คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่21
บทที่21 กำลังใจจากใครสักคน EP. 2
“อย่ามัวแต่โทษโชคชะตา หากไม่แสวงหาโอกาสให้ตนเอง”
** ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน คำๆนี้ มันใช้ได้ กลับ ในคุกเช่นกัน แพงยิ่งเป็นความสุขที่ผิด ระเบียบวินัยร้ายแรง ในเรือนจำแล้วนั้น มันไม่เคยอยู่กับเรานานเลยวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย ที่อะไรแย่ๆของเรา ต้องจบลงได้แล้ว พรุ่งนี้ จะเป็นวันเริ่มต้นใหม่ในชีวิตของเราเปลี่ยนเป็นคนใหม่อย่างแท้จริง**
- เหลือเวลาแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็จะเลิกงานแล้ว พวกมันคงสงสัยว่า ผมพาไอ้แว่นขึ้นมาทำไม แต่ที่ไม่มีใครถามนั้น เพราะมันเกรงใจผมนะก็เป็นเรื่องของผมเอง ยาของผมผมจะให้ใครดูดก็ได้ พวกเราทั้งหมด 5 คนได้นั่งล้อมวง โดยมียาเสพติดทั้งหมด วางอยู่ตรงกลาง ผมให้ไอ้แว่นเปิดหัวเป็นคนแรก ไอ้แว่นดูแปลกใจเป็นอย่างมากมันคงคาดไม่ถึงว่าผมจะทำแบบนี้กับมัน “อ้าว ดูดให้หมดไปเลยนะที่กู ตักให้มึงเนี่ยไวๆอย่าชักช้าๆเวลามีน้อย” ผมพูดเป็นเชิงเร่งไอ้แว่นไปในตัวมันจะได้ไม่ช้าแบบนี้
ไอ้แว่นรีบรับตัวดูด ไว้ในมือและรีบจุดไฟแช็คลนดูดทันที!! เฮ้ยๆ มึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวช็อคตายห่าหรอก หัวสั่นหัวคลอนเลยนะมึง “ไอ้หมีได้พูดแซวไอ้แว่นไป เรียกเสียงหัวเราะพวกเราในกลุ่มได้เป็นอย่างดี 2 อึดใหญ่ๆที่ไอ้แว่นได้ดูดเข้าไปผมมองเห็นหน้าตามัน แล้วก็อดขำไม่ได้ หน้าตามันดูเหมือนคนหลุดๆ ยังไงไม่รู้ ตาเหลือกเชียว “เป็นไงมึงขนหัวตั้งเลยใช้ป่ะ หอบตัวโยนเลยนะมึง ” ผมได้พูดแซวไอ้แว่นไปท่าทีของมันดู เลิกลัก ชอบกล
และแล้วก็ถึงเวลา ที่พวกผมต้องดูดกันบ้าง พวกเราต่างๆ ตัก กันแล้วตัก กันอีกเพื่อที่จะแค่นดูด มันให้หมด ไหนจะดูดตัวเล็กอีก 2 เม็ด ผมคิดแล้ว คืนนี้กูคงไม่ได้นอนอีกเป็นแน่ แต่ไม่เป็นไรถือว่าเป็นการทิ้งทวน กับการกระทำที่แย่ๆ เพื่อวันพรุ่งนี้ผมจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ไม่ว่าจะข้างในหรือข้างนอกก็ตาม ผมนั้นมีความเชื่ออยู่ว่า ถ้าคนเรามันไม่ได้เลวโดยสันดาน ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ ผมเองก็เช่นกัน ผมไม่ได้เลวโดยสันดาน ผมจึงสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลา อยู่ที่ตัวของเราเองว่าเวลาไหนมันเหมาะสมที่สุด ซึ่งผมก็คิดว่า ณ ตอนนี้เวลา ขณะนี้เหมาะสมกับผมมากที่สุดแล้ว
ไม่มีใครสายเกินไปหรอกครับ พอพวกผมดูดตัวใหญ่กันหมดแล้วผมก็หยิบยาบ้ามาให้ไอ้แว่นเม็ดท่าทางไอ้แว่นมันดูเหมือนจะ ไม่เอา แต่มันคงเห็นสีหน้าและแววตาของผม มัน, จึงไม่กล้าขัดใจผมนั้นเอง “อ้าว 1 เม็ดดูดทั้งทีต้องเอาให้ เพรียบ ” ได้เลยครับพี่ใหญ่ ” ไอ้แว่นตอบ
และแล้ว ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ที่ผมเหลืออยู่ พวกผมก็จัดการฟาดกันจนเรียบ ไม่เหลือหรอ ความรู้สึกของผมตอนนี้นั้น มันรู้สึกอิ่ม อิ่มจนแทบจะคลื่นไส้ อาการแบบนี้เขาเรียกว่า เสพยาจนจะเกินขนาด พวกที่เสพยาแรกๆถ้าหากเสพมากจนเกินขนาดนั้น อาจทำให้เกิดภาพหลอน หรือจิตไม่ปกติ อย่างที่เราเห็นกันในทีวี ที่จับเด็กเป็นตัวประกัน จะโดดตึกอะไรแบบนี้ แต่สำหรับผมอาการแบบนี้ ไม่ได้กินผมหรอกขอบอกประสบการณ์ 10 กว่าปี ขนาดดูดเยอะกว่านี้ไม่ได้นอนเกือบ 10 คืนผมยังไม่มีหลุดไม่มีหลอนเลยครับ
ผมเป็นประเภทพวกเก็บอาการได้ดี แต่ตอนนี้ ที่ดูแล้วจะเก็บอาการไม่อยู่ ก็คือไอ้แว่นนั่นเอง แววตาภายใต้แว่นของมันนั้น ดู ล็อกแล็ก ชอบกล มีแต่คนเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ทั้งนั้นเลย อีกไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน เหล่าบรรดานักโทษที่อยู่บนโรงงาน 3 ต่างทยอยกันลง จนเกือบหมด เหลือเพียงพวกพี่เล็กแล้วพวกผมที่มีหน้าที่ ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนปิดโรงงาน ในความรู้สึกของผม เวลาในวันนี้ ได้หมดลงแล้ว ผมใช้เวลาอาบน้ำ และ ได้กินข้าว ซึ่งเป็นมื้อแรก ของ 2 วันนี้ แต่ก็กินได้ไม่นาน ผมก็กินอะไรไม่ลงอีกตามเคย ผมรู้สึกว่าน้ำหนักตัวผมนั้นได้ลดลง ไปหลายกิโลกรัมเลยทีเดียว
ผมใช้เวลาที่เหลือก่อนขึ้นห้อง เดินค่าเวลา ไปคุยบ้านนู้นบ้านนี้ ผมอยากจะบอกว่าคนคุก เรื่องคุยมีไม่หมดหรอกครับ สามารถคุยได้เรื่อยๆเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่เอาเรื่องใหม่มาเล่าอีก วนซ้ำไปซ้ำมา พอมีนักโทษใหม่เข้ามา เรื่องเล่าเก่าๆ มันก็เอากลับมาเล่าใหม่ได้อีก เป็นอยู่แบบนี้ตลอดไป บางครั้งเรื่องเล่า หรือตำนานในคุกวีรกรรมของเหล่านักโทษเก่าๆ ที่ได้ฝากฝังเอาไว้ในความทรงจำในอดีต บางเรื่อง คือเรื่องจริง บางเรื่อง ก็ได้โดนแต่งแต้มแต่งเติมเพิ่มอรรถรสให้ผู้ฟังรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย ส่วนมากจะเป็นอย่างหลังเรื่อง มันแค่ ระดับ 5 แต่คนในคุกสามารถเพิ่มเติมให้มันเป็นระดับ 10ได้ และในคุก แห่งนี้มีอยู่ 1 คนที่สามารถเล่าเรื่องธรรมดา ให้ดูน่าฟังและตื่นเต้นได้ พวกเรามาเก็บไว้รวมตัว ไปนั่งฟังเรื่องเล่าของแกก่อนขึ้นห้องนอนเป็นประจำ
แกมีชื่อว่าจ่าหมายร้อยเรื่อง ขอบอกว่าที่เรียกแกว่าจ่าไม่ใช่แกเป็นตำรวจ เก่ามาก่อนนะครับ แต่เพราะแกมีหน้าที่เป็น จ่าครูฝึก พวกที่ทำผิดกฎระเบียบภายในแดน อยู่ในสนามฝึก แกเป็นประเภทโหดโหมดฆ่าไม่ตาย ฝึก ฝึกหนักยิ่งกว่าทหารซะอีก แกเคยเล่าให้ผมฟังว่า ที่แกต้องทำแบบนี้นั้น ก็เพื่อให้เข้าตา เหล่าบรรดาผู้คุมทั้งหลายและเพื่อที่แกจะไม่ต้องลำบากตอนอยู่ในคุกก็เท่านั้นเอง แต่พออยู่นอกสนามฝึกจ่าหมาย ก็เป็นเพียงชายวัยกลางคน ที่รูปร่างสมส่วนผิวดำแดง
แกต้องโทษคดีพยายามฆ่า, ผู้อื่นโดยเจตนา แต่จ่าหมายแก ก็ สามารถเล่าให้มันดูเป็นเรื่องตลกขบขัน ว่าเพราะอะไรแกถึงได้เข้ามาติดอยู่ในนี้กับโทษ 16 ปีที่แกได้รับ มีเสียงหัวเราะครื้นเครงดังมาจากเหล่าบรรดานักโทษ ที่ได้นั่งห้อมล้อมจ่าหมายเอาไว้ ประมาณ 10 กว่าคนกับท่าทางที่ จ่าหมายประกอบท่าทีในการเล่าเรื่องมันดูได้อรรถรสจนผมอดใจที่จะเข้าไปยืนฟังเป็นไม่ได้
แกพยักหน้าให้ผม เหมือนดั่งคนที่คุ้นเคยกันมาและมันก็คือเรื่องจริงผมได้เจอกับแกมารอบที่ 2 แล้ว ใคร ใคร ที่มานั่งฟังแกเล่าเรื่อง ต่างก็มีน้ำจิตน้ำใจ มอบขนมน้ำอัดลมให้แกไว้กิน แกเคยบอกกับผมถึงแกไม่มีญาติ แกก็อยู่ได้ ผมก็ว่ามันเป็นเรื่องจริงเพราะแกเป็นคนคุยตลกมีเรื่องเล่า ให้คลายเครียดเป็นอย่างดี เพราะเรื่องตลกเป็นเรื่องที่เรา เหล่าคนคุกพวกนั้นต้องการที่จะฟัง เพื่อให้มันลดความเจ็บช้ำ และความเครียด ที่เกาะกุมภายในหัวใจของเหล่านักโทษ เหล่านักโทษทุกคน ผมบอกได้เลยว่า เครียด, กันทุกคนทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ผมเองก็เครียดและคิดมากกับเรื่องส่วนตัว แต่ผมไม่ได้กะจะมาเล่าให้จ่าหมาย หรือระบายให้แก่ฟังหรอกครับ เพียงแต่ตอนนี้ผมไม่อยากอยู่คนเดียว มันจะทำให้ผมคิดมากก็เลยเดินไปฟังเรื่องตลกๆจากแก
และอีกอย่างผมจะเอาบุหรี่ที่ไอ้แว่นให้ผมมา เอาไว้ให้แกซักซองนึง และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด เพราะเรื่องที่แกเล่า ก็สามารถเรียกรอยยิ้มจากผมได้ “ยังเหมือนเดิมเลยนะจ่า ยังขำยังตลกเหมือนเดิมนะครับและนี่เป็นไงบ้างครับ สบายดีนะครับ” ผมได้พูดคุยทักทายกับแกหลังจากที่แกได้เล่าเรื่องจบแล้ว “
จ่า สบายดี นึกว่าใหญ่ ลืมจ่าไปแล้วซะอีก” จ่าหมายได้พูดกับผม” ผมไม่ได้ลืมจ่าหลอกครับ เพียงแต่ผมคิดว่าจ่าจะปล่อยไปแล้ว และตั้งแต่เข้ามาผมก็เพิ่งเห็นจ่าเนี่ย แล้วเมื่อไหร่จ่าจะปล่อยสักทีละครับ อ้าวนี่บุหรี่จ่า ผมให้ไว้สูบ ” ผมได้ตอบคำถามของจ่าและก็ได้ให้สิ่งที่ผมอยากจะให้
แกรับไว้และกล่าวคำว่าขอบใจกับผม เราสองคนนั่งคุยกันได้สักพักจุดบุหรี่สูบ กันคนละมวล ก่อนที่เสียงนกหวีดดังเพื่อให้นักโทษเตรียมตัวขึ้นเรือนนอน พรุ่งนี้เจอกันนะจ่า ผมกล่าวอำลาก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นเรือนนอน ผมเดินออกมา พร้อมกับจิตใจที่มันดีขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ระบายเรื่องที่เราเครียดเอาไว้ให้ใครฟัง แต่มันก็ช่วยได้ถ้าเราได้คุยกับใครสักคน อีกแค่ 4 วัน
ผมก็จะต้องขึ้นศาลตัดสินในคดีที่ผมได้ทำเอาไว้ 2 เดือนกว่าก็ยังไม่มีใครมาเยี่ยมผมเหมือนเดิม ถึงแม้ผมจะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็ตาม กับโทษที่ต้องได้รับ แต่ผมก็อยากจะเห็นหน้า ใครสักคนที่ผมรักมาหาผม บ้างก็ยังดี มันจะทำให้ผมมีกำลังใจสู้ต่อเป็นอย่างมากเพราะว่า กำลังใจที่ดีที่สุดของคนคุกนั้น ก็คือกำลังใจจากครอบครัวนั้นเอง ขึ้นห้องไปก็นอนไม่หลับอีกแล้วกู ผมนึกในใจ… (โปรดติดตามตอนต่อไป) หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ
คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 21
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending