คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่13
บทที่ 13. เมื่อชุดดำจู่โจม
” อย่าเอาคำพูดของคนอื่น มาวัดความมีคุณค่าของตัวเอง “
**จากวันเลยผ่านไปเป็นอาทิตย์ เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 แล้วก็ยังไม่มีใครมาเยี่ยมผมเลย การฝึกระเบียบแถวที่หนักและแดดที่ร้อน ในตอนนี้ ไม่อาจทำอะไรผมได้อีกแล้ว ร่างกายมันเริ่มกลับเข้าที่ในสิ่งที่มันควรจะเป็นเป็นร่างกายของผมฟื้นฟูกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว และแล้วก็ถึงเวลาจำแนกไปห้องนอนใหม่สักที ห้อง2/5 คือห้องที่ผมจะได้เข้าไปอยู่ มันคือห้อง อ.เมือง ที่พี่เล็กและเด็กๆในบ้านส่วนใหญ่อยู่กัน**
ในตอนนี้ผมรู้สึกคุ้นชินกับการที่ได้อยู่ในคุก ร่างกายรู้สึกแข็งแรงขึ้นไม่ค่อยเหนื่อยง่ายเหมือนแต่ก่อน วันนี้คือวันจันทร์คืออาทิตย์ที่ 2 กับการฝึกระเบียบแถวและ10 ท่าพญายม แสงแดดที่ร้อนแรงของเดือนสิงหาคม ทั้งที่มันได้เข้าฤดูฝนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีฝนสักเม็ดตกลงมาเลย ตัวผมเริ่มดำมากขึ้น แต่ผมก็รับสภาพตัวผมไปตอนนี้ได้นะ เพราะนี่มันเป็นรอบที่ 3 ที่ผมจะติดคุก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกก็คือทำไมไม่มีใครมาเยี่ยมผมเลย และ วันนี้ก็คือวันจำแนก ผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่อยู่ห้องแรกทั้งหมด ขึ้นไปตามห้องนอนต่างๆมีทั้งหมด 14 ห้อง นับตั้งแต่ห้อง 1/1 ถึง 2/7 ซึ่งรายชื่อผมได้ล็อคไว้แล้วนั่นก็คือห้อง 2/5 ที่มีพี่เล็กและเด็กในบ้านส่วนใหญ่อยู่กัน มันคือห้องอ. เมืองเด็กๆอำเภอเมืองจะอยู่ห้องนี้ทั้งหมด ซึ่งก็มีด้วยกันทั้งหมด 3 ห้องในแดนนี้คือห้อง 2/7 และ 2/4 ส่วนใหญ่เรือนจำแห่งนี้จะอยู่กันเป็นอำเภออำเภอไปใน การที่ผมได้อยู่ห้อง2/5 นั่นก็หมายความว่าผมจะมีที่นอนที่สบายในแบบที่มันควรจะเป็น
ขณะนี้เวลา 10:30 น ก็ถึงเวลาที่ผมจะพักจากการฝึกมากินข้าวเช้าซึ่งก็มีกับข้าวเบิก 4 ถุงกับแกงหลวงอีก 3 ถ้วยรวมถึงเด็กในบ้านอีก 10 กว่าคน ในบ้านพี่เล็กนั้นทุกคนที่อยู่ในบ้านต่างได้รับมอบหมายหน้าที่กันทุกคน 4 คนซักเสื้อผ้า 2 คนตากผ้าเก็บผ้าในตอนบ่ายของทุกวัน แต่ละคนก็มีญาติมาเยี่ยมกันเกือบทุกคน ใครเยี่ยมญาติทุกอาทิตย์ งานก็เบาหน่อย
แต่ถ้าใครญาติไม่มาเลย ก็ต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น มันเป็นธรรมดาของวัฏจักรในคุก ทุกที่ไม่ต่างกัน ” ใหญ่กินข้าวเสร็จแล้ว ไม่ต้องไปฝึกแล้วนะอาบน้ำใส่ชุดหลวง รอ จำแนกห้องในโรงเลี้ยง และถ้านายเขาบอกว่าให้อยู่ห้องอื่น ละก็ไม่ต้องพูดอะไรเดี๋ยวเสมียนมันสับตัวให้เอ็งไปลงห้อง 2/5 เอง “ พี่เล็กพูดกับผมเป็นเชิงแนะแนวให้ทำตามนี้ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่พยักหน้าให้พี่เขาเข้าใจ เพราะในตอนนี้หัวสมองของผมคิดถึงแต่เรื่องข้างนอกคิดถึงพ่อกับแม่ว่าทำไมยังไม่มาเยี่ยมผมอีก
หลังจากที่กินข้าวและอาบน้ำเสร็จแล้วผมยังเหลือเวลาอีกมากกว่าจะเข้าไปจำแนกห้อง 13:00 น คือเวลาเข้าโรงเลี้ยงเพื่อจำแนก ผมก็เลยใช้เวลาที่เหลือเดินเซิ้ง อยู่ในแดนแวะไปคุยกลับบ้านโน้นบ้านนี้ ปิดท้ายที่บ้านพี่หล้าร้านค้าเพื่อหาอะไรกิน ประจวบเหมาะกับไอ้หมี เพื่อนซี้สมัยเรียนเดินกลับมาจากเยี่ยมญาติพอดี ” ไอ้หมีใครมาเยี่ยมเลี้ยงน้ำแข็งใสถ้วยนึงดิ “ ผมบอกกับเพื่อนผมซึ่งเรื่องแค่นี้มันไม่เหนือบ่ากว่าแรงเพื่อนผมหรอก ” เอาดิอยากแดกอะไรก็สั่งเลยลงบัญชีกูไว้ “ มันบอกกับผม แต่ผมสังเกตุเห็นสีหน้าเพื่อนของผมมันดูเครียดอย่างบอกไม่ถูก ผมก็เลยเดินถึงน้ำแข็งใสไปนั่งกินข้างมันผมถามเหตุการณ์ที่มันไปเยี่ยมญาติมาว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีอะไรหรือเปล่ามึงดูเครียดจัง ” ผมถามมันไปด้วยความที่เป็นห่วงจากใจจริง ซึ่งแค่นี้ผมก็ได้รับคำตอบ เพราะว่ามันก็อยากจะระบายให้ใครสักคนฟังอยู่แล้ว ในตอนนี้ ” ก็ไอ้เหี้ย..ทนายแม่ง กูให้ไปเดินเรื่องกล้องวงจรปิดให้ไปเดินเรื่องแ***เสือกไปเดินเล่นให้ไปวิ่งเต้นแ***เสือกหกล้ม จนตอนนี้ตำรวจได้กล้องวงจรปิดไปแล้ว แล้วแบบนี้กูจะสู้ชนะได้ยังไง ” ที่มันเครียดก็คือเรื่องคดีของมันผมจะเท้าความให้ฟัง ก็คือคืนนึงมันคงเยอะ ก็เลยยืนรั่วอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง พอดีกลับหมวกทองสายตรวจขี่ผ่านมาพอดี มันก็เลยเดินเข้าไปในร้านค้าและเอายาไอซ์จำนวน 5 จีไปซุกไว้ในแผงขนม
แต่พอตำรวจขอตรวจค้น เปิดใต้เบาะรถเจอตัวดูดไอซ์ ตำรวจมันก็เลยสงสัยว่า ไอ้หมีเดินเข้าไปในร้านค้าทำไม ก็เลยเดินไปถามแคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ก็ดันบอกว่า เห็น ไอ้หมีเดินไปทางแผงขนมข้างหลังร้าน ตำรวจก็เลยเดินไปค้นก็ได้เจอยาไอซ์ มันก็เลยเกมคร่าวๆมีดังนี้ ที่มันจะสู้มันจะบอกว่ายาไม่ใช่ยาของมัน และที่มันต้องการกล้องวงจรปิดเพื่อจะเอาไปทิ้ง เพื่อที่จะไม่ได้มีหลักฐาน
แต่ทนายมันคงไม่ได้ไปวิ่งเต้น แต่คงไปเดินเล่นอย่างมันว่าตำรวจก็เลยได้ไปก่อน มันเสียตังค์ให้ทนายไป30,000 บาท ก็เหมือนกับมันได้เสียตังค์ฟรีแหละครับ ” กูเครียดว่ะไอ้ใหญ่ไปหาซื้อยาดูดกันดีกว่ากูเลี้ยงเอง “ เอาแล้วไงเพื่อนกูสันหาเรื่องอีกแล้ว ผมคิดในใจกับสิ่งที่มันพูด ” จะดีเหรอหมีคิดให้ดีๆนะเพื่อนมึงดีด แล้วมึงจะทำอะไร ที่กูไม่ดูดก็เพราะแบบนี้ดีแล้วนอนไม่หลับนั่งมองพัดลมยังเช้านะมึง ” ผมได้บอกเพื่อเตือนสติเพื่อนผมไป และจะพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เพื่อให้มันลืมเรื่องอยากดูดยาไปซะ
ผมจะบอกให้ฟังอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เรือนจำแห่งนี้ได้มียาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ ทยอยเข้ามาไม่เว้นวัน ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ นักโทษในแดนเดินกันเบ้าตาลึกโบ๋ก็เลยทีเดียว และที่ผมได้ซื้อยาบ้ามา 1 แถวในราคา 300 สดเพื่อที่จะเอากำไรมากิน โดยที่ให้พี่เล็กเป็นคนจัดการซึ่งในตอนนี้ผมรู้สึก ไม่ดีมันรู้สึกแปลกๆในใจ มันมันคือความรู้สึกที่บอกไม่ถูกก็เลยหยุดขายไป 2 วันแล้ว แล้วสักพักก็ถึงเวลาที่ผมต้องไปจำแนกห้อง ซึ่งในเวลาจำแนกก็ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีกับนักโทษ 73 คนต่างคนก็ได้กระจัดกระจายไป ในแต่ละห้อง ซึ่งจำนวนในแต่ละห้องก็ไม่เท่ากันห้องไหนมีนักโทษน้อยก็ต้องรับคนไปเพิ่มเยอะ ห้องไหนมีนักโทษเยอะอยู่แล้วก็รับไปน้อยเฉลี่ยเฉลี่ยกันไป
ส่วนห้อง 2/5 ก็มีผมแล้วก็ไอ้แว่นเด็กน้อยที่มันเข้ามาพร้อมกับผม และเด็กต่างอำเภออีก 2 คนรวมเป็น 4 คนที่ได้เข้าห้อง 2/5 ผมก็เลยมีเวลาได้คุยกับไอ้แว่นมันแป๊บนึง ถามสารทุกข์สุขดิบมันหน่อย ” เป็นไงมึงปรับสภาพได้แล้วนะอยู่ได้ใช่ไหมแต่กูว่ามึงอยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่นั่นแหละ ” มันพยักหน้าและได้พูดกับผมว่า ” มันก็ต้องอยู่ได้และพี่ย้ายเข้าห้องใหม่ คงจะได้นอนสบายกว่าห้องเก่านะพี่ พี่พอจะฝากให้ผมได้ไหม “ นั่นไงกูไม่น่าคุยกับมันเลย งานเข้ากูเลยแบบนี้ ผมนึกในใจ
เจอประโยคขอร้อง และ ดูสีหน้าของมัน ในตอนนี้ เหมือนกับคาดหวังในตัวผมเต็มที่ ซึ่งเราก็ต้องโชว์ให้เด็กมันดูถึงศักยภาพว่าเราทำได้หรือเปล่าเพราะผมบอกแล้วว่าในคุกนั้น ” เสีย “ไม่ได้จริงๆ แต่ก็อย่างว่าในคุกไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกครับ ” เออเดี๋ยวกูจัดการให้แต่ตอนนี้กูหิวอ่ะไอ้แวนวันนี้เยี่ยมญาติมีอะไรกินบ้าง “ ผมถามมัน ซึ่งผมก็ได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ ” มีพี่พี่จะเอาอะไรล่ะครับบอกผมเลยเดี๋ยวผมจัดการให้ “
แบบนี้ก็เข้าทางผมสิครับ แต่เผอิญสันดานผม ไม่ใช่เป็นคนเอาเปรียบคน ถ้าคนนั้นมันไม่เหี้ยใส่ผมก่อน ผมก็เลยสั่งมันไปแค่ ขนม นม ชุดนึง กินก่อนขึ้นห้องแล้วก็ขอกาแฟ บนห้องตัวนึงๆ(คือกาแฟ ค๊อฟ น้ำตาล ใส่ถุงพลาสติกมัดหนังยางเป็นก้อนกลม ๆ เพื่อสะดวกในการเซฟ ขึ้น ไปขายบนห้องนอน) แล้วกัน ” ครับพี่ไม่มีปัญหา พี่อยากได้อะไรบอกผมมานะ ” มันพูดทิ้งท้ายก่อนจะแยกย้ายกันไปบ้านใครบ้านมัน เพื่อที่รอกินข้าวเย็นตอนบ่าย 14:20 น(ถ้าเป็นคนข้างนอกอาจจะเป็นข้าวเที่ยง)และรอขึ้นห้องนอนตอน 15:00 น
เวลาในคุกมันดูสั้นใช่ไหมคุณผู้อ่าน ดูแล้วมันเหมือนไวในแต่ละวัน ผมขอบอกเลยว่า เวลาในคุกมาช่างช้าและ ยาวนานเหลือเกิน ยิ่งถ้าคุณรอใครมาเยี่ยม หรือ รอจดหมายจากคนไกลด้วยแล้วล่ะก็ เวลาวันนั้นช่างยาวนานยิ่งกว่าทุกวัน
การรอคอยมันทรมานนะครับ และ ยิ่งรออย่างไม่มีความหวัง หรือ จุดหมายรู้แต่เพียงว่าเราต้องรอ มันไม่รู้จะอธิบายยังไงกับความเจ็บปวดในใจ นอกจากคนที่เคยผ่านมันมาแล้ว ถึงจะเข้าใจรสชาติความเจ็บนี้ดี ถ้าใครมีคนที่เรารักหรือคนที่เขารักเรา อยู่ในเรือนจำเชื่อผมเถอะครับ ไปเยี่ยมของบ้าง หรือ ไม่ก็เขียนจดหมายหาเขาบ้างกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำ หรับคนข้างในนะครับหรือถ้าใครมีแฟนอยู่ข้างใน และ คุณได้มีแฟนใหม่ไปแล้ว ขอให้บอกความจริงกับเขาเถอะครับ อย่าไปให้ความหวังคนข้างใน ทั้งที่มันไม่มีวันเป็นจริง อย่ากลัวว่าเขาจะต้องเจ็บ หรือ อย่าคิดว่าสงสารเขา เพราะว่าคนข้างในเวลาเท่านั้น ที่ จะเยียวยาทุกสิ่งได้ ฝากไว้ให้คิดนะครับ
และแล้วก็ได้เวลาขึ้นห้อง ส่วนใหญ่นักโทษที่นอนห้อง 2/5ผมรู้จักเป็นอย่างดีแต่จะสนิทหรือไม่สนิทนั้นก็ว่ากันไป ในห้อง 2/5 นั้นหัวหน้าห้องคือพี่อั้ม หัวหน้าโยธาบ่อขยะในแดน หัวโจกแถวสถานีรถไฟไม่มีใคร ไม่รู้จักแก ส่วนพี่เล็กนั้นไม่ได้มีบทบาทอะไรในห้อง เป็นเพียงลูกห้องคนหนึ่งเท่านั้น แต่แกก็ได้อภิสิทธ์หลายอย่าง ทั้ง ที่นอนของตัวเองและคนในบ้าน
ในห้องนี้จะแบ่งสัดส่วนแต่ละบ้าน ให้เป็นล็อคๆ ยกเว้นสายกลาง(สลัมบอมเบย์)ขาไขว้ และแล้ว สิ่งที่ผมคิดไม่ได้เป็นอย่างใจนึก กะจะขึ้นห้องมาแล้วมีที่นอนสบายๆ แต่นี่ เหี้ยไรนี่ ” ใหญ่ นั้งอยู่กับพวกไอ้ตั๊กและในบ้านไปก่อนนะ ที่นอนยังไม่มีต้องรอตามคิว ” จบคำพี่เล็ก ผมก็ต้องไปนั้งจับกลุ่มอยู่ใต้เหล่าเต็ง ซึ่งจะดูทีวีต้องก้มดู เพราะเหล่าเต้ง มันบัง ไม่ก้มทีวีเหลือครึ่งเดียว สภาพผมเป็นแบบนี้ และไอ้แว่นละ คงไม่ต้องพูดถึง นั้งเลียงแถวอยู่ตรงสายกลางห้อง
ผมลองแอบชำเลืองมองมันที่ไร ต้องเห็นมันมองมาทางผมทุกที ไอ้ใหญ่เอ้ย หมดกันที่ทำมา เอานม ขนมปัง เขามาแดกแล้วด้วย ไอ้แว่นมันคงคิดว่าปะเหลาะแดกกูอีกแล้ว “สบายมาก เดี๋ยวพี่จัดการให้” นี่นะหรอจัดการให้ ไอ้ใหญ่ “ มันคงคิดแบบนี้แน่ๆผมคิดเอาเอง *ตามมีตามเกิดไปก่อน ตัวใครตัวมันโว้ย* ( โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending