รับมืออย่างไรเมื่อถูก “บูลลี่ (Bully)”
บูลลี่ (Bully) ปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ ไม่มีใครอยากเป็นคนที่ถูกบูลลี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมบางคน บางสังคมถึงชอบการบูลลี่นัก จริงๆแล้วเราควรจะทำอย่างไรเมื่อตัวเองโดนบูลลี่ แล้วจะดูแลความเครียด ความไม่พอใจ ความเสียใจที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ในบทความนี้เราเตรียมข้อมูลเพื่อเป็นสาระเล็กๆน้อยๆมาฝากค่ะ มีรายละเอียดดังนี้
บูลลี่ (Bully) คืออะไร?
การกลั่นแกล้งที่แสดงออกด้วยคำพูด หรือ พฤติกรรมที่มีก้าวร้าวต่อผู้อื่น มักเกิดขึ้นในสังคมที่มีช่องว่างระหว่างผู้ที่มีพละกำลัง หรืออำนาจมากกว่าแสดงออกแก่ผู้ที่อ่อนแอกว่า และมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยพบการบูลลี่ในโรงเรียน และในที่ทำงานมาก นำไปสู่ปัญหาสภาพทางจิตใจ ที่ร้ายแรงได้ในอนาคต ซึ่งการบูลลี่มี 3 ประเภท ดังนี้
การกลั่นแกล้งทางวาจา (Verbal Bullying) คือ การสื่อสาร เขียน เพื่อสื่อความหมายกลั่นแกล้ง เช่น ล้อเล่น, เรียกชื่อ, แสดงความคิดเห็นทางเพศที่ไม่เหมาะสม, เหน็บแนม และขู่ว่าจะทำอันตราย
การกลั่นแกล้งทางสังคม (Social Bullying) คือ วิธีการทำให้เสียหน้า หรือแกล้งให้สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่น อย่างตั้งใจ เช่น ขับเพื่อนออกจากกลุ่ม, กระจายข่าวลือให้เสียหาย, กีดกันไม่ให้เป็นเพื่อนกัน, ทำให้เกิดความอับอายในที่สาธารณะ
การกลั่นแกล้งทางกายภาพ (Physical Bullying) คือ การกลั่นแกล้งที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและสวัสดิภาพของผู้ถูกกลั่นแกล้ง เช่น การทุบตี ทำร้าย ทำให้สะดุด แย่งสิ่งของ แสดงออกทำท่าทางหยาบคายใส่
วิธีการรับมือเมื่อโดนบูลลี่ (Bully)
การถูกบูลลี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทน การกลั่นแกล้งเป็นหนึ่งใน zero tolerance หมายถึง เราไม่จำเป็นต้องอดทนกับเรื่องพวกนี้ ไม่ต้องกลัวว่าการลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อจะเป็นเรื่องที่ผิด หรือการที่ตัวพ่อแม่ลุกขึ้นมาปกป้องลูกจะกลายเป็นการโอ๋ หรือให้ท้ายลูกเกินไป เพราะถ้าเราปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่ทำอะไร ยิ่งเป็นการซ้ำให้ปัญหามันยังอยู่เหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หากตกเป็นคนหนึ่งที่โดนบูลลี่ สิ่งแรกคือควรจะดูแลตัวเองในสองมิติ คือการดูแลตัวเองเมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่โดนบูลลี่ และการดูแลตัวเองหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์ที่โดนบูลลี่มาแล้ว ซึ่งรวมไปถึงการดูแลความเครียด ความกดดัน ความเสียใจ หรือผลกระทบจากการโดนบูลลี่ด้วยทั้งหมด
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่โดนบูลลี่ (Bully)
เมื่อโดนบูลลี่ คนที่บูลลี่คุณต้องการให้คุณโต้ตอบ หรือตอบสนองอะไรบางอย่างกลับ เพราะเขาอาจต้องการทำให้คุณกลัว เสียใจ รู้สึกหมดพลัง หรือมีอำนาจน้อยกว่า
ดังนั้นหากคุณแสดงออกว่าคุณไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกอะไรมากพอ เขาอาจไม่ให้ความสนใจกับคุณต่อเพราะไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นได้ เช่น เดินหนี เพิกเฉย รวมถึงการบันทึกเหตุการณ์เอาไว้
ดูแลตัวเองหลังจากผ่านสถานการณ์โดนบูลลี่ (Bully)
หลังจากผ่านสถานการณ์ที่ถูกบูลลี่ไปแล้ว สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติคือ การกลับมาดูแลตัวเอง ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยของร่างกาย รวมถึงจิตใจ หากคุณโดนบูลลี่จากกลุ่มคนเดิมๆ ควรหาวิธีการเพื่อที่จะให้พวกเขาหยุดทำสิ่งเหล่านั้น และเตรียมตัวรับมือเมื่อพวกเขามาบูลลี่
จะเป็นสิ่งที่ดีมาก หากคุณสามารถเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะรับมือกับการโดนบูลลี่ ด้วยการซ้อมสถานการณ์เมื่อถูกบูลลี่เอาไว้ เช่น
- นึกถึงการโต้ตอบ การตอบกลับเมื่อคุณโดนบูลลี่เช่นการเดินหนีออกไป หรือการหยุด และไม่ให้ความสนใจกับเขา
- ในกรณีที่มีหลักฐาน ควรรายงานพฤติกรรมให้กับผู้ดูแลของคุณเช่นหัวหน้า ที่ปรึกษาในสถาบัน หน่วยงานต้นสังกัด
การปรับแนวความคิดใหม่ เมื่อคุณถูกบูลลี่ (Bully)
- ห้าม คิดว่ามันเป็นความผิดของคุณ คุณสมควรเป็นคนที่ถูกบูลลี่ เพราะว่าคนทุกคนมีค่าเท่ากันทุกคน ไม่มีใครสมควรได้รับการกลั่นแกล้งเพียงเพราะความสนุกของคนบางกลุ่ม
- ห้าม โต้ตอบด้วยการต่อสู้ ความรุนแรง หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจะมีเรื่องของกฏหมายเข้ามาเกี่ยวข้องทันที ดังนั้นควรมีสติให้มาก
- ห้าม ทำร้ายตัวเองเด็ดขาด
- ห้าม หยุดเรียน หยุดทำงาน หรือหยุดไปสถานที่นั้นๆ เพราะเกรงกลัวว่าจะโดนบูลลี่ เพราะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา อีกทั้งยังทำให้คุณเสียความมั่นใจไปตลอด
สุดท้ายนี้ การบูลลี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ แต่หากคุณรู้สึกว่าสิ่งที่คนคบูลลี่คุณได้พูดออกมาเป็นความจริงมาก จนทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวเกิดขึ้น คุณควรใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อกลับมาดูแลจิตใจของตนเองจากการโดนบูลลี่ด้วย ไม่ใช่การยอมรับและมองว่าตัวเองไม่มีคุณค่าเพียงพอ คนทุกคนเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมดทุกคนค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ ทางผู้เขียนขออนุญาตเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในส่วนของบทความถัดไปค่ะ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ quotesaboutsmile