“แอมมี่” เฉลยเหตุผลของการวางเพลิงผ่านโพสล่าสุด
อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันมาบ้างแล้วนะคะ ว่า “แอมมี่” เดอะบอตทอมบลูส์ หรือ นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ เป็นอีกหนี่งศิลปินที่เปิดตัวชัดเจนอยู่ข้าง “เยาวชนปลดแอก” และได้ไปร่วมม็อบของนักศึกษาอยู่เสมอ ซึ่งในล่าสุดนี้ได้ตกเป็นผู้ต้องหาหลายคดีด้วยกัน สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกนั้น เรื่องราวทั้งหมดเราได้รวบรวมเอาไว้ดังนี้ค่ะ
เกิดอะไรขึ้น??
เริ่มเรื่องจากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุเผาป้าย และพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กทม. เมื่อคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ได้มีความคืบหน้าในวันที่ 3 มีนาคม 2564 นั่นก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเยาวชนชายอายุ 17 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อสอบปากคำ หลังพบว่าเยาวชนคนดังกล่าวนั่งรถคันเดียวกันกับ ”แอมมี่” ผู้ต้องหาจากเหตุการณ์เผาหน้าเรือนจำคลองเปรม
เยาวชนชายรายนี้ให้ปากคำว่า แอมมี่กับเพื่อนรวม 3 คนได้ชวนตนให้ขับรถไปยังที่เกิดเหตุโดยไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไร จนกระทั่งไปถึงบริเวณป้ายหน้าเรือนจำคลองเปรม แอมมี่และเพื่อนได้ลงไปก่อเหตุเผา ส่วนตนเองนั่งรออยู่ในรถโดยไม่คาดคิดว่าแอมมี่กับเพื่อนจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
สู่การเป็นผู้ต้องหา
หลังจากที่ศาลอาญาได้ออกหมายจับ แอมมี่ คดีเกี่ยวกับการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และฐานความผิด ม.112
ตำรวจสืบสวนนครบาลก็ได้นำกำลังเข้าจับกุม แอมมี่ ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ก่อนทำการควบคุมตัว แอมมี่ ให้การว่าได้รับบาดเจ็บที่ด้านหลัง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลราชธานีก่อน จากนั้นได้ทำบันทึกจับกุมที่บริเวณดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมารักษาอาการบาดเจ็บต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
ความเคลื่อนไหวล่าสุด
ในวันที่ 3 มีนาคม เมื่อเวลา 16.15 น. แอมมี่ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรกหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมจากคดีตกเป็นผู้ต้องหากรณีเผารูปพระบรมฉายาลักษณ์บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีเนื้อหาดังนี้
“การกระทำการเผา…ในครั้งนี้เป็นฝีมือของผมและผมขอรับผิดชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเคลื่อนไหว หรือ การเรียกร้องใดๆ
เหตุผลของผมนั้นเข้าใจง่ายมากเล่าไปถึงตอนผมโดนจับไปวันที่ 13 ตุลา ปีที่แล้ว เพนกวิ้นคือคนแรกที่โทรหาผมบนรถห้องขัง และ ประกาศรวมพลมวลชนทันที
แต่กลับกันในครั้งนี้ กวิ้น และ พี่น้องของผมต้องติดอยู่ในคุกนานกว่า 20 วันแล้ว แต่ผมไม่สามารถที่จะช่วยเหลือพวกเค้าได้เลย ผมรู้สึกละอายและผิดหวังในตัวเอง
การเผา…ในครั้งนี้ ผมยอมรับว่าเป็นความคิดที่โง่เขลาและทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ในการเผาครั้งนี้มีอยู่มากมาย เป็นเชิงสัญลักษณ์ง่ายๆ ที่หวังว่าทุกคนเข้าใจและจะมองเห็นมัน
หวังว่าจะได้พบกันใหม่ ขอให้ทุกคนสู้ต่อไป”
รูปที่ลงเอาไว้ เป็นรูปที่เจ้าตัวได้โพสต์ภาพ ชู 3 นิ้ว และ ถูกโซ่ล่ามเท้า
และนี่ก็คือเรื่องราวตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงล่าสุดค่ะ (3 มีนาคม2564) เนื้อหาทั้งหมดนี้ ผู้เขียนตั้งใจนำเสนอเพื่อเป็นการส่งต่อข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนากล่าวหา หรือหมื่นผู้ใดทั้งสิ้น หากมีจุดไหนที่ตกหล่น หรือผิดพลาดไปต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับการอ่านมาจนจบ แล้วเจอกันในบทความถัดไปค่ะ
สามารถติดตามข่าวทันกระแสเพิ่มเติมได้ที่ : breaking news และ Foong-Trending