By AI AI
สถานการณ์ทะเลจีนใต้ส่อเค้าระอุขึ้นอีกครั้ง!! หลังอังกฤษ เยอรมัน อินเดีย ส่งเรือรบเข้ามาสนับสนุนสหรัฐฯในทะเลจีนใต้
เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าว ซินหัวของจีน ได้รายงานถึงการเดินเรือของชาติมหาอำนาจ อย่างอังกฤษและเยอรมัน ที่ตอบรับการเดินเรือรบเข้ามาช่วยสนับสนุนแก่ทัพเรือสหรัฐฯ ในนโยบายรักษาความปลอดภัยให้กับการค้าทั่วโลกโดยไม่มีข้อจำกัดของ นายโจไบเดนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทางการจีนได้กล่าวหาการกระทำนี้ว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยของจีน เป็นพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพิ่มความเสี่ยงต่อความมั่นคงในภูมิภาคและมีแนวโน้มที่จะเกิดความเข้าใจผิด อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด พร้อมทั้งยังประนามการกระทำนี้ ที่จะส่งผลให้เกิดการสู้รบกันได้ในอนาคต
ทางด้าน นายโจไบเดนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อ CNN ว่า พวกเราต้องกระทำการบางอย่าง เพื่อปกป้องเส้นทางการค้าระหว่างประเทศสากลนี้ ไม่ให้ตกอยู่ภายใต้การปกครอง ของประเทศใด ประเทศหนึ่ง การออกมาตอบโต้นี่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศถึงจุดยืน หลังจากที่จีนประกาศเส้นแบ่งเขตทะเลจีนใต้ขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้หลายประเทศในอาเซียนได้รบผลกระทบ โดยเฉพาะ ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ที่กลุ่มชาวประมงได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการแบ่งเขตแดนนี้ของจีน ไม่ใช่เฉพาะการประมงเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรือขนส่งสินค้าอีกหลายลำก็ได้รับผลกระทบนี่อีกเช่นกัน
จนเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งให้เรือพิฆาตยูเอสเอส เคอร์ติส วิลเบอร์ ได้เข้าแล่นผ่านไปยังหมู่เกาะพาราเซล ที่จีน เวียดนาม และไต้หวันต่างอ้างสิทธิ รวมถึง สั่งให้แล่นผ่านเทียบเคียงยังทะเลจีนใต้ อีกทั้งยังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตร แสดงออกมาถึงจุดยืน ในการปกป้องเส้นทางการค้าระหว่างทะเลนี้ ในภายหลัง ทางการจีน ได้รับสั่งให้กองเรือพิฆาต รวมถึงเรือดำน้ำ เฝ้าจับตาการเดินเรือของกองทัพสหรัฐฯ พร้อมทั้งข่มขู่ว่า ถ้าเรือรบของสหรัฐฯ ลุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตทะเลของจีนเมื่อไหร่ พวกเขาจะทำการตอบโต้อย่างสาสม จึงยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้แก่ทะเลจีนใต้เพิ่มมากขึ้น
กระทั่งวันที่ 20 ก.ค. สื่อCNN ได้รายงานว่า หลักจากรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ ได้เข้าไปปรึกษาหาลือกับรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น โนบูโอะ คิชิ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเตรียมการรับมือถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็ได้ข้อสรุปและประกาศต่อหน้าสื่อที่กรุงโตเกียวว่า ทางรัฐบาลอังกฤษได้เล็งเห็นถึงปัญหาและพร้อมที่จะช่วยเหลือ ด้วยการส่งเรือรบเข้ามาประจำการอย่างถาวร ในภูมิภาคนี้ รวมทั้งส่งเรือรบบรรทุกเครื่องบิน HMSควีนเอลิซาเบธ (HMS Queen Elizabeth) และ เรืออารักขา โดยจะใช้ท่าเทียบเรือของญี่ปุ่นเป็นฐานปฎิบัติการ
ทั้งนี้เรือรบบรรทุกเครื่องบิน HMS ควีนเอลิซาเบธนั้น มีฝูงเครื่องบินรบขับไล่ล่องหนอังกฤษ F-35B ประจำอยู่การอยู่บนเรือ ถือว่าเป็นกองกำลังที่เข็มแข็งของอังกฤษ และจะทอดสมอจอดที่ท่าเรือ โยโคซูกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการกองเรือญี่ปุ่นและเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ USS โรนัลด์ เรแกน( USS Ronald Reagan) นั่นเอง
ซึ่งการประกาศนี้ของทางรัฐบาลอังกฤษ ได้สร้างความกดดันไปทางรัฐบาลจีนเป็นอย่างมาก ในเวลาไม่นานทางด้านรัฐบาลจีน ได้ประกาศทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล DF-21D และ DF-26 ที่ทางการจีนอ้างว่าเป็นขีปนาวุธที่มีไว้ใช้ทำลายเรือรบโดยเฉพาะ มีพิสัยที่กว้างไกล และสามารถยิงได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามนี้
ล่าสุดในวันที่ 2 ส.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า ทางการเยอรมันได้ประกาศว่า จะส่งเรือรบเข้ามายังทะเลจีนใต้ เพื่อสนับสนุนกองกำลังชาติพันธมิตร โดยจะส่งเรือเรือฟริเกต “บาเยิร์น” ออกเดินทางจากท่าเรือในเมืองวิลเฮล์มสฮาเฟน ริมชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทั้งนี้เรือฟริเกต”บาเยิร์น” เป็นเรือที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเรือ ผู้พิฆาตเรือดำน้ำ เพราะเรือถูกออกแบบมาให้สามารถตรวจจับและล่าเรือดำน้ำโดยเฉพาะ มีจรวดสำหรับจัดการเรือดำน้ำ ที่ทางเยอรมันติดตั้งมากับเรือมากกว่า 40 ลูก
ขณะที่ครัมป์-คาร์เรนเบาเออร์ กล่าวว่า ภารกิจของเรือบาเยิร์นเป็นไปตาม “เสรีภาพด้านการลาดตระเวน” ในทะเลจีนใต้ ซึ่งควรเป็นพื้นที่เปิดกว้างทั้งการเดินเรือ และการค้าที่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยอรมนียืนยันแล้วว่า เรือบาเยิร์นจะไม่เดินเข้าไปภายในรัศมี 12 ไมล์ทะเล ของเกาะเทียมแห่งใดก็ตามในทะเลจีนใต้ และเกาะพิพาทระหว่างรัฐบาลปักกิ่งกับหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะหมู่เกาะสแปรตลีย์และหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะขนาดใหญ่ที่สุด
ในวันเดียวกันนี้เอง สื่อนิวเดลีได้ออกมาประกาศว่า ทางด้านรัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาแถลงแล้วว่า พวกเขาจะทำการส่งเรือรบเข้าไปสนับสนุนชาติพันธมิตรในทะเลจีนใต้ และจะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมรบกับหลายชาติ ทั้งกองทัพเรือออสเตรเลีย เนเธอแลนด์ ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน และสหรัฐฯ รวมถึงการเข้าร่วมซ้อมรบในระดับทวิภาคีระหว่างภารกิจและกองเรือรบอินเดียจะเข้าร่วมทำงานกับกองกำลังกองทัพเรือจากกลุ่มประเทศในแถบทะเลจีนใต้ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ อีกด้วย
ทั้งนี้การกระทำนี้ของอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าน่าจะเป็นการตอบโต้จีน หลังจากเหตุการณ์ข้อพิพาทเขตแดนเทือกเขาหิมาลัย ที่ทหารอินเดียเข้าสู้กับทหารจีน โดยใช้อาวุธเป็นไม้ ส่งผลให้ ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 ราย ส่วนทางด้านจีน เสียชีวิต 4 ราย ทั้งนี้ ยังเชื่ออีกว่า การปรากฎตัวของเรือรบในเขตทะเลจีนใต้ของอินเดียที่ถึงแม้ว่าจะอยู่นอกเขตจำกัด 12 ไมล์ทะเลของแต่ละจุด ที่จีนประกาศตัวอ้างสิทธิ์นั้น ถือว่ามีความเพียงพอสำหรับเป้าหมายยุทธศาสตร์ใหม่ของนิวเดลี ในการส่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการเกี่ยวข้องต่อไปในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกอีกด้วย
ทางด้านจีนเอง ก็ได้ประกาศและยกระดับ รวมถึงให้เริ่มการซ้อมรบที่ทะเลจีนใต้ที่จะถึงนี้ เป็นนัยยะแอบแฝง เพื่อแสดงถึงศักยภาพของกองทัพจีนให้ประเทศพันธมิตรได้เห็น พร้อมทั้งในงานวันชาติจีนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ออกมาปราศรัย รวมถึงตอกย้ำความเป็นเอกภาพ การพัฒนา และความเข้มแข็งของจีน ว่า “ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความก้าวหน้าของจีน ไม่มีอะไรมาสั่นสะเทือนรากฐานของชาติที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ วันนี้ สังคมนิยมจีนได้ยืนอยู่แถวหน้าของโลก ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งชาวจีน และชาติจีนในการเคลื่อนไปข้างหน้า” อีกทั้งยังกล่าวเป็นนัยอีกว่า จะไม่ยอมให้ชาติไหน มากดขี่ ข่มเหง ชาวจีนได้อีกต่อไป!!
ตอนนี้เราจะเห็นได้ถึงหลายชาติพันธมิตรที่ต่างออกมาในข้อพิพาทนี้ สถานการณ์ตอนนี้จึงครูกกรุ่น เสมือนระเบิดเวลาที่รอวันระเบิด เราก็ต่างคาดหวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี รวมทั้งข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไข เพราะถ้าเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้นเอง… #สถานการณ์ทะเลจีนใต้ส่อเค้าระอุขึ้นอีกครั้ง!! หลังอังกฤษ เยอรมัน อินเดีย ส่งเรือรบเข้ามาสนับสนุนสหรัฐฯในทะเลจีนใต้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun
