มหาศึกคนชนเทพ เฮอร์มีส (hermes)
เฮอร์มีส เขาเป็นหนึ่งในเทพสูงสุดทั้ง 12 แห่งโอลิมปัสตามตำนานเทพกรีก เป็นเทพที่อยู่เคียงข้างเทพซูส รับหน้าที่เป็นทั้งที่ปรึกษา และผู้ถ่ายทอดคำสั่งโดยตรงจากเทพซูส นอกจากนี้ในบางครั้ง เฮอร์มีสก็ยังควบตำแหน่งพ่อบ้าน ไปจนถึงนักดนตรีส่วนตัว จึงเปรียบเฮอร์มีสเทพแห่งการสื่อสาร ได้กับ ซุปเปอร์พ่อบ้านได้เลย แต่ถึงจะดูเหมือนกับไม่มีอะไร แต่เฮอร์มีสเองกับมีพลังบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ ที่เทพองค์อื่น ๆ ยังไม่เคยมีใครล่วงรู้ถึงพลังนั้น นอกเสียจากเทพซูสเอง ที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเฮอร์มีสดี…
ประวัติ ตามตำนาน เทพของชาวกรีก
เทพเฮอร์มีส (Hermes) หรือ เมอร์คิวรี่ (Mercury) เป็นเทพบุตรของมหาเทพซูส กับ นางเมยา (Maia) เป็นเทพที่มีผู้คนรู้จักมากมาย ส่วนหนึ่งมาจากรูปร่างของเฮอร์มิสที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ เปรียบดั่งเทพบุตรหนุ่มจอมทะเล้น หรือ ไม่ก็อาจจะเป็นของวิเศษอย่างหนึ่งของเทพเฮอร์มิสนั่นคือ เกือกมีปีก หรือ รองเท้าที่มีปีกอยู่บนรองเท้า เปรียบได้กับเครื่องหมายที่แสดงถึงความเร็ว นอกจากรองเท้าแล้ว ก็ยังมีหมวกที่มีปีกใหญ่และไม้เท้าวิเศษที่ปลายยอดมีงู 2 ตนพันอยู่บนยอด ด้วยสิ่งวิเศษนี่เองที่ทำให้เทพเฮอร์มิสสามารถเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่ เปรียบได้ดั่ง “เร็วอย่างใจคิด” เพียงแค่คิดท่านก็สามารถไปถึงที่หมายแล้ว
หมวกและรองเท้ามีปีกของเทพเฮอร์มีสนั้นถูกเรียกว่า เพตตะซัส (Petasus) และ ทะลาเรีย (Talaria) เป็นของที่ได้รับประทานจากเทพซูสพระบิดาของพระองค์ และส่งมอบหน้าที่ให้เทพเฮอร์มีสเป็นเทพพนักงานสื่อสารประจำพระองค์ ส่วนไม้เท้าวิเศษที่เรียกว่า แคดดูเซียส (Caduceus) แต่เดิมเป็นของเทพอพอลโล ที่ใช้ในการต้อนฝูงวัววิเศษในครอบครองของตน
ครั้งหนึ่งเทพเฮอร์มีสได้แอบขโมยวัวของ เทพอพอลโลนำไปซ่อนด้วยความนึกสนุกและอยากที่จะแหย่พี่ชายตนเล่น เมื่อเทพอพอลโล่รู้ว่าวัวของตนนั้นหายไป ก็พลันสงสัยกันว่าใครหนอ ที่สามารถแอบเข้ามาในสวนของตนได้โดยที่ตนไม่ระแคะระคายเลย ไม่นานพระองค์ก็ค้นพบว่า แท้จริงแล้วขโมยคนนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เฮอร์มีส เทพที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดในโอลิมปัส เมื่อนั้นเทพอพอลโล่จึงได้รุดไปทวงถามให้เทพเฮอร์มิสอนุชาตนคืนวัวให้แก่พระองค์เสีย
เทพเฮอร์มีสในตอนนั้นยังถือว่าเป็นเทพที่เยาว์วัยนัก พระองค์ทรงมีความนึกคิดสนุกและทะเล้น จึงได้ตอบกลับพี่ชายตนอย่างหน้าตาเฉยว่า
“วัวอะไรที่ไหนกัน เราไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยิน”
การตอบคำถาม ด้วยสีหน้าที่ทะเล้นและปฎิเสธ ทำให้เทพอพอลโล่โมโหเป็นอย่างมาก ถึงแม้พระองค์จะบีบคั้นเทพเฮอร์มีสมากแค่ไหน เทพเฮอร์มีสก็ไม่ยอมรับว่าตนนั้นได้ขโมยวัวไป เมื่อคาดคั้นไปก็ไม่ได้ความขึ้นมา เทพอพอลโล่จึงได้นำเรื่องไปฟ้องแก่เทพซูสพระบิดาถึงเรื่องที่เฮอร์มิสขโมยวัวของตนไป เทพซูสจึงได้ไปไกล่เกลี่ยและให้เฮอร์มีสคืนวัวให้แก่เทพอพอลโล่ซะ ถึงแม้เทพเฮอร์มิสจะไม่อยากคืน แต่ด้วยกลัวว่าพระบิดาจะโกรธจึงยอมจำใจมอบคืนให้แก่เทพอพอลโลพี่ชายตนในที่สุด
เมื่อเทพอพอลโล่ได้วัวคืนแล้วก็ไม่ถือโทษโกรธเทพผู้น้อง ถึงแม้ว่าวัวจะขาดจำนวนไป 2 ตัว เพราะเทพเฮอร์มีสได้นำวัวของพระองค์ไปสร้างเป็นเครื่องดนตรีโดยใช้เอ็นวัวขึงกับกระดองเต่า ในเวลาต่อมา เทพเฮอร์มิสได้เรียกสิ่งนี้ว่าพิณ และได้ตั้งชื่อให้แก่พิณนี้ว่า “ไลร์ (lyre)” ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรก ๆ แห่งโอลิมปัส เมื่อเทพอพอลโล่เห็นก็รู้สึกถูกใจในของชิ้นนี้เป็นอย่างมาก จนถึงขนาดยอมนำไม้เท้าวิเศษแคดดูเซียสของตน นำมาแลกกับพิณของเทพเฮอร์มิส หลังจากนั้นไม้เท้าวิเศษแคดดูเซียสนี้ก็กลายเป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำตัวของพระองค์เรื่อยมา
ไม้เท้าวิเศษแคดดูเซียสนี้ แต่เดิมเป็นไม้ถือมีปีกลุ่น ๆ ต่อมาเทพเฮอร์มีสถือไปพบงู 2 ตัวกำลังต่อสู้กัน พระองค์จึงได้นำเอาไม้ทิ่มเข้าไปในระหว่างกลางเพื่อห้ามการทะเลาะวิวาทของงูทั้งสอง งูทั้งสองจึงได้เลื้อยขึ้นมาพันอยู่กับไม้ โดยหันหัวเข้าหากัน ตั้งแต่นั้นมางูทั้งสองก็พันอยู่กับไม้เท้าวิเศษแคดดูเซียสตลอดมา และไม้เท้าวิเศษแคดดูเซียสก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นกลางอีกด้วย ในภายหลังได้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแพทย์มาจนถึงปัจจุบัน
เทพเฮอร์มีสไม่เพียงแต่จะเป็นเทพพนักงานสื่อสารของเทพซูสเท่านั้น หากยังถูกนับถือให้เป็นเทพแห่งการเดินทาง การค้าและพาณิชย์ ในบางครั้งก็ยังได้รับการนับถือจากเหล่าหัวขโมย ให้เป็นเทพแห่งการขโมย นอกจากนี้พระองค์ยังมีหน้าที่เป็นผู้นำทางวิญญาณคนตายไปสู่ยมโลกอีกด้วย จนถึงขนาดได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า เฮอร์มีสไซโคปอมปัส (Hermes Psychopompus) เทพเฮอร์มิสจึงกลายเป็นเทพที่มีหน้าที่สอดส่องและยังถือว่าเป็นเทพที่มีความเป็นกลาง หน้าที่เหล่านี้จึงตกมาเป็นของพระองค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และที่น่าประหลาดใจคือ พระองค์กับทำหน้าที่เหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
อีกสิ่งที่น่าแปลกประหลาดประการหนึ่งในตัวของเทพเฮอร์มีสก็คือ แม้ว่าพระองค์จะเป็นโอรสของมหาเทพซูสกับนาง เมยา (Maia) แต่ทว่าพระองค์ทรงเป็นโอรสองค์เดียวของเทพซูสที่ราชินีขี้หึงเทพีเฮร่าไม่เกลียดชัง หนำซ้ำกลับเรียกหาให้เฮอร์มีสมาอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเสียอีก
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะบุคลิกและนิสัยของเทพเฮอร์มีส ที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นทวยเทพด้วยกัน หรือมนุษย์ธรรมดา อาทิเช่น ช่วยปราบยักษ์ร้ายฮิปโปไลตุล ช่วยองค์ซูสเทพบิดาให้พ้นจากพันธนาการของยักษ์ไทฟีอัส ช่วยอนุองค์หนึ่งของเทพบิดา คือนางไอโอให้รอดตายด้วยการสังหารอาร์กัส อสูรพันตาของเจ้าแม่เฮร่า และช่วยเหลือเลี้ยงดูไดโอนิซัสในยามแรกถือกำเนิดขึ้นอีกด้วย
ในด้านการช่วยมนุษย์นั้น เฮอร์มีสเคยช่วยเพอร์ซีอุสสังหารพี่น้องกอร์กอนอย่างเมดูซ่า ช่วยให้เฮอร์คิวลิสเดินทางไปยังโลกหลังความตาย ช่วยโอดีสซีอัสให้รอดพ้นเงื้อมมือนางเซอร์ซี และช่วยให้เตเลมาดุสตามหาพ่อจนพบเป็นต้น
เทพเฮอร์มีสเองในด้านความรัก พระองค์ก็เหมือนกับเทพบุตรองค์อื่น ๆ ตรงที่ไม่ยกย่องเทพีหรือสตรีนางใดเป็นชายา แต่สมัครรักใคร่ไปเรื่อย ๆ นับไม่ถ้วน ว่ากันว่าการที่พระองค์ชอบเสด็จลงไปโลกใต้พิภพบ่อย ๆ นั้นเป็นเพราะหลงเสน่ห์ของเทพีเพอร์เซโฟนีผู้เป็นชายาของเทพฮาเดส จ้าวแห่งผู้ปกครองยมโลก ยามขึ้นมาสู่ผืนดินเฮอร์มีสก็รักกับสตรีมนุษย์มากหน้าหลายตา ที่เป็นที่กล่าวขานได้แก่ อคาคัลลิส (Acacallis) ผู้เป็นธิดาของท้าวไมนอส แห่งครีต เมื่อขึ้นไปสู่สวรรค์โอลิมปัสก็เกิดจิตพิศวาส กับเทวีในทำนองรักข้ามรุ่น โดยเฉพาะกับ เฮเคตี และอโฟร์ไดท์
บางตำนานยังกล่าวไว้ว่า เทพเฮอร์มิสนั้นด้วยความที่เป็นเทพบุตรที่มีเสน่ พระองค์ทรงมีภรรยามากถึง 12 คน และมีลูก ๆ ที่เกิดกับพระองค์ด้วยกันหลายคนด้วย นอกจากจะมีภรรยาทั้ง 12 แล้ว พระองค์ยังถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในเทพสูงสุดทั้ง 12 แห่งโอลิมปัสอีกด้วย
ปัจจุบันตำนานและเรื่องเล่าของเทพเฮอร์มิสก็ยังมีการกล่าวถึงเรื่อยมา ทั้งด้านกวี บทเพลง ภาพวาด รวมถึงรูปปั้น ก็ยังมีให้เห็นอยู่ อันจะกล่าวได้ถึงตำนานที่ได้รับความสนใจทั้งอดีต จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ไม้เท้าสัญลักษณ์รูปงูทั้งสอง ของเทพเฮอร์มิส ยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ของทางการแพทย์ในปัจจุบัน เพราะเปรียบได้กับสัญลักษณ์แห่งความเป็นกลางนั่นเอง…
เรื่องราวในอนิเมะมหาศึกคนชนเทพ
ในส่วนของอนิเมะมหาศึกคนชนเทพ ก็ได้หยิบยกนำเอาประวัติของเทพเฮอร์มีส นำมาใช้เป็นหนึ่งในตัวละครของอนิเมะเรื่องนี้ โดยที่เทพเฮอร์มีส ได้ปรากฎตัวมาครั้งแรก ในงานประชุมของเหล่าเทพที่จัดขึ้นทุก ๆ 1000ปี มาในลุคชายหนุ่มรูปงามที่มาพร้อมลอยสักบนหน้า และแต่งตัวด้วยชุดพ่อบ้านโกธิค ให้ความรู้สึกลึกลับ น่ายำเกรงไปในตัว ยืนอยู่เคียงข้างเทพซูส เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวของเทพซูสก็ว่าได้ หลังจากที่กฎแรคนาร็อคถูกเสนอขึ้นโดยบรุนฮิลด์ เฮอร์มีสเองก็รู้สึกสนใจสิ่งที่วัลคิลรี่ตนนี้เสนอ ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น เทพซูสเองก็รู้สึกสนใจเหมือนกัน ไม่นาน เทพซูสก็เล่นไปตามน้ำและยอมรับให้ใช้กฎแรคนาร็อคตามที่บรุนฮิลด์เสนอ การต่อสู้กันระหว่างมนุษย์และเทพก็ได้เริ่มขึ้น
พลังที่เทพเฮอร์มีสมีนั้น ตอนนี้ยังเป็นปริศนาและยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่จากการที่เฮอร์มีสสามารถเข้าใจ และวิเคระห์การต่อสู้ในแต่ละคู่ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เฮอร์มีสนั้นมีคามสามารถทางด้านการวิเคราะ หรือความฉลาดที่ค่อนข้างสูง พลังที่เขามีอาจจะเหนือกว่าเทพแอรีสที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามได้เลย เพราะบางครั้งในการต่อสู้ เทพสงครามแอรีสยังไม่สาสมารถมองการต่อสู้ได้ออก เหมือนที่เฮอร์มีสสามารถมองออกได้ สิ่งนี้เองก็น่าจะเป็นการการันตีถึงพลังที่เฮอร์มีสมีอยู่
นอกจากนี้เฮอร์มีสเองยังถือว่า เป็นตัวละครที่มีความลับซ่อนอยู่มากเช่นกัน เพราะเขาเปรียบกับจอมแผนการณ์ที่มีแผนอะไรบางอย่างอยู่ในหัวตลอด และยิ่งเขาไปพูดคุยกับบรุนฮิลด์เป็นการส่วนตัวแล้ว ก็เหมือนกับว่าแผนที่เขากำลังคิดอยู่นั้น อาจจะเป็นแผนที่สามารถเขย่าทั้งสวรรค์เลยก็ได้ เฮอร์มีสจึงเปรียบเสมือนตัวละครที่เต็มไปด้วยปริศนา ที่รอวันเฉลยว่า แท้จริงแล้วเขาอยู่ฝั่งไหนระหว่างเทพ หรือ มนุษย์ กันแน่…
(เทพเฮอร์มีส ไม่มีรายชื่อลงแข่งในศึกแรคนาร็อค แต่ด้วยดีไซร์และความลึกลับของตัวเฮอร์มีสเอง จึงทำให้กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่ได้รับความสนใจ จากแฟน ๆ ทั้งชาวมังงะและอนิเมะ ถือว่าเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยปริศนา รอวันเฉลย หรือ อาจจะกลายเป็นตัวแทนฝั่งเทพอีกหนึ่งก็อาจเป็นได้ ก็ต้องรอดูอาจารย์แกว่าจะผูกปมอะไรไว้กับเทพเฮอร์มีสจอมลี้ลับผู้นี้ในอนาคตต่อไปดีนั่นเอง)
มหาศึกคนชนเทพ เฮอร์มีส (Record of Ragnarok)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun