Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่11

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่11

บทที่ 11.  กองกลางเข้าใหม่ กับ สิบท่าพญายม

“ความเข้มแข็งในวันนี้ มันตกผลึกมาจากความเจ็บปวดที่เคยผ่านมา”

**เมื่อได้พบกับพี่ชาย ที่ไม่เจอกันมา 10 กว่าปี และพวกพ้อง เพื่อนฝูง ทั้งคบได้ และ ไม่ได้ ต่างเข้ามาทักทาย พูดคุย มันคงเป็นมารยาท ทางสังคมในนี้ ละมั่ง ในตอนนี้ความรู้สึกของผมมันเปลี่ยนไป ไม่เหมือนตอนติดรอบที่แล้ว มันไม่เฮฮา หรือสนุกเลย

มันรู้สึกเบื่อหน่าย และ สะอิดสะเอียน เต็มทนกับที่เดิมที่นี้แล้ว แบบนี้ ผมจะผ่านมันไปได้ไงนะ ถ้าในแต่ละวัน ผมต้องคิดวนเวียน อยู่กับความเบื่อหน่ายแบบนี้ สงสัยคงต้องใช้ เวลา เพราะ เวลาเยียวยาทุกสิ่ง เดี๋ยวความคิดแย่ๆมันก็ผ่านไป**

วันนี้เป็นเช้าวันแรกในแดนแรกรับ ยังดีที่เป็นวันเสาร์และอาทิตย์ เป็นวันหยุดพักผ่อนของนักโทษ

นักโทษต่างก็จับจองที่นั่งที่อยู่กันเต็มไปหมด มีทั้งที่ใต้ถุนเรือนนอนตามทางเดิน ล็อคฝักบัว ตรงขอบบล็อค แถวบ่อขยะ ในโรงเลี้ยงก็มี เอาง่ายๆตรงไหนในแดนที่มีพื้นที่ว่างนอกจากในสนามฟุตบอลก็จะมีเหล่านักโทษนั่งจับกลุ่มกันเต็มไปหมด สวนในบ้านของผมนั้นจะอยู่กันตรงข้างห้องพิเศษใต้ถุนเรือนนอนฟังด้านหลังมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม ทุกกลุ่มก็รู้จักกันเพราะอยู่อ. เมืองเหมือนกัน ผมกำลังนั่งคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อย ก็ถึงเวลาเข้าแถว เคารพธงชาติ

นักโทษทุกคนต้องมาเข้าแถว เพื่อเช็คยอดรวมทั้งหมดในแดน เพื่อส่งยอดให้กับ เจ้าหน้าที่หัวหน้าเวรกลางคืนรับทราบต่อไป พอเสร็จจากการนับยอดใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยให้นักโทษพักผ่อน ได้ตามอัธยาศัย จึงทำให้ผม พี่เล็ก แล้วเด็กในบ้านอีก 2 คนเดินกันไปอาบน้ำ พวกผมไม่ได้อาบกันที่อ่างน้ำหรอกนะ ผมอาบกันตรงบล็อกส้วม เป็นพื้นที่จับจองของ อ.เมือง ทั้งหมดสองแถวก็ประมาณ 14 บล็อค เพื่อที่เอาไว้ใช้อาบน้ำและซักผ้า ใน 14 บล็อกนี้นักโทษคนอื่นจะรู้ทันที ว่าอย่าเข้าไปใช้เด็ดขาดถ้าไม่ขออณุญาตเสียก่อน 

” หิวหรือยังใหญ่ ถ้าไงเดี๋ยวให้เด็กมัน ตักข้าวกับแกงหลวงกินก่อน รองท้องรอ กับข้าวเบิกเอาไหม “ พี่เล็กได้ถามผม เพราะคงกลัวว่าผมจะหิว เนื่องจากอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย ” ไม่ต้องหรอกพี่เดี๋ยวไปซื้อนมกับขนมปัง ร้านพี่หล้ามากินรองท้องก่อน เพราะผมเซฟสดมา 2,000 บาท รอเด็กหน้าฝ่ายไปหยิบมาอยู่ในของใช้ผม เข้ามามันอยู่ในนั้น “ ผมตอบพี่เล็กไปแบบนั้น และ ที่ผมกล้าบอกเรื่องเงินสด ให้พี่เล็กรู้เพราะผมเชื่อว่ายังไงผม ไม่เกมเจ้าหน้าที่แน่นอนเพราะขนาดเด็กหน้าฝ่ายที่กินอยู่ในบ้านเดียวกันยังไม่รู้เลย ว่ามีเงินสดอยู่ข้างในนั้น

พออาบน้ำเสร็จก็เดินไปใส่เสื้อผ้าที่ตู้ล็อคเกอร์ ตอนนี้ผมคงต้องใช้ตู้ล็อกเกอร์กับพี่เล็กไปก่อน รอจำแนกเข้าห้อง 2/4 เป็นห้อง อ.เมืองเสียก่อน แล้วถึงจะได้ตู้ล็อคเกอร์ใบใหม่ แต่ก่อนจะได้แต่งตัว ผมก็เดินผ่านร้านค้าของพี่หล้าพอดี ร้านค้าของพี่หล้าตั้งอยู่ตรงอีกฝั่นของใต้ถุนเรือนนอน คนละฝั่งกับบ้านที่พวกผมอยู่กัน ” พี่หล้าหวัดดีครับ นม 2 กล่องขนมปัง 2 ห่อเดี๋ยวแต่งตัวเสร็จมาเอานะครับ ลงบัญชีชื่อผมเอาไว้เปิดบัญชีใหม่เลยครับ ” ผมได้เข้าไปทักทาย พี่หล้าในฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า พร้อมกับสั่งของกินไว้ด้วยเลย

หลังจากที่ได้กินอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ทันทีมันง่วงนอนมากๆมากจนผมทนไม่ได้แล้ว ผมถึงได้หลับไปพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเพราะเสียงเรียกของพี่เล็ก ” ใหญ่ๆตื่นได้แล้วมากินข้าว กับข้าวมาแล้ว ลุก กินเสร็จแล้วค่อยไปนอนต่อ “ กี่โมงแล้วพี่ ผมหลับไปนานเลยหรอ “ ผมตื่นขึ้นมา แล้ว ถามพี่เล็กไป เป็นประโยคแรก ” 10:05 น ไปล้างหน้าได้แล้ว ” พี่เล็กได้ให้ผมไปล้างหน้า แล้วรีบกลับมากินข้าว เพราะคนในบ้านตอนนี้ ล้อมวงรอผมเพียงคนเดียว แล้ว ผมลืมบอกไปครับคุณผู้อ่าน สมาชิกในบ้านของผมมีอยู่ด้วยกัน 12 คนรวมถึงผมด้วย เท่าที่ผมมองดู 12 คนกับ กลับข้าว 6 อย่าง + แกงลวงอีก 2 ถ้วยมันก็เพียงพอต่อสมาชิกทุกคนในบ้าน ที่ จะกินอิ่มกันทุกคน  ส่วนตัวผมก็เหมือนเดิม กินข้าวเสร็จสักพัก นั่งสูบยาอีก 1 ม้วนก็ได้เวลาเอนหลังลงนอน แล้วก็หลับไปโดยง่ายดายอีกครั้ง

แบบนี้แหละครับ คุณผู้อ่าน อาการของคนขาดยา หักดิบไปเลยแบบนี้ ผมจะต้องพักฟื้นแบบนี้เป็นเวลา 7 วันพอครบ 7 วัน แล้ว ร่างกายก็จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ปราศจากฉี่สีม่วง ใดใด

พอผม  กำลังเคลิ้มหลับได้ที่ อยู่นั้น ก็มีเสียงนกหวีดดังยาวๆติดต่อกันจำนวน 3 ครั้ง และ คนที่เป่าก็คือไอ้โลมามหาภัยโจทย์เรานี่เอง มันมีหน้าที่ฝึกคนใหม่

จึงทำให้รู้ว่า มันเป็นสัญญาณเรียกพวกกองกลางเข้าใหม่ทุกคน ให้มาเช็คยอดโดยด่วน  ผมกำลังจะลุกขึ้น แต่ พี่เล็ก ก็ได้ห้ามผมเอาไว้ก่อน ” ไม่ต้องไปใหญ่ ไม่มีอะไรหรอก มันก็ เรียกกวนตีนไปอย่างนั้นแหละ  เดี๋ยวให้ไอ้แป๊ะมันเดินไปเข้าแทนให้ เอ็งไปนอนต่อไป เดี๋ยวตอนเช็คยอดบ่าย พี่จะปลุกเอง “

ผมจึงได้ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง  คราวนี้รวดเดียว ตื่นอีกที ตอนที่พี่เล็กมา ปลุก เช็คยอดเลยทีเดียว แต่พอตื่นแล้ว ท้องมันก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที ก็เลยคิดไว้ว่าพอเช็คยอดเสร็จ จะไปจัดขนมที่ร้านพี่หล้าต่อ ผมจึงได้ถามพี่เล็กไปว่า” พี่เล็กไอ้น้องหน้าฝ่ายมันเอาของใช้เข้ามาให้หรือยัง ” ยังเลยใหญ่ แต่มันเดินมา บอกพี่แล้วล่ะว่าตอนนี้ยังไม่โปร่ง พัศดีคนนี้เขาเข้มงวด รอให้แกหลับซะก่อน ถึงจะถือของเข้ามาได้ “ พี่เล็กได้ตอบ ให้ผมหายข้องใจว่าทำไม ของใช้ผมถึงยังไม่เข้ามาสักที และหลังจากเช็คยอด13:00 น เสร็จ

ผมก็เดินไปร้านพี่หล้า จัดขนมมาอีก 200 บาทเพื่อเอามากินแล้วก็เลี้ยงเด็กๆในบ้านกัน เป็นไงแป๊บเดียวผมก็เป็นหนี้เกือบจะ3ร้อยแล้ว ไวเหมือนโกหกใช่ไหม ผมก็เคยบอกว่าเวลาเป็นหนี้ในคุกนั่นไวๆจะส่งดอกแต่ละอาทิตย์ เดี๋ยวเดียว ก็ อาทิตย์อีกแล้วอาทิตย์อีกแล้ว จริงๆนะครับเวลาคนเป็นหนี้เนี่ย ทำไมเวลามันเร็วเกิน พอดีกับผมกินขนมเสร็จหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนอีกแล้วก็เลยไปนอนต่ออีกดีกว่า มันเหมือนกับว่าวันนี้ผมแทบ ไม่ได้คุยกับใครเลย ผมรู้ว่าหลายคนมีคำถามอยากจะถามกับผมมากมาย กับเรื่องข้างนอก กับเรื่องคนนู้นคนนี้…เห็นเมียกูบ้างไหม เมียกูไปกับใครหรือเปล่า อะไรประมาณนี้แหละ ส่วนมากนะจะเป็นเรื่องเมีย ซะมากกว่า

แต่อันที่จริงแล้ว สำหรับเรื่องเมียนั้น ถึงผมรู้ผมก็ไม่อยากบอก พวกมันหรอก เพราะผมคิดว่าในเมื่อมันยังมาเยี่ยมมึงอยู่ ถึงมันจะมีคนอื่นมันก็ไม่แปลกหรอก เพราะถ้ามองกลับกันแล้ว เป็นเมียพวกมึงติด แล้วมึงอยู่ข้างนอก มึงจะไม่มีคนอื่นเลยหรือไงมึงจะชักว่าว อย่างเดียวเลยหรอ  ก็ในเมื่อมันยังมาเยี่ยมพวกมึงอยู่ ก็อย่าไปคิดอะไรมากเลย มันอยู่ข้างนอกมันก็ต้องดิ้นรน ยิ่งมึงต้องหวังพึ่งเงินเมียพวกมึงด้วยแล้ว อย่าทำเป็นปากดี ปากเก่งไปเลย เดี๋ยวจะอดแดกไม่รู้ตัว

แต่อันที่จริงแล้ว…การที่เราติด คุก และ เมียของเรานั้นลื่น(มีคนใหม่) มันเป็นของคู่กัน อันที่จริงๆเราต้องทำใจ และ ยอมรับมันได้แต่เนิ่นๆอย่าไปผูกมัดหรือตั้งความหวังเอาไว้ว่ามันจะรอเราจนถึงวันที่เรากลับบ้านเพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันจะทำให้เราเครียดคิดมากและเป็นกังวลเราอยู่ในนี้เราต้องทำใจให้ได้ทำใจยอมรับถ้ามันจะทิ้งเราไปหรือไม่มันยังมาเยี่ยมเราอยู่ยังคอยดูแลส่งเสียเราทั้งที่เรารู้ว่ามันยังมีคนอื่นขออย่าได้โกรธเขาเลย แต่อย่าทำเป็นปากดีขับไล่ไสส่งเขาไปแกล้งหูหนวกตาบอดไปซะ เพื่อตัวมึงเองจะได้ไม่ลำบากมึงต้องคิดว่าเป็นตัวมึงที่ทิ้งมันมาก่อนที่มันจะทิ้งมึง สำหรับผมนั้นผมไม่เคยคิดมากเรื่องนี้เลย ผมตัดได้ตั้งแต่วันที่ผมโดนจับอยู่โรงพักแล้วล่ะเพราะว่าติดคุกก็เครียดพออยู่ แล้ว แถมยังจะมีห่วงคล้องคออีก ดูแล้วคงไม่นานห่วงที่คล้องคอ คงได้กลายเป็นเชือกไนลอน แขวนคอ ตัวเองแน่นอน…”

(โปรดติดตาม ตอนต่อไป) “หมีขาว ขั้ว โลกเหนือ”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ Foong-Trending

What's your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0

You may also like

Story

ประวัติวันสงกรานต์ เทศกาลประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน.

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยแบบดั้งเดิมที่มีการเฉลิมฉลองทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ เพราะในวันนี้ผู้คนจะนิยมนำน้ำมาสาดใส่กันเพื่อคลายร้อนอย่างสนุกสนาน
Story

เปิดประวัติที่มาของสงครามนกอีมู สงครามสุดแปลกที่โลกนี้ต้องจดจำ

สงครามนกอีมู หรือที่เรียกว่าสงครามนกอีมูครั้งใหญ่ เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในปี 2475 ปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมประชากรของนกอีมู ซึ่งก็ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลในภูมิภาคออสเตรเลีย
Story

เปิดประวัติที่มาของวัน “April Fool’s Day” หรือ “วันโกหก” วันสุดแสบแสนตลกของผู้คนทั่วโลก!

"วันโกหก" นักประวัติศาสตร์ได้เชื่อว่าวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลฮิลาเรียของโรมันที่จัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เพราะเทศกาลนี้ผู้คนจำนวนมากจะออกมาแต่งกายตลก ๆ พร้อมกับมีการละเล่นที่เรียกเสียงหัวเราะของผู้คน ซึ่งก็คล้ายคลึงกับวันโกหกเป็นอย่างมาก และในยุคต่อมาก็ได้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

Comments are closed.

More in:Story

Story

เปิดประวัตินิทานของ “อีสป” ต้นตำรับนิทานคติสอนใจผู้เป็นตำนานของโลกแห่งนิทาน

นิทานของอีสปเป็นนิทานที่ถูกแต่งขึ้นโดยทาสชาวกรีกที่มีขื่อว่า อีสป (Aesop) ที่นักวิชาการต่างลงความเห็นว่าเขานั้นน่าจะเกิดอยู่ในช่วง 620 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นทาสโดยกำเนิดตามกฏหมายของชาวกรีก
Breaking News

ซีเซียม-137 คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวที่ถูกพูดถึงมากมาย เกี่ยวกับประเด็นท่อเก็บสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ก็ได้มีรายงานว่าพบวัตถุดังกล่าวแล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากจากข่าวนี้
Story

คุก (อิสระภาพ ความหวัง กำลังใจ) บทที่ 84

ผมและไอ้แว่นได้ลงมาตั้งแถวรอเยี่ยมญาติอยู่หน้าองค์พระประจำแดน ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับพวกที่มีชื่อเยี่ยมญาติในแต่ละรอบ ผมสังเกตเห็นไอ้แว่นมันดูลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากจะถามอะไรผม แต่มันก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที