เมลาโทนิน = ยานอนหลับ ?
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ วันนี้มากับบทความสุขภาพกันอีกเช่นเคยค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนอนหลับซึ่งมักจะเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิด หรือมีความรู้ไม่มากพอ ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าการทานยาถือเป็นข้อควรระวัง ฉะนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับรายละเอียดของยานอนหลับกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปดูกันเลยจ้า!
หลายคนมักมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ อันเนื่องมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น สาเหตุจากความเครียด อาการป่วย หรือการได้รับคาเฟอีนมากจนเกินไป วิธีแก้ของหลายๆ คนนั่นคือหาตัวช่วยเพื่อให้หลับได้ง่ายขึ้น หนึ่งในนั้นคือ “เมลาโทนิน” ที่มาในรูปแบบอาหารเสริม แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็น “ยานอนหลับ” ที่ซื้อหาได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด และอาจมีอันตรายได้ หากใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์นะคะ และที่สำคัญในประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้นำเมลาโทนินมาเป็นส่วนประกอบในอาหารหรือเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย ต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่จำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีข้อกำหนดในการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดน้อยกว่า และสามารถจำหน่ายได้ทั่วไป จึงทำให้มีการนำเข้าอาหารเสริมต่างๆ มาขายกันนั่นเองค่ะ
เมลาโทนินคือฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมวงจรการนอนหลับและการตื่นของร่างกาย ซึ่งกลไกการทำงานของต่อมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแสงสว่าง และอุณหภูมิ จึงทำให้ในเวลากลางวันต่อมไพเนียลจะไม่ทำงาน แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ต่อมนี้จะเริ่มทำงาน และหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินเข้าไปในกระแสเลือด และมีการระบายความร้อนออกมาจากร่างกาย ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ลดความตื่นตัวของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความเหมาะสมกับการนอน และรู้สึกง่วงนอน แต่ถ้าเมลาโทนินหลั่งออกมาน้อยจะทำให้เกิดปัญหาในการนอนหลับได้
โดยปกติแล้ว สมองจะหลั่งสารเมลาโทนินเข้าไปในกระแสเลือดเป็นเวลาติดต่อกัน 12 ชั่วโมง และระดับของเมลาโทนินจะค่อย ๆ ลดลงในช่วงเช้า ทั้งนี้ความมืดจะเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนินออกมา เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าถึงเวลาพักผ่อนได้แล้ว ขณะที่แสงสว่างโดยเฉพาะแสงสีฟ้าจากจอโทรศัพท์มือถือ หรือจอคอมพิวเตอร์ จะยับยั้งการหลั่งสารเมลาโทนินได้ ทำให้คนที่ชอบเล่นมือถือก่อนเข้านอนจึงนอนหลับได้ยากขึ้นนั่นเองค่ะ (รู้อย่างนี้ต้องเพลาๆ การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนแล้วนะคะ
ประโยชน์ของเมลาโทนินคือการช่วยให้วงจรการนอนหลับเป็นปกติมากขึ้น แต่ไม่ได้รักษาอาการนอนไม่หลับโดยตรง เพียงแต่ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกง่วง และนอนหลับได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่ยานอนหลับแต่อย่างใด ปัจจุบันการนำเมลาโทนินมาใช้มักมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเจ็ตแล็ก หรืออาการอ่อนเพลียจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้เมื่อมีการเดินทางไปต่างประเทศข้ามโซนเวลา รวมถึงนำมาใช้กับกลุ่มอาการนอนหลับผิดเวลา (คนที่ทำงานเป็นกะ) ผู้ที่นอนหลับยากในเวลากลางคืน และผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาการนอนเนื่องจากร่างกายหลั่งสารเมลาโทนินออกมาน้อยลง
อย่างไรก็ดีเมลาโทนินยังไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั้วไปนะคะ เพราะเป็นยาอันตรายจำเป็นจำต้องมาใบสั่งยาค่ะ โดยปัจจุบันมีการขึ้นทะเบียนยาที่มีส่วนผสมของเมลาโทนินเป็นยาควบคุมพิเศษ อนุญาตให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาล หรือต้องควบคุมโดยการสั่งหรือภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้นค่ะ รู้อย่างนี้แล้วผู้เขียนขอแนะนำว่าการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารตามหลัก 5 หมู่ ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และนอนให้ตรงเวลา เพียงเท่านี้คุณก็จะนอนหลับได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งยานอนหลับแล้วค่ะ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ quotesaboutsmile