Anime

มหาศึกคนชนเทพ ซูซาโนโอะ (Record of Ragnarok)

มหาศึกคนชนเทพ ซูซาโนโอะ (Susano’o no mikoto)

ซูซาโนโอะ เป็นหนึ่งในตัวแทนฝั่งเทพที่เข้าร่วมศึกในครั้งนี้ ซูซาโนโอะ เป็นเทพที่อยู่ในตำนานเก่าแก่ของญี่ปุ่น(ชินโต) เป็นเทพเจ้าที่เป็นตัวแทนของทะเลและพายุ มีพลังและความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ตามตำนานได้กล่าวถึง วีรกรรมของซูซาโนโอะไว้ว่า ท่านเป็นเทพที่สามารถสังหารงูยักษ์แปดหัวโอโรจิลงได้ ซึ่งการสังหารโอโรจินั้น ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของซูซาโนโอะแล้วว่า เขานั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด จนกระทั่ง กฎแรคนาร็อกได้ถูกประกาศใช้โดยเทพซูส ซูซาโนโอะเอง ก็เป็นหนึ่งในเทพที่ซูสเป็นคนเลือกมาให้เข้าร่วม เพราะเทพซูสมั่นใจในพลังของเทพซูซาโนโอะเป็นอย่างมากว่าจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะซูซาโนโอะนั้น จะต้องนำชัยชนะและมอบบทเรียนนี้ให้แก่เหล่ามนุษย์ได้อย่างแน่นอน…

ประวัติ ตามตำนาน เทพของนิกายชินโต (ญี่ปุ่น)

ซูซาโนะโอะ เทพในตำนานของชาวญี่ปุ่น ที่นับถือพุทธนิกายชินโต ถูกกล่าวถึงว่าเป็นเทพ ที่เป็นตัวแทนแห่งพายุ และ ท้องทะเล มีพลังอำนาจเป็นอย่างมาก สามารถเสกคลื่น ลมพายุ ได้ตามแต่ใจของตนต้องการ 

เทพซูซาโนโอะ เป็นบุตรของมหาเทพอิซานางิ ถือเป็นบุตรตนที่ 3 มีพี่น้องอยู่ 2 ตน คือเทพแห่งพระอาทิตย์ อะมะเทระสุ และ เทพแห่งดวงจันทร์ ทสึคุโยมิ ในตำนานได้กล่าวถึงการกำเนิดของเทพทั้ง 3 ไว้ว่า ในขณะที่เทพอิซานางิ เสด็จกลับมาจากการบำเพ็ญเพียรท่านได้ลงมือชำระล้างตนเองด้วยน้ำศักสิทธิ์ ในระหว่างที่กำลังล้างบริเวณตาซ้าย พลันน้ำตาก็ร่วง ไหลออกมา ในน้ำตานั้นได้ก่อตัวถือกำเนิดเป็นเทพอะมะเทระสุ และเมื่อท่านล้างไปที่ดวงตาข้างขวาก็ได้ให้กำเนิดเทพทสึคุโยมิ และหลังจากนั้นน้ำในจมูกของท่านก็พลันไหลออกมาก่อกำเนิดเป็นเทพซูซาโนะโอะ ในที่สุด

เมื่อเทพทั้ง 3 ถือกำเนิดขึ้นแล้ว มหาเทพอิซานางิ จึงประทานพร และมอบหมายหน้าที่ให้แก่พวกท่านทั้ง 3 โดยที่พี่คนโตเทพอะมะเทระสุ จะมีหน้าที่เป็นตัวแทนแห่งดวงอาทิตย์ คอยนำแสงสว่างมาให้แก่มนุษย์ในยามเช้า และบุตรคนรองเทพทสึคุโยมิ ให้เป็นตัวแทนแห่งดวงจันทร์ คอยมอบแสงสว่างให้แก่เหล่ามนุษย์ในยามค่ำคืน ส่วนบุตรคนสุดท้องเทพซูซาโนะโอะ ให้เป็นตัวแทนแห่งลมพายุและท้องสมุทร คอยทำหน้าที่ดูแลและมอบความสะดวกให้แก่มนุษย์ทุกคน รวมถึงมอบอาหารที่มาจากทะเลแก่มนุษย์ และหน้าที่หลักเลยคือคอยทำการควบคุมดูแลพวกปีศาจไม่ให้ก่อความวุ่นวายหรือทำอันตรายแก่มนุษย์ เมื่อเทพทั้งสามได้ถูกแบ่งหน้าที่การดูแลจากมหาเทพอิซานางิแล้ว พวกท่านก็ออกเดินทางไปยังดินแดนที่ตนได้รับเลือกให้ปกครอง

เทพซูซาโนะโอะ ตามบันทึกตำนานได้กล่าวไว้ว่า นอกจากที่ท่านเป็นเทพแห่งลมและมหาสมุทธแล้ว ในบางครั้งก็มักจะเรียกท่านว่า จ้าวมังกรที่คอยควบคุมทะเล หรือ เจ้าปีศาจที่ควบคุมและปกครองปีศาจทุกตน นอกจากการที่ท่านจะมีพลังอำนาจที่มากเป็นพิเศษแล้ว ท่านยังถือว่าเป็นเทพแห่งความกล้าหาญอีกด้วย ถึงแม้ท่านจะมีความกล้าหาญที่พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นแล้ว ท่านยังถือเป็นเทพที่มีความหัวแข็ง หัวรั้น ไม่ค่อยยอมอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใดๆ  บ่อยครั้งท่านมักจะทำตามใจของตนเองอยู่เสมอ ในการกระทำตามใจตนเองของท่าน ก็มักจะทำให้ท่านต้องทะเลาะกับพี่คนโตของท่าน เทพอะมะเทระสุอยู่บ่อยๆ หนึ่งในวีรกรรมเด่นๆเลย คืองานเลี้ยงแด่เทพอะมะเทระสุ ที่บรรดาเทพต่างๆ มากกว่า 8 ล้านตน ต่างมาร่วมงานเฉลิมฉลองบนสรวงสวรรค์ เทพทุกตนต่างคุกเข่าทำความเคารพต่อเทพอะมะเทราสุทั้งหมด ยกเว้นแต่เทพซูซาโนโอะคนน้องที่ไม่ยอมคุกเข่าทำความเคารพให้แก่เทพอะมะเทระสุ เพราะเทพซูซาโนโอะคิดว่า ตนที่มีศักดิ์เป็นน้องทำไมต้องคุกเข่าทำความเคารพพี่ของตนด้วย และอีกอย่างตนเองก็มีพลังมากกว่าพี่ของตนเทพอะมะเทระสุ จึงยิ่งเพิ่มความมั่นใจและความจองหองให้แก่เทพซูซาโนะโอะ จนทำให้ท่านคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

การกระทำนี่ สร้างความขุ่นเคืองให้แก่ เทพอะมะเทระสุเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่พระองค์เอง แต่บรรดาเทพต่างๆ ก็รู้สึกไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี่ ของเทพซูซาโนะโอะเท่าไหร่นัก เหตุการณ์นี้ได้สร้างความร้าวฉานให้แด่เหล่าบรรดาเทพบนสรวงสวรรค์  วันเวลาผ่านไปมีอยู่วันหนึ่ง เทพซูซาโนะโอะเกิดมีความคิดถึงพระมหามารดาเทพอิซานางิขึ้นมา ในความคิดถึงนั้นได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่ตัวท่านเป็นอย่างมาก ท่านจึงอยากที่จะมาพบกับพี่ของตนเทพอะมะเทระสุ เพื่อบอกกล่าวถึงความในใจนี่

แต่ยังไม่ทันจะถึงหน้าบัลลังก์ของเทพอะมะเทระสุ ท่านก็ได้ถูกเทพที่คอยอารักขาต่างขับไล่ออกมา เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเทพซูซาโนะโอะจะมาทำการปฎิวัติยึดบัลลังก์จากเทพอะมะเทระสุ ซึ่งการกระทำนี่สร้างความรู้สึกไม่พอใจให้แก่เทพซูซาโนะโอะเป็นอย่างมาก พระองค์จึงทรงบันดาลให้เกิดลมพายุ รวมถึงสร้างคลื่นยักษ์ถล่มไปทุกที่ สร้างความเดือดร้อนให้แก่มนุษย์ รวมถึงเหล่าเทพเองก็ด้วย จนถึงขนาดที่พี่ของตนเทพอะมะเทระสุ ต้องออกมาขอร้องให้น้องของตนหยุดการกระทำนี่ แต่ด้วยพลังที่ต่างกันจึงทำให้เทพอะมะเทระสุไม่สามารถเอาชนะและหยุดเทพซูซาโนโอะได้ อีกทั้งกากระทำนี่ของเทพซูซาโนะโอะยังทำให้ ธิดาของตนองค์หนึ่งได้ตกใจจนเสียชีวิตลง ก็ทำให้เทพอะมะเทระสุเสียใจเป็นอย่างมาก พระองค์ได้ร้องไห้ออกมา และหนีหลบเข้าไปในถ้ำสวรรค์ จึงทำให้แสงอาทิตย์ที่ออกมาจากพลังของเทพอะมะเทระสุหายไป

การหายไปของแสงอาทิตย์สร้างความตกใจให้แก่เหล่าเทพต่างๆ เป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่เทพเองที่ตกใจ บรรดามนุษย์ทุกคนต่างก็ตกใจ และรู้สึกสิ้นหวังเช่นกันที่โลกไร้ซึ่งแสงจากอาทิตย์ ทำให้เวลาต่อมาพวกเขาต่างได้รับความดือดร้อนอย่างหนัก จนพวกเทพต่างๆ ต้องรวมตัวกันต่อว่าเทพซูซาโนะโอะอย่างหนัก ว่าความผิดทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือของท่าน 

เทพซูซาโนะโอะเองในเวลานั้นก็รู้สึกเสียใจต่อการกระทำของตน แต่ไม่ใช่เพราะถูกเทพต่างๆบนสวรรค์ต่อว่า แต่เป็นเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาจากพี่สาวของตน เทพอะมะเทระสุต่างหากที่ทำให้ท่านสำนึกผิด ในเวลาไม่นานพระองค์จึงอัปเปหิตัวเอง ลงมายังโลกมนุษย์

 เมื่อลงมายังโลกมนุษย์ พระองค์ก็ทรงออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ทั่วเกาะญี่ปุ่น จนได้มาหยุดแวะพักที่ดินแดนอิซุโมะ (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดทตโตะริ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาคชูโคกุ) ณ ที่นี่เอง ที่พระองค์ได้ทรงพบรักเข้ากับเจ้าหญิงคนหนึ่งแห่งดินแดนอิซูโมะ นามว่าท่านหญิงคูชินะดะ การพบเจอกันของทั้งสอง เสมือนกับพรหมลิขิต เพียงเวลาไม่นานทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่สามารถจะสมหวังได้ เพราะเจ้าหญิงคนนี้ จะต้องถูกนำไปเป็นเครื่องสังเวยให้แก่ ยามาตาโนะ โอโรจิ อสูรย์หรือมังกรดึกดำบรรพ์ที่มีหัว 8 หัว และหาง 8 หาง ที่มีอิทธิฤทธิ์และพลังอำนาจเป็นอย่างมาก ในอดีตกล่าวกันว่าเพียงแค่ โอโรจิ สบัดหางก็สามารถทำลายเมืองหนึ่งเมืองได้อย่างง่ายดาย ความน่ากลัวของอสูรย์ตนนี้แพร่ขยายออกไปทั่วดินแดนอิซูโมะ ผู้อาวุโสในอดีตจำใจต้องทำข้อตกลงกับโอโรจิ เพื่อรักษาดินแดนบ้านเกิดไว้ ด้วยการต้องส่งเครื่องสังเวยเป็นผู้หญิงงามประจำเมือง ตระกูลเจ้าหญิงคุชินาดะจึงต้องรับหน้าที่นี่ ผู้หญิงในตระกูลจึงต้องถูกส่งไปเป็นเครื่องสังเวย พี่สาวทั้ง 7 ของเจ้าหญิงก็ได้ถูกส่งไปสังเวยแก่โอโรจิแล้ว และในปีนี้ก็เป็นตาของเจ้าหญิง ซึ่งเมื่อเทพซูซาโนะโอะได้ยินเข้า ท่านก็รีบอาสาช่วยเหลือโดยทันที ถึงแม้ทีแรกทุกคนต่างห้ามท่านไว้ โดยเฉพาะเจ้าหญิงที่ไม่อยากเห็นชายผู้เป็นที่รักต้องไปตายแทนตน แต่ไม่ว่าจะพยยามห้ามเท่าไหร่ เทพซูซาโนะโอะก็ยังยืนกรานที่จะไปจัดการโอโรจิให้ พร้อมทั้งบอกให้เจ้าหญิงเชื่อใจในตัวของเขา

เมื่อออกเดินทางมาจนถึงกระท่อมที่ใช้เพื่อสังเวยแล้ว เทพซูซาโนะโอะ ก็ได้แต่งกายปลอมเป็นเจ้าหญิง และได้นั่งอยู่บนคานในกระท่อม เพื่อพยายามให้เงาของตนมากระทบเข้ากับภาชนะที่ใส่เหล้าไว้ แผนนี้ของท่านคือการหลอกให้โอโรจิโจมตีเข้ามาที่ภาชนะใส่เหล้า เพื่อให้เข้าใจผิดคิดว่าภาพที่เห็นสะท้อนนั้นคือเจ้าหญิง และเมื่อมันโจมตีและพยายามจะกินเจ้าหญิงมันจะต้องเผลอกลืนเหล้าเข้าไปจนเกิดอาการเมาเป็นแน่ และพอเมาได้ที่ก็จะไม่ทันได้ระวังตัวนั่นเอง 

เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม ก็พลันเป็นเวลาที่ ยามาตาโนะ โอโรจิ ได้ตื่นขึ้นมาจากท้องทะเล เพียงไม่นาน โอโรจิก็ได้เอาหัวเข้ามาในกระท่อม และได้เห็นภาพสะท้อนว่าเป็นเจ้าหญิงอยู่ตรงหน้า โอโรจิจึงรีบโจมตีเข้าไปและพยายามกลืนกินเจ้าหญิงในทันที แต่ผิดคาดสิ่งที่โอโรจิกลืนลงไปกับไม่ใช่เจ้าหญิง แต่เป็นเหล้าสูตรพิเศษที่เทพซูซาโนะโอะนำมา เพียงเวลาไม่นาน โอโรจิก็เริ่มมึนเมา ในเวลานี้ เทพซูซาโนะโอะไม่รอช้า ให้อสูรย์ตัวนี้หนีลงทะเลได้ ท่านได้แสดงตนและเข้าไปต่อสู้กับโอโรจิในทันที การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ถึงแม้ในเวลานี่ เทพซูซาโนะโอะจะไม่มีพลังของเทพติดตัวอีกแล้ว แต่ด้วยหัวใจอันกล้าหาญที่ไม่เคยกลัวเกรงต่อสิ่งใด บวกด้วยกับอาการเมาของโอโรจิก็ทำให้ท่านได้เปรียบในการต่อสู้เป็นอย่ามาก ในที่สุดเทพซูซาโนะโอะ ก็สามารถสังหาร อสูรย์ดึกดำบรรพ์ ยามาตาโนะ โอโรจิลงได้ในที่สุด 

เมื่อสังหารโอโรจิลง เทพซูซาโนะโอะก็ได้ชำแระร่างของ โอโรจิและได้พบว่าในท้องของอสูรย์ตนนี้กับมีดาบซ่อนอยู่ ดาบเล่มนี้ชื่อว่า คุซะนะงิ โนะทสึรุงิ ซึ่งเป็นดาบวิเศษที่กล่าวกันว่าสามารถดึงดูดนำพลังสายฟ้ามาใช้ได้ เมื่อได้ดาบเล่มนี้มาแล้ว กปรกับที่พี่สาวของตนเทพอะมะเทระสุออกมาจากถ้ำสวรรค์ เพื่อมอบแสงสว่างให้แก่โลกมนุษย์อีกครั้ง เทพซูซาโนะโอะจึงไม่รอช้าเขาได้สวดอ้อนวอนและแสดงถึงความสำนึกผิด รวมทั้งท่านยังยอมคุกเข่าให้แก่เทพอะมะเทระสุอย่าจริงใจ

นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่เทพซูซาโนะโอะ ยอมคุกเข่าให้แก่เทพอะมะเทระสุ การกระทำนี่สร้างความตื้นตันใจให้แก่เทพอะมะเทระสุเป็นอย่างมาก พระองค์จึงได้ทรงยอมรับความสำนึกผิดนี่จากเทพซูซาโนะโอะ และได้บอกกล่าวยกเลิกโทษความผิดของเทพซูซาโนะโอะ และอนุญาติให้เขากลับขึ้นสวรรค์ได้ แต่เทพซูซาโนะโอะกับปฏิเสธ พระองค์กับร้องขอที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์กับหญิงอันเป็นที่รักของตนที่อิซูโมะต่อจนกว่าจะหมดอายุไข เทพอะมะเทระสุจึงจะอนุญาติให้เทพซูซาโนะโอะอยู่บนโลกมนุษย์ต่อไปได้ และเมื่อหมดอายุไขค่อยกลับมาเป็นเทพอยู่บนสรวงสวรรค์ตามเดิม

หลังจากนั้นเทพซูซาโนะโอะ ก็ได้แต่งงานกับเจ้าหญิงคุชินะดะแห่งอิซูโมะ และได้สร้างพระราชวังบนพื้นที่ของสุงะ ในดินแดนอิซุโมะ ทั้งคู่ต่างได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป

ปัจจุบันนอกจากตำนานที่กล่าวถึเทพซูซาโนะโอะแล้ว ก็ยังมีวัดมากมายที่เป็นที่ประดิษฐานของเทพซูซาโนะโอะ หนึ่งในสถานที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่อิซูโมะมีชื่อว่า “ศาลเจ้าใหญ่อิซูโมะไทฉะ” ที่ตัวศาลเจ้าประกอบไปด้วยรูปวาดต่างๆ มากมาย และรวมถึงเรื่องราวของเทพซูซาโนะโอะ รวมทั้ง การต่อสู้กับอสูรย์ร้าย ยามาตาโนะ โอโรจิ และภายในศาลเจ้ายังประดับดา ไปด้วยลวดลายแกะสลักของเทพต่างๆ ที่เปิดให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาพักผ่อน ขอพร เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิต ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในความสำเร็จ และตำนานที่มีของเทพซูซาโนะโอะ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ตำนานและเรื่องเล่านี้ก็ยังคงอยู่สืบไป…

ในส่วนอนิเมะ เรื่องมหาศึกคนชนเทพ
-ภาพจำลองอนิเมะ-

ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพ ก็ได้หยิบยกนำเอาประวัติของเทพซูซาโนะโอะ นำมาใช้ในการเป็นหนึ่งในตัวละครของมังงะเรื่องนี้ โดยที่เทพซูซาโนะโอะ ถือว่าเป็นตัวแทนของทางฝั่งเทพที่จะลงสู้ในศึกแรคนาร็อก ยังไม่ปรากฎตัวว่ามีรูปร่างหน้าตา เป็นแบบใด จะมีเพียงแค่ชื่อที่เทพซูสได้เสนอไว้ ใน 13 รายชื่อตัวแทนฝั่งเทพ แต่จากประวัติ รวมถึงพลังที่ ท่านถูกเปรียบให้เป็นเทพแห่งลมพายุและท้องทะเล ก็น่าจะเป็นการยืนยันได้ว่า พลังที่ท่านมีต้องมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพลังแห่งการทำลายที่ท่านขึ้นชื่อและเคยสร้างวีรกรรมไว้อีกมากมายตอนที่ท่านยังเป็นเทพที่ชอบเอาแต่ใจตน ก็แสดงถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของท่าน จึงไม่แปลกที่เมื่อกฎแรคนาร็อกถูกประกาศใช้ เทพซูซาโนะโอะจึงเป็นตัวเลือกในระดับแรกๆ เลยที่ขาดไม่ได้ของเทพซูส เพราะเทพซูสนั้น มั่นใจในพลังอำนาจและฝีมือของเทพซูซาโนะโอะเป็นอย่างมาก ว่าท่านนั้นจะนำพาชัยชนะและสอนบทเรียนนี่แก่มนุษย์ได้อย่างแน่นอน…

(ข้อมูลข้างต้นรวมถึงพลังของ เทพซูซาโนะโอะ  อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กล่าวมาก็ได้ เพราะข้อมูลพลังของเขายังไม่เปิดเผย รวมถึงคู่ต่อสู้ของเขาก็ด้วย แต่ดูจากลักษณะและประวัติความเป็นมา ที่เขาขึ้นชื่อว่าเป็น เทพแห่งลมพายุและท้องทะเล ที่มีพลังอำนาจในการทำลายล้างเป็นอย่างสูง และท่านยังขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญและการเสียสละตนเพื่อผู้อื่น รวมทั้งฝีมือในการใช้ดาบของท่านที่น่าจะจัดว่าเป็นระดับสุดยอด ผู้เขียนก็ขอคาดการณ์ไว้ว่า คู่ต่อสู้ที่เทพซูซาโนะโอะต้องเจอ ต้องเป็นกษัตริย์ลีโอไนดัส แห่งสปาตัน เพราะกษัตริย์ลีโอไนดัสก็ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญและการเสียสละ นอกจากนี้กษัตริย์ลีโอไนดัสยังขึ้นชื่อในการต่อสู้แบบป้องกันที่สุดยอดที่สุดที่โลกเคยมี ซึ่งถ้าดูที่นิสัยของทั้งคู่นั้นก็คล้ายกันมาก การต่อสู้ของทั้งสองจะต้องดุเดือดและมันส์เป็นอย่างแน่ เพราะหนึ่งคือเทพที่ขึ้นชื่อเรื่องแห่งการทำลาย ส่วนอีกหนึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกัน การต่อสู้นี่ไม่ใครก็ใครคนใดคนหนึ่งคงจะต้องหายไป!! หรือไม่ เทพซูซาโนะโอะก็อาจจะได้สู้กับซาตาตะ คินโทกิ หรือก็คือ เจ้าหนูคินทาโร่ของเรา เพราะทั้งคู่ก็ต่างเป็นตำนานที่ได้รับการกล่าวถึงเหมือนๆกัน อีกทั้งพลังความสามารถที่ทั้งคู่มี ในตอนที่อยู่บนโลกก็ยังมีประวัติคล้ายกันอีก หนึ่งคือเทพที่สามารถสังหารอสูรย์ร้ายดึกดำบรรพ กับอีกหนึ่งมนุษย์ธรรมดาที่ก็สังหารอสูรย์ยักษ์ได้เหมือนกัน ถ้าทั้งคู่ได้มาเจอกันคู่นี้จะต้องเดือดไม่ต่างจากคู่อื่นเป็นอย่างแน่!!  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่ต่อสู้เกิดจากการคาดคะเนของผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ และถ้าผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณครับ..)

มหาศึกคนชนเทพ ซูซาโนโอะ (Record of Ragnarok)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
2
Happy
1
In Love
2
Not Sure
1
Silly
1

You may also like

Anime

แนะนำอนิเมะ Murai no Koi : Murai in Love (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “มุราอิ” เด็กหนุ่มชั้นมัธยมปลายผู้เงียบขรึมที่กำลังตกหลุมรักครูสาวแสนสวย “ทานากะ อายาโนะ” เข้าอย่างจัง เขาจึงพยายามที่จะจีบและบอกรักเธออย่างตรงไปตรงมา ทว่าอายาโนะกับไม่มีทีท่าจะหวั่นไหวหรือรู้สึกเขินอายแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วเธอนั้นชอบผู้ชาย 2D ในเกมเสียมากกว่า!
Anime

แนะนำอนิเมะ Chi – Chikyuu no Undou ni Tsuite : สุริยะปราชญ์ ทฤษฎีสีเลือด (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวเริ่มขึ้นในยุโรปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่ศาสนาและความเชื่อในพระเจ้ามีอิทธิพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก จนทำให้ความคิดต่าง ๆ ที่ขัดต่อคำสอนในพระคัมภีร์กลายเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะทฤษฎีดาราศาตร์ที่กล่าวว่า “โลกไม่ใช่ศูนย์กลาง แต่เป็นดวงอาทิตย์ต่างหากที่เป็นศูนย์กลาง” กลายเป็นความคิดของพวกนอกรีตไปโดยปริยาย
Anime

แนะนำอนิเมะ Kekkon Suru tte, Honto Desu ka? : แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ? (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “โอฮาระ ทาคุยะ” และ “ฮอนโจจิ ริกะ” สองเพื่อนร่วมงานที่รักสันโดษพวกเขานั้นเป็นคนที่เข้ากับใครไม่ค่อยเก่ง รักความสงบและชื่นชอบการได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง สำหรับพวกเขาแล้วชีวิตก็แค่ทำงาน เก็บเงิน และใช้ชีวิตโดยไม่สุงสิงกับใคร ทว่าในวันหนึ่งบริษัทที่พวกเขาทำงานอยู่นั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะเปิดสาขาใหม่ที่ต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการคัดเลือกบุคลากรครั้งใหญ่!

Comments are closed.

More in:Anime

Anime

แนะนำอนิเมะ Tsuma, Shougakusei ni Naru. (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของครอบครัว “Niijima” อันแสนอบอุ่นที่ประกอบไปด้วย Keisuke(พ่อ) , Takae(แม่) และ Mai ลูกสาวที่แสนน่ารักถึงจะมีบางครั้งที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่พวกเขาก็เป็นครอบครัวที่คอยดูแลซึ่งกันและกันอยู่เสมอ จนอยู่มาวันหนึ่ง Takae ก็ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลงกระทันหัน!
Anime

แนะนำอนิเมะ Kimi wa Meido-sama : เมดสาวนักฆ่า (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “โยโกยะ ฮิโตโยชิ” เด็กหนุ่มมัธยมปลายแสนธรรมดาที่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับเมดสาวแสนลึกลับที่จู่ ๆ ก็โผล่มาหน้าบ้านพร้อมกับบอกว่า “ช่วยจ้างฉันได้ไหม” โดยที่เธอนั้นมีความสามารถพิเศษทางด้านการต่อสู้และลอบสังหาร ทว่าเรื่องงานบ้านงานเรือนเธอกับเป็นมือใหม่ที่ฝีมือเข้าขั้นเลวร้ายสุดๆ!
Anime

แนะนำอนิเมะ Ao no Hako : กล่องรักวัยใส (ตัวอย่าง/เนื้อเรื่อง/แนะนำตัวละคร)

เรื่องราวของ “อิโนมาตะ ไทกิ” เด็กหนุ่มสมาชิกชมรมแบดมินตันที่ในขณะนี้เขากำลังแอบชอบ “คาโนะ จินัตสึ” รุ่นพี่สาวแสนน่ารักหัวหน้าชมรมบาสเกตบอลหญิง และด้วยความขยัน มุ่งมั่น เอาจริงเอาจังของรุ่นพี่ก็ทำให้ไทกิพยายามอย่างหนักที่จะฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้เข้าใกล้เธอมากขึ้น