หุ่นเชิดเด็กหญิง Little Amal กับการเดินทางไกล 8,000 กม. เพื่อตามหาแม่ของเธอ ตัวแทนของกลุ่มเด็กและเยาวชนผู้ลี้ภัยทั่วโลก
หุ่นเชิดเด็กหญิง Little Amal คือหุ่นเชิดขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทานจากธรรมชาติ มีความสูงกว่า 3.5 เมตร และมีรูปร่างเหมือนเด็กผู้หญิง โดยเธอจะต้องออกเดินทางกว่า 8000 กม. ผ่านแต่ละประเทศในทวีปยุโรป เพื่อออกเดินทางไปพบแม่ของเธอที่เมืองแมนเชตเตอร์ประเทศอังกฤษ
เป็นผลงานการสร้างของ Handspring Puppet Company ร่วมกันกับโปรดิวเซอร์มากฝีมือ ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของหนูน้อยอามัลเด็กหญิงผู้อพยพชาวซีเรีย วัย 9 ปี ที่ต้องออกเดินทางเพื่อตาหาแม่ของเธอ ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ ที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหญิงผู้อพยพตัวน้อยที่ต้องออกเดินทางอย่างโดดเดี่ยว ผ่านเส้นทางในแต่ละประเทศ แต่ในทุกเส้นทางที่หนูน้อยเดินผ่านจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป จะมีศิลปินมากด้วยฝีมือที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ ตลอดเส้นทางของหนูน้อย พร้อมที่จะออกมาช่วยเหลือหนูน้อยอามัลในการตามหาแม่ของเธอ
ซึ่งผลงานศิลปะในครั้งนี้ จะมีศิลปินชั้นแนวหน้าที่มากด้วยประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์เข้าร่วมกว่า 250 คน ในหลายสิบประเทศทั่วยุโรป เพื่อร่วมกันสร้างให้หนูน้อยอามัลเป็นเสมือนตัวแทนของเด็กผู้อพยพที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไร้ซึ่งพ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองดูแล เพื่อเป็นส่วนช่วยให้หลายฝ่ายต่างหันมาสนใจกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบ จากสงครามการแก่งแย้งของคนบางกลุ่ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นชีวิตที่ยากลำบาก และเป็นการกระตุ้นให้พวกเราเห็นถึงปัญหานี้ ผ่านการเดินทางของเด็กหญิงอามัล ในโปรเจคที่เรียกว่า “The Walk”
โยลันดา มาร์โกปูลู ผู้อำนวยการโครงการ Walk’s Greek Leg กล่าวว่า “การเดินทางไกลของสาวน้อยอามัล ซึ่งเริ่มต้นขึ้นห่างจากพรมแดนซีเรียไม่กี่กิโลเมตร เรียกความสนใจของผู้คนทั่วโลก และเป็นการแสดงพลังสนับสนุนผู้ลี้ภัยเด็กที่พลัดพรากจากบ้านเกิดตามลำพังคนเดียว โดยที่ไม่มีพ่อแม่หรือผู้ปกครองมาด้วย”
มาร์โกปูลู ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า “หุ่นกระบอกสาวน้อยอามัล เป็นการสื่อให้ชาวโลกได้ตระหนักว่า อย่าลืมเยาวชนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และเชื่อว่าเป็นวิธีการสร้างผลงานเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานศิลปะที่แสดงให้เห็นว่า เด็กผู้ลี้ภัยเหล่านี้ต้องได้รับการสนับสนุนและจดจำ”
แผนการเดินทางของหนูน้อยอามัล
หุ่นเชิดเด็กหญิง Little Amal หรือ หนูน้อยอามัล จะเริ่มออกเดินทางจากชายแดนซีเรีย เดินด้วยเท้าและทางรถ รวมถึงทางทะเล ผ่านไปยังเมืองต่าง ๆ และในทุกเมืองก็จะมีคนออกมาต้อนรับ พร้อมให้กำลังใจหนูน้อยในการเดินทางครั้งนี้
เมื่อหนูน้อยมาถึงประเทศตุรกี เธอจะเดินทางเรียบชายหาดที่เต็มไปด้วยทางที่ประดับด้วยรองเท้า จากผลงานศิลปินชาวตุรกีที่ร่วมในโครงการ ให้รองเท้าเปรียบเสมือนเหล่าผู้คนที่ต่างพาคนอพยพข้ามน้ำ ข้ามทะเล เพื่อมาขึ้นฝั่งยังชายหาดนี้ โดยหนูน้อยอามัลจะเดินทางจากชายหาด จนขึ้นมายังเมืองกาซีอันเตป(Gaziantep)ประเทศตุรกี โดยที่เมืองนี้ชาวเมืองจะประดับโคมไฟไว้ตามเส้นทางเมือง เพื่อให้เป็นแสงสว่างนำพาให้หนูน้อยอามัลเดินทางไปตามเส้นทางเพื่อตามหาแม่
หลังจากเดินทางในตุรกีเสร็จสิ้นแล้ว หนูน้อยอามัลจะเดินทางเข้าสู่ ประเทศกรีซ ผ่านเมืองต่าง ๆ พร้อมทั้งมีผู้คนรวมถึงเด็กที่จะออกมาต้อนรับหนูน้อย พร้อมจูงมือเพื่อพาเดินทางผ่านไปภายในเมือง ระหว่างการเดินทางหนูน้อยอามัลจะทำการผูกด้ายสีแดงไว้ตามจุดต่าง ๆ บ่งบอกถึงการปลอบประโลมความกลัวเพื่อไม่ให้หนูน้อยกลัวที่จะเดินทาง และเพื่อเป็นการพูกมิตรกับหนึ่งหุ่นเชิดตัวละครของศิลปินชาวกรีซ อย่างมิโนทอร์ และเมื่อหนูน้อยผูกมิตรแล้ว มิโนทอร์จะเป็นเพื่อนนำพาหนูน้อยอามัลเดินทางต่อได้อย่างสวัสดิภาพ ผ่านไปยังเมืองและเข้าสู่ ประเทศอิตาลี
เมื่อหนูน้อยเข้าสู่ประเทศอิตาลีแล้ว เธอจะเดินทางผ่านไปตามเมืองต่าง ๆ และจะได้รับการต้อนรับจาก Nonna หรือ หุ่นเชิดคุณยายผู้แสนใจดี จากผลงานศิลปินชาวอิตาลี ที่จะออกมาต้อนรับและโอบกอดเธอด้วยความอบอุ่น คุณยายNonna จะเป็นผู้พาหนูน้อยอามัลเดินเที่ยวชมเมือง ก่อนที่จะปลอบประโลมเธอและส่งเธอออกเดินทางต่อ ไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนูน้อยอามัลจะพบเจอกับการละเล่นต่าง ๆ ที่ท่ายถอดออกมาจากผลงานของศิลปินชาวสวิสฯ เพื่อให้หนูน้อยได้เพลินและสนุกสนาน อีกทั้งยังได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เทือกเขาแอล เพื่อช่วยให้เธอหายเหนื่อยและเติมเต็มไฟแห่งการเดินทางเพื่อไปต่อยังประเทศเยอรมัน
เมื่อมาถึงประเทศเยอรมัน หนูน้อยอามัลจะเดินทางและพำนักในเมืองสตุตการ์ต โคโลญ และเรคลิงเฮาเซน 3 เมืองของประเทศเยอรมัน ในระหว่างการเดินทางนี้ หนูน้อยอามัลจะได้พบเจอกับหุ่นเชิดพี่เลี้ยงทั้ง 4 ของเธอ ที่จะออกมาต้อนรับเธอด้วยความอบอุ่น และจะเป็นผู้ช่วยนำพาเธอเดินทาง ในเมืองโคโลญ ถนนจะถูกประดับด้วยแสงไฟสีขาวที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ในตลอดเส้นทาง ก่อนที่เธอจะมุ่งเข้าสู่ประเทศเบลเยียม
ผู้คนจากประเทศเบลเยียมจะออกมาต้อนรับหนูน้อยอามัลเมื่อเธอมาถึง ด้วยเสียงดนตรี การเต้นรำและการประดับ ประดาเมืองด้วยริบบิ้นหลากหลายสี ที่เปรียบเสมือนความคิดและความสวยงามแห่งชีวิต พร้อมทั้งบทเพลงขับกล่อมเพื่อช่วยให้หนูน้อยอามัลออกเดินทางต่อไป ด้วยกำลังใจอย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อเธอมาถึงยังประเทศฝรั่งเศสแล้ว การเดินทางของเธอใกล้สิ้นสุด อามัลจะได้พบเจอกับค่ายผู้อพยพจำลองในรอบ ๆ ศูนย์ Institut du Monde Arabe ภายในนั้นจะเต็มไปด้วยผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศส และศิลปินพันธมิตรจากหลากหลายประเทศที่เข้าร่วม ในงานจะจัดแสดงผลงานศิลปะภาพเงาและเสียง
ซึ่งจะเป็นตัวแทนของประเทศต่างๆ ที่ผู้ลี้ภัยได้เดินทางผ่านมา จะบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา ผ่านมุมมองของงานศิลปะ ที่ถูกถักทออย่างประณีตในเรื่องราวทั้งหมด ในค่ายอพยพจำลองนี้หนูน้อยอามัลจะได้พบเจอกับเรื่องราว และค้นพบคำตอบว่าแม่ของเธอได้ไปอยู่ที่เมืองแมนเชตเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งที่แห่งนี้คือจุดสุดท้ายของการเดินทางของหนูน้อยอามัล
เมื่อออกเดินทางจนมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว หนูน้อยอามัลจะได้รับการต้อนรับจากเหล่าศิลปินพันธมิตรทั้ง 250 คน พร้อมทั้งการแสดงดนตรีในยามเช้าที่ Royal Opera House ตามด้วยงานปาร์ตี้ที่พิพิธภัณฑ์ Victoria and Albert ที่จะเชิญเหล่าเด็ก ๆ ทั่วทั้งกรุงลอนดอนเข้ามาร่วมในงานนี้ด้วย
หลังจากนั้นหนูน้อยอามัลจะเดินทางต่อเพื่อเข้าสู่เมืองแมนเชตเตอร์ ที่เมืองนี้หนูน้อยอามัลจะพบเข้ากับแม่ของเธอ และเป็นการสิ้นสุดการเดินทางกว่า 8,000 กม. ของหนูน้อยอามัลคนนี้
การเดินทางของหนูน้อยอามัลให้อะไรแก่เรา
การเดินทางของหุ่นเชิดเด็กหญิง Little Amal หรือ หนูน้อยอามัล นี้ให้อะไรแก่เราบ้าง อันที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือผลงานศิลปะระดับสูง ที่ทำออกมาได้อย่างปราณีตพร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญในการเชิดหุ่นทั้ง 4 คนที่มากด้วยฝีมือ รวมถึงความสามัคคีในการทำผลงานของศิลปินพันธมิตรมากกว่า 250 คนที่ถ่ายทอดเรื่องราวตลอดเส้นทางออกมาได้อย่างลงตัว
ถ้าถามว่าหนูน้อยอามัลให้อะไรแก่เรา ต้องบอกเลยว่า หนูน้อยให้มากกว่าที่เราจะคิดได้ เธอให้ทั้งความหวัง กำลังใจ และการแสดงออกถึงเรื่องราวที่เราอาจจะลืมไปแล้วว่า ในโลกแห่งนี้ยังมีสิ่งเล็ก ๆ ที่กำลังต้องได้รับความช่วยเหลือ เหล่าเด็กน้อยและเยาวชนอีกจำนวนมากที่เป็นผู้บริสุทธิ์ กำลังได้รับผลกระทบจากสงครามที่พวกเขาไม่ต้องการให้มันเกิด พวกเขาได้อพยพและระหว่างการเดินทางบางคนก็อาจล้มตาย หรือ ต้องพลัดพรากจากคนที่ตนรัก อามัลจึงเปรียบได้กับพวกเขาที่ทั้งหวาดกลัว และออกเดินทางมาอย่างไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
แต่เธอก็ได้แสดงให้เราเห็นผ่านการเดินทางของเธอแล้วว่า ตลอดการเดินทางยังมีความเมตตากรุณา จากคนหนึ่งเพื่ออีกคนหนึ่ง ในทุกเส้นทางที่หนูน้อยเดินผ่าน ต่างก็มีผู้คนที่ออกมาให้การต้อนรับ และมอบความอบอุ่นให้เธอ ปลอบประโลมเธอด้วยความห่วงใย เพื่อให้เธอได้มีกำลังใจที่จะเดินทางต่อ เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงแม้โลกจะโหดร้ายเพียงใด แต่ความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์จะยังคงมีอยู่ และพร้อมที่จะเป็นแสงสว่างเพื่อนำทางเหล่าผู้คนที่อยู่ในความมืดนั้นเสมอ
หนูน้อยอามัลจึงเป็นมากกว่าหุ่นเชิด เพราะเธอคือ ตัวแทนของเหล่าเด็กที่กำลังอยู่ในความมืด และเราเองจะเป็นแสงสว่างที่จะนำพาพวกเขาออกมา…# หุ่นเชิดเด็กหญิง Little Amal กับการเดินทางไกล 8,000 กม. เพื่อตามหาแม่ของเธอ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun