Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่26

คุก.(อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่26 ep.4

บทที่ 26 คำตัดสิน ep. 4

” ไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายๆ​ ถ้าอยากจะได้ต้องลงมือทำ​ “

**มันเป็นเสาร์อาทิตย์ที่วุ่นวายอีกอาทิตย์นึง ผมนึกว่าตอนจบมันจะไม่ดีซะอีก มันจะบานปลายกลายเป็นศึกละหว่างสองบ้านใหญ่ไปซะแล้ว สรุปสุดท้ายเหตุการณ์ก็สู่ภาวะปกติ… ผมอยากจะบอกว่า อยู่ข้างในนี้เป็นนักโทษ การที่ไม่มีเรื่องเลยมันดีที่สุดนะครับ และนิสัยผมก็ไม่ใช่คนชอบหาเรื่อง​ หรือ​สร้างปัญหาให้กับใคร ชอบอยู่เงียบๆมากกว่าและถ้ามีหนังสือดีๆสักหนึ่งเล่ม ผมสามารถอ่านมันได้ทั้งวันเลยหล่ะ และนี่คือตัวผม ผมก็ไม่ได้อยากจะมีเรื่องเท่าไหร่ แต่จะให้ทำไงได้ถ้าเรื่องมันมาหาตัวแล้ว​ และคุณยอมก้มหน้ารับมัน โดยที่ไม่ตอบโต้ทำอะไรเลย  คราวนั้นแหละคุณจะเสียจุดยืนในคุกไปโดยทันที​ เพราะอะไรนะหรอเพราะว่าคุณจะต้องยอมไปแบบนี้เรื่อยๆโดนเอาเปรียบเสมอ ดังนั้นผมเลยถือคติว่า”ยอมหักไม่ยอมงอ”ไงละครับ…**

ในที่สุดวันตัดสินโทษของผมก็ได้มาถึง วันจันทร์ของเดือน สิงหาคม​ พ.ศ​ 2558 ผมและไอ้แว่นต้องขึ้นศาลพร้อมกัน เพราะเราสองคนเข้าเรือนจำมาพร้อมกัน และ​ เป็นคดียาเสพติดเหมือนกัน ต่างกันที่ปริมาณของยาเสพติดเท่านั้นเอง ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้น ต่างกับไอ้แว่นมันดูตื่นเต้นจนผมสังเกตุได้ “พี่ใหญ่.. ผมตื่นเต้นว่ะพี่ ออกศาลนอกมันต้องทำไงบ้างและโทษของผมพี่คิดว่ามันจะเหลือกี่ปีพี่ เพราะเสียเงินซื้อ102ตำรวจไปแล้ว “ไอ้แว่นมันถามผมตอนที่เราอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวออกศาล”  กูก็ไม่แน่ใจนะแต่ที่รู้ถ้า102ของมึงผ่านมันก็ช่วยลดโทษให้มึงกึ่งนึ่ง “ผมตอบคำถามของมันไป  

***คุณผู้อ่านหลายคนคงจะสงสัยใช่ไหมครับว่า102ที่ไอ้แว่นพูดถึงมันคืออะไร ผมจะอธิบายให้เข้าใจกันนะครับ​ มันก็คือ100/2( แต่ในคุกจะเรียกกัน102) เป็นเอกสารของตำรวจ ที่จะยื่นให้กับ อัยการแนบไปกับคำฟ้องให้กับผู้พิพากษา ในการตัดสินโทษเพื่อใช้ประกอบในการลดโทษของเรา 100/2 นั้น มันคือเอกสารในการล่อจับหรือล่อซื้อของสาย พูดง่ายๆก็คือมีผลงานให้กับตำรวจเช่น ถ้าเราโดนจับยาบ้า100เม็ดและเราล่อซื้อให้กับตำรวจต้องมีบริมาณมากกว่าที่เราโดนจับมันถึงจะใช้ลดโทษได้ แต่ถ้าเราไม่ล่อซื้อให้ เราก็ต้องให้ทนายเดินเรื่องขอซื้อ100/2กับตำรวจแทน ตำรวจก็จะใส่ชื่อเราเข้าไปในคดียาเสพติดคดีอื่นแทน​ และใส่ชื่อเราไปในคำฟ้อง​ ว่า​ เราเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อในครั้งนี้​ เพื่อหักล้างกับความผิดของเรา และ​ ผู้พิพากษาจะใช้ดุลยพินิจในการลดโทษ​ต่อไป​ 

แต่มันก็มีเรื่องอื่นเข้ามาเสริมด้วยนะครับ ใช่ว่า100/2ใครจะซื้อได้ทุกคน ข้อแรก​ ตำรวจชุดจับกุมต้องเล่นด้วยกับข้อเสนอ​ พูดง่ายๆก็คือ”เงินคุณถึงรึเปล่า” ข้อสอง ต้องมีคดียาเสพติดที่โดนจับพร้อมกับคุณหรือหลังคุณไม่เกิน 48 ชม.หรือ2วัน และ​ ข้อสุดท้าย คดีที่คุณจะซื้อ100/2นั้นต้องมากกว่าคดีของคุณ นี่คือ3ปัจจัยสำคัญในการซื้อ100/2นั้นเอง ที่ผมกล่าวมาทุกคนคงเข้าใจนะครับ***

หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ​ เราสองคนผมกับไอ้แว่นได้เดินไปเอาชุดออกศาล​ ชุดออกศาลก็จะเป็นชุดสีน้ำตาลทั้งเสื้อและกางเกง ทุกคนคงเคยเห็นตามข่าวในทีวีกันนะครับ​ แต่ของเรือนจำนี้นั้นจะต่างออกไปนิดนึง ก็คือ​จะมีหมายเลขอยู่ที่หลังเสื้อทุกตัวและใครได้หมายเลขไหน​ มันจะตรงกับใบออกศาลที่ส่งเข้ามา​ และผมได้เลข8ส่วนไอ้แว่นได้เลข10 และตอนจะออกศาลก็ต้องนั้งต่อกันตามหมายเลข เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คชื่อออกนอกแดน

เอาเป็นว่าผมจะอธิบายการเตรียมตัวออกศาลให้คุณผู้อ่านเข้าใจอย่างละเอียดนะครับ  พอเรารับเสื้อกางเกงออกศาลแล้ว ทุกคนที่ออกศาลต้องไปตัดผมทรงนักเรียนกันทุกคน พอตัดผมเสร็จ เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมา ตีตรวน(ใส่ตรวน)ที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง ซึ้งจะเป็นตรวนเส้นเล็กที่สุด คือมีทั้ง​หมด​ 29 ข้อ​ น้ำหนักประมาณ2กิโลกรัม ส่วนเส้นใหญ่ที่สุด มีชื่อว่าเรไร มีทั้งหมด9ข้อน้ำหนักประมาณ7กิโลกรัม เอาไว้ใส่ให้กับพวกที่ผิดวินัยในเรือนจำร้ายแรง เช่นทาเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกัน ถึงขั้นสาหัสหรือเสียชีวิต​ 

พอใส่ตรวนเสร็จ​ ถ้าเวลาเหลือเราจะไปทำอะไรก็ตามอัธยาศัย​ จนถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ พวกที่ออกศาลจะแยกนั่งอีกที่นึงแทน  ไม่ได้เข้ารวมกับนักโทษคนอื่น​ พอเสร็จจากการเคารพธงชาติ นักโทษที่ออกศาลทั้งหมด เดินชักแถวไปเช็คชื่อจุดแรกก็คือหน้าประตูแดน และในวันนี้มีนักโทษออกศาลทั้งหมด 22 คน รวมทั้ง 2 แดนยังไม่นับแดนหญิง เพราะนักโทษหญิงจะไปรอ​รวมกัน​ที่จุดเช็คชื่อที่สองคือหน้าฝ่ายควบคุมกลางนั้นเอง 

จุดนี้คือจุดเช็คชื่อสุดท้ายในเรือนจำ โดยพัสดีหรือผ.อฝ่ายควบคุมเป็นคนเช็คชื่อว่าตรงตามใบเบิกตัวของศาลหรือไม่และครบจำนวนหรือเปล่า หลังจากนั้นก็มาเช็คชื่อครั้งสุดท้ายที่ประตูออกเรือนจำประตูที่ 2 ก่อนที่รถออกศาลของเรือนจำจะถอยเข้ามารับที่ประตู 2 นั้นเอง 

รถออกศาลของเรือนจำคันใหญ่จะเท่ากับรถเมล์ที่เรานั่งกันทั่วไป เพียงแต่หน้าต่างจะมีลูกกรงและภายในจะแบ่งที่นั่งให้กับพวกผู้หญิงประมาณ3แถวเบาะหนังของผู้โดยสารโดยมีลูกกรงตีขึ้นมาเป็นห้อง และนักโทษชายไม่สามารถเข้าไปถึงตัวขังหญิงได้เลย เต็มที่แค่สอดมือเข้าไปได้​ ส่วนอาหารที่เอาไว้เลี้ยงนักโทษตอนกลางวันก็จะมีเพียข้าว 1 หม้อและต้มจืด 1 หม้อแค่นั้นเองจริงๆ

จานก็ไม่ให้ อย่าว่าแต่ช้อนไว้กินเลยกระบวยตักแกงยังไม่มีให้เลย​ ผมจะบอกให้นะครับว่าพวกเรากินกันยังไง​ สำหรับพวกที่ออกศาลและไม่มีญาติพี่น้องตามไปที่ศาล พวกเขาจะเทแกงหรือต้มจืดไปในหม้อข้าวเลย แล้วก็ใช้มือแทนช้อนกันนั้นเอง รุมกินกันแย่งกันกินเหมือนสัตว์ก็ไม่ปาน ผมเห็นภาพนั้นแล้วหดหู่ใจจริง มันเหมือนเขาเห็นเราไม่ใช่คนเพราะถ้าเห็นเราเป็นคน คงจะต้องเตรียมจานกับช้อนพลาสติกให้พวกเราแล้ว ไม่ใช่แบบนี้ “แดกได้ก็แดกถ้าแดกไม่ได้ก็ไม่ต้องแดก” ถือว่ากูทำให้แล้วตามหลักเกณฑ์ มนุษย์​ชนตามหลักที่กำหนดแล้ว นั้นเอง

ระยะทางจากเรือนจำถึงศาลประจำจังหวัดนั้นประมาณ5-6กิโลเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางแค่ไม่ถึง15นาที ถ้ารถไม่ติด แต่เพียงแค่เวลาไม่นานในการเดินทาง ต้วผมก็ได้ซึมซับภาพตึกรามบ้านช่องทั้งสองข้างทาง ได้สูดหายใจเอาอากาศที่มันบริสุทธ์จากภายนอกอย่างเต็มปอด​ เพราะภาพและบรรยากาศเหล่านี้ ผมจะไม่ได้สำผัสกับมันหลังจากวันนี้ คงอีกหลายปีเลยที่เดียว ผมกำลังเหม่อมองอยู่เพลินๆ ไอ้แว่นมันก็ถามผมขึ้นมาทำให้ผมหลุดจากภวังส่วนตัว “พี่ใหญ่พ่อแม่พี่จะมาหาที่ศาลรึเปล่า ฝากให้แม่ผมโทรให้ไหม “  ผมรู้สึกดีนะกับน้ำใจที่มันหยิบยื้นให้ผม “กูก็ไม่รู้ว่ะจะมารึเปล่า ก็หวังว่าจะมานะ​ ไงถ้าไม่มาจะฝากให้โทรที่หลังแล้วกัน” ผมบอกให้มันเข้าใจ ก่อนที่เวลาไม่ถึง 5นาที รถขนนักโทษก็ได้มาถึงศาลประจำจังหวัด​ 

ต่อมาถึงตาตำรวจศาลนับจำนวนนักโทษ และนำไปขังไว้ห้องขังใต้ถุนศาลเพื่อรอเวลาให้ผู้พิพากษาเรียกตัดสินคดีต่อไป เป็นช่วงเวลาที่รอนานมากๆ​ ห้องขังใต้ถุนศาล เป็นห้องขนาดใหญ่ห้องเดียวรูปสี่เหลี่ยม ส่วนของผู้หญิงก็อยู่ติดกับขังชายโดยมีกำแพงปูนกันเอาไว้ ใต้ถุนศาลมันเป็นอะไรที่เจี๊ยวจ้าวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากนักโทษที่มาขึ้นศาลก็จะมีผู้ต้องหาจากโรงพักต่างๆทั่วทั้งจังหวัดทยอยเอามาส่งขึ้นศาล พวกที่รอประกัน ก็เดินเรื่องกันที่นั้นเลย ส่วนพวกที่ที่ต้องขึ้นศาลเพื่อฝากขังต่อก็นั่งรอนอนรอ ก็แล้วแต่สะดวก รอกลับเรือนจำพร้อมกันทีเดียวในตอนเย็น เวลากลับเรือนจำประมาณ5โมงเย็น

ผมเป็นคนประเภทไม่ชอบความวุ่นวาย​ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว​ พอถึงใต้ถุนศาลผมก็หามุมสงบๆ เย็นๆเ พื่อที่จะเอนตัวนอนในทันที​ เพราะพอถึงเวลาเราขึ้นศาลจะมีคนเรียกเราเองนั้นแหละ ผมก็เลยนอนหลับไปโดยมีไอ้แว่นนอนอยู่ข้างๆ ส่วนมันคงรอให้แม่กับเมียมันเข้ามาคุยกับมันก่อน ส่วนผมไม่ต้องรอใครมาทั้งนั้น เพราะตอนที่รถถอยเข้ามาจอดนั้น ผมมองดูแล้วไม่เห็นใครมารอ มันก็ทำให้รู้เลยว่า วันนี้ไม่มีใครมาแน่นอน ผมก็เลยไม่ต้องพะวงอะไร นอนรอเวลาขึ้นศาลอย่างเดียว ผมก็ไม่ได้หลับสนิทหรอกนะ เสียงตะโกนพูดคุยกันมันดัง จนบางครั้งผมก็รำคาญเลยล่ะ ผมเลยตัดสินใจลุกขึ้นมานั่ง ก็เลยได้เห็น ไอ้แว่นเดินถือตวน มือถือกับข้าว ขนม น้ำ พะลุงพะลังมาหา

“พี่ใหญ่ครับมากินข้าวกันดีกว่า คนละ 2 กล่อง กระเพราหมูกรอบกับคะน้าหมูกรอบ ส่วนของหวานมีขนมชั้น กับฝอยทอง น้ำคนละแก้วพี่​ โค้ก น้ำเขียว พี่เอาน้ำอะไร​ “ ไอ้แว่นแจกแจงรายการอาหารให้ผมฟังเป็นการใหญ่ 

ผมกับมันต่างไม่รอช้า​ เปิดข้าวกล่องคนละ 1 กล่อง นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย กระเพราหมูกรอบ เกือบ 3 เดือนเต็ม ที่ไม่ได้ลิ้มรสชาติของมันจากวันนี้ ก็คงจะอีกนานกว่าจะได้กินมันอีกครั้ง ไม่นานข้าวกล่องแรกหมดลงอย่างรวดเร็วคงจะเป็นเพราะว่าผม 2 คนยังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย กินแค่กาแฟคนละแก้วเท่านั้น กล่องที่ 2 คะน้าหมูกรอบ เราสองคนกินไปคุยกันไป​ มื้อนี้มันช่างเป็นอาหารมื้อพิเศษที่สุดของผมกับไอ้แว่นในรอบ3เดือน ผมมองหน้ามัน ดูมันกิน ไอ้​เด็กคนนี้ ยิ่งนับวันผมชักจะถูกชะตากับไอ้แว่นมากขึ้นทุกที มันเป็นเด็กที่นิสัยดีมากมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่​ มันไม่เคยซื้ออะไรมากินคนเดียวเลย มันจะซื้อเผื่อผมเสมอ​ มีหน้าที่อะไรในบ้านมันก็ทำ โดยที่ไม่ต้องบอก​ ทำให้ในตอนนี้​ ผมรู้สึกเห็นมันเป็​น​ น้องชายของผมอีกคน

พอเราสองคนกินเสร็จ และไอ้แว่นเก็บขยะไปทิ้งเรียบร้อย มันได้นั่งข้างผมพร้อมกับแอบยื่นบุหรี่กรองทิพย์มาให้ผม1ซอง “อ่ะพี่ หลังกินอิ่มๆผมรู้ว่าพี่ยังขาดอะไรไป ” ผมยิ้มให้กับความรู้ดีของมัน “มึงนิช่างรู้ใจกูมากขึ้นทุกทีแล้วนะ กูไม่มีอะไรให้มึงหรอกนะ นอกจาก​ ใจ..” ผมตอบมันไปแบบนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจของผม

ผม​อยากจะบอกว่า​ ในคุกนั้นการที่เราได้พบกับมิตรสหายที่ดีต่อกัน ช่วยเหลือกัน ไม่เอา​เปรียบ​และแทงข้างหลังกัน​ นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว เพราะว่าแต่ละคนมาจากคนละที่กัน แต่ต้องมาอยู่รวมกัน มันยากนะครับ ที่จะเจอคนที่เคมีตรงกับเราและได้กินอยู่ด้วยกัน แต่มีคำพูดคำนึงในคุกได้พูดเอาไว้เสมอว่า ในคุกมีพบก็ต้องมีจาก ในคุกมีแต่การจากลา เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดหรอกครับ ในคุกไม่มีใครที่จะมีความสุขไปตลอดหรอกครับ ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน เพราะว่าพวกเรามีกรรม เรามาเพื่อชดใช้กรรมครับ ผมกับไอ้แว่นหลังจากวันนี้ ผมกับมันจะอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ มันจะโดนย้ายไปไหนไหม หรือ​ ผมเองที่โดนย้าย ก็ไม่อาจทราบได้ ในคุกมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ คุกมันอยู่เพื่อจากจริงๆ… (โปรดติดตามตอนต่อไป) ” หมีขาว​ ขั้ว​ โลก​เหนือ​ ​” 

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่26 ep.4

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
0
Happy
2
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที