By AI AI
มหาศึกคนชนเทพ มิเชล นอสตราดามุส (Nostradamus)
มิเชล นอสตราดามุส เป็นตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ในการเข้าร่วมต่อสู้กับฝ่ายเทพ มิเชล นอสตราดามุส เขาเป็นนักทำนายอนาคตที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ในช่วงที่มีชีวิตอยู่เขาเคยทำนายอนาคตเอาไว้อย่างมากมาย ให้แก่ลูกศิษย์ของเขาฟังและคำทำนายเหล่านี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงมากกว่า100ปี นอกจากความสามารถทางด้านการทำนายของเขาแล้ว ความสามารถอย่างอื่นที่เขามียังเป็นปริศนา แต่บรุนฮิลรู้ดีว่านอสตราดามุส เป็นบุคคลที่มีความสามารถที่เหนือกว่านั้นอีกเป็นอย่างมาก และเธอก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถที่จะสู้กับเหล่าทวยเทพได้เป็นอย่างดี และแน่นอนเขาจะต้องชนะ….
ประวัติ แห่งยุค (ฝรั่งเศส)
นอสตราดามุส หรือมีชื่อเต็มว่า มิเชล เดอ นอสเตรอดัม (Michel de Nostredame) เขาเป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างมาก ได้รับการกล่าวขานจากผู้คน ว่าเป็นทั้งแพทย์และนักพยากรณ์ในคนเดียวกัน เขาสามารถทำนายอนาคต และบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น สิ่งต่างๆที่เขาเขียนไว้เมื่อครั้งมีชีวิต พอเวลาผ่านไปกว่า 100 ปี คำทำนายเหล่านั้น ที่เขาได้เขียนไว้ล้วนเกิดขึ้นจริงแทบจะทั้งสิ้น ทุกคนจึงต่างยกย่องให้เขาคือ นักพยากรณ์ชะตาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก
นอสตรามุส เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ที่เมืองแซงต์ เรมี ในครอบครัวนายทะเบียนผู้รุ่งเรืองของเมือง ชีวิตในวัยเด็กของเขาจึงเพียบพร้อมหมดทุกอย่าง ทั้งการศึกษาที่ดี และครอบครัวที่พร้อมจะสนับสนุนเขา ในทุกอย่างที่เขาต้องการ ครอบครัวของนอสตรามุสเอง ก็เป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งครอบครัวของเขาก็มักจะจัดงานเลี้ยงอยู่บ่อยๆ การออกงานช่วยเพิ่มชื่อเสียงและการมีหน้ามีตาในสังคมแก่นอสตราดามุสเป็นอย่างมาก แต่เขากับไม่ค่อยชอบการออกงานสังคมซักเท่าไหร่นัก ตามประวัติเมื่อที่บ้านมีงานเลี้ยง เขาก็มักจะปลีกวิเวกตัวเองมาอยู่คนเดียวอยู่เสมอ เขาชื่นชอบการอ่านหนังสือและใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเฝ้ามองดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า ชีวิตในวัยเด็กของนอสตราดามุส จึงผิดแปลกไม่ค่อยเหมือนกับเด็กในสังคมชั้นสูงคนอื่นๆ ถึงจะไม่ค่อยออกงานสังคม แต่เขาก็ถือว่าเป็นเด็กที่ฉลาดคนหนึ่ง ในส่วนนี้เองที่ช่วยให้พ่อกับแม่ ยังรู้สึกภูมิใจในตัวเขามาก
จนเมื่อนอสตราดามุส อายุได้ 15 ปี เขาก็ได้เข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาที่มหาววิทยาลัย อาวีญง (University of Avignon) วิชาที่เขาเลือกเรียนอยู่ในกลุ่มไตรศิลปศาสตร์ตามแบบแผน คือ ไวยากรณ์วาทศาสตร์ และตรรกศาสตร์ เป็นวิชาที่นอสตราดามุสให้ความสนใจและชื่นชอบมากกว่า วิชากลุ่มจตุรศิลปศาสตร์ คือ เรขาคณิต คณิตศาสตร์ สังคีตศาสตร์ และดาราศาสตร์ แต่โชคร้ายที่เขานั้นเรียนไปได้แค่ 1 ปี กาฬโรคก็ได้ระบาดอย่างหนักในเมืองอาวีญง ส่งผลให้มหาลัยที่เขาเรียนต้องถูกปิดตัวลง นอสตราดามุสจึงต้องจำใจอพยพออกจากเมือง เพื่อหนีโรคออกมา จุดมุ่งหมายของเขาคือการกลับบ้าน แต่ก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัด บ้านเกิดเมืองแซงต์เรมีของเขาก็ถูกกาฬโรคเข้าเล่นงาน หนำซ้ำการระบาดครั้งนี้ก็ได้ฆ่าชีวิตพ่อและแม่ของเขาอีกด้วย จึงทำให้เวลานี้เขาแทบจะไม่เหลือสิ่งใดให้กลับไปอีกแล้ว
นอสตราดามุสจึงเดินทางมาเรื่อยๆ เขาใช้ชีวิตแบบคนไร้บ้าน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามชนบท ในช่วงที่เขา ระหกระเหิน เร่ร่อนอยู่นั้น นอสตราดามุสก็ยังไม่หยุดการศึกษาหาความรู้ เขาจำมาจากหนังสือที่ได้อ่านมาในวัยเด็ก เกี่ยวกับพืชสมุนไพรต่างๆ ในเวลานั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเริ่มศึกษาค้นคว้าสมุนไพรอย่างจิงจัง ในเวลาไม่นานนอสตราดามุสก็ได้ใช้ชีวิต เป็นนักสมุนไพรศาสตร์ หรือ เภสัชกร เขาประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรอยู่ถึง 8 ปี คือตั้งแต่ปีค.ศ1521 จนถึง ค.ศ.1529 ในช่วงเวลาที่เขาประกอบอาชีพเป็นเภสัชกร เขาได้ทำการรักษาคนเจ็บป่วยด้วยสมุนไพรของเขาเป็นจำนวนมาก นานวันเข้าชื่อเสียงและเงินทองของเขาก็มากขึ้น นอสรามุสจึงตัดสินใจนำเงินที่เขาได้จากการทำงาน นำมาต่อยอด ด้วยการส่งเสียตัวเองเรียน และวิชาที่เขาเลือกเรียนครั้งนี้คือ แพทย์ศาสตร์
นอสตราดามุสเลือกเรียนสาขาแพทย์ศาสตร์ระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยมงเปลลีเยร์ (University of Montpellier) เขาเรียนอยู่เป็นเวลาหลายปี แต่ยังไม่ทันจะเรียนจบได้ใบประกาศนียบัตร เขาก็ถูกตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน ที่เขาใช้ในการชำระค่าเรียน ในเวลาต่อมาทางมหาวิทยาลัยจึงทราบว่าเงินที่นอสตราดามุสใช้ในการเล่าเรียนนั้น เป็นเงินที่เขาได้มาจากการทำอาชีพเป็นเภสัชกร ซึ่งในเวลานั้น การทำอาชีพเป็นเภสัชกร ไม่ค่อยได้ถูกยอมรับมากนัก ถือว่าเป็นการทำอาชีพแบบ “การค้าทางหัตถกิจ” (manual trade) ซึ่งมีความผิดตามกฏข้อบังคับของทางมหาวิทยาลัย การกระทำนี้ทำให้ กีโยม รงเดอเล (Guillaume Rondelet) อธิการบดีของมหาวิทยาลัย สั่งปลดเขาออกจากการเป็นนักศึกษาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนไม่จบ แต่ต่อมาผู้คนที่ได้รับการรักษาจากเขา ก็มักจะเรียกว่าเขาว่า หมอทั้งสิ้น รวมถึงเวลาต่อมาทั้งสำนักพิมพ์และสื่อต่างๆ ก็ยกย่องให้เขาเป็น นายแพทย์คนหนึ่งที่เปี่ยมด้วยความสามารถและเมตตา
หลังจากที่ออกจามหาวิทยาลัย นอสตราดามุสก็ได้ใช้ชีวิตด้วยการประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรและควบคู่ด้วยการเป็นแพทย์ ต่อไป มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขาแสดงความสามารถทางด้านการรักษา และการทำนายของเขา ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ไปรักษาเศรษฐีนีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ในช่วงที่กำลังรักษา หล่อนได้เอ่ยถามเขาว่าเห็นหมูที่เลี้ยงไว้ในปราสาทเดินมาด้วยกันสองตัว มีตัวสีขาวและตัวสีดำนั่นไหม ท่านว่าวันนี้พวกเราจะได้รับประทานหมูสีอะไรเป็นมื้อค่ำ นอสตราดามุสกล่าวว่าสีดำ เพราะสีขาวจะถูกหมาป่ากิน เศรษฐีนีลองสั่งให้คนครัวไปฆ่าหมูสีขาวมาทำอาหาร แต่ไม่ทันมันถูกหมาป่าตัวเล็กๆกัดจนตายและลากไป ในที่สุดมื้อค่ำคืนนั้นก็เป็นหมูสีดำจริงๆ และเศรษฐีนีก็รู้ความจริงพร้อมกับทุกคนบนโต๊ะอาหาร ซึ่งทำให้เธอรู้สึกตกใจที่นอสตราดามุส สามารถพูกถึงสิ่งที่จะเกิดได้อย่างถูกต้อง ในเวลาไม่นานนอกจากชื่อเสียงทางด้านการรักษา ชื่อเสียงทางด้านการพยากรณ์ของเขาก็ไม่แพ้เช่นกัน
จนเมื่อเข้าสู่ปีค.ศ. 1550 นอสตรามุสที่เดินทางมายังอิตาลี ในเวลานั้นเขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า เขาจะเปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักพยากรณ์ศาสตร์ เขาจึงเริ่มเขียนกาลานุกรม (almanac) สำหรับปี 1550 ขึ้นเผยแพร่ โดยใช้ชื่อสกุลตนเองเป็นภาษาละตินว่า “Nostradamus” เมื่อนำออกจำหน่ายในครั้งแรก กาลานุกรมของเขาก็ขายดีเป็นอย่างมาก และทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น เขาถูกผู้คนต่างๆมากมาย ต่างติดต่อเข้ามาเพื่อให้เขาทำนายให้แก่ตน ผู้คนในสมัยนั้นต่างยกย่องให้นอสตรามุส เป็นบุคคลที่พิเศษ และต่างปราถนาให้เขาช่วยใช้ ญาณทิพย์พิเศษนี้ ช่วยตรวจดวงชะตาร่วมถึงชีวิตของตน การตรวจหรือการทำนายของเขา จะใช้ให้ลูกค้าส่งมอบวันเดือนปีเกิดที่เขียนลงบนตารางให้สำหรับใช้ทายทัก มากกว่าจะคำนวณตัวเลขเหล่านั้นด้วยตนเหมือนดังที่นักดาราศาสตร์มืออาชีพพึงทำ การทำนายของเขาบ่อยครั้งจะเป็นโคลง 4 พยากรณ์จำนวน 1,000 บท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาฝรั่งเศส โคลง 4 เหล่านี่เองที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังเป็นอย่างมากในยุคนั้น
ด้วยการทำนายและการเขียนกาลานุกรมของเขา ทำให้หลายครั้ง นอสตราดามุสมักจะมีปัญหากับเหล่าบาทหลวงคาทอลิกส์เสมอ เพราะการทำนายของเขาบ่อยครั้งไปขัดกับหลักศาสนา เขายังเคยถูกจับติดคุกอยู่หลายครั้ง เพราะคำทำนายบางบทของเขาสร้างความไม่พอใจให้แก่ศาสนจักร
ต่อมาเขาก็ยังเขียนกาลานุกรม ทำนายเหตุการณ์ต่างๆเอาไว้อีกมากมาย จนกระทั่งในวันที่ 1 กรกฎาคม 1566 นอสตราดามุส ได้ทำนายถึงวันสุดท้ายของตนไว้ว่า คืนนี้เขาจะต้องไปแล้ว และเขาจะไม่ได้อยู่ต่อเพื่อได้เห็นตะวันขึ้น เป็นคำพูดที่เขาพูดไว้กับคนสนิท คำนั้นคือ “at sunrise thou will not see me alive”. (Brief Discours, in: Le Pelletier, volume I, p.26).” ซึ่งแปลว่า “เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เจ้าจะไม่เห็นข้ามีชีวิต”
เป็นอันจบตำนานนักพยากรณ์ นักทำนาย ผู้ที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดของโลก เขาถือว่าเป็นนักพยากรณ์คนแรกของโลก ที่ถึงแม้ตัวจะเสียชีวิตไปนานแล้ว กาลานุกรมรวมถึงหนังสือเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของเขาก็ยังคงอยู่ เป็นเวลากว่า 400 ปี นับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตลง หนังสือของเขาก็ยังถูกตีพิมพ์อยู่จนมาถึงปัจจุบัน เฉลี่ยได้ในทุกๆปี จะต้องมีหนังสือของเขาถูกตีพิมพ์ไม่ต่ำกว่า 100 เล่ม และก็ยังคงไม่มีหมอดู นักพยากรณ์คนไหน ที่สามารถจะมาทำลายสถิติของเขาได้ เพราะเขานั้นถือว่าเป็น นักพยากรณ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของโลกอย่างแท้จริง…
12 คำทำนาย ที่นอสตราดามุส ได้เคยทำนายไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1503-1560 ที่กลายเป็นจริง เป็นคำทำนายที่เขียนกล้าวอ้างดั่งนี้
1.คำทำนายนี้เป็นการทำนายถึงเกี่ยวกับ นโปเลียน
จักรพรรดิองค์หนึ่งจะเกิดใกล้อิตาลี จักรพรรดิองค์นี้จะมีราคาแพงมากสำหรับจักรวรรดิ เมื่อเห็นพวกพ้องของเขาแล้ว คนก็จะพูดว่าท่านเป็นนักฆ่ามากกว่าเจ้าชาย
2.คำทำนายนี้เป็นการกล่าวถึง ฮิตเลอร์
สัตว์ป่าซึ่งบ้าบิ่นเพราะความหิวโหยจะข้ามแม่น้ำ สนามรบส่วนใหญ่จะเป็นการรบต่อต้านสัตว์ป่าตนนี้ เขาจะลากผู้คนไปไว้ในกรงเหล็ก เมื่อคนเยอรมันผู้นี้ไม่ยอมรับกฎหมายใดๆ
3. คำทำนายนี้เกี่ยวกับ ฟรังโก จากคาสติลล์
ฟรังโกจะนำพรรคพวกออกมา ซึ่งพวกทูตไม่เห็นด้วยและสร้างความร้าวฉานขึ้น พรรคพวกของริวิเอรา (ผู้เผด็จการซึ่งฟรังโกมีส่วนช่วยโค่นล้ม) จะอยู่ในกลุ่มด้วย และฟรังโกจะไม่สามารถเข้ามาในอ่าว (หมายถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ได้
4. เป็นคำทำนายที่เกี่ยวกับ หลุยส์ ปาสเตอร์
สิ่งที่สูญหายจะถูกค้นพบหลังจากหลายศตวรรษ (การค้นพบเชื้อโรคในบรรยากาศของปาสเตอร์) คนผู้นี้จะมีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนเทพเจ้า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรครบรอบ (ปี ค.ศ.1889 และเป็นปีเดียวกับที่ปาสเตอร์ได้ตั้งสถาบันปาสเตอร์ขึ้น) แต่ข่าวลืออื่น ๆ จะทำให้เขาเสียชื่อ (หมายถึงการต่อต้านจากวงการแพทย์สมัยนั้น)
5. คำทำนายที่กล่าวถึง สันนิบาตชาติ
สุนทรพจน์ที่ทะเลสาบเลอมัน จะดุเดือดขึ้น วันจะยืดยาวนานไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี แล้วทุกอย่างก็จะพังทลาย เจ้าหน้าที่จะด่าว่าอำนาจที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ของตน
6. คำทำนายที่เกี่ยวกับ สงครามโลกครั้งที่สอง
ไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งทิ้งระยะไม่นานนักจะเกิดความวุ่นวายขึ้นทั้งทางบกและทางทะเล สงครามทางทะเลจะยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา เพลิง สัตว์ (เครื่องมือ เครื่องจักร) จะทำให้เกิดความวุ่นวายหนักหน่วงยิ่งขึ้น
7. คำทำนายที่กล่าวถึง นางาซากิ และ ฮิโรชิมา
ใกล้ท่าเรือและในสองเมืองจะประสบภัยพิบัติอย่างที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน ความหิวโหย โรคภัย จะเกิดขึ้นและผู้คนซึ่งถูกดาบฟาดฟันขับไล่ออกมาจะเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นอมตะ
8.เป็นคำทำนายที่กล่าวถึงรัฐใหม่ หรือก็คือ ประเทศอิสราเอล
รัฐใหม่จะเกิดขึ้นบริเวณซีเรีย จูเดีย และ ปาเลสไตน์ จักรวรรดิป่าเถื่อน (หมายถึงไม่ใช่พวกคริสเตียน) จะแตกสลายก่อนสิ้นศตวรรษของพระอาทิตย์ (ศตวรรษที่ 20)
9. คำทำนายเกี่ยวกับ การสละราชบัลลังก์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8
กษัตริย์อังกฤษซึ่งกำลังจะสิ้นพระชนม์ ตั้งพระทัยมอบราชบัลลังก์ให้กับเจ้าชายหนุ่ม แต่เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์แล้ว ลอนดอนจะตั้งข้อพิพาทกับเจ้าชาย และจะเรียกร้องราชอาณาจักรคืนจากพระองค์ เนื่องจากไม่ทรงยินยอมทำการหย่าขาด ซึ่งเห็นกันว่าไม่เหมาะสม กษัตริย์แห่งเกาะใหญ่น้อยจึงทรงถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์และผู้ที่ไม่ควรได้เป็นกษัตริย์ได้ขึ้นครองบัลลังก์แทน (หมายถึงพระเจ้ายอร์ชที่ 6)
10. กล่าวถึง การเดินทางอากาศ
เมื่อหมดโรคภัยแล้ว โลกจะแคบลง และจะสงบสุขไปเป็นเวลานาน ประชาชนจะเดินทางโดยปลอดภัยในท้องฟ้า ทางบก และทางทะเล และแล้วสงครามก็จะเกิดขึ้นอีก
11. กล่าวถึง สงครามทางอากาศ
ตลอดคืน คนจะคิดว่าตนเห็นพระอาทิตย์ขณะที่เห็นคนครึ่งหมู (นักบินที่ใส่หน้ากากออกซิเจน) จะมีเสียงครึกโครม เสียงหวีดหวิว จะมีการต่อสู้ของสงครามในท้องฟ้า สัตว์ร้าย (นักบิน) จะพูดติดต่อ กันได้
12. คำทำนายที่กล่าวถึง พระเจ้าชาห์ และ โคไมนี
ความอดอยาก และสงครามจะไม่มีวันสิ้นสุดในเปอร์เซีย ความเชื่อมั่นจนเกินไปจะทำให้กษัตริย์ถูกหักหลัง การดำเนินการที่เริ่มในฝรั่งเศสจะยุติที่นั่น และเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าเขาจะต้องตาย
ในส่วนอนิเมะ เรื่องมหาศึกคนชนเทพ
ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพ ก็ได้หยิบยกนำเอาประวัติของ นอสตราดามุส หรือ มิเชล เดอ นอสเตรอดัม นำมาใช้ในการเป็นหนึ่งในตัวละครของมังงะเรื่องนี้ โดยที่เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ทั้ง13 ที่ได้ถูกเลือกให้ลงต่อสู้ ในศึกแรคนาร็อก ยังไม่ปรากฎตัว ว่ามีรูปร่างหน้าตา เป็นแบบใด จะมีเพียงแค่ชื่อ ที่บรุนฮิลได้เสนอไว้ แต่จากประวัติ รวมถึงพลังความสามารถที่เขามี ถึงแม้ดูจะไม่ค่อยมีอะไร เพราะเขาเป็นเพียงแค่หมอธรรมดาคนหนึ่ง แต่ด้วยพลังในการทำนายอนาคตที่ค่อนข้างจะแม่นยำ และเป็นจุดเด่นที่สุดของเขานี้ ก็ทำให้ตัวเขาน่าจะมีพลังบางอย่าง ที่น่าจะแข่งแกร่งซุกซ่อนอยู่ ที่ขนาดทำให้บรุนฮิล ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะให้เขาเข้าร่วมในศึกครั้งนี้ พลังปริศนาที่เขามีอยู่นี่ อาจะเป็นกุญแจ สำคัญที่สามารถนำชัยชนะมาสู่มนุษย์.…
(ข้อมูลข้างต้นรวมถึงพลังของ มิเชล นอสตราดามุส อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กล่าวมาก็ได้ เพราะข้อมูลพลังของเขายังไม่เปิดเผย รวมถึงคู่ต่อสู้ของเขาก็ด้วย แต่ดูจากลักษณะและประวัติความเป็นมา ที่เขาขึ้นชื่อว่าเป็นหมอที่มีความสามารถ และพลังในการทำนายอนาคตที่แม่นยำ ผู้เขียนก็ขอคาดเดาว่า คู่ต่อสู้ของ มิเชล นอสตราดามุส น่าจะเป็นเทพโอดิน บิดาของเหล่าทวยเทพชาวนอร์ส เพราะเทพโอดินนอกจากจะมีพลังในการต่อสู้แล้ว เขายังถือว่ามีพลังในการทำนายอนาคตที่แม่นยำเพิ่มมาอีกด้วย 2 คนแห่งนักพยากรณ์ก็น่าจะมีโอกาสได้มาสู้กัน และศึกครั้งนี้จะต้องสนุกเป็นอย่างแน่ เพราะอาจจะเป็นศึกชี้ชะตาว่าใครจะยืนหนึ่งเรื่องการทำนาย หรือไม่ก็ อาจจะได้สู้กับเบลเซบับ เทพที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่นำพาโรคระบาด นอสตราดามุสก็อาจจะได้สู้กับเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่ต่อสู้เกิดจากการคาดคะเนของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และถ้าผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณครับ..)
มหาศึกคนชนเทพ มิเชล นอสตราดามุส (Nostradamus)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending
