การบูร สมุนไพรสารพัดประโยชน์
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายตั้งด่านค้นรถพบผง “การบูร” อ้างเป็นยาเค ในบทความนี้ทางผู้เขียนจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการบูรมาฝากเพื่อนๆทุกคน โดยเนื้อหาจะมีความน่าสนใจอย่างนั้น ติดตามกันได้เลย
การบูรคืออะไร
การบูร เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง สามารถนำลำต้น,ราก,ใบ มากลั่นหรือสกัดจนได้ผลึก และเมื่อนำมากลั่นจะได้น้ำมันระเหยง่าย ซึ่งประกอบด้วยสารต่างๆ เช่น camphor, safrol, cineole, pinene, camphene, phellandrene และ limonene สำหรับ camphor จะเป็นผลึกแยกออกมาเรียกว่าการบูร ใช้เป็นยาระงับเชื้ออย่างอ่อน ยากระตุ้นหัวใจ ขับลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ปวด ทำยาทาถูนวดแก้ปวดตามข้อ เป็นอีกหนึ่ง สมุนไพรสารพัดประโยชน์ ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน
ลักษณะของการบูร
การบูรจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นทรงพุ่มกว้างและทึบ มีความสูงของต้นได้ถึง 30 เมตร ลำต้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1.5 เมตร เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาล ผิวหยาบ ส่วนเปลือกกิ่งเป็นสีเขียวหรือเป็นสีน้ำตาลอ่อน ลำต้นและกิ่งเรียบไม่มีขน
ส่วนเนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลปนแดง เมื่อนำมากลั่นแล้วจะได้ “การบูร” ทุกส่วนของต้นการบูรจะมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะที่ส่วนที่ของรากและโคนต้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด และวิธีการปักชำ
โดยส่วนที่เรียกว่าการบูร คือผลึกที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูร ที่มีอยู่ทั่วไปทั้งต้น โดยมักจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ และมีมากที่สุดในแก่นของราก รองลงมาคือส่วนแก่นของต้น ซึ่งส่วนที่อยู่ใกล้กับโคนต้นจะมีการบูรมากกว่าส่วนที่อยู่เหนือขึ้นมา ส่วนในใบและยอดอ่อนมีการบูรอยู่น้อย โดยในใบอ่อนจะมีน้อยกว่าใบแก่ ซึ่งผงการบูรนั้นจะมีลักษณะเป็นเกล็ดกลมๆ ขนาดเล็ก เป็นสีขาวและแห้ง อาจจับกันเป็นก้อนร่วนๆ และแตกง่าย เมื่อทิ้งไว้ในอากาศจะระเหิดไปหมด
สรรพคุณของการบูร
การนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนมากจะเป็นประโยชน์ทางยา แก้ปวดท้องจุกเสียด ธาตุพิการ ขับลมในลำใส้ แก้ไอ น้ำมันการบูรจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกและทำให้จิตใจโล่งและปลอดโปร่ง ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและทำให้ตื่นตัว ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ
ข้อจำกัด และข้อควรระวังในการใช้การบูร
แต่ถึงแม้ว่ามีประโยชน์มากมายแค่ไหนก็ตาม แต่หากใช้มากเกินความจำเป็นก็ย่อมส่งผลเสียได้เช่นกัน สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน และผู้ที่มีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขัด เป็นโรคริดสีดวงทวาร อุจจาระแข็งแห้งไม่ควรรับประทาน
สำหรับการสูดดมมีการคำนวณว่าในสารที่ผสมการบูรเสร็จแล้ว ไม่ควรเกินกว่า 2 ppm ซึ่งหมายความว่า มีปริมาณของการบูร 2 มิลลิกรัมในสารละลาย 1 ลิตร ดังนั้นในการใช้การบูรทั้ง การรับประทานและการสูดดมความต้องระมัดระวังและใช้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
อ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติม : สมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ต้านโควิดจริงหรือ?
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ quotesaboutsmile