คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 66
บทที่ 66 จุดเดือด ep.4
“การที่เราจะพูดถึงเรื่องใครสักคนหนึ่งนั้น เรานั่นเองที่จะต้องรู้เรื่องของคน คนนั้นให้ดีซะก่อน อย่าพูดเพียงแค่คุณเอง ก็ได้ยินมาเหมือนกัน หูที่ได้ยินเสียง มันสู้ไม่ได้กับตาที่มองเห็น”
** บางทีการที่เราจะคิดคอนเทนส์สักเรื่องหนึ่ง เพื่อที่จะมาเล่าให้ฟัง บางทีมันก็คิดอะไรไม่ค่อยออก นึกอยู่นานก็ไม่รู้จะเขียนอะไรดี งั้นเอาเรื่องแมว ๆ มาเล่าให้ฟังดีกว่า ผมมีแมวอยู่สองตัวเป็นแมวไทยแท้ แต่ชื่อออกฝรั่งจ๋าเหลือเกิน ชื่อคิตตี้และเฮเลน เป็นตัวผู้และเป็นพี่น้องกันด้วย คือ ในคอกของมันนั้นมีมันสองตัวนี่แหละที่ลายจะคล้ายกัน จุดสังเกตุหลักเลยก็คือที่หน้า คิตตี้มันคือแมวไม่มีคิ้วก็แแบบว่าหน้ามันจะขาวๆ โล้น ๆ
ส่วนเฮเลนหน้ามันมีคิ้วดูเป็นแมวปรกติทั่วไป คิตตี้นี่สิมันแปลก มันไม่มีคิ้วเลยดูเหมือนแมวที่หน้าตาตกใจอยู่ตลอดเวลา ผมชอบในความหน้ามึนของมัน เห็นแล้วมันทำให้หายเหนื่อยได้ครับ แต่ก่อนผมไม่เคยชอบพวกที่เรียกตัวเองว่า ทาสแมว คิดเอาว่าพวกนั้นเป็นเอามากดูเกินเรื่องเกินราว แต่พอผมมีมันทั้งสองตัวอยู่ในชีวิตด้วยแล้ว ก็เลยได้เข้าใจว่าการเป็นทาสแมวนั้นมันไม่ได้มากไปเลยจริง ๆ (ก็เจอความหน้ารักปนกับความทะเล้นเข้าไปไงละ)
พอหลังจากแข่งบอลเสร็จพักใหญ่ ๆ ผมรู้สึกว่าร่างกายมันอ่อนล้าและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ผมนอนพักเหนื่อยเอาแรงอยู่ที่ซุ้มบ้านผม ไอ้แว่นเองก็นอนพักเหนื่อยอยู่ข้างผมเหมือนกัน
“โครตเหนื่อยเลยว่ะพี่ แต่ก็สนุกจริงๆพี่ว่าไง “ ไอ้แว่นได้พูดกับผม “เหนื่อยดิ เหนื่อยชิบหาย แต่ก็โครตมันจริงว่ะ กูไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้วด้วย” ผมได้ตอบกับมันไป
“แต่ทำไมตอนแข่งบอลผมดูพี่ไม่ค่อยเหนื่อยเลย วิ่งขึ้นวิ่งลงตลอดเลย ” มันถามผม “กูก็อธิบายไม่ถูกว่าเขาเรียกอะไร กูคิดเอาว่ากำลังมันอยู่ตัว” ผมตอบมันไปแบบนี้ แล้วเราทั้งคู่ก็หลับพักผ่อนกัน
“ใหญ่…ใหญ่..เฮ้ย!!ตื่น” ไอ้เบนซ์มานั่งปลุกผมอยู่ข้าง ๆ ผมสลึมสลือลืมตาตื่นขึ้นมา ” มีอะไรว่ะ ” ผมถามมัน “ไม่เอาบุหรี่ไง บุหรี่เชลยนี่ไง” ไอ้เบนซ์ยื่นบุหรี่1แถวและน้ำอัดลมอีก4ขวดมาให้ผมและบอกผมอีกว่า “มึงกับไอ้แว่นนะบุหรี่อ่ะ ไอ้แว่นมึงก็เล่นบอลใช้ได้นี่ว่า” ไอ้เบนซ์พูดชมไอ้แว่น
“ทำไมให้กูมาเยอะจังแล้วพวกคนอื่นละ ไม่แบ่งให้เท่ากันไปว่ะ” ผมถามไอ้เบนซ์ “กูจัดการเองมึงเอาไปเถอะ มึงสองคนเป็นคนยิงเข้านะ “ ผมเลยรับไว้และผมก็รู้นิสัยมันดีว่า ถ้ามันคิดจะให้แล้วยากที่จะปฎิเสธ
ผมก็เลยทอนมันไป 1ซองคืนให้มันเก็บไว้ดูด มันรับไว้ แล้วเดินกลับบ้านมันไป “เอ้าไอ้แว่นบุหรี่มึง 4ซอง” ผมหยิบบุหรี่ให้มัน “พี่ก็เก็บไว้เถอะ” ไอ้แว่นปฎิเสธที่จะรับไว้
“มึงก็เก็บไว้เถอะ เอาไว้ใช้ส่วนตัวของมึง ” ไอ้แว่นจึงต้องรับไว้ และผมก็มานอนคิดเรื่องไอ้อาร์ตต่อ เพราะลางสังหรณ์ที่บอกว่าเรื่องยังไม่จบแค่นี้เป็นแน่ ไหนเลยจะค่าบอลที่ไอ้เบนซ์และผมแท่งถูกอีกร่วมแล้วเกือบ 2000บาทอีกด้วย เวลามันก็ใกล้จะได้ขึ้นห้องแล้วด้วย ก็ยังไม่เห็นทีท่าว่ามันจะเดินมาให้หรือมาคุยอะไรเลยด้วย
“ไอ้หลานรักของบัง” บังดุลย์เดินมาหาผมที่บ้านผมเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยถึงการมาของบังดุลย์อยู่เช่นกัน ผมเห็นในมือบังดุลย์ถือบุหรี่มาด้วย 1ถุงใหญ่ เห็นดังนี้ ผมก็พอจะเดาถึงการมาของบังดุลได้ว่าเพราะอะไร
“สวัสดีครับบังดุลย์ ลมอะไรพัดมาถึงนี่ได้ ไอ้แว่นมึงเอาน้ำอัดลมขวดนี้ ไปแลกมาเย็น ๆ สักขวดสิ ร้านไอ้คมนั่นแหละ” ผมสั่งไอ้แว่นให้ไปดำเนินการเรื่องให้ไว และหันมาบอกกับบังดุลย์ว่า “บังรอกินน้ำก่อนนะครับ ” ผมบอกกับบัง
“ใหญ่บังเอานี่มาให้ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากบังแล้วกัน บังบวกมาเยอะใหญ่ก็แบ่งให้ไอ้แว่นเองแล้วกันนะ” บังดุลยื่นถุงบุหรี่มาให้กับผม “โอ้โหทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะบัง กี่ซองกันครับ ” ผมถามบัง
“ก็ไม่เท่าไหรหรอกมีเก่าบ้างใหม่บ้างปนกันไปนะ 30ได้มั้ง ” บังบอกกับผม “ไม่เอาหรอกบังมันเยอะเกินไปทำไมให้ผมซะขนาดนั้นละครับ ผมรับไม่ได้หรอกเกรงใจ เอาแค่20ก็พอครับบังนะครับ ” ผมปฏิเสธที่จะรับไว้ถึงขนาดนั้น บังดุลคงไม่รู้จะทำยังไงเขาก็เลยทำตามใจผม โดยการให้ผมหยิบคืนมาให้เขาเอง 10ซอง
“เอา ๆ ตามใจใหญ่ มึงก็แปลกคนนะมีแต่คนเขาอยากจะได้ แต่มึงไม่เอาแปลกคนจริง ๆ แต่อย่างว่าแบบนี้สิถึงมีแต่คนรักมึง ไม่มีคนเกลียดสักคน “บังดุลพูดชมผมทื้งท้าย
“โธ่บังก็พูดเกินไป ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ได้นะบังก็รู้ พวกกันขอกันกินยังมากกว่าเลยครับ ” ผมบอกกับบังให้เข้าใจพร้อมกับยื่นบุหรี่ให้บังคืนไป 10ซอง และพอดีกับไอ้แว่นถือน้ำเย็นมาให้ผมอีก 4ขวด
“พี่ใหญ่พี่คมเขาไม่เอาพี่แถมให้มากินฟรี ๆ ไปอีก 3ขวด เขาบอกว่าจับบอลข้างเราได้มาเยอะอยู่ ” ไอ้แว่นได้บอกกับผม “เห็นไหมใหญ่ มีแต่คนเขาอยากจะให้เอ็งทั้งนั้น” บังดุลย์บอกผม และผมก้เปิดน้ำให้บังดุลย์กินกัน “ไอ้ชาติเอาน้ำ2ขวดแบ่งกันกินในบ้านกัน” ผมเรียกไอ้ชาติมาเอาน้ำให้ไปกินในบ้านกัน
“แล้วป๋ามาเยี่ยมเอ็งว่าไงบ้างล่ะ และที่ไม่มาหานะ เพราะอะไร และบังเขาเป็นไงบ้างสบายดีไหม ” บังดุลถามกับผม เป็นชุดถึงเรื่องของพ่อผมที่มาเยี่ยมถามไปก็กินน้ำกันไป “ก็ดีใจสิบัง ไม่ได้เจอเกือบครึ่งปี ผมนี่ร้องไห้เลยนะผมอ่ะ ส่วนเรื่องแต่ก่อนแกก็ไม่ว่าอะไรยกโทษให้แล้ว แล้วผมก็คิดว่าป๋าเขาคงสบายดีนะครับ เดือนหน้าเขามาผมจะฝากความคิดถึงไปให้แล้วกันนะบังดุล” ผมได้ตอบคำถามของแก และบอกแกด้วยเรื่องที่ผมร้องไห้โดยที่ไม่ได้รู้สึกอายอะไร
“คนเรามันร้องไห้กันได้ไม่แปลกหรอกใหญ่ บังจะบอกอะไรให้นะใหญ่ ป๋าเอ็งรักเอ็งมากจะตายเอ็งเป็นลูกคนแรกจำไว้ ” บังดุลบอกกับผม “ใช่สิครับลูกคนแรก แต่ไม่เคยทำอะไรให้ภูมิใจเลยสักอย่างแถมไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องอีกด้วย ” ผมได้บอกกับบังดุล“ถ้าเราคิดได้มันก็ไม่สายหรอกใหญ่ เชื่อบังนะ ” บังดุลได้บอกผม “ครับบังผมจะจำไว้ “ผมได้ตอบบังดุลกลับไป
หลังจากนั้นเราก็คุยอะไรกันอีกนิดหน่อย และบังดุลก็ขอตัวกลับ เพราะจะได้เวลาอาบน้ำกันแล้ว ผมเลยถามบังดุลเรื่องไอ้อาร์ตไปว่า “บังดุลและบังดุลได้ค่าบอลที่ถูกรึยัง” บังดุลส่ายหน้าแล้วตอบไปว่า “ก็ยังเลยว่ะไม่เห็นมันมาพูดอะไรเลย และเอ็งจะเอายังไงก็บอกบังมาด้วยแล้วกัน ”
ผมได้ยินที่บังบอกเลยพูดไปว่า “เดี๋ยวรอถามไอ้เบนซ์อีกที แล้วผมจะให้ไอ้แว่นไปบอกครับ” แล้วบังดุลก็เดินออกไป ผมดูเวลาตอนนี้ เวลามันก็ใกล้จะกินข้าวแล้วด้วย และก็เตรียมตัวขึ้นห้องอีก ‘มันจะเอาไงของมันว่ะ’ ผมนึกในใจ ผมเลยตัดสินใจจะเดินไปหามันเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้
” ไอ้เบนซ์ แล้วเรื่องค่าบอลของไอ้อารต์ว่าไง ” ผมได้ถามกับมัน ” กูให้ไอ้หยีมันเดินไปถามไอ้อารต์ที่บ้านมันแล้วว่าไง ” ไอ้หยี คือ ลูกมือลูกรักของไอ้เบนซ์มัน และผมได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกใจไม่ดีที่ไอ้เบนซ์มันทำแบบนี้ สังหรณ์ของผมมันบอกว่าจะมีเรื่องเข้ามาเป็นแน่ และก็จริงดังคิด คิดอย่างไรได้อย่างงั้นจริง ๆ เมื่อไอ้หยีวิ่งกุมปากมาที่บ้าน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดที่กลบปากอยู่
” ใครทำไรมึงมาไอ้หยี!! ” ไอ้เบนซ์เห็นลูกรักมีสภาพบอบช้ำมาแบบนี้ มันโมโหจนลมออกหูก็ว่าได้ “พวกไอ้อารต์มันรุมผมมาพี่ ผมถามมันเรื่องบุหรี่ดี ๆ ว่าพี่ให้มาถามแค่นี้เอง มันก็ต่อยผมเลยพี่ ” ไอ้หยีได้เล่าเหตุกราณ์ที่เกิดขึ้นกับมันให้ฟัง
“แล้วมีใครทำมึงมั่ง” ผมถามกับมัน ” มีอีก 2คน พี่ที่มารุมผมพี่ใหญ่ มันบอกว่าถ้าอยากได้ให้มาเอาเอง ” ไอ้หยีหันมาบอกผม และสิ่งที่มันฝากบอกกับไอ้หยีมา มันก็ทำให้ไอ้เบนซ์ฟิวขาดขึ้นมาทันที
” ไอ้สัตว์แบบนี้ต้องลุยแล้ว!! ” ไอ้เบนซ์พูดจบก็จะลุกเดินไปหาไอ้อารต์ทันที และก็ตามด้วยเด็กในบ้านมัน ที่จะตามลูกพี่เบนซ์ของมันไปอีกด้วย งานนี้ไม่ใช้เรื่องเล็ก ๆ แล้วละครับคุณผู้อ่าน บ้านพวกผมก็บ้านอ.เมือง ซึ่งถ้ารวมตัวกันจริง ๆ ก็ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ส่วนอีกบ้านก็ใหญ่เป็นอันดับ 2รองลงมา งานนี้ไม่เล็กแน่นอน
” ใจเย็นไอ้เบนซ์! อย่าผีผลามทำอะไรไม่คิดถ้าเราไปหามันตอนนี้ มันเตรียมการรอปิดเราอยู่เป็นแน่ เข้าทางมันแน่นอน ” ผมพูดพร้อมกับดึงมือมันเอาไว้ ใจผมก็คิดว่ามันจะฟังที่ผมผูดหรือป่าว
“ใหญ่..ถ้ามึงไม่เอาด้วยมึงก็อยู่เฉย ๆ กูไม่ว่าอะไรมึงหรอก แต่กูขอถ้ามึงคิดว่ากูพวกมึงเป็นเพื่อนมึงก็อย่าห้ามกู” ไอ้เบนซ์มันตีความหมายที่ผมพูดผิดไปหมด คนอย่างผมนั้น ถ้าเพื่อนเจ็บผมไม่อยู่เฉยเป็นแน่ แต่ผมก็ไม่ถือสามันหรอก เพราะอารมณ์มันอยู่เหนือเหตุผลอยู่ในตอนนี้
“มึงฟังกูก่อนเบนซ์ กูมีรึจะไม่ไป คนอย่างกูถ้าคิดหักกับใครกูไม่ยอมงออยู่แล้ว ที่กูบอกให้ใจเย็นก่อน มึงจะไปตัวเปล่าแบบนี้หรอ ไม่มีของอะไรติดไม้ติดมือไปไง” ผมบอกกับมัน ไอ้เบนซ์จึงหยุดคิดและใจเย็นลงมาได้ “เหล็กกูว่าชุดดำโจมไปหมดแดนแล้วเป็นแน่ ทางมันก็คงไม่มีเหมือนกับเราหลอก” ไอ้เบนซ์บอกกับผม
“มึงแน่ใจหรอคิดให้ดี ๆ มันไม่มีของติดตัว มีรึมันจะกล้าเปิดโจทย์กับเรา มึงคิดเอาขอเวลากูเดี๋ยว” ผมบอกให้มันรอ “ไอ้แว่นมึงไปบอกบังดุลว่ากูขอเหล็กมา 2ตัว เร็วไปเร็ว” ผมสั่งไอ้แว่นแล้วมันก็รีบวิ่งไปอย่างไว เพียงแค่เวลา 3นาที ไอ้แว่นวิ่งกลับมา ตามด้วยกลุ่มของบังดุลที่ตามมาสมทบ อีกกลุ่มใหญ่
“ใหญ่มีไรกันทำไมไม่บอกบังก่อน ถ้าไอ้แว่นไม่มาขอเหล็กจากบัง และเล่าให้บังฟังก็คงจะตกรถเป็นแน่ ” บังดุลพูดจบ พร้อมกับยืนเหล็กให้ผม 2ตัว เป็นเหล็กแหลมยาวประมาณคืบนึงเห็นจะได้ พร้อมกับพันดามจับอย่างดี ส่วนความคมไม่ต้องพูดถึงโดนไปเข้าแน่นอน
“พวกมันเปิดก่อนครับบัง มันบอกว่าอยากได้ก็มาเอาเอง แล้วเรามีของมากันกี่ตัวครับบัง ” ผมถามบังถึงอาวุธที่เราจะใช้เปิดศึกกับมัน
“บังมี4ตัว รวมเอ็งอีก 2 เป็น 6” ผมพยักหน้ารับพร้อมกับมองหน้าไอ้เบนซ์ แล้วเดินตีคู่นำหน้าไปกับมัน ส่วนบังดุลเดินตามหนุนหลังผมทั้งคู่ พร้อมกับมือดีของบังดุลอีกสามตามประกบข้างอยู่ติด ๆ ส่วนเด็ก ๆในบ้านก็ตามมาอีกชุดใหญ่ ใครหาอาวุธอะไรได้ก็หยิบกันมา ส่วนไอ้แว่นก็ถือบุ๋งเต้าตักขยะขนาดกำลังดีเดินตามหลังผมมาด้วย ผมหันมามองมัน
” แว่นมีสติและระวังตัวด้วย อย่ารนนะ ” ด้วยความเป็นห่วงผมจึงบอกมัน “ใหญ่..อย่าห่วงเดี๋ยวพวกบังดูให้อีกที ไอ้แว่นมึงมานี่เลยอย่าซ่า มาอยู่หลังบังนี่ เหล็กไม่มีอยู่แถวนี้พอคอยเก็บตกพวกที่เหลือ ” บังดุลดึงไอ้แว่นให้มาอยู่ข้างหลังแก ผมยิ้มให้ไอ้แว่น ‘ใจมึงได้จริง ๆ ว่ะไอ้น้องรัก’ ผพูดชมมันอยู่ในใจ…..
งานนี้ไม่มีคำว่าเจราจากันอีกแล้ว ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แดนเด็ดขาดที่เงียบสงบดี ๆ บัดนี้มันจะลุกเป็นไฟอีกครั้ง จะหนักขนาดไหน อ่านต่อตอนหน้านะครับ (โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาว ชั่ว โลกเหนือ ” # คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 66
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun