By AI AI
คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่14
บทที่14 เมื่อชุดดำจูโจม ep. 2
” อย่าดีเกินไป อย่ายอมเกินไป เพราะบางคนเขาไม่ได้คิดว่าเราดี แต่ เขามองว่าเรา โง่ “
*ถึงเวลาที่ต้องจำแนกห้องใหม่แล้ว ตอนนี้ผมได้อยู่ห้อง 2/5 ซึ่งคิดว่ามันต้องดีต้องสบาย เพราะมีทั้งพี่เล็กและเพื่อนๆน้องๆที่กินอยู่ในบ้านเดียวกันหลายคน แต่แล้วสิ่งที่ผมคิดมันยังห่างอยู่อีกไกลโข เพราะว่าอันที่จริงแล้ว บ้านเราไม่ได้มีบทบาท
หน้าที่ในห้อง 2/5 เลย และที่สำคัญดันไปตบปากรับคำไอ้แว่น ว่าจะหาที่นอนที่ดีๆให้ อุตส่าห์โชว์พาวเวอร์ซะดิบดี ไหนมาตกม้าตายได้ เหนื่อยใจ.*
รู้สึกเซ็งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ที่ อะไรๆมันไม่เป็นอย่างที่คิด สิ่งนี้คือข้อเสียของผม พออะไรมันคลาดเคลื่อน หรือ สะดุด ผมจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที และ ถ้าตอนนั้นมีใครมาสะกิด อารมณ์เข้านะ รับรองได้แอนตาซินจ่าย เข็มละ500 ไม่ไหวแน่นอน แต่มันคือเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้คงเป็นเพราะเราโตขึ้น ความยับยังชั่งใจเลยเพิ่มขึ้นตามอายุ ก็เลยเลือกขออยู่เงียบๆดีกว่า ส่วนไอ้แว่นมันคงได้แต่ทำใจ เพราะขนาดผมยังไม่ค่อยสบายเลย นึกแล้วก็ขำตัวเอง ออกตัวมาเต็มที่ สุดท้ายคว่ำยังหมา และ ส่วนใหญ่นักโทษทำอะไรกันตอนอยู่บนห้อง พวกที่มีที่นอนและสามารถนอนได้ส่วนใหญ่ จะนอนกันมากกว่า ผมเองก็เป็นนึงคนที่อยากขึ้นห้องมาสักพักก็นอน มันดีที่สุดแล้ว ส่วนใครมีแต่ที่นั่ง ก็ ต้องซัดยาวตั้งแต่ขึ้นห้องมา
ยันทีวีปิด ก็คือ 21.00น.เรามาลองนึกดูกันนะครับ ว่าคนคนนึง นั่งขัดตะหมาดทุกวัน เป็นเวลาวันละ 6 ชั่วโมงมันจะเป็นแบบไหน คุณว่าเมื่อยหรือเปล่าล่ะ ในคุกมันเป็นอย่างนั้นจริงครับ ใครสบายก็จะสบายสุดๆ ถ้าใครลำบาก ก็ลำบากสุดๆเช่นกัน
“คุก”มันไม่ได้โหดร้าย อย่างที่ทุกคนเข้าใจกันๆหรอกครับ คุกมันเป็นเพียงแค่สถานที่เอาไว้จองจำผู้กระทำผิด ผู้ที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ โดยปกติชน แต่ที่โหดร้ายนั้นก็คือ คนคุกมากกว่า คนนี่แหละครับโหดร้าย ในคุกไม่มีที่สำหรับ คนอ่อนแอหรอครับ ดังคำกล่าวที่ว่า “อ่อนแอก็แพ้ไป”มันใช้ได้เลยทีเดียว
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น 17:50 น ทีวีที่กำลังเปิดเพลงให้ฟังอยู่ ก็ได้ปิดดับลง ผมดูนาฬิกาและนึกในใจว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงได้ปิดทีวีเร็วไป 10 นาทีนะ ผมยังนึกไม่ทันไร หูของผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาเป็นจำนวนมาก “หมอบ !หมอบ!พวกมึงหมอบลงไปให้หมด นอนคว่ำหน้าเอามือประสานท้ายทอยไว้ นอนอยู่กับที่นิ่งๆห้ามลุกไปไหนถ้าใครไม่ทำตาม เดี๋ยวมึงเจอกู !” เป็นเสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ชุดดำ เป็นชุดที่บุกจู่โจมเรือนจำ ที่ผมอยู่อย่างสายฟ้าแลบ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ชุดดำได้ล้อมลอบประจำหมดทุกห้อง ทั้งลูกกรงด้านหน้าและด้านหลัง เป็นเจ้าหน้าที่ชุดดำจากกรมราชทัณฑ์ จำนวน 80 กว่านายได้รับมอบหมายหน้าที่ ให้มาบุกค้นจู่โจมเรือนจำโดยมุ่งเน้นหา โทรศัพท์มือถือ และ ยาเสพติด อาวุธ สิ่งของต้องห้ามในเรือนจำ ที่ระบุเอาไว้ทั้งเงินสด หนังสือโป๊ ก็รวมอยู่ในนั้นด้วย เจ้าหน้าที่ชุดดำนั้น ก็จะเป็นพวกผู้คุมตามเรือนจำต่าง ๆ ทั่วประเทศ เรือนจำในประเทศไทยนั้นมีประมาณ 140 กว่าแห่ง ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ก็ จะมีผู้คุมมาคอยร่วมปฏิบัติการชุดดำ กับทางกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ชุดดำนั้น ไม่ติดแผ่นป้ายชื่อยศตำแหน่ง จะเป็นเพียงเสื้อชุดจู่โจมสีดำโล่งๆไม่มีโลโก้ อะไรทั้งนั้น
จุดประสงค์ก็คือ เพื่อนิให้นักโทษรู้จักชื่อ เพราะว่าอำนาจหน้าที่ ของชุดดำนั้นสามารถลงโทษ ตี กระทืบ ยังไงก็ได้ ถ้าผู้ต้องขังคนนั้น ได้ กระทำผิด มีสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติดโทรศัพท์มือถือไว้ในครอบครอง อยู่กับตัว มัน ก็ไม่ต่างอะไรจากตำรวจหรอกครับ ตำรวจที่ชอบซ้อมผู้ต้องหา เพื่อให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ยอมรับเพื่อให้บอกว่าของนั้นเอามาจากใคร และ เอามาจากไหนอะไรประมาณนี้ ผู้ต้องขังที่โดนกระทืบ ทุกคนนั้นก็ต้องมีความเครียดแค้นเป็นธรรมดา
ถ้าเจ้าหน้าที่ชุดดำมีป้ายชื่อติดอยู่ อาจจะไม่ปลอดภัย เช่นนั้นชุดของเจ้าหน้าที่ชุดดำ จึงไม่มีชื่อติดอยู่นั่นเอง คราวนี้นักโทษก็ไม่สามารถรู้ได้ ว่าผู้คุมคนนี้ชื่ออะไร เพราะถ้าเกิดนักโทษล่วงรู้ชื่อ ของผู้คุมที่กระทืบตนเอง แล้วล่ะก็ใบสังเก็บผู้คุมคนนั้น คงร่อนไปถึงพวกพ้องข้างนอกแน่นอน
การบุกตรวจค้นของชุดดำนั้น ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจะไม่สามารถ ล่วงรู้ได้เลยว่าชุดดำจะบุกมาวันไหน เมื่อไหร่ เวลาใด ที่ต้องทำแบบนั้นก็เพื่อกันไม่ให้ข่าวรั่วไหล ไปถึงหูนักโทษ เพราะจะทำให้เหล่าบรรดานักโทษ ที่มีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่กับตัว จะนำไปทำลาย ซุกซ่อนไม่ให้หาเจอก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่ชุดดำนั้น ไม่ใช่แต่นักโทษที่กลัว เจ้าหน้าที่ผู้คุมกันเองก็กลัวเช่นกัน
กลัวใน ณ ที่นี้ก็คือ กลัวจะค้นเจอสิ่งของที่ผิดกฎหมาย เจอหนักที่สุดก็คือโทรศัพท์มือถือ และ ยาเสพติด เพราะสิ่งของเหล่านี้ มันสามารถเชื่อมโยงถึงตัวการ ที่นำเข้ามาได้ และ มันสื่อแสดงให้เห็น ถึงการปล่อยปะ ละเลย ไม่ดูแลเอาใจใส่ปล่อยให้นักโทษ ได้แสวงหาสิ่งของต้องห้ามเหล่านี้ นำเข้ามาในเรือนจำได้ ถ้าจุดไหนเจอและ จุดไหนเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบอยู่นั้น ก็ต้องโดนสอบวินัยกันไป ความผิดร้ายแรงของเจ้าหน้า ก็คือโดนย้ายให้ไปอยู่เรือนจำอื่นหรือ ถ้าสืบทราบว่าผู้คุ้มคนไหน มีส่วนร่วม หรือ มีเอี่ยวกับเรื่องนี้ อาจถึงขั้นโดนไล่ออก จากราชการและ ต้องโดนดำเนินคดีความผิด ตามกฎหมายอาญาอีกด้วย และ กฎหมายมันมีอยู่ว่า ถ้าข้าราชการทำผิดซะเอง โทษที่ได้รับ จะคูณ 3 เท่า กว่าคนธรรมดาทั่วไป
ผมในตอนนี้ได้นอนคว่ำหน้าเอามือประสานท้ายทอยทั้งสองข้าง ไม่มีเสียงคุยหรือขยับตัวแต่ได้เกิดขึ้นในห้องเลยบรรยากาศมันช่างเงียบยิ่งนัก “ห้ามคุยกันนะเว้ยถ้ากูเห็นกูตีไม่ยั้ง””เสียงเจ้าหน้าที่ ตะโกนพูดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับเอาไม้กระบอง กระแทกลูกกรงให้ สะดุ้ง กันเล่นๆอีกด้วย
พวกเราต่างมองหน้ากันไป มองหน้ากันมา ต่างใช้สายตาแทนคำพูด ว่า เฮ้ยมึงได้เอายาขึ้นมาหรือเปล่า มีอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ไอ้บี สหายนักเสพตัวยง ส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงให้เข้าใจว่ากูไม่มี หรือ กูไม่ได้เอาขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ต้องระวังตัวเองไว้เป็นดี ระวังไม่ให้ใครเอาอะไร มาซุกไว้ในที่นอนเราเด็ดขาด
เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้ง คราวซวยเข้ามาหาตัว เจ้าหน้าที่ค้นเจอยาเสพติด หรือ โทรศัพท์มือถือ ในที่นอนของคุณ คุณไม่มีทางปฏิเสธได้เลยครับ ว่า ไม่ใช่ของผมครับพี่ ผมไม่รู้ว่าของใคร เจ้าหน้าที่ก็จะถามขึ้นมาว่า แล้วนี่ที่นอนใคร แค่นี้ก็จบแล้วครับอย่างแรกเลย ที่คุณจะโดนก็คือ 1 คอมโบชุดใหญ่ทั้งไม้ทั้งตีนประเคนใส่คุณ จะมีกี่คนนั้น ก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ที่แน่ๆที่ผมเคยเห็นมา 1 หลับก่อนทุกคน ถึงจะปลุกขึ้นมาสอบสวนกันอีกที ว่าเอามาจากไหน เป็นของใครยังไง ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เจ้าหน้าที่ชุดดำคือของจริง ไม่ใช่ของเล่น เจ็บจริงอะไรจริง ไม่ใช้สแตนอิน ไม่มีตัวแสดงแทน
ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นไปทีละห้อง ทีละห้อง เสียงไม้กระทบเนื้อดังลั่นอย่างต่อเนื่อง คือเข้าค้นห้องไหน เป็นต้องได้ยิน เสียงคนโดนตีห้องนั้น แล้วจะตามมาด้วยเสียงร้องอันโหยหวนของเหล่าบรรดานักโทษ “โอ๊ย!พี่กลัวแล้วครับ ยอมแล้วครับ ไม่ไหวแล้วครับ “เสียงรองเท้าคอมแบทหัวเหล็ก เตะไปเข้าไป ตามตัวของนักโทษดังเข้ามาในหูของผม เป็นระยะ ระยะ…(โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมีขาวขั้ว โลกเหนือ”
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending
