คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่20
บทที่20 กำลังใจ จากใครสักคน
“เจ็บกว่าการจากลาคือการกลับมาไม่เหมือนเดิม”
** มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นแต่เช้า ผมคิดว่าเช้านี้จะไม่รอดซะแล้ว แต่ยังดีที่โชคยังเข้าข้างผมอยู่…
ช่วงนี้ความรู้สึกมัน เปราะบาง เหลือเกิน อาการแบบนี้ เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนที่ ต้องโทษมันจะเกิดขึ้นเป็นช่วงช่วงเป็นพักๆ ทุกสิ่งมันขึ้นอยู่กับจิตใจ ของคนคนนั้น และในตอนนี้ผมรู้สึกอ่อนแอเหลือเกิน มันต้องการกำลังใจจากใครสักคนจริงๆ
หลังจากขึ้นกองงานได้ สักพักพี่เล็กก็รีบหยิบของที่เหลืออยู่ออกมาจากที่ซ่อนโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะแจกแจงไปให้หมด “มีเรื่องให้หวาดเสียวแต่เช้าเลย จะปล่อยอีกสักวันสองวันไม่ได้เลย” พี่เล็กพูดบ่นออกมาให้ฟัง ซึ่งตัวผมก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้สถานการณ์ในแดน มันเริ่มกลับมาตึงไม่นิ่งอีกครั้ง แต่ละบ้าน ได้รีบเอางาน ออกมาจำหน่ายจ่ายแจก และถึงเรื่องราคาก็ไม่ต้องพูดถึง ถึงขนาดลดแลกแจกแถมกันเลยทีเดียว หรือว่าครั้งนี้ มันเป็นสัญญาณเตือน ว่าภายใน เรือนจำจะปราศจาก ยาเสพติดแบบถาวร
หลังจากที่พวกเราตากแดด รอทำการจู่โจมเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ความรู้สึกของผม มันเหมือนว่า โลก กำลังหมุนรอบตัวผมอยู่ มันคืออาการของคนที่ไม่ได้นอนมันเป็นอาการของคนที่เสพยาครั้งแรกร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน ผมไม่รอให้เสียเวลารีบหยิบขึ้นมา เสพ ยกนี้ผมก็เลยขึ้นมาจัดเต็มทั้งตัวเล็กตัวใหญ่มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด เล่นซะหูอื้อไปเลยทีเดียว
ต่อมาไม่นาน ก็ถึงเวลาพักกลางวันอีกแล้ว “ทำไมวันนี้มันไวจังว่ะ เดี๋ยวที่เหลือตอนบ่ายค่อยจัดอีกแล้วกัน” ผมพูด มันคงจะเป็นเพราะ ตอนเช้าได้มีการจู่โจมตรวจค้นภายใน แดนกว่าจะขึ้นกองงานก็เกือบ10:00 น
พวกผมเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ลงจากกองงาน พี่เล็กเลื่อนประตูเหล็กปิดโรงงานเป็นที่เรียบร้อย “ใหญ่” พี่เล็กเรียกชื่อผม “งานที่ใหญ่เหลืออีกเยอะไหม ถ้าจะขายก็เอามา พี่จะเอาไปขายให้ทีเดียว” ” เหลือไม่เท่าไหรแล้วพี่ แล้วพึ่งมาถามผม เลี้ยงพวกไอ้หมี ไอ้บี ไอ้ฮาทร์ หมดแล้วพี่ ถ้าถามผมตอนเช้าครึ้งนี้ผมไม่เปิดเล่นหรอก” ผมตอบพี่เล็กไปแบบนั้น
หมดเวลาสนุกแล้วสิความสนุกและความสุขที่ สุ่มเสี่ยง แบบนี้ผมนั่งมองบรรดาเหล่าสิงห์ขี้ยา ทั้งหลายต่างเดินกันไปซื้อยามา เสพ ตรงBlockส้วม แต่วันนี้ดูไม่มากเท่ากับเมื่อวานนี้ ผมได้มองสิ่งต่างๆตรงหน้าของผมเอง ทำให้ผมนึกถึงอนาคตวันข้างหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมา นั่นก็คือมหกรรม การทวงหนี้ครั้งยิ่งใหญ่ เพราะในคุกมันมีคนอยู่ 1 จำพวก คือพวกที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่มีแต่ก็ยังดิ้นรนขวนขวายไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้องการ, และโดยทั่วไปแล้วการกู้หนี้ยืมสินของคนใน คุก นั้น เขาเก็บดอกกันอาทิตย์ละ 1 ครั้งคือว่าคุณยืมวันไหนก็ต้องใช้วันนั้นถ้าใน 1 อาทิตย์คุณไม่มีใช้คุณก็ต้องจ่ายดอก อัตราการจ่ายดอกก็คือ 300 ดอกเบี้ย 60 บาท ต่อ 1 อาทิตย์และส่วนมากคนจำพวกที่ผมกล่าวไปนี้มักจะไม่รอดจบไม่สวยสักราย
อาทิตย์แรกไม่มีจ่ายดอกไม่เป็นไรไม่ว่ากัน ทบไปอาทิตย์ที่ 2 ถ้าไม่มีเรียกไปคุยแต่ก็ยังไม่ทำอะไรผ่านมาอาทิตย์ที่ 3 ทั้งต้นทั้งดอกไม่ได้เลยทีนี้แหละมหกรรมการเก็บดอกจึงจะเริ่มขึ้นทั้งตีนทั้งมือของบรรดาเจ้าหนี้ จะพุ่งไปหาลูกหนี้ทันที บางทีผมก็ไม่เข้าใจกับคนพวกนี้ พวกที่เป็นหนี้แล้วไม่มีจ่าย ในคุก มันไม่มีทางหลบพ้นได้เลย ถ้าเป็นข้างนอกก็ว่าไปอย่าง เรายังสามารถหลบไปอยู่บ้านคนนี้คนนั้นได้ แต่นี่เราอยู่ในคุกเราไม่สามารถ หนีไปไหนได้เลยถ้าวันนี้มันตามเราไม่เจอ พรุ่งนี้มันก็ต้องเจออยู่ดี
ทางเดียวที่จะหลุดพ้น นั่นก็คือการไปมอบกับเจ้าหน้าที่และขอย้ายแดน ซึ่งมันก็ไม่สามารถการันตีอะไรได้ว่าจะได้ ย้ายแดน หรือเปล่า ซึ่งมันก็ 50 50 ถ้าได้ย้าย ก็คือดีไปถ้าไม่ได้ย้าย ก็ต้องเรียกเจ้าหนี้มาทำการประนอมหนี้ นั้นคือการขอหยุดดอกและจะใช้เงินต้นกับดอกเบี้ยที่ค้างไว้ในตอนแรก ลูกหนี้ถ้าญาติยังไม่มาก็ต้องขึ้นยามใช้หนี้แทน ตัวผมนั้นคิดอยู่เสมอว่า ไม่ว่ายังไง ผมจะไม่กู้หนี้ยืมสิน คนในคุก อย่างเด็ดขาด ถ้าไม่มีก็จะไม่ขวนขวายหายืม ยิ่งต้องเอามาซื้อของพวกนี้แล้ว ไม่มีทางได้แดกเงินผมอย่างแน่นอน
ผมเชื่อเหลือเกินว่า ไอ้พวกที่ดูดยาอยู่ตรงบล็อคส้วมในตอนนี้ ประมาน20คน ครึ่งนึงไปกู้เขามาเล่น และไม่มีจ่ายประมาน7-8คน ไอ้พวกรักสนุกทั้งหลายเดี๋ยวจะ ทุกข์สงัด, ผมกำลังนั่งมองสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อผมจากทางด้านหลัง แล้วก็เป็นคนที่ผมไม่เคยคิดว่า จะเดินเข้ามาคุยกับผม เสียงเรียก ที่ฟังดูนอบน้อม จนผมนึกถึงเจ้าของเสียงได้ ว่าเป็นใคร ไอ้แว่นนั่นเอง “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ครับ พี่มีงานเหลือบ้างไหม ผมขอซื้อต่อพี่ได้ไหมครับ อยากจะหาเอาไว้ถอน สักหน่อย เผื่อสมองมันจะโล่งขึ้นครับ” ผมมองหน้ามัน ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แต่ยังไม่ได้พูดอะไร สักพักผมจึงพูดขึ้นมาว่า “ใครให้มาถาม นึกยังไงถึงมาถามกู “ไอ้แว่นหน้าตาตื่นตกใจ เพราะมันไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ มันรีบพูดแก้ตัวอย่างตะกุกตะกัก ลิ้นแทบจะพันกันเลยทีเดียว ” “เปล่าพี่ไม่มีใครให้มาถามหรอกครับ ผมถามเองครับ
พี่ผมอยากเล่น แล้วผมไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน ถ้าผมให้พวกในบ้านไปซื้อ ก็ต้องแบ่งพวกมันด้วย ซึ่งตอนนี้เงินผมหมดแล้วครับพี่ มีไม่พอเลี้ยงพวกเขาแล้ว ผมก็เลยตัดสินใจมาถามพี่เองดีกว่า แต่ไม่เป็นไรครับพี่ผมไม่เอาแล้วครับ “ไอ้แว่นพูดจบมันจึง รีบหันหลังเดินกลับไปอย่างไว
แต่ไม่ทันจะไปถึงไหน ผมก็เรียกชื่อมัน เอาไว้ “ไอ้แว่น มานี่ดิ จะไปไหน มึงจะเอา จะเอา เท่าไหร่” ผมถามมัน “ผมมีบุหรี่อยู่ในตู้ 5 ซองครับพี่ ผมขอตัวเล็กครึ่งเดียว ก็ได้ครับ” ไอ้แว่นพูดตอบกับผมไป ผมนั่งเงียบสักพัก ทำเหมือนว่ากำลังคิดอะไร และผมก็พูดขึ้นมาว่า” งั้นมึงเดินไปหยิบบุหรี่มาให้กูตอนนี้ และพอหมดเวลาพักเที่ยง มึงเดินมาหากูที่นี่ กูจะพามึงขึ้นไปดูดบนโรงงาน เดี๋ยวกู พามึงขึ้นไปเอง
ไอ้แว่นพยักหน้ารับ ดูสีหน้า หน้าตามัน ยิ้มแย้มขึ้นมันคงจะดีใจไม่น้อย ไม่รอช้ามันรีบวิ่งไปที่ตู้ล็อกเกอร์โดยเร็ว ไม่ทันจะถึง 5 นาทีดี ไอ้แว่นมันก็ได้นำ
บุหรี่กรองทิพย์จำนวน 5 ซอง มาวางไว้ตรงหน้าผม ผมรับเอาไว้ และไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป มันจึงหันหลัง แล้วเดินกลับไปตรงที่มันอยู่ ผมหยิบบุหรี่ออกมา 1 ซอง แล้วได้แกะออกมาจุดสูบ 1 ม้วนแล้วผมก็เอาบุหรี่ 1 ซองไปให้พี่เล็ก “พี่เล็กเอาเก็บไว้ สูบ บุหรี่เชลยให้มา เดี๋ยวผมพาไอ้แว่นขึ้นไปบนโรงงานด้วยนะพี่” พี่เล็กไม่ได้ตอบอะไรได้แต่พยักหน้ารับไว้ แล้ว
ก็หมดเวลาพักเที่ยง มันไม่ต้องให้ ผมต้องรอนานเลย ผมมองตรงทางเดิน ก็ได้เห็นไอ้แว่นกำลังเดินมาหาผมพอดี แหมตรงเวลาจริงๆผมนึกในใจ สงสัยคงจะอยากดูดจัด ผมไม่ได้พูดอะไรกับมัน เราสองคนเดินตีคู่กันขึ้นบนโรงงาน จึงทำให้ไอ้หมี ไอ้บีไอ้ฮาร์ท มองหน้าผมด้วยความสงสัย ว่าผมพาไอ้แว่นขึ้นมาทำไม( โปรดติดตามตอนต่อไป) “หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ”
คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่20
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending