เทคนิคการรับมือ “รอยดำ” จากสิว
สวัสดีค่ะทุกคน เรื่องของเรื่องคือผู้เขียนพบเจอปัญหาใหญ่ เลยได้มีโอกาสเอาข้อมูลที่ค้นหามาฝากเพื่อนๆทุกคนค่ะ บอกได้เลยว่าการเป็น สิว ที่ว่าน่าเบื่อแล้วเนี่ย การเป็นสิวแล้วมีรอยนั้นยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่ค่ะ เพราะ “รอยสิว” ไม่ใช่ปัญหาที่จะรับมือได้ง่ายๆ ยิ่งอายุมากขึ้นรอยก็ยิ่งหายช้าลง การไปไหนมาไหนด้วยหนาสดยิ่งยากมากกว่าเดิม เพราะไม่มีความมั่นใจ แถมยังต้องแต่งหน้าหนาๆเพื่อปิดรอยสิวอีกด้วย ใครที่กำลังเจอปัญหาน่าหงุดหงิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ วันนี้เรามีวิธีดูแลใบหน้าจากปัญหารอยดำจากสิวมาฝากค่ะ ตามมาดูกันเลย
สูตรจากธรรมชาติ
- มาสก์หน้า
1.1 มะนาวและน้ำผึ้ง ถือเป็นสูตรพื้นฐานที่คนชอบมาส์กกันเป็นอย่างมาก แถมวิธีทำก็ง่ายอีกด้วยค่ะ เพียงแค่นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำผึ้ง จากนั้นนำมาพอกหน้า โดยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด
วิธีนี้ขยันหมั่นทำให้ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เท่านี้ผิวของเพื่อนๆก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะรอยดำรอยแดงจะค่อยๆจางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับเพื่อนๆที่มีผิวบอบบาง แนะนำให้ทาทิ้งไว้เพียง 10 นาที หรืออาจจะไม่ต้องพอกทั้งใบหน้า แต่ให้แต้มเฉพาะรอยแดงรอยดำจากสิวครั้งละ 5-10 นาทีก็พอค่ะ
1.2 มะขามเปียก น้ำผึ้ง และนมสด หลายคนน่าจะทราบกันดีว่า “มะขามเปียก” มีคุณสมบัติที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้าขาว กระจ่างใส แต่ ข้อเสีย คือ มีความเป็นกรดสูง ทำให้คนที่มีสุขภาพผิวหน้าแห้ง จึงไม่เหมาะที่จะมาสก์หน้าด้วยมะขามเปียกแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงควรนำมาผสมกับน้ำผึ้งและนมสด ทั้ง 3 อย่างนี้เข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาพอกหน้าประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
หมั่นพอกหน้าเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองเลยว่ารอยดำรอยแดงจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว แถมสูตรนี้ยังช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระและจุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส อ่อนเยาว์กว่าใครจนโดนทักกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ
- สูตรแต้มสิว
หนึ่งในสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการลดรอยดำรอยแดงจากสิวนั่นก็คือ “หอมแดง” นั่นเองค่ะ วิธีก็คือฝานหอมแดงออกเป็นแว่นบางๆ แล้วนำมาถูที่รอยสิว ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก
ทำเพียงอาทิตย์ละ 2 ครั้ง บอกได้เลยว่าเพียงแค่อาทิตย์เดียว รอยดำรอยแดงก็จะค่อยๆจางลงอย่างแน่นอนค่ะ
ทายาลดรอย
วิธีนี้เป็นวิธีง่ายมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการให้รอยสิวหายไวๆ โดยยาในกลุ่มลดรอยสิวก็มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Mederma, Hiru Scar, Puricas, Medmaker, Smooth E Cream ที่สำคัญควรทาเป็นประจำเช้า-เย็น อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสิทธิภาพการรักษาของตัวยาด้วยนะคะ
ทานอาหารเสริม
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ชอบทาครีมหรือทายาลดรอยใดๆ การกินวิตามินเสริมที่ช่วยในการลดรอยสิวก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ หากแต่การกินวิตามินอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล อาจใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน ที่สำคัญต้องกินเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลชัดที่สุด ซึ่งวิตามินที่ช่วยในการลดรอยสิวก็ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไป อีกทั้งยังมีหลากหลายยี่ห้อทั้งไทยและนอก แต่อย่าลืมอ่านฉลากให้ดีก่อนตัดสินใจ หรือเพื่อความแน่ใจควรปรึกษาเภสัชกรก่อนนะคะ
เลเซอร์รอยสิว
หากเพื่อนๆอยากได้วิธีลดรอยสิวที่เร็วที่สุด วิธีการรักษาด้วยการเลเซอร์ถือว่าตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ มีข้อจำกัดอยู่คือราคาที่จะสูงกว่าวิธีที่กล่าวมาทั้งหมด แต่ถ้าทำต่อเนื่องประมาณ 3-4 ครั้ง ก็จะเห็นผลรวดเร็ว จุดด่างดำต่างๆก็จะจางลงเร็วกว่าการทายาหรือปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติค่ะ
และนี่คือวิธีการรับมือกับ “รอยดำ” จากสิวนั่นเองค่ะ หากเพื่อนๆคนไหนที่มีวิธีที่อยากแนะนำเพิ่มเติม ก็แชร์กันได้เลยนะคะ สำหรับข้อมูลทั้งหมดนี้ ผู้เขียนเองหวังว่าจะสามารถเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่พอดีนะคะ แล้วเจอกันบทความถัดไปค่ะ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ quotesaboutsmile