ตำนานลิงลพบุรี (ยกพวกตีกัน)
ลิงกลายเป็นของคู่บ้านคู่เมืองคนจังหวัดลพบุรีมาช้านานแล้ว นับตั้งแต่ตัวผู้เขียนเองเกิดมาก็37ย่าง38ปี ก็ได้เห็นและรับรู้มาว่าที่จังหวัดลพบุรีนั้น มีลิงอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะสมัยที่ผู้เขียนยังเป็นเด็กอายุราวๆ 3-4 ขวบ แม่ของผู้เขียนนั้นได้รับราชการอยู่ที่จังหวัดลพบุรี และก็มักจะพาผู้เขียนมาที่ทำงานด้วย และทุกครั้งที่ผู้เขียนมาที่ทำงานของแม่ผู้เขียน ก็มักจะเห็นลิงอยู่เสมอ
ซึ่งผู้เขียนก็จำไม่ได้ว่าที่ทำงานของแม่นั้นอยู่ใกล้ ๆ ศาลเจ้าพ่อพระกาฬรึป่าวเพราะทุกครั้งก่อนที่จะนั่งรถไฟกลับบ้าน แม่มักจะพาผู้เขียนไปให้อาหารลิงในศาลเจ้าพ่อทุกครั้ง ผู้เขียนก็จะชอบไปมากๆ และมันคือภาพจำที่ผู้เขียนจำได้นั่นก็คือ จะมีฝูงลิงนับสิบตัวห้อมร้อมตัวผู้เขียนตอนที่ตัวผู้เขียนกำลังให้อาหาร เป็นผลไม้ที่หาซื้อได้แถวๆนั้น ในความรู้สึกของผู้เขียนลิงมันมีมากจริงๆมากซะจนอยู่ข้างนอกศาลก็มีเลยไปถึงในตัวตลาด แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อพระกาฬเสียเป็นส่วนใหญ่ คนจังหวัดลพบุรีเรียกกันว่าลิงเจ้าพ่อและจะมีลิงอีกกลุ่มนึ่งที่จะไม่ถูกกับลิงศาลเจ้าพ่อพระกาฬคือ ลิงฝั่งตลาดซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
เพราะว่านิสัยของลิง ลิงคือสัตว์สังคมอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นฝูง และ ในแต่ละฝูงก็จะมีจ่าฝูง ซึ่งจ่าฝูงมักจะเป็นลิงตัวใหญ่ตูดแดงนิสัยเกเรเวลากินก็จะกินก่อนตัวอื่นเสมอ ในศาลเจ้าพ่อ ผู้เขียนมักจะเห็นลิงที่นิสัยเกเรจะถูกขังกรงอยู่ เขาจะมีชื่อติดเอาไว้ อย่างเช่น ไอ้แรมโบ้ ลิงเพศผู้ตัวอ้วนใหญ่มากๆ โดนข้อหาคุกคามนักท่องเที่ยว จำคุกเป็นเวลา2เดือน ที่ร้านแรงกว่าไอ้แรมโบ้ก็มี มันชื่อเจ้ายักษ์ ตัวมันยักษ์สมชื่อมันใหญ่กว่าไอ้แรมโบ้เป็นอย่างมาก มันคือจ่าฝูงตัวก่อน ก่อนที่จะเป็นไอ้แรมโบ้ ไอ้ยักษ์มันโดนข้อหาทะเลาะวิวาทยกพวกไปตีกับลิงฝั่งตลาด
จนเป็นข่าวที่โดงดังมาแล้ว มันได้ฆ่าลิงฝั่งตลาดตายไปหลายตัว ก็เลยโดนจับขังลืมไปเลย และ ส่วนมาก ประชาชนจะไม่มีใครกล้าทำร้ายลิง เพราะพวกเขาจะคิดว่าเป็นลิงเจ้าพ่อ ถ้าใครทำร้ายจะเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเองและครอบครัว มันจึงทำให้บรรดาลิง เหิมเกริม แต่จะมีคนพวกนึงที่ลิงที่นี่กลัวนั้น ก็คือ ทหารที่ประจำการดูแลที่ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ และก็คนดูแลศาล เพราะพวกเขานั้นแตะจริงจับจริง ลิงมันก็เลยไม่กล้าแสดงอิทธิฤทธิ์กับคนพวกนี้มากนัก
คนดูแลศาลเจ้าพ่อพระกาฬ จะมีหนังสติ๊กเป็นอาวุธเอาไว้ยิงบรรดาลิงที่ดื้อและไม่เชื่อฟังคนดูแลสารกับทหารนั่นแหละครับที่จะคอยจับบรรดาลิงเกเรทั้งหลายขังกรง โดยไอ้ยักษ์นั้นต้องใช้ยาสลบจากทางสัตวแพทย์ทำเป็นลูกดอกเพราะว่า ไอ้ยักษ์มันอยู่ท่ามกลางฝูงลิงห้อมล้อมมันมากมายและลิงลพบุรีมาจากไหนผมจะบอกให้ฟังนะครับ
ลิงลพบุรีมาจากไหน?
ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน คำถามโลกแตกตอบยากแต่ถ้าเปลี่ยนเป็น คนกับลิงอะไรอยู่ที่ลพบุรีมาก่อนคำตอบชัดเจนว่า ต้องเป็นลิงสินะ เพราะพื้นที่ลพบุรีคือป่าอันอุดมสมบูรณ์ ก่อนจะมีการสร้างบ้านแบ่งเมือง และ กลายเป็นชุมชนของผู้คนหนาแน่นเหมือนเช่นปัจจุบัน แต่พบว่าลิงเหล่านี้มีความชาญฉลาดและการปรับตัวเก่งกาจ ทำให้พวกมันดำรงอาศัยมีชีวิตในสังคมเราได้
ในตัวเมืองลพบุรีที่เราคุ้นเคยแบ่งลิงเป็น 2 กลุ่มใหญ่รวมกันมากกว่า 500ตัว กลุ่มแรกคือลิงซึ่งอาศัยบริเวณศาลพระกาฬพระปรางค์สามยอด ลิงเหล่านี้ค่อนข้างเชื่องคนเพราะได้รับอาหารเลี้ยงจากนักท่องเที่ยว รวมถึงอาหารเซ่นไหว้จากประชาชนอยู่ตลอด ลิงกลุ่มนี้อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่
ขณะที่อีกพวกคือลิงตลาด หรือ ลิงตึกตามอาคารบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง ลิงเหล่านี้เป็นลิงที่แตกฝูง โดนขับไล่หรือเกิดมาไม่ได้เกิดในกลุ่มใหญ่ จะเรียกว่าลิงจรจัดก็พอได้ เจ้าจ๋อเหล่านี้ค่อนข้างอดอยากสักหน่อย และมีพฤติกรรมที่ฉกฉวยสิ่งของจากนักท่องเที่ยว มีนิสัยค่อนข้างดุร้ายกว่าลิงพวกเดิมที่อาศัยอยู่ในศาลพระกาฬ และ พระปรางค์สามยอด แต่นั่นแหละหากเราเข้าใจว่า ทำไมพวกมันถึงมีพฤติกรรมเช่นนี้ คงพอให้อภัยได้ใช่ไหมครับ
เพราะลิงคือสัตว์สังคมมีจ่าฝูง จ่าฝูงทำอะไรก็มักจะทำตาม ในเมื่อจ่าฝูงมีเรื่องมีปัญหา บรรดาลิงลิ้วล้อก็มักจะเฮโลตามจ่าฝูงไปด้วย
และผู้เขียนจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ประสบพบเจอมาเมื่อเร็วๆนี้ ผู้เขียนไม่ได้เป็นคนลพบุรีหรอกครับ เพียงแต่ขี่รถยนต์มาหาเพื่อนในตัวเมืองลพบุรีเท่านั้นเองก็เคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่ลิงทั้ง 2 ฝั่งยกพวกตะลุมบอนกัน ผู้เขียนจะขอเล่าให้ฟังในสิ่งที่ผู้เขียนเห็นนะครับ
ลิงนับพันตัวยกพวกตีกัน อย่างดุเดือดบริเวณถนนปรางค์สามยอด หน้าศาลพระกาฬจังหวัดลพบุรีกีดขวางการจราจรทำให้รถยนต์หลายคันต้องจอดสนิทท่ามกลางเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ ผู้เขียนนั้นกำลังอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว จอดติดไฟแดงอยู่ สักครู่ได้ยินเสียงลิงดังเจี๊ยวจ๊าวจากฟังพระปรางค์3ยอดจำนวนมาก ที่ปีนรั้ววิ่งกูลงมากลางถนน โดยมีลิงจากฝั่งธนาคารออมสินและลิงตลาดกรูลงมาเช่นกัน
จากนั้นก็เปิดฉากตะลุมบอนกันอุตลุด ส่งเสียงดังลั่นโดยไม่สนใจรถหลายสิบคันที่บีบแตรไล่ดังลั่นไปทั่วถนน แต่กับเป็นการปลุกเร้าให้ลิง2ฝั่งปะทะกันดุเดือดยิ่งขึ้นไปอีก อย่างกับสงครามวานร เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตอนแย่งอาหาร แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแย่งอาหารตามธรรมดา คาดว่าจ่าฝูงทั้งสองเขม่นกันมานาน หลังจากสื่อสารภาษาลิงกันแล้ว ก็ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกที่ใจถึงนับร้อยตัวนัดแนะกันให้มาเจอกันที่กลางสี่แยกดังกล่าว
ผู้เขียนก็ไม่เคยเห็นลิงจำนวนมากเท่านี้ตะลุมบอนกันมาก่อน ซึ่งภาพที่เห็นนั้น มันเหมือนกับนักเลงยกพวกตีกัน อย่างในหนังเลย ซึ่งทั้งสองฝั่ง ไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น แม้กระทั่งคนที่เคยให้อาหาร รีบขับรถซาเล้งมาดู เพื่อห้ามศึกในครั้งนี้ ก็ไม่เป็นผล รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต่างเร่งเครื่อง บีบแตรไล่ ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน ต้องรีบขับรถหนี ซึ่งผู้เขียนเองก็หนีเช่นกัน แต่พวกลิงทั้งสองฝ่าย ก็ไม่ได้ทำร้ายรถหรือทำร้ายคนแต่อย่างใด นอกจากทำร้ายลิงด้วยกันเองและการยกพวกตะลุมบอนในครั้งนี้ มีลิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายตัว พบมีเลือดไหลนองพื้นถนน ก่อนที่จ่าฝูงฝั่งที่แพ้จะยอมรับสำหรับความพ่ายแพ้และล่าถอยไป
จนพรรคพวกยอมถอยตามไปด้วย หลังจากเหตุการณ์สงบลงกลับสู่ปกติทิ้งไว้เพียงร่องรอยเลือดและศพลิงที่ตายอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนก็เพิ่งจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้ใกล้ๆเป็นครั้งแรก เพราะผู้เขียนไม่ใช่เป็นคนลพบุรีหรอกครับเพียงแต่แวะมาเที่ยวหาเพื่อนเท่านั้นเอง ศึกครั้งนี้ต้องมีภาคต่อไปแน่นอนผู้เขียนคิดอย่างนี้นะครับ…
เรื่องเล่าในตำนานลิงลพบุรีนั่งรถไฟไปตีกับลิงนครสวรรค์
ในเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานลิงยกพวกตีกันนั้น ผู้เขียนเองก็ได้ทราบถึงตำนานเรื่องนี้ จากปากคำเพื่อนของผู้เขียนเอง ในทีแรกผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยจะปักใจเชื่อเสียเท่าไหร่ ก็เหมือนคนปกติทั่วไปที่คิดว่า เรื่องนี้คงเป็นเรื่องแต่งเสียมากกว่า เพราะลิงเนี่ยนะ จะสามารถขึ้นรถไฟเพื่อไปตีกับลิงตัวอื่นได้ แต่พอมาระยะหลัง ผู้เขียนได้ทราบข้อมูลเพิ่มมากขึ้น จากผู้คนบนโลกโซเชียล และจากปากคำบอกเล่าจากผู้เฒ่า ผู้แก่ จนเริ่มทำให้เรื่องเล่าเหล่านี้ ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้วซิ
หนึ่งในข้อมูลที่ผู้เขียนได้พบ มาจากคำบอกเล่าของผู้ใช้เฟซบุ๊กทานหนึ่ง คือ คุณ Adisorn Suksombut ที่ได้โพสต์ข้อความระบุเพื่อเข้ามายืนยันว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง มีใจความว่า
“ปู่ผมเป็นนายสถานีรถไฟช่องแค อำเภอตาคลี นครสวรรค์ พ่อผมเคยขายของบนรถไฟด้วย ตรงนี้มีภูเขา ป่า และวัดช่องแคอยู่ติดสถานี มีลิงเดิมอาศัยอยู่ซึ่งเป็นลิงวอก ภาพถ่ายเก่า ๆ ที่นี่เป็นลิงวอก แล้วด้วยความที่ทางรถไฟสายเหนือมีรางเดียวต้องรอหลีกทางโดยเฉพาะสถานีช่องแค รอนานลิงลพบุรีเห็นลิงช่องแคลงมาตีเลยจ้า พอตีจ่าฝูงแตกก็เอาพวกตัวเมียกลับไปด้วย รถไฟสมัยก่อนมันจอดนานครับ ลิงตีกันเสร็จก็กลับขึ้นหลังคารถไฟทัน”
แล้วเหตุการณ์ลิงลพบุรียกพวกตีกับลิงจังหวัดอื่นมีบ่อยมาก จากคำบอกเล่า ของคนเฒ่าคนแก่ที่อยู่ที่ลพบุรี ได้บอกว่ามีเรื่องเล่าอีกหนึ่งเรื่องคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าว่า สมัยที่มีงานมังกรที่จังหวัดนครสวรรค์ ลิงลพบุรีได้นั่งรถไฟไปเที่ยวแต่เกิดเขม่นกับลิงฝั่งนครสวรรค์ก็เลยยกพวกตีกัน แต่ยอมรับเลยว่าลิงลพบุรีนั้นเก่งกาจมาก จึงสามารถเอาชนะลิงเจ้าถิ่นได้ และอีกเช่นเคย ลิงที่ชนะก็ได้ยึดบันดาลิงตัวเมียของฝั่งตรงข้าม เอามาเป็นของตน และก็ได้นั่งรถไฟกลับ
ลิงมันจะรู้เวลารถไฟมารถไฟกลับได้ โดยที่มันรู้ได้ยังไงอันนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่มันจะรู้ว่าเวลาจะมีรถไฟเที่ยวกลับลพบุรีมาถึง พวกมันก็จะมาออกันเต็มสถานีรถไฟนครสวรรค์กันเลยทีเดียว แต่ก็มีอีกเรื่องเล่าเรื่องนึงที่ลิงลพบุรีได้ยกพวกตีกับลิงเพชรบุรีนั้น อันนี้ก็ไม่ทราบได้อาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าหรือเป็นตำนานเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า ลิงลพบุรีนั้น โครตแสบเลยจริงเชียว…(” หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ” )
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun