้นนี้ของเขามากยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากรู้ข่าวพี่สาวของเขาแพ้ให้กับโย เร็นก็ได้เดินทางกลับบ้านพร้อมทั้งฝึกฝนตัวเองเพิ่มขึ้น ตอนนี้เป้าหมายอันดับหนึ่งของเขาคือการล้มโยให้ได้ เมื่อดาวหางฝาแฝดได้เดินทางผ่านมายังโลกแล้ว ก็เป็นสัญญาณตามคำทำนายถึงการคัดเลือกราชันย์แห่งดวงวิญญาณทั้งมวลหรือก็คือชาแมนคิง ที่จะมีขึ้นทุกๆ500ปีและการจัดครั้งนี้ ก็จะมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น
ในเวลานี้ เร็นได้แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนขึ้นเป็นอย่างมาก เขาพร้อมแล้วที่จะจัดการโยในศึกครั้งนี้ เร็นจึงได้เดินทางกลับมา เขาได้เข้าร่วมบททดสอบและสามารถเอาชนะหนึ่งใน10ผู้คุมกฎของเผ่าปัจน์อย่างโคมลงได้ และได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในครั้งนี้
กฎการแข่งขันของชาแมนคิงคือ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องต่อสู้ทั้งสิ้น3ครั้งและถ้าชนะได้2ครั้งเขาจะเข้าสู่รอบต่อไป ซึ่งเร็นก็ได้สามารถเอาชนะในการต่อสู้ครั้งที่1 ส่วนในการต่อสู้ครั้งที่2นั้นเป็นนัดที่สำคัญ เพราะเป็นการต่อสู้คู่สุดท้ายในการแข่งขันคัดเลือกครั้งนี้ และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือ อาซาคุระ โย การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้นัดล้างตาครั้งสำคัญสำหรับตัวเร็น ไม่มีการต่อสู้ครั้งไหนที่เขารู้สึกดีใจเท่ากับการต่อสู้ครั้งนี้อีกแล้ว เร็นจึงตั้งหน้าตั้งตารอคอยการต่อสู้ครั้งนี้อย่างมาก
จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาการต่อสู้ของพวกเขาทั้งคู่ โชคชะตาได้พาพวกเขากลับมาสู้กันอีกครั้ง ในครั้งนี้เร็นไม่ได้มีท่าทีดูถูกโยเหมือนครั้งแรกที่ผ่านมา ในตอนนี้เหมือนเขาโตขึ้นกว่าแต่เดิมมีความเป็นผู้ใหญ่และยังยอมรับในตัวโยว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเขา การต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างแสดงพลังที่ตัวเองได้ไปฝึกฝนมา เร็นเองก็แข็งแกร่งกว่าแต่เดิมมากมายและโยเองก็เช่นกัน ในตอนนี้พลังของทั้งคู่นั้นต่างมีความแข็งแกร่งเท่ากัน ไม่มีใครอ่อนหรือด้อยกว่าใครเลย จะเปรียบว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้นัดสำคัญนัดหนึ่งก็ว่าได้
จนกระทั่งการต่อสู้ดำเนินไปถึงช่วงสุดท้าย เร็นได้ตัดสินใจทุ่มพลังวิญญาณทั้งหมดของเขาออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้และโยเองก็เช่นกัน เขาได้ใช้พลังทั้งหมดในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย การเดิมพันครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ได้เริ่มขึ้น การปะทะกันของพลังรุนแรงและกินวงกว้างเป็นอย่างมาก จนทำให้เกิดกลุ่มควันขึ้นมาบดบังการต่อสู้นั้น
จนเมื่อกลุ่มควันเริ่มจางลง เร็นที่หันหลังในตอนนี้เขาได้ใช้พลังวิญญาณในการโอเวอร์โซลของเขาจนหมดสิ้นแล้ว ตามกฎการแข่งขันถ้าใครไม่เหลือพลังวิญญาณแล้ว คนผู้นั้นจะถูกตัดสินว่าแพ้ทันที เร็นเองในตอนนี้ ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ เขารู้สึกว่าหัวใจเขาในตอนนี้ รู้สึกปรอดโปร่งเป็นอย่างมาก ความเคียดแค้นต่อโยในตอนแรก บัดนี้ได้มลายหายไปจนสิ้น เร็นยอมรับในความพ่ายแพ้นี้อย่างสุดหัวใจ ในขณะที่เร็นยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว โยเองก็ได้หันมาเพราะเขาเองตอนนี้ก็พลังหมดแล้วเหมือนกัน นั่นก็แสดงว่าเขาก็มีสิทธิ์แพ้เหมือนกันสิ ซึ่งการที่โยพลังหมดเหมือนกับเขา ทำให้เร็นรู้สึกช็อคเป็นอย่างมาก จนคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบอย่างไรในเมื่อทุกคน พลังหมดพร้อมกัน
จนในที่สุดกรรมการของเผ่าปัจน์ได้ออกมาตัดสินว่าเสมอกันและให้ทั้งคู่ผ่านเข้ารอบ การตัดสินนี้ทำให้ทั้งคู่รู้สุกดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโยที่ดีใจมากกว่าใครที่เขาสามารถผ่านเข้ารอบแล้ว เพราะถ้าเขาแพ้เขาจะถูกแอนนาฆ่าอย่างแน่นอน เมื่อชนะแล้วก็ต้องมีการฉลองและโยก็ได้ชวนเร็นไปร่วมงานนี้ด้วยไม่ใช้ฉลองเฉพาะเขาแต่ก็ฉลองให้เร็นด้วย ความใจดีและมีเมตตาของโยนี้ เริ่มทำให้จิตใจที่เย็นชาของเร็น เริ่มที่จะเปิดออก เขาเริ่มที่จะเปิดใจยอมรับในตัวของโย
ในเวลานี้ทั้งคู่ต่างกินดื่มฉลองถ้าไม่บอกว่าเมื่อก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตกัน ก็คงไม่มี่ใครเชื่อ เพราะภาพตอนนี้ทั้งคู่เหมือนกับเพื่อนรักสนิทกันมาเป็นเวลานาน ดั่งคำพูดหนึ่งว่า ผู้ชายถ้าได้แลกหมัดกันซักครั้ง ก็จะกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้ ในเวลานี้เร็นได้รู้สึกมีความสุข เขาไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป เขาสามารถพูดออกไปได้แล้วว่า ในตอนนี้เขามีเพื่อนแล้ว….
*หลังจากนั้น เร็นก็เดินทางกลับบ้านเพื่อที่จะไปสะสางเรื่องราวของเขากับตระกูลทั้งหมด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้ถูกปลูกฝังถึงความเกลีดชังต่างๆที่มีต่อโลก จนลืมไปแล้วว่าชีวิตนั้นมีความสุขมากแค่ไหน และในเวลานี้เขาได้รู้ความหมายนี้จากโยแล้ว เขาพร้อมจะกลับไปเพื่อเผชิญหน้ากับพ่อของเขา เต๋า เอ็นแล้ว ในเหตุการณ์การ การต่อสู้และเครียร์กันระหว่างพ่อลูกนี้ โยและคนอื่นๆก็ได้เดินทางไปช่วยเหลือด้วย จนกระทั่งพวกเขาได้เครียร์ปัญหาและเปิดใจกันได้ในที่สุด ก็ยิ่งเพิ่มความผูกพันกันในความเป็นเพื่อนของโยกับเร็นและยังทำให้เร็นสามารถสนิทกับคนอื่นๆมากขึ้นอีกด้วย*
ราชันย์แห่งภูต เต๋า เร็น (Shaman King)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending