คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 77
บทที่ 77 ความสนุกของวันขึ้นปีใหม่ในคุก ep. 2
” เพราะชีวิต..มันมีระยะเวลา ทุกเรื่องที่ผ่านมาจึงมีความหมาย เพราะชีวิต..ไม่ใช่แค่เกิดมาแล้วก็ตาย มันยังมีเรื่องราว อีกมากมาย ให้เราได้พิสูจน์ความเป็นคน.. “
**ทักทาย..เพื่อน ๆ ทุกคนครับ พบกันอีกเช่นเคยนะครับกับตอนที่ 77 ผมต้องขอโทษที่ปล่อยให้รออ่านกันตั้งนาน จนนานมากกกก..เผลอแป๊บเดียวก็จะสิ้นเดือนมกราคมอีกแล้ว แต่ความรู้สึกของผมเหมือนปีใหม่พึ่งผ่านมาได้ 2-3 วันเอง ปีใหม่ปีนี้ ผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยครับ (เกินคาด) ก็เลยไม่มีอะไรจะมาเล่าให้ฟังกัน ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีปัญหาเข้ามาเยอะมาก
สำหรับตัวผู้เขียนเองทั้งปัญหาส่วนตัวและเรื่องสุขภาพ มันหนักเอาการเลยเชียว และไหนจะแมวที่ผู้เขียนเคยเล่าให้ฟังที่เลี้ยงเอาไว้ ก็ได้ตายลง 1 ตัว ส่วนตัวพี่อีกตัวอาการก็ดูจะล่อแล่ แต่ดีที่พาไปหาหมอรักษาทันก็เลยรอดตาย..นี่แหละรสชาติชีวิต ส่วนใครที่บอกไว้ว่า ปีใหม่ปีนี้ต้องมีอะไรดี ๆ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ต้นปีนี้ก็แย่มากเลย แต่ยังไงซะชีวิตยังไม่สิ้นเราก็ต้องดิ้นกันไป.. เอาไว้แวะมาคุยกันใหม่นะครับเรามาติดตามอ่านกันต่อดีกว่านะครับ**
“พี่ใหญ่ครับ.. พี่ใหญ่..ตื่น..ตื่น..ได้แล้วครับ พี่ใหญ่ครับ..พี่ต้นขึ้นห้องแล้วครับ” ไอ้แว่นทั้งเขย่าตัวผม แล้วก็เรียกชื่อผมอยู่พักนึงเลยก็ว่าได้ กว่าที่ผมจะรู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมานั่งงัวเงีย เมาขี้ตาพักนึงเห็นจะได้ “แว่นต่อบุหรี่ให้พี่ดูดหน่อยดิ ” ผมร้องหาบุหรี่สูบกับไอ้แว่น
“ได้ครับพี่” ไอ้แว่นกุลีกุจอนหยิบบุหรี่กรองทิพย์ขึ้นมาจุดให้ผมสูบ 1มวน ผมรับบุหรี่จากมันมาแล้วก็นั่งสูบอย่างสบายใจ เพื่อที่ให้อาการสะลึมสะลือ จากอาการของคนพึ่งตื่นนอนได้คลายลง
“อ้าว..ใหญ่ ลงมากินข้าวดิ ปาร์ตี้จะเริ่มแล้วนะ ” ไอ้ต้นหัวหน้าห้องมันเรียกให้ผมลงไป ผมพยักหน้ารับเพื่อให้มันรับรู้ว่าผมรู้เรื่องแล้ว ” เดี๋ยวกูสูบบุหรี่หมดก่อน ” ผมบอกกับไอ้ต้น และในตอนนี้บรรดานักโทษในห้อง 2/5 ได้ทำการยืนจับกุมเป็นวง วงละ 10 คนบ้าง 15 คนบ้าง 20 คนบ้าง ก็แล้วแต่ใครจะกินกับใครยังไง ก็เลือกกันเอาเองแล้วแต่ความสะดวก
เพราะว่าการทำอย่างนี้ ก็เพื่อที่จะได้แบ่งกับข้าวให้ได้อย่างเท่าเทียมกัน ของกินทุกอย่างนั้น ทุกคนเองก็มีส่วนร่วมกับมันทุกคน มันไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันเป็นของทุกคนส่วนรวม ผมนั่งมองลงมาจากเหล่าเต็ง มันช่างให้ความรู้สึกเหมือนกับทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มีแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย พวกกูพวกมึง มีแต่ความสามัคคีและความรักต่อกัน แล้วตอนนี้ก็ไม่มีแบ่งแยก บ้านใครบ้านมันทั้งนั้น
ทุกคนรวมตัวกันเพื่อที่จะกินจะเล่น สังสรรค์กันหาความสนุกสนานกับตัวเอง ให้สมกับการที่รอคอยมาทั้งปี มันก็เหมือนกับเป็นการให้รางวัลชีวิตให้กับตนเอง ผมเห็นสีหน้าแล้วก็แววตาของในแต่ละคนนั้น มันบ่งบอกถึงความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น บุหรี่ในมือผมหมดแล้วในตอนนี้ ผมจึงลุกจากที่นอนแล้วปืนลงบันได เดินไปยังวงกินข้าว วงที่ใหญ่ที่สุดในห้องนี้ วงของพวกเราเด็กอ.เมือง ที่นั่งล้อมวงกันอยู่หน้าห้อง ทุกคนต่างรอให้ผมลงมากินพร้อมกัน
ผมได้ที่นั่งตรงข้างกับไอ้ต้น ผมมองดูกับข้าวหลายสิบชนิด ที่วางใส่จานอยู่ตรงหน้าของผม มันช่างดูเยอะแยะอลังการเหลือเกิน มันก็เลยทำให้กระเพราะที่ในตอนนี้มันว่างเพราะไม่ได้กินอะไรเลย ได้เกิดการบิดตัวเพราะความหิวขึ้นมา โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ก่อนที่จะกินในขั้นตอนสุดท้าย เราก็จะให้หัวหน้าห้องพูดอะไรสักหน่อย เพื่อเป็นการเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ
“กูก็ไม่มีอะไรจะพูดสักเท่าไหร่ เพราะว่าห้องเราดีกันอยู่แล้ว ทุกคนอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ผมหัวหน้าห้องก็ขอขอบคุณ ทุกคนที่ให้ความร่วมมือที่ปฏิบัติตามกฎในห้อง วันนี้เราก็จะมากินเลี้ยงกันกินให้เต็มที่นะเพื่อน หมดมาเอาใหม่เรามีอีกเยอะ เอ๊า!!จะมัวรออะไร..แดกสิครับ ” จบคำพูดของหัวหน้าห้อง ทุกคนในห้อง 2/5ต่างตบมือแสดงความขอบคุณและดีใจ ก่อนที่จะเริ่มก้มหน้าก้มตากินกันอย่างเต็มที่
ผมเชื่อว่าทุกคนในห้องต่างมีความคิดหนึ่งที่เหมือนกันทุกคน คือความคิดที่ว่ามื้อนี้เป็นมื้อที่พวกกูได้กินกับข้าวได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องนั่งแอบแดกกันทีหลังหรือโดยที่ไม่ต้องแบ่งให้ใครหรือรอใคร อยากกินอะไรกินให้เต็มที่ ผมนั่งกินไปด้วยแล้วก็มองพวกเด็กอ.เมืองในบ้านกินไปด้วย ผมรู้ว่าเด็กพวกนั้นญาติถึงไม่ถึง พวกที่ไม่ค่อยมีญาติมาเยี่ยมต้องทำงานแลกความสุข ไม่ค่อยได้กินอะไรพิเศษสักเท่าไหร่หรอกครับ เด็กพวกนี้มันจะก้มหน้าก้มตากินกันอย่างเดียวเป็นภาพที่เห็นแล้วผมมีความสุขนะครับ ผมยิ้มให้กับพวกมันแล้วก็พูดขึ้นว่า
” กินให้หายอยากไปเลยพวกมึง อันไหนไม่เคยได้กินกินซะ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องกลัวใครจะมาเบรคหรือว่าอะไรพวกมึง อยากกินอะไรพวกมึงหยิบไปกินได้เลย คืนนี้จัดให้เต็มที่แล้วต่อไปก็ทำงานให้มันคุ้มและเต็มที่ อย่าให้ใครมาว่าได้ เพราะว่าถ้าขาดพวกมึงไป กูคิดว่าอีกหลายคนคงทำเหี้ยอะไรไม่ได้แน่นอน ง่อยแดกกันเป็นแน่ ” พวกเด็ก ๆทั้งหลายต่างยิ้มมาที่ผมแล้วก็ก้มหน้ากินกันเหมือนเดิม
น้ำอัดลมถูกเปิดกินกันขวดแล้วขวดเล่า ทั้งน้ำสีและน้ำดำ ผมสังเกตุดูโดยสายตาของกินมันยังเหลืออยู่มากเลยทีเดียว ดูไปแล้วแทบจะไม่ลดลงเลย ในแต่ละวงที่นั้งกินกัน ต่างพูดคุยหัวเราะเล่นหัวกันอย่าสนุกสนาน ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของนักโทษทุกคน
บรรดาห้องต่าง ๆ เริ่มร้องเพลงให้ได้ยินเสียงร้องเพลงเริ่มดังขึ้น ดังตามขึ้นมาเป็นห้อง ๆ ทั้งเสียงเคาะแก้ว ตีถังประกอบจังหวะเริ่มดังขึ้น ฟังแล้วก็ดูสนุกสนานดี และในคืนนี้คืนที่พิเศษเช่นนี้ เจ้าหน้าที่เขาก็เลยอนุญาต ให้ลากกันยาว ๆ ได้ยันเที่ยงคืนราตรีนี้ยังอีกยาวไกล จะรีบสนุกไปไหน ห้อง 2/5 เขายังไม่รีบกันหรอกครับ ขอนั่งกินข้าวกินขนมแบบชิวๆ ไปก่อนดีกว่า
“เดี๋ยวอีก 20 นาทีพักเบรกหยุดกินแป๊บ เราจะมาร้องเพลงกัน ตัวแทนแต่ละวงมาร้องเพลง จะร้องเพลงอะไรก็ได้ จะได้เป็นการย่อยอาหารไปด้วยในตัว ” ไอ้ต้นหัวหน้าห้องเป็นคนคิดเสนอการร้องเพลงนี้ขึ้นมาแล้วทุกคนก็เห็นด้วย และนักร้องประจำวงอ.เมือง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แว่นนั่นเอง
ในวงของผมอาหารคาวถูกยกเอามาแอบอยู่ข้างกำแพง ขนมหวานได้ถูกเอายกมาเสิรฟ์ทั้งขนมคลองแคลง ทับทิมกรอบ ลอดช่องน้ำกะทิ รวมมิตร บัวลอย แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น สิ่งที่กล่าวมาก็คือของชอบของผมทั้งนั้น “ไอ้แว่นกินให้เยอะ ๆ และคิดไว้ด้วยว่าจะร้องเพลงอะไร ร้องดีเดียวกูมีทิปให้ ” เป็นคำพูดของหัวน่าห้องที่อัดฉีดให้ไอ้แว่น
ไอ้แว่นทำหน้ายิ้มแหยๆก่อนจะบอกว่า “ครับพี่ ” ….ความสนุกยังมีอีกเยอะ แค่นี้จะเรียกว่าน้ำจิ้มก็ว่าได้ เอาไว้ติดตามอ่านตอนต่อไปนะครับ (โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ “ # คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 77
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun