คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 81
บทที่ 81 เกือบจะเกิดเรื่องก่อนวันเปิดทำการ
” ชีวิตคนเรามันสั้น จงทำในสิ่งที่ชอบ และ รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เพราะอดีตกับปัจจุบัน..มันห่างกันแค่วินาทีเดียว…”
** หลังจากที่ผู้เขียนได้เข้าโรงพยาบาลไปหลายรอบ มันจึงทำให้ผู้เขียนตระหนักรู้ได้เลยว่า ชีวิตคนเรามันสั้น จะตายวันตายพรุ่งตอนไหนก็ไม่รู้ จากที่สมัยก่อนไม่เคยรักตัวเองมีแต่ทำร้ายร่างกายตัวเอง โดยสารเสพติดและของมึนเมาต่างๆ จึงทำให้ตอนนี้เรารู้เลยว่า ร่างกายของเรานั้นมันบอบช้ำและย่ำแย่ขนาดไหน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ากับโดนด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ผู้เขียนตระหนักดีแล้วว่าผลกระทบจากการที่ทำตัวไม่ดี มันได้ส่งผลถึงร่างกายของเราในตอนนี้
ผมจึงอยากจะขอเตือนเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังยุ่งอยู่กับยาเสพติด ถ้าได้อ่านบทความนี้ของผมโปรดจงรู้ไว้ว่า ผลกระทบมันมีตามมาแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ห่างไกลจากยาเสพติดกันเถอะครับ ด้วยความหวังดีของผู้เขียน….***
อยากจะข่มตาหลับ อย่างที่ไอ้ต้นเพื่อนผมบอก แต่มันก็ทำใจหลับไม่ลง เพราะว่าใจของผมตอนนี้ มันร้อนดั่งไฟเผาซะเหลือเกิน หัวสมองคิดไปต่างๆนานา ซึ่งมันก็อดเป็นห่วงเพื่อนฝั่งนู้นไม่ได้เลยว่าเรื่องราวมันจะลุกลามไปถึงไหนแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ตีกันที่สนามกลางหรือเปล่า ซึ่งเปอร์เซ็นต์มันก็มีมากอยู่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ผมอยากจะลุกไปดูหน้าประตูให้รู้แล้วรู้รอด แต่ไอ้แว่นมันก็ดึงมือผมเอาไว้ “อย่าไปไหนเลยพี่ใหญ่เชื่อผมนะ” ไอ้แว่นน้องรักพูดห้ามผมไว้..
และในตอนนี้ที่หน้าประตูแดน ได้ทยอยปล่อยนักโทษเข้ามาในแดนที่ละเป็นกลุ่ม ดูสับสนวุ่นวายไปหมด พวกที่มาใส่บาตรข้างนอกต่างรีบวิ่งรีบเดินเข้าประตูโดยไว โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนกำกับ คอยเร่งไปด้วยอยู่หน้าประตู ” เอาให้ไว้..รีบเข้ามาให้ไวเร็ว ” เสียงพี่เกียรติเจ้าหน้าที่ และเป็นหัวหน้ากองงานของผม ถ้าพูดกันตามตรงก็คือ ลูกพี่ในสายการทำงานในเรือนจำของผมนั่นเอง ได้ตะโกนร้องสั่งเหล่านักโทษให้รีบเข้าแดนไวๆ ซึ่งวันนี้พี่เกียรติได้เข้าเวรอยู่หน้าประตูในวันหยุดวันนี้
ผมสอดส่ายสายตามองหาพวกที่กำลังเดินกลับเข้ามาในแดน พวกคนที่ผมอาจจะรู้จัก และสามารถซักถามรวมถึงเล่าเหตุการณ์ข้างนอกได้ แต่จนป่านนี้ก็ไม่มีสักคนที่ดูพอจะพึ่งพาได้เลย จนในที่สุดผมได้หันไปเห็นไอ้กอล์ฟ เด็กในบ้านไอ้คมนี่แหละคือคนที่ผมต้องการ(ผมนึกอยู่ในใจ)
ถ้าผมเรียกมันมาถามต้องถูกตัวแน่นอน และมันต้องบอกพร้อมทั้งอธิบายได้อย่างละเอียดได้อีกด้วย เพราะโดยส่วนตัวแล้วไอ้กอล์ฟ มันเป็นคนมีนิสัยซอกแซก หาข่าวเก่ง ช่างสังเกตุ ตาไว ปราดเปรียวในทุกเรื่องที่ผิดกฎระเบียบของเรื่อนจำเป็นอย่างดี และนี่คือนิสัยและตัวตนในนิยามตามที่ผมคิดให้กับมัน
“ไอ้กอล์ฟ..มานี่ไวๆเลยมึง มานั่งคุยกับกูก่อนดิ เล่าให้กูฟังทีว่าเรื่องข้างนอกมันเป็นยังไงบ้างวะ สถานการณ์น่ะ ก่อนที่มึงจะเข้ามา ช่วยเล่าให้กูฟังที ขอแบบละเอียดๆเลยนะ กูอยากรู้ ” ผมรีบเรียกไอ้กอล์ฟให้มาเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่สนามกลางว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกบ้าง ก่อนที่ตัวมันจะถูกต้อนให้เดินกลับเข้ามาในแดน หยั่งคนที่รู้ใจไอ้กอล์ฟยังไม่ทันอ้าปากจะเล่า ไอ้แว่นน้องชายผมก็ได้หยิบเอาน้ำเอสเย็นๆ มาเสิร์ฟตรงหน้าหนึ่งขวดทันที โดยที่ไม่ต้องให้ผมบอก
“เอ้าพี่กอล์ฟกินน้ำก่อน หน้าโทรมเหงื่อเต็มเลย กินให้มันหายเหนื่อย แล้วจะได้เริ่มเล่าสักที” ไอ้แว่นพูดกับไอ้กอล์ฟ ส่วนไอ้กอล์ฟเองก็รีบเปิดขวดน้ำอัดลมยกกระดกดังอึกๆ อย่างคนที่กระหายน้ำเป็นอย่างมาก ไม่กี่อึดใจหายไปครึ่งขวด “เฮ้อออ..ค่อยสดชื่นขึ้นหน่อย” เสียงไอ้กอล์ฟพูดออกมาลอยๆ
ทันใดนั้นเองไอ้กลอฟ์มันก็จับแขนขวาของผมขึ้นมา โดยที่มันไม่พูดอะไรสักคำ พลิกไปพลิกมา เอามือลูบศอกของผม บีบบ้าง ลองกดดูบ้างกลับไปกลับมา อยู่แบบนั้น จนสักพักมันจึงพูดขึ้นว่า ” มิน่าละ ศอกมึงแข็งและคมแบบนี้นี่เอง ถึงได้กดซะหัวคิ้วไอ้อารต์แตกยาวถึงดั้งจมูก มันถึงได้ลงไปนอนชักตาตั้งแบบนั้น อยากทราบว่าไปเรียนมวยไทยที่ไหนมาครับ ” ไอ้กอล์ฟถามผม พร้อมกับยิงมุขให้มีรอยยิ้มกันอีกด้วย
“กูไม่ได้เรียนมวยไทยที่ไหนมาหรอก แต่ตอนที่กูสับกูเล็งไว้แล้ว ว่าจะเอาเข้าตรงไหนต่างหาก เชิงมวยมันคนละชั้นกันเว้ย ” ผมเองก็ตอบไอ้กอล์ฟไป แบบติดตลกเหมือนกัน “อยากจะลองบ้างป่ะล่ะ ไอ้กอล์ฟว่าศอกกูเป็นยังไง ” ผมพูดแหย่มัน ส่วนตัวมันส่ายหัวดิกๆ
“ไม่เอาหรอก กูขอแค่สัมผัสก็พอ ไม่ขออยากจะรู้สึก ” มันตอบกลับผม และเราทั้งสามคนก็หัวเราะกันยกใหญ่
“เอาล่ะชิบหาย..เข้าเรื่องสักที มึงเล่าให้กูฟังหน่อยซิ ว่าต่อจากนั้นเรื่องมันเป็นยังไง ” ผมใจร้อนอยากจะฟังสิ่งที่ผมอยากจะรู้ไอ้กอล์ฟมันจึงเริ่มเล่า “ก็หลังจากที่มึงกดไอ้อาร์ตลงไปชักแล้ว มึงก็โดนดึงเข้าแดน พวกพี่เล็กกับพวกมันก็พลักๆ ดันๆ แต่ยังไม่ถึงกับต่อยกัน แค่ตะโกนไล่กัน ด่ากันไปมา ทางพวกมันก็ไม่กล้าเปิดก่อนหรือลงมือทำอะไรเลยส่วนบังดุลก็ประคองให้ไอ้อาร์ตเข้าพ.บหาหมออย่างไว สภาพช่วยกันหิ้วปีกก็ไม่ปาน ขนาดกูเห็นสภาพไอ้อารต์ กูยังสะใจแทนมึงเลย เจอกับมึง 2 ครั้งชักทั้ง 2 ครั้ง หมดสภาพอย่างไม่ต้องสงสัยปิดตำนานอารต์ หน้าลายไปได้เลย จะแก้ไง ก็กู้ชื่อไม่ออกแล้ว “
“พวกเราดันกันอยู่สักพัก เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาระงับเหตุ แล้วพี่เขาก็คอยต้อนพวกนักโทษให้แยกแดนทยอยรีบเข้าแดนใครแดนมัน อย่างที่มึงเห็นนั่นแหละ”
คนออกมาใส่บาตรกันเยอะมันก็เลยดูวุ่นวายสับสนเหมือนจะมีเรื่องแต่จริงแล้วเรื่องไม่มีสักอย่าง สถานการณ์มันพาไปเองก็อย่างที่มึงรู้นั่นแหละไอ้ใหญ่ ิพวกคนในคุกมันชอบสร้างสถานการณ์กันเป็นประจำอยู่แล้ว ให้ดูตื่นเต้นเร้าใจเข้าไว้ ” ไอ้กอล์ฟเล่าเรื่องราวมาได้อย่างละเอียด จนผมนึกภาพตามออกเลยทีเดียว ว่าเหตุการณ์มันคืออะไร ผมเรียกคนไม่ผิดจริงๆ (ผมนึกในใจ)
แต่แล้วจู่ๆ… ก็มีเสียงประกาศจากหน้าประตูแดนเรียกชื่อผม ให้ออกไปพบเจ้าหน้าที่ ที่หน้าประตูโดยด่วน ผมไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินเรียกชื่อของผม ก็คิดเอาไว้แต่แรกอยู่แล้ว ว่าแจ็คพ็อตต้องมาตกที่ผมแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องให้บอกก็คงจะรู้ว่ามันคือเรื่องอะไร ผมไม่มีทีท่าจะตกใจใดๆ และตัวผมเองก็ไม่ได้รีบร้อน ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปหน้าประตูแดน แบบปกติ โดยที่ผมบอกไม่ให้ไอ้แว่นมันตามผมมาอย่างเด็ดขาด
ตอนนี้ผมเดินไปหน้าประตูแดน ผมรู้สึกว่ามีหลายๆสายตาจ้องมองมาที่ผมเป็นตาเดียวกัน ผมคิดว่าในใจของพวกมันคงคิดในทางเดียวกันว่า ผมนั้นคงไม่รอดพ้นโทษเป็นแน่ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้
ผมก้าวเท้าเข้าประตูแดน โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่จะนั่งลง นายอำพลผ.บแดนแรกรับที่ยืนถือไม้คมแฝกคู่กายอยู่รอถ้าผมแล้ว แกรีบพุ่งตัวปรี่เขามาง้างคมแฝกจะตีผมปากแกก็พูดว่า “มึงใช่ไหมที่เป็นคนทำ” และมีรึที่ผมจะอยู่เฉยๆ ให้โดนตี ผมรีบถอยฉากออกไป จากจุดที่ยืนอยู่ พร้อมกับพูดกับผ.บอำพลว่า
“ผมทำอะไร..ผมยังไม่รู้เรื่องเลยจะมาตีผมได้ไง” ผมพูดออกมาเสียงดังลั่นประตูแดนพร้อมกับเตรียมตั้งท่า ให้แกได้รู้ว่าผมสวนแน่ถ้าโดนตี ที่ทำแบบนี้แค่ขู่นะครับไม่ได้จะสวนจริงๆหรอก แล้วมันก็ได้ผลแกหยุดชะงักและง้างไม้ ลงที่ข้างตัว
” พี่อำพลก็ใจเย็นก่อนก็ได้ครับซักถามเด็กมันก่อนว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ผมว่าเรื่องนี้คุยก่อนตีมันก็ดีนะ” เสียงนี้คือคำพูดของพี่เกียรติ ที่พูดออกมาเตือนสตินายอำพลให้ใจเย็นลง ดูเหมือนว่านายอำพลจะยอมทำตามที่พี่เกียรติบอก แกจึงค่อยนั่งลงที่โต๊ะพร้อมกับถามผมว่า
“มึงใช่ไหมที่เป็นคนสับศอกใส่ไอ้อาร์ต มึงรู้ไหมว่าสิ่งที่มึงทำไอ้อาร์ตมันเย็บ 16 เข็ม มันแจ้งความเอาข้อหาพยายามฆ่ามึงได้เลยนะ ต่อคดีอีกต่างหาก ถ้ายอมรับกับกูหนักจะได้เป็นเบามึงว่าไง ” มันคือคำขู่ให้กลัวล้วนๆ ผมนึกในใจ คำเหล่านี้เอาไว้ใช้กับเด็กเถอะครับพี่อำพลใช้กับผมไม่ได้ผลหรอก ผมจึงพูดออกไปว่า
“จะให้ผมยอมรับอะไรครับพี่ ก็ในเมื่อผมไม่ได้ออกไปใส่บาตร ผมนอนอยู่ตลอดมีพยานเป็น 10 เป็น 100 คนให้กับผมได้ ว่าเห็นผมนอนอยู่ในแดนไม่ได้ออกไปไหน ใส่บาตรก็ไม่ได้ใส่ ผมว่าพี่ได้ยินข่าวมาผิด หรือ ใครบอกพี่ผิดแล้วละครับ ” ผมอธิบายให้แกฟังแบบคนหน้าตายเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยทั้งสิ้น เล่นเอาแกลมออกหูเลยทีเดียว ที่ไม่สามารถทำอะไรผมได้ในยกแรก ถ้าเปรียบเป็นการชกมวยนะครับ.,.(โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาวขั่ว โลกเหนือ ” # คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 81
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun