Breaking News

ครม.เคาะแล้ว! ให้ธนาคารรัฐขยายเวลาพักชำระหนี้ได้ถึงสิ้นปี

ครม.เคาะแล้ว! ให้แบงก์รัฐขยายเวลาพักชำระหนี้ได้ถึงสิ้นปี

ครม.เคาะแล้ว! ให้ธนาคารรัฐขยายเวลาพักชำระหนี้ได้ถึงสิ้นปี

เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวันในประเทศไทยบ้านเรายังคงน่าเป็นห่วงต่อเนื่อง ล่าสุดครม.เห็นชอบให้ ธนาคาร ขยายระยะเวลามาตรการพักชำระหนี้ออกไปถึงสิ้นธ.ค.นี้ และให้ใส่เงินเสริมสภาพคล่องทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยรายละเอียดมีดังนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายระยะเวลามาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง อาทิ มาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดดอกเบี้ย หรือมาตรการขยายเวลาชะระหนี้ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยให้ขยายระเวลาไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564

มติรับทราบผลการดำเนินงานผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs)

มีมติรับทราบผลการดำเนินงานของมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ประกอบด้วย

1. มาตรการพักชำระหนี้ ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2564 SFIs ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้โดยการพักชำระหนี้ ด้วยการพักชำระเงินต้น และ/หรือ ดอกเบี้ย และ/หรือ ลดอัตราดอกเบี้ย และ/หรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ 

โดยกระทรวงการคลังได้ขอให้ SFIs ขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ตามความสมัครใจ และเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้

2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ ผ่านมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ ภายใต้พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค และมาตรการสินเชื่อของ SFIs อีกหลายมาตรการที่ยังมีวงเงินคงเหลืออยู่ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ประชาชนทั่วไป และธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs

ครม.มีมติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบระลอกใหม่ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และขยายเวลาการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องมากขึ้น รวมถึงแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ดังนี้

1. ขยายเวลาการดำเนินโครงการสินเชื่อ Extra Cash วงเงิน 10,000 ล้านบาท ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ขนาดย่อมในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ๆ ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ระยะเวลากู้ 5 ปี โดยขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564

2. ปรับปรุงการดำเนินโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาทของธนาคารออมสิน สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในธุรกิจท่องเที่ยวและ Supply Chain วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี โดยขยายระยะเวลากู้จากเดิมไม่เกิน 5 ปี เป็นไม่เกิน 7 ปี ขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นจากเดิมสูงสุดไม่เกิน 1 ปี เป็นสูงสุดไม่เกิน 2 ปี และขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564

3. ขยายกลุ่มเป้าหมายของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ “SMEs มีที่ มีเงิน” สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว ของธนาคารออมสิน สำหรับผู้ประกอบการ ที่ใช้หลักประกันเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและไม่ต้องผ่านการตรวจเครดิตบูโร วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0.1% 0.99% และ 5.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ 3 ปี

โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมถึงธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ เช่น ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง ธุรกิจโรงเรียนเอกชน เป็นต้น พร้อมทั้งขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2564

นอกจากนี้นายอาคม ได้กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง และเพียงพอ โดยได้มีการติดตามผลการดำเนินมาตรการอยู่เป็นระยะ รวมถึงพิจารณาข้อจำกัดและปัญหาอุปสรรคของการดำเนินมาตรการ รวมทั้งได้ปรับปรุงและออกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อดูแลประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงทีต่อไป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
ปลดล็อกสกิน “พลังใบ” กัญชาถูกกฎหมาย
Breaking News

ปลดล็อกสกิน “พลังใบ” กัญชาถูกกฎหมาย

สาวกพลังใบยิ้มออกแล้ว เมื่อกระทรวงสาธารณสุขมีประกาศ "ปลดล็อกกัญชา" ออกจากยาเสพติดในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยเหตุผลที่ได้รับการปลดล็อก เนื่องจากว่าสรรพคุณของกัญชาให้ประโยชน์อย่างมากมาย
Breaking News

PDPA ความสำคัญข้อมูลส่วนบุคคล

PDPA พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายทั้งฉบับเมื่อวันที่ 1  มิถุนายน 2565 มีสาระสำคัญในเรื่องใดบ้าง

Comments are closed.

Metaverse โลกใหม่แห่งอนาคต
Breaking News

Metaverse โลกใหม่แห่งอนาคต

ด้วยกระแสข่าวจาก Facebook ที่มีแผนรีแบรนด์บริษัทด้วยการเปลี่ยนชื่อใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยมุ่งเน้นไปในเรื่อง “เมตาเวิร์ส(Metaverse)” หรือโลกดิจิทัล ที่ผู้คนสามารถโต้ตอบและใช้พื้นที่เสมือนจริงร่วมกันได้
Breaking News

ญี่ปุ่นเตือน! ประเทศแถบอาเซียนให้ระวังการก่อการร้าย! ดัน #การก่อการร้ายแบบพลีชีพ ติดเทรนทวิตเตอร์ในไทยวันนี้!!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ทำการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้พลเมืองของตัวเอง ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ให้ระมัดระวังการก่อการร้าย ด้วยวิธีระเบิดพลีชีพ
Story

ครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ 9/11 กับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่โลกต้องจดจำ

วันนี้ในอดีต ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลเคดาได้ทำการจี้เครื่องบินพาณิชย์ เพื่อพุ่งเข้าชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในใจกลางมหานครนิวยอร์ก เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากถึง 3,000 ราย