บทความ “ตอนพิเศษ” (แค่อยากเล่า) โควิค หายนะในเรือนจำ
“การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ “
**สวัสดีครับคุณ ผู้อ่าน ที่ติดตามทุกท่าน เนื่องด้วยในตอนนี้ เราๆท่านๆทั้งหลายก็คง จะเข้าใจกับสถานการณ์ ในโลกปัจจุบันนี้ ที่เราต้องเผชิญ มันคือ หายนะระดับโลกเลยทีเดียว ความเสียหาย เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ไม่ใช่ว่าประเทศเราประเทศเดียวมันเกิดขึ้นกับอีกหลายประเทศทั่วทั้งโลก บางคนเชื่อว่า มันเป็นคำพิพากษา ของพระผู้เป็นเจ้าหรือก็คือวันล้างโลก**
2 ปีที่เราต้องเผชิญกับโรคร้ายที่ฆ่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนก็เพิ่งรู้ ว่ามีโรคชนิดนี้ อยู่ด้วย โรคโควิด 2019 แพร่ระบาดครั้งแรกในประเทศจีนมณฑลอู่ฮั่น ซึ่งในตอนแรก เราคิดว่ามันเป็นแค่โรคระบาด ที่ผ่านมาแล้วก็หายไป มันคงจะระบาดไม่นาน พวกเราเลยไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจ แต่แล้วยังไม่ถึงเดือน ประเทศจีนต้องเจอภาวะวิกฤต ครั้งยิ่งใหญ่ ประชากรล้มตายเป็นจำนวนมาก กับโรคระบาดที่ชื่อว่า covid 2019 ซึ่งผมก็ได้ดูได้ติดตามข่าวจากทีวี
แต่ตอนนั้นยอมรับว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวของเรา เพราะไม่คิดว่ามันจะแพร่ระบาดมาถึงประเทศ ของเราและเร็วเช่นนี้ จากประเทศจีน มาอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ประเทศไทย และ ประเทศอื่นๆ มากมายทั่วโลก หลายๆประเทศเริ่มคิดค้นหาวัคซีนเพื่อเอาไว้ต่อต้านกับโรคร้ายโรคนี้ แต่ถึงแม้เราจะค้นหาวัคซีนเพียงใด มันก็เริ่มกลายพันธุ์ต่อยอดสายพันธุ์ใหม่ไปเรื่อยๆ
จนตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้วโรคระบาดโรคนี้ ก็ยังไม่ลดลงหายไปเลย จากระลอกแรกความเสียหาย มันก็มากพอแล้ว สูญเสียทั้งคนที่เรารักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไหนต้องมาเจอกับภาวะเศรษฐกิจ เพราะเราไม่สามารถไปทำงานได้ เชื้อโรคตัวนี้มันแพร่ระบาดด้วยการสัมผัส เราต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผมเองก็ต้องปรับตัวเองเป็นอย่างมาก แล้วผมก็คิดว่า ใครอีกหลายคนก็คงเป็น แบบผม
แต่ผมก็โชคดีนะที่ตัวผมได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนที่โรคระบาดนี้จะเกิดขึ้นมาบนโลก ซึ่งสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ มันเป็นสิ่งที่ผมคิดจากมุมมองของผมเกี่ยวกับโรคระบาดตัวนี้ในเรือนจำ ที่มันได้เกิดขึ้น ในประเทศของเราและเกิดขึ้นในระลอก ที่สามนี้ ในความเป็นจริงแล้ว สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าคุกหรือเรือนจำนั้น มันคือ สถานที่ปิดซึ่งคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า มันคือ ที่คุมขังพวกผู้กระทำความผิด ทางสังคม ที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ ผมได้รับการปล่อยตัว ในเดือนพฤษภาคม ซึ่ง เป็นการปล่อยตัว แบบได้รับพระราชทานอภัยโทษ และในปีเดียวกันนั้น ประมาณเดือนตุลาคม ทั่วทั้งโลก ก็ได้เผชิญกับไวรัสโควิค จาก 1 เดือนเป็น 2 เดือนจาก 2 เดือนเป็นอีกหลายๆเดือน การแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ ทุกวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง จึงทำให้ ผมในตอนนี้นั้น สนใจติดตามข่าวสารเรื่องนี้ อย่างจริงจัง และ ใกล้ชิด ซึ่งในตอนแรกผมยังไม่ได้คิดหรอกครับ ว่าไวรัสชนิดนี้ มันจะเกิดขึ้นในเรือนจํา ทัณฑสถานได้
แต่เหตุการณ์แบบนี้ ผม ได้เคยพูดเล่นๆกับน้องชายของผม ว่า เดี๋ยวมันก็ต้อง เขาไปติดในคุก ทีนี้แหละปัญหาเกิดแน่นอน ถ้า ใครไม่เคยติดคุก คุณจะมองภาพรวมในคุก ไม่ออกหรอกครับว่า มันเป็นแบบไหน และมันจะรุนแรงร้ายแรงเพียงใดถ้าเกิดโรคระบาดนี้ขึ้นมาในคุก ผมจะขอบอกว่าบรรลัยแน่นอนครับ ซึ่งเราก็รู้แล้วว่า ไวรัสชนิดนี้ มันแพร่ระบาด โดยการสัมผัสผู้ติดเชื้อ ซึ่งในตอนนี้ เริ่มมีวัคซีนเข้ามา มีหลายบริษัท หลายยี่ห้อ แต่ใช่ว่ามันจะพอเพียงความต้องการ เพราะว่าแต่ละประเทศ ก็ แสวงหา วัคซีน ต่างจับจองเพื่อเอามา ฉีดให้กับคนในประเทศของตน ซึ่งรัฐบาลของเราก็กำลังทำเรื่องนี้อยู่ แต่ในความรู้สึกของผม มันช่างช้าเหลือเกิน จึงทำให้เราทุกคนต้องช่วยกัน ป้องกันตนเองก่อนเป็นอันดับแรก หน้ากากอนามัย กลายเป็นอวัยวะร่างกาย ส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว
ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนึง จะมีมันมาใช้ได้ทุกวันขนาดนี้ เจลและแอลกอฮอล์ล้างมือ ควรมีพกติดตัวเอาไว้ เพราะไอ้เชื้อโรคชนิดนี้ มันยังหาวิธีรักษาที่เด็ดขาดไม่ได้ ถึงจะมีวัคซีนใช้ มันก็ใช่จะเป็นวัคซีน ที่เอาไว้ฆ่าโควิดซะเมื่อไหร่ มันเป็นเพียงแค่เอาไว้ป้องกัน ไม่ให้ไวรัสชนิดนี้ลงไปสู่ปอด และ ฆ่าเราตายได้ ซึ่งผมก็ไม่ต้องอธิบายมากหรอกนะครับ ว่าโรคนี้มันร้ายแรงเพียงใด เพราะผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้ว
แต่มีคนส่วนนึง ที่ยังไม่รู้และเข้าใจ เชื้อไวรัสชนิดนี้ดี คนกลุ่มนั้นก็คือเหล่าบรรดานักโทษ ผู้ต้องขังทั้งหญิงและชาย พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถรับรู้ข่าวสารต่างๆจากภายนอกได้เลย นอกจากฟังจากปากของผู้คุม หรือนักวิชาการที่เข้ามาอธิบาย ให้เราฟัง อีกทั้งยังต้องขาดแคลนหน้ากากอนามัย และไอ้การเว้นระยะห่างนั้นลืมมันไปได้เลย เพราะมันไม่มีทางทำได้ในคุกไวรัสชนิดนี้ ใครเป็นเราก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ก็ 2 อาทิตย์ และในคุก ทุก คุกทั่วประเทศ ต้องแบกรับ บรรดานักโทษมากมาย เกินอัตราจะรับได้กันอยู่แล้ว ความแออัดเบียดเสียดเกิดขึ้น มีให้เห็นอยู่ทุกวัน ขนาดนอนยังต้องไขว้ขากันนอนเลยครับ ตะแคงนอนก็มี แบบนี้จะป้องกันและเว้นระยะห่างได้อย่างไร วิธี ที่จะทำได้ด้วยตนเอง ก็คือ เราต้องป้องกันตัวของเราก่อน ถึงมันช่วยได้แค่เพียงน้อยนิด ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
บรรดานักโทษ วันนี้ อยู่กันด้วยความหวาดกลัว และยอมรับสภาพ ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พูดง่ายๆก็คือ อยู่รอความตายนั้นเอง ถ้าภาครัฐไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ต้องจัดหาวัคซีนมาฉีด ให้กับนักโทษโดยเร็วที่สุด เพราะในสภาวะปัจจุบันนี้ ทางออกของปัญหาและทางแก้ที่ทำอยู่ในเรือนจำนั้น
ถ้ามองในความคิดของผม มันยังไม่ดีพอ มันยังไม่มากพอ แล้วถ้าหากปล่อยปัญหาเหล่านี้เอาไว้ให้มันยิ่งนานวัน จนมันแย่กว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ผมเชื่อได้เลยว่า จะต้องมีสักเรือนจำนึงก่อเหตุการณ์ จลาจลขึ้น เป็นการก่อจลาจลของพวกบรรดานักโทษเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าในคุกแต่ละที่นั่น มันจะมีนักโทษประเภท พวกหัวรุนแรง ชอบใช้กำลัง พวกที่ชอบก่อหวอด ก่อความไม่สงบ และ พวกที่ชอบสร้างสถานการณ์
ยิ่งช่วงเวลานี้สถานกราณ์เป็นแบบนี้ ก็ เหมาะสมเลยทีเดียว เพราะว่า คนที่ติดก็ติดไปติดแล้ว ก็รักษากันไป แต่ไอ้พวกที่ไม่ติดหรือไม่รู้ว่าติด พวกเขาเหล่านี้ ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง ท้อแท้ เพราะรู้อยู่เต็มอก ว่าในไม่ช้าไม่นาน มันก็ต้องถึงคิวของตัวเอง นี่แหละครับเหตุผล ที่ทำให้บรรดานักโทษที่เหลือ อาจก่อจลาจลได้และถ้ามีหนึ่งเรือนจำเริ่มขึ้นมา มันก็จะมีตามขึ้นมาเรื่อยๆอย่างแน่นอน เหมือนกับโดมิโน่ ที่เราเคยเล่นตอนเป็นเด็กยังไงละครับ… (โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ”
บทความ “ตอนพิเศษ” (แค่อยากเล่า) โควิค หายนะในเรือนจำ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending