Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่10

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่10

บทที่ 10.  ที่เดิม ไม่เหมือนเก่า Ep2

“จงอย่ากลัวที่จะก้าวเดินแม้เส้นทางที่มืดมิด ย่อมมีแสงสว่างอยู่ในนั้นเสมอ”

ในคืนแรกกับสถานที่เดิม ที่ เคยผ่านมา ยอมรับว่าปรับสภาพไม่ทันเหมือนกัน เกือบจะมีปัญหา ตั้งแต่คืนแรกซะแล้วสิ ดีนะที่ได้บังยูหาที่นอนให้ ไม่งั้นคงแย่ เพื่อนต้องดูกันตอนลำบาก ว่าใครที่คอยช่วยเหลือเราอยู่เคียงข้างเรา จำไว้เถอะเพื่อนๆ

มิตรแท้ แม้ มีน้อยก็จงรักษาไว้ให้ดีๆ มันดีกว่ามีมิตรมาก แล้ว ไม่ช่วยอะไรเลย มีแต่คอยฉกฉวย ผลประโยชน์ จากเรา ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่เคยเจอกับเรื่องแบบนี้ เลยรู้ดีว่าความรู้สึกเป็นยังไง

บรรดานักโทษ.. จากห้องอื่นๆได้ทยอยกันลงจากขัง พร้อมเสียงพูดคุยที่เริ่มดัง และ มากขึ้น ทุกทีๆ

เริ่มวุ่นวายอีกแล้ว ผมมองภาพที่เห็นตรงหน้า นักโทษเดินกันไป บ้างก็ขึ้นไปราวตากผ้า บ้างก็รีบไปเข้าบล็อค บ้างก็ต้องเบียดเสียดแย่งกันเพื่ออาบน้ำ ว่าไงใหญ่ “ เสียงเรียกชื่อของผม เป็นเสียงที่คุ้นหูผมมาก ถึงแม้ผมจะไม่ได้ยินมานาน ผมก็มั่นใจว่าน้ำเสียงนี้เป็นใคร พี่เล็ก..” ผมกล่าวสวัสดี ชายหนุ่มในวัยเกือบ40 ที่ผมนับถือเสมือนพี่ชาย  13ปี ที่เราไม่เคยได้เจอกันเลย นับตั้งแต่เหตุการณ์ยิงถล่มคู่อริตาย 2 ศพในคืนวันหนึ่งเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ดูเปลี่ยนไปมากเหลือเกินพี่ชายคนนี้ คงเป็นเพราะด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้หน้าตาดูจริงจังขึ้นพิกล ทั้ง รูปร่างอ้วนท้วนขึ้น แต่ ก็ดูกำยำ อีกทั้งรอยสักที่มีให้เห็นทั้งตัว

“พี่เล็ก” หัวหน้าแก๊งสิบเบี้ย  ที่วัยรุ่นข้างนอกสมัยนั้นให้ความเคารพยำเกรง นิสัยใจคอนั้น ดุดันมุทะลุยอมหักไม่ยอมงอ รักพวกพ้อง จึงทำให้เวลาใครมีปัญหา ก็ต่างไปหวังพึ่งพี่เล็กเสมอ จนสุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้  โทษตลอดชีวิต คือ สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ได้รับ มันจึงทำให้ผมคิดได้ข้อนึงว่า คุกได้สอนและเปลี่ยนแปลง นิสัยของพี่เล็ก ให้กลายเป็นคนใจเย็น สุขุม มีเหตุและผล ไม่มุทะลุดุดันเหมือนแต่ก่อน

” ไงเอ็ง …ไปทำอีท่าไหนล่ะ ถึงได้โดนเข้ามาได้ แล้วเมื่อคืนเป็นไงบ้าง นอนได้ใช่ไหม? ” พี่เล็กถาม ” “ตำรวจมันลงบ้านครับพี่ แต่เรื่องมันยาวเอาไว้เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เพราะเวลาเล่ามันยังมีอีกเยอะ ส่วนเมื่อคืนผมก็นอนได้พี่ ได้บัง ยู หาที่นอนให้ “ ผมตอบในสิ่งที่พี่เล็กอยากรู้ แต่เรื่องรายละเอียด ผมยังไม่อยากเล่า ก็ เลยตอบแกไปแบบกวนๆสักนิดนึง เรียกรอยยิ้มจากแกมาได้หน่อย ” เออ..เมื่อคืนเอ็งจะมีเรื่องกับไอ้โลมามันหรอ เห็นบังยูมันเล่าให้ฟัง ” พี่เล็กถามถึงปัญหาที่เกิดเมื่อคืนกับผม “มีอะไรก็บอกพี่นะใหญ่ อย่าเงียบ ” พี่เล็กพูดดักคอผมทิ้งท้าย เพราะเขารู้นิสัยน้องคนนี้ดี ว่า ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆมันจะไม่ยอมเอ่ยปากเลย  ” ไม่มีอะไรมากหรอกพี่แค่เรื่องเล็กๆ เด็กมันท่อดัง ก็แค่นั้นเอง….แต่ถ้ามีอะไรผมจะบอกพี่ครับ ”  ผมตอบเพื่อให้พี่เล็กรู้สึกสบายใจขึ้น

แกเลยพยักหน้าพอให้เข้าใจ และแล้ว เวลาแค่ไม่นาน บรรดาเพื่อนฝูง มิตรแท้ และ ไม่แท้ ต่างก็ทยอยเดินกันมาหา มาทักมาถามตามประสาคนรู้จัก ยอมรับเลยว่าตอนนั้น บางคนผมก็จำไม่ได้ ว่าชื่ออะไร แต่จำหน้าได้ ส่วนใหญ่ ก็ จะเป็นพวกลูกค้า

ซะมากกว่าที่ผมจำไม่ค่อยได้ เพราะนิสัยของผม ถ้าเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ผมจะไม่คุยหรือเป็นฝ่ายผูกมิตรก่อน แต่ผมไม่ได้หยิ่งนะ แค่ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดมากสักเท่าไหร่ ออกจะนิ่งๆซะมากกว่า แต่ ถ้าเป็นเพื่อนของผมจริงนั้น มันจะรู้ว่าผมเป็นคนตลกแค่ไหน

หลังจากได้คุยและทักทายคนที่รู้จักกัน พอเป็นพิธี ผมจึงขอแยกตัวออกมา เพื่อที่จะไปหาพวกเพื่อนในบ้านที่ผมจะเข้ามาอยู่ด้วย เพราะว่าพวกมันต่างยืนยิ้มกันอยู่เป็นกลุ่ม อย่างกับจะร่วมแสดงความยินดีกับผม ที่ได้เข้ามาอยู่ในนี้ด้วยกัน (นี่กูสมควรจะดีใจไหมเนี้ย)  “ว่า…ไงวัยรุ่น ยินดีต้อนรับ ” สัสทำยังกับกูมาพักผ่อน ‘ผมนึกด่าพวกแม่งในใจ’ แต่ผมไม่โกรธพวกมันหรอกครับ เพราะมีพวกมันนี่แหละ ก็ เลยทำให้ผมไม่ต้องเครียดหรือคิดมากเรื่องข้างนอก ก็อย่างที่ผมเคยพูดไว้ก่อนแล้วว่า คุก คุณอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก ต่อให้มีเงินแค่ไหนคุณก็อยู่คนเดียวไม่ได้ คุณต้องมีพวก มีเพื่อน และมีสังคม ในคุกแห่งนี้

มันช่วยให้สุขภาพจิต ของคุณให้เป็นปรกติดี ถ้างั้นประสาทแดกแน่นอน  และแล้วก็มีชายคนนึง อายุรุ่นเดียวกับผม ได้เดินตรงมาหาผมจากใต้ถุนเรือนนอน

เป็นคนที่ผม ไม่ คาดคิดว่าจะเจอมันในนี้ “ไอ้ เหี้ย หมี ” ผมตะโกนเรียกชื่อมัน  10กว่าปีที่ผมไม่ได้เจอมัน เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัย ม.ต้น แล้ว สมัยนั้นยอมรับว่าสนุก สุดขีด ดูดยาหัวแทบจะชนกันก็ว่าได้

“เป็นไงบ้าง ใหญ่ ทำเหี้ย ยังไงถึงได้ โดนเข้ามาได้

(ถามกันอีกแล้ว) ทำไมต้องถามผม แต่เรื่องนี้กันทุกคน ” กูไม่ได้ทำเหี้ย ตำรวจมันเหี้ยมากกว่า ” ผมตอบติดตลกกับมันไป และ ผมก็เลยถามมัน “มึงละ โดนมาเมื่อไหร และโดนอะไร ” กูโดนหมวกทองจับ ในเซ่เว่น โดนไอซ์ มา5จี แล้วมึงละ” 2จี กับ5เม็ด ผมตอบคำถามมันไป ” ต่อมาก็คือ ไอ้เดี่ยว เพื่อนรุ่นเดียวกับผม ไอ้ฮาทร์ อีกคน ทั้ง3 คน นี้ ผมรู้จักกันตั้งแต่ข้างนอกแล้ว ต่างฝ่ายต่างถามสาระทุกข์สุขดิบกันเรียบร้อยแล้ว พี่เล็กก็ได้เรียกผมมานั่งกินกาแฟกัน ส่วนพวกมันสามคน ก็เดินกลับไปนั่งกินกับกลุ่มบ้านของมัน พวกเพื่อนทั้งสามได้กินอยู่บ้าน น้าหล้า พ่อค้าขายของในแดน

ซึ่งผมก็รู้จักมักคุ้นแกเป็นอย่างดี (พ่อค้าภายในแดนก็คือ คนที่เบิกของมาจากร้านสวัสดีการผู้ต้องขัง ที่นักโทษทุกคนเบิกกันนั้นแหละ มาขายต่อเอากำไรอีกทอดนึง ด้วยที่บางคนไม่มีเงินในบุ็ค ก็สามารถติดไว้ก่อนได้ แล้วแต่เครดิตของแต่ละคน ว่าดูดีไม่ดี) น้าหล้า แก่ติดคุกกี่รอบต่อกี่รอบ แก่ก็เปิดร้านค้าขายของ ทุกรอบ จนสามารถเก็บเงิน ส่งเสียลูกสาวที่อยู่ข้างนอกจนเรียนจบ มีเงินเก็บที่ เป็นหมื่นๆ คือ ถ้าแก่เอานิสัยตอนที่ติดอยู่ข้างใน มาใช้ในชีวิตประจำวันข้างนอก ป่านนี้แก่คงรวยไปนานแล้ว

แต่เพราะนักโทษส่วนมาก ไม่เคยคิดที่จะทำอย่างที่ผมบอก กัน มันก็เลยกลายเป็นปัญหานักโทษล้นคุก ถึงทุกวันนี้  อยู่ข้างในคุก เป็นคนที่มีระเบียบวินัย กินนอนเป็นเวลา คือ พูดง่ายๆเลยก็คือ ทำตัวดี ถ้าทำแบบนี้ ตอนอยู่ข้างนอกได้ รับรอง ไม่มีทางไม่ได้ดี แต่คนส่วนใหญ่ เวลาออกไปแล้ว มักจะลืมกันหมด ว่ากูได้เจอ และ เคยสัมผัสอะไรมา ตอนอยู่ข้างใน พวกเราๆมักจะทำตรงข้ามเสมอ  ” มันก็เลยกลายเป็น วังวน ที่ไมารู้จักจบสิ้น ของคำว่าคน คุก. ” แต่ก็มีหลายๆคนส่วนน้อย ที่สามารถ หลุดจากวังวน คนคุก ออกมาใช้ชีวิต ในโลกภายนอกได้อย่างปรกติ เพราะคนพวกนี้ เขาสามารถเอานิสัยในคุกมาใช้กับโลกภายนอก ได้นั้นเอง 

ตัวผมเองในตอนนี้ ก็อยากหลุดพ้น จากวังวน คนคุกนี้สักที มันเริ่มเบื่อหน่าย ตัวเองขึ้น ทุกทีๆ  มันจึงทำให้ผมรู้สึกว่า ถึงผมจะอยู่ ที่เดิมตรงนี้ แต่มันก็ไม่ได้เหมือนเก่าเลย อย่างสิ้นเชิง คงจะเป็น รอบนี้แหละ ที่ผมจะสามารถ เอานิสัยในคุกมาใช้กับโลกภายนอกได้กับเขาสักที 

พอผมคิดได้ดังนี้  มันทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลย มันเป็นความรู้สึกที่ ว่ากูทำได้ กูเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อะไรประมาณนี้ ซึ่งตัวผมไม่เคยสัมผัส ความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เลยจริงๆ ผมจึงยิ้มให้กับตัวเองขึ้นมา แล้วก็หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม  แหม!!ทำไมกาแฟรสชาติมันช่างมีความสุขจัง” ผมพูดขึ้นมา  และทุกคนในบ้านต่างมองหน้าผม ด้วยอาการแปลก ในใบหน้าและแววตา เหมือนแบบว่า ไอ้ใหญ่ มันเป็นอะไรว่ะ มันจะรั่วแน่ๆ อะไรประมาณนี้  ไม่เว้นแม้แต่กับ พี่เล็ก พี่ชายของผมคนนี้ หน้าตาเอาดูจะสงสัยเอามากๆเลยที่เดียว แก่ก็เลย บอกไปว่า ” เดี๋ยว เคารพธงชาติเสร็จ ไอ้แป๊ะ (เด็กในบ้าน) มึงจัดการปูที่นอน ให้ ไอ้ใหญ่มันนอนด้วย  และ ใหญ่ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก  พักฟื้นร่างกายอย่างเดียวพอ  เข้าใจนะ  ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากผมเลยนอกจากรอยยิ้ม ของคนที่กำลังมีความุข…..,”

(โปรด ติดตามตอนต่อไป) “หมีขาว ชั่ว โลกเหนือ”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที