อูซุย โฮโรเกะ หรือ โฮโรโฮโร (Usui Horokeu)
อูซุย โฮโรเกะ หรือ โฮโรโฮโร (Usui Horokeu)
เกิด 27 พศจิกายน ค.ศ. 1986
อายุ 14 ปี (ในเนื้อเรื่อง)
ราศี ธนู กรุ๊ปเลือด O
วิญญาณประจำตัว โคโรโร
อูซุย โฮโรเกะ หรือ โฮโรโฮโร เขาเป็นหนึ่งในชาแมนรุ่นเยาว์ประจำเผ่าไอนุ เกิดที่ฮอกไกโด มีนิสัยเป็นคนตรงๆออกไปทางซื่อๆ รักและเป็นห่วงพวกพ้อง พร้อมทั้งเคารพรักในธรรมชาติเป็นอย่างมาก มีพลังวิญญาณติดตัวมาแต่เกิดที่สูงกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันทั่วๆไปในหมู่บ้าน ด้วยพลังวิญญาณที่สูงมาตั้งแต่เกิดของเขา จึงทำให้เขาเปรียบเสมือนความหวังของคนในหมู่บ้านและเผ่าไอนุ ว่าจะสามารถนำสมดุลคืนสู่ธรรมชาติได้สำเร็จ ด้วยการเป็นตัวแทน และเห็นว่าธรรมชาตินั้นถูกทำลายลงมากแค่ไหน ก็ยิ่งเพิ่มความมุมานะ อุสาหะ ให้เขาพยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เพื่อที่หวังว่าสักวันเมื่อเขามีพลังและแข็งแกร่งมากพอ เขาจะสามารถทวงคืนธรรมชาติที่เสียไปกลับคืนมาได้ แน่นอนโฮโรโฮโร ก็ได้เข้าร่วมในการแข่งขันชาแมนไฟท์ครั้งนี้ พร้อมทั้งความฝันในการฟื้นฟูธรรมชาติ และอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดของเขานั่นคือ การสร้างทุ่งต้นฟูกิผืนใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ สิ่งนี้เองคือความฝันที่ทำให้เขาอยากที่จะเป็นชาแมนคิง!!
ชีวิตในวัยเด็ก
อูซุย โฮโรเกะ เกิดมาในชนเผ่าไอนุ เผ่าโบราณท้องถิ่นประจำเกาะฮอกไกโด ที่มีความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณและธรรมชาติอย่างแรงกล้า โดยที่วิญญาณในธรรมชาติ ชนเผ่าไอนุจะถือว่าเป็นเทพเจ้าที่ไม่อาจลบหลู่หรือดูหมิ่นได้ พวกเขานั้นรักเคารพในธรรมชาติอย่างสุดหัวใจ โฮโรเกะก็เช่นกัน เขานั้นทั้งถูกสอนและอบรมให้เคารพ รักในธรรมชาติ พร้อมทั้งที่จะสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติถ้าหากว่าจำเป็น
เมื่อครั้งที่เขาเกิด เขาเกิดมาพร้อมกับพลังชาแมนที่มากกว่าใครในหมู่บ้าน จึงไม่แปลกที่เขานั้นมักจะถูกตั้งความหวังจากผู้คนในหมู่บ้านเป็นอย่างสูง ด้วยเหตุนี้เองผู้อาวุโสประจำหมู่บ้านจึงมอบนามชื่อให้แก่เขาว่า อูซุย โฮโรเกะ ที่ในภาษาไอนุมีความหมายว่า หมาป่า ในชนเผ่าไอนุให้ความนับถือหมาป่าเป็นอย่างมาก พวกเขาต่างยกย่องให้หมาป่านั้นเป็นเสมือนร่างอวตารของเทพเจ้า ที่พวกเขาเคารพรัก และการที่มอบชื่อนี้ให้แก่โฮโรโฮโรนั้น ก็เป็นการยืนยันว่าคนในหมู่บ้านต่างคาดหวังในตัวเขามากแค่ไหน ด้วยการนี้เอง ในวัยเด็กเขาจึงต้องฝึกฝนตัวเองอย่างหนักอยู่เป็นประจำ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เขา ในการแข่งขันชาแมนไฟต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้านี้
วันเวลาผ่านไปจนโฮเรเกะอายุได้9ปี ถึงแม้เขาจะถูกขึ้นทะเบียนว่าเป็นชนพื้นเมืองเผ่าไอนุ ที่ปราถนาจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ประสงค์ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเพียงใด แต่เขาก็ถือว่ายังเป็นพลเมืองชาวญี่ปุ่น และกฎหมายพลเมืองบังคับแล้วว่า เยาวชนจะต้องเข้าเรียนหนังสือ โฮโรเกะจึงต้องเข้าโรงเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเรียนของเขาก็เหมือนกับเด็กทั่วไป แต่ชีวิตของเด็กชาแมนมักที่จะเหมือนกันๆ ตรงที่พวกเขาไม่มีเพื่อน เพราะพวกเขาดูเป็นตัวประหลาดในสายตาคนทั่วไป โฮโรเกะเองก็เช่นกัน เขาเองก็ไม่มีเพื่อนเลยซักคน
จนกระทั่งการย้ายโรงเรียนมาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ย้ายมาจากเมืองหลวงตามพ่อที่เป็นวิศวกรเขื่อน ซึ่งในขณะนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายในการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่กินพื้นที่ในธรรมชาติไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งการกระทำนี้ย่อมส่งผลให้ทั้งชาวเมืองและชนเผ่าไอนุไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก จึงทำการต่อต้านพวกคนงานรวมถึงวิศกร ด้วยการไม่คบค้าหรือพูดคุยกับพวกเขา การกระทำนี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะผู้ใหญ่ แต่ยังส่งผลมาที่เด็กด้วย พวกเด็กๆต่างไม่มีใครอยากพูดคุยหรือสนิทกับเด็กผู้หญิงที่ย้ายมาใหม่ด้วยเลย นานวันเข้าพวกเขาจึงตั้งฉายาให้เธอว่า ดามูโกะ
ดามูโกะเองในเวลานั้นเธอไม่มีเพื่อนเลยซักคน ซึ่งการไม่มีเพื่อนสร้างความเจ็บปวดใจให้เธอเป็นอย่างมาก แต่เธอก็พยายามที่จะหาเพื่อนหรือทำความรู้จักกับเด็กมากมาย แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่ง เธอได้มาพบเข้าโฮโรเกะ เด็กหนุ่มจากชนเผ่าไอนุ ที่เขาก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกันกับเธอ เธอจึงพยายามที่จะชวนโฮโรเกะคุยอยู่หลายครั้ง พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อให้เขาใหม่เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า โฮโรโฮโร ถึงแม้ทีแรกโฮโรเกะ จะไม่สนใจและพยายามจะอยู่ห่างๆ แต่ด้วยลูกตื้อของดามูโกะ ที่พยายามตื้อเขาอย่างไม่ลดละ ในที่สุดโฮโรเกะก็ใจอ่อนยอมเป็นเพื่อกับดามูโกะในที่สุด
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ตัวติดกันไปไหนด้วยกันอยู่เสมอ นับเป็นเพื่อนคนแรกของเขาที่นอกเหนือไปจากคนในหมู่บ้านแล้ว เวลานี้โฮโรเกะรู้สึกมีความสุขมาก เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆ รวมถึงความเชื่อของชาวไอนุให้ดามูโกะฟังอยู่เสมอ และดามูโกะเองก็สนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของเผ่าโคโรโป๊ะคุรุ ที่ดามูโกะมักจะสนใจเป็นพิเศษ จนถึงขนาดที่เธอบอกกับโฮโรเกะว่า เมื่อเธอโตขึ้น เธอจะปลูกทุ่งต้นฟูกิผืนใหญ่เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของโคโรโป๊ะคุรุให้ได้ เมื่อได้ฟังโฮโรเกะเองก็รู้สึกประทับใจในฝันนี้ของดามูโกะเป็นอย่างมาก
แต่ไม่นานโฮโรเกะเองก็พบความจริงที่ว่า ความสุขมักจะอยู่กับคนเราได้ไม่นาน เมื่อการคบกันของทั้งคู่รู้ไปถึงผู้อาวุโสประจำเผ่า โฮโรเกะถูกเรียกเข้าพบ และถูกคำสั่งบังคับให้ตัดความสัมพันธ์นี้เสีย เพราะเขาและเธอต่างกันมากเกินไป และดามูโกะเองก็ยังเป็นลูกของวิศวกรเขื่อนที่ถือว่าเป็นศัตรูประจำเผ่าด้วย เมื่อได้ยินเช่นนั้นโฮโรเกะจึงรับปากหัวหน้าเผ่าพร้อมทั้งตัดความสัมพันธ์นี้ในทันที เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจเขาเป็นอย่างมาก แต่ยังไงเขาก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้ ในวันต่อมาเมื่อมาโรงเรียนโฮโรเกะจึงพยายามอยู่ห่างๆดามูโกะ และไม่ยอมพูดคุยกับเธออีกเลย
เวลาผ่านไปถึง6เดือน จนเข้าสู่ฤดูหนาวโฮโรเกะเอง ก็ยังไม่ยอมที่จะคุยกับดามูโกะ จนดามูโกะเธออดรนทนไม่ไหว พร้อมทั้งถามหาเหตุผลว่า เพราะอะไรทำไมเขาถึงไม่ยอมพูดกับเธอ แต่โฮโรเกะเองก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาไม่อยากที่จะพูด เพราะถ้าพูดออกไปก็อาจจะทำให้เขาใจอ่อนได้ในที่สุด เขาจึงเลือกวิธีวิ่งหนีหายไปแทน
หลังจากวันนั้น โฮโรเกะก็ไม่มาเจอดามูโกะอีกเลย อีกทั้งในวันนั้นก็เริ่มเข้าสู่ปิดเทอมฤดูหนาวพอดี สำหรับเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่จะได้ไม่ต้องเจอกันให้รู้สึกเจ็บปวดใจไปมากกว่านี้อีก พอเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ โฮโรเกะก็ได้รับรู้ข่าวร้ายว่าดามูโกะเสียชีวิตแล้ว เพราะเธอหายตัวออกไปจากบ้านไม่กลับมาเลยตั้งแต่วันนั้น ทางตำรวจได้ระดมกำลังตามหากันอยู่นาน จนในที่สุดก็ได้มาพบว่าเธอกลายเป็นศพตายอยู่ท่ามกลางหิมะแล้ว เมื่อเห็นแบบนั้น โฮโรเกะรู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก เขาได้โทษตัวเองว่าเป็นเเพราะเขาที่ทำให้ดามูโกะต้องตาย พร้อมทั้งยังตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรากับเธอต่างกันอย่างไร
หลังจากวันนั้นเขื่อนก็สร้างเสร็จ และเป็นไปอย่างที่วิศกรเขื่อนให้สัญญาในตอนนั้นว่าเขื่อนนี้ จะไม่กระทบธรรมชาติและชาวเมือง รวมถึงชนเผ่าไอนุจะได้ประโยชน์จากเขื่อนนี้อย่างสูงสุด เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดในตัวโฮโรเกะเป็นอย่างมาก จนเขาสัญญาว่าจากนี้ไปเขา จะละทิ้งตัวตนเดิมและเริ่มต้นใหม่ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะเลิกใช้ชื่อเดิม และมาใช้ชื่อใหม่ที่ดามูโกะตั้งให้เขาว่า โฮโรโฮโร พร้อมทั้งจะทำความฝันของดามูโกะให้เป็นจริงด้วยการ ปลูกต้นฟูกิผืนใหญ่เพื่อเธอให้ได้ เขาจึงออกจากหมู่บ้านและเริ่มฝึกฝนตัวเองตามแบบฉบับของเขาเองตลอดมา..
การเข้าร่วมชาแมนไฟต์
หลังจากวันนั้น อูซุย โฮโรเกะ ก็ได้ละทิ้งชื่อเดิมของเขา ในตอนนี้เขาได้เป็นคนใหม่พร้อมชื่อว่าโฮโรโฮโร เขาได้ออกจากหมู่บ้านและใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวเป็นเวลาหลายปี ในหลายปีนี้โฮโรโฮโรได้พยายามฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่มีพวกผู้อาวุโสต่างๆคอยแนะนำ แต่โฮโรโฮโรก็สามารถที่จะฝึกฝนด้วยตัวเอง จนเขาสามารถผ่านการรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติได้สำเร็จ และได้รับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ธรรมชาติ มาเป็นวิญญาณประจำตัวของเขาเองนั่นคือ โคโรโร ที่เป็นหนึ่งในเผ่าโคโรโป๊ะคุรุ การที่สามารถผ่านการฝึกฝนด้วยตัวเองจนสำเร็จ ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า ในตอนนี้โฮโรโฮโรแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาพร้อมแล้วที่จะเข้าร่วมศึกชาแมนไฟต์ที่จะถึงนี้
จนสัญญาณการเริ่มของการแข่งขันชาแมนไฟต์เริ่มต้นขึ้น โฮโรโฮโรจึงเริ่มออกเดินทาง เพื่อมาเข้าร่วมในศึกชาแมนไฟต์นี้ที่โตเกียวในทันที เมื่อมาถึงเขาก็พยายามปรับตัว และตามหาเบาะแสของการเข้าร่วมในศึกชาแมนไฟต์นี้ จนในที่สุดเขาก็พบเข้ากับคาริมหนึ่งในสิบผู้คุมกฎของเผ่าปัจน์ ที่เป็นผู้คัดเลือกชาแมนในการเข้าแข่งขันในครั้งนี้ การทดสอบคุณสมบัติโฮโรโฮโรจากคาริมก็ได้เริ่มขึ้น โฮโรโฮโรสามารถที่จะผ่านบททดสอบนี้ของคาริม และได้รับออร่าเคิลเบล สัญลักษณ์ในการเข้าร่วมชาแมนไฟต์ โดยกฎมีอยู่ว่าเขาจะต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ให้ได้2ใน3เขาถึงจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ และไม่นานรายชื่อคู่ต่อสู้ของเขาก็ขึ้นมา ชื่อคนแรกที่เขาจะต้องสู้ก็คือ อาซาคุระ โย นี่หล่ะคือบททดสอบแรกของเขาในฐานะชาแมนคนหนึ่ง ที่ต้องการจะเป็นชาแมนคิง เพื่อทำตามฝันของตน…
ราชันย์แห่งภูต อูซุย โฮโรเกะ หรือ โฮโรโฮโร (Shaman King)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending