ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้ เพราะว่าเจ้าท่อเก็บสารนี้ดันไปอยู่ในโรงงานเก็บของเก่าแห่งหนึ่งในปราจีนบุรี มิหนำซ้ำก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 ได้ถูกทำลาย หรือแยกชิ้นส่วนกลายเป็นเศษเหล็กรีไซเคิลไปแล้วหรือยัง! ซึ่งแน่นอนว่าพอข่าวนี้ออกไปก็สร้างความตื่นตระหนกไม่ใช่น้อยต่อผู้คนจำนวนมาก และในบทความนี้เองผู้เขียนก็จะขอรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของเจ้าสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 ว่าคืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน? มาให้คุณผู้อ่านได้อ่าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตระหนักและเรียนรู้ว่าเจ้าสารนี้ส่งผลเสียต่อเราแค่ไหน..
ซีเซียม-137 คืออะไร?
ซีเซียม-137 คือ สารกัมมันตรังสีอันตรายประเภทที่ 3 ตามการจำแนกขององการณ์พลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency) มีลักษณะทางกายภาพเป็นของแข็ง คล้ายผงเกลือ สามารถฟุ้งกระจายได้เมื่อแตกออกจากแคปซูลที่ห่อหุ้มไว และค่าครึ่งชีวิต 30 ปี สลายตัวโดยปล่อยรังสีบีตาและรังสีแกมมา ส่วนมากจะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือการแพทย์ในการรักษามะเร็งอีกด้วย
ความอันตรายของซีเซียม-137
ความอันตรายของซีเซียม 137 นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่ผู้สัมผัสได้รับ โดยหากได้รับในปริมาณที่น้อยหรือในระยะเวลาสั้นจะยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนมากนัก แต่ถ้าหากสัมผัสเป็นเวลานาน หรือสัมผัสโดยตรงกับสารนั้น ทางด้านสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า อันตรายจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 โดยที่ได้ระบุออกมาดังนี้
อาการเมื่อสัมผัสกับสารซีเซียม-137
1.มีไข้ เบื่ออาหาร
2. คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลว
3.ผิวหนังที่สัมผัสกับสารจะเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง และมีแผลพุพองเหมือนไฟไหม้เกิดขึ้นตรงบริเวณที่สัมผัส
4.ผมและขนตามบริเวณร่างกายหลุดร่วง และปากเปื่อย
5.เกิดต้อกระจก
6.ทำให้เกิดมะเร็งในเม็ดดลือดขาว
7.ระบบเลือด กดไขกระดูก และระบบประสาทผิดปกติ ก่อเกิดอาการชักเกร็ง กระตุก และส่งผลให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งอาการที่กล่าวมานี้ ส่วนใหญ่ถ้าได้สัมผัสกับตัวสารกัมตรังสีจะกระจายเข้าไปทั่วในร่างกายพบมากสุดจะไปสะสมอยู่ในบริเวณเนื้อเยื่อ และส่วนน้อยอยู่ในตับและไขกระดูก อีกทั้งในตัวซีเซียม 137 ยังมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งถ้าหากได้รับประทาน หรือทานอาหารที่ปนเปื้อนสารซีเซียม 137 เป็นระยะเวลานาน ๆ นอกจากนี้ถ้าหากสูดดมด้วยแล้วก็อาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้ตัวของผู้ที่สูดดมเป็นมะเร็งตรงโพรงจมูก หรือบริเวณโดยรอบได้.
และนี่เองคือความหมายของสารซีเซียม 137 ว่าเจ้าสารตัวนี้นั้นมีประโยชน์ และเหมาะกับใช้เพื่อสิ่งใด แต่ทว่าเมื่อสารตัวนี้หลุดออกไป หรือถูกคนที่ไม่มีความรู้นำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองแล้ว เจ้าสารซีเซียม 137 นี้จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ตาม เพราะฉะนั้นแล้วในอนาคตไม่ว่าเราจะไปเจอวัตถุต้องสงสัยรูปแบบไหนอีกก็ไม่ควรที่จะสัมผัส หรือเข้าไปใกล้อย่างเด็ดขาด เราควรที่จะติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นวิธีการและขั้นตอนที่ปลอดภัยสำหรับเราและคนรอบข้างนั่นเอง…
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun