อันยองง เจอกันอีกแล้วนะคะทุกคน วันนี้มาเหมือนเดิมกับการ ส่องประวัติ BTS นั่นเอง ซึ่งคิวในวันนี้เราเชื่อเลยว่าทุกคนกำลังรอคอยข้อมูลของเขาอยู่อย่างแน่นอน และคนคนนี้ก็คือ SUGA หรือ Yoongi นั่นเอง ต้องขอโม้ไว้ก่อนเลยนะคะ ว่า SUGA เป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทในส่วนของการทำเพลง BTS เป็นอย่างมาก โดยเรื่องราวชีวิตต่างๆของเขาก็มีความน่าสนใจเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลย
ชื่อจริง : มิน ยุนกิ (Min Yoongi)
ชื่อในวงการ : ชูก้า (Suga)
วันเกิด : 9 มีนาคม 1993
กรุ๊ปเลือด : O
ตำแหน่ง : แรปเปอร์หลัก
ชูก้า เกิดและอาศัยอยู่ที่แดกู ชื่นชอบการเขียนเพลงมาตั้งแต่อายุ 13 จึงเริ่มต้นการเป็นแรปเปอร์และนักแต่งเพลงใต้ดินย่านแดกู ใช้ชื่อในตอนนั้นว่า “Gloss” ชูก้าเริ่มขึ้นแสดงตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายเพื่อพิสูจน์ฝีมือของตัวเอง และตัดสินใจเข้าร่วมการออดิชั่นที่ Big Hit Entertainment ในรายการแข่งขันแรปที่ชื่อว่า “Hit It” จนเข้ารอบชิงชนะและคว้าอันดับที่ 2 มาครอง แต่ถึงแม้ว่าชูก้าจะไม่ชนะการแข่งขันนั้น เขาก็ได้เป็นเด็กฝึกหัดภายใต้ต้นสังกัด Big Hit Entertainment พ่วงตำแหน่งโปรดิวเซอร์อีกด้วย
ซึ่งความจริงแล้ว ความตั้งใจของ ชูก้า นั้นอยากที่จะเป็นโปรดิวเซอร์แค่อย่างเดียว แต่เพราะว่าประธานค่าย(บัง ชีฮยอก) เคยบอกกับเขาว่าถ้าหากเข้าร่วมการฟอร์มวง BTS ก็จะทำให้ ชูก้า เป็นสมาชิกกลุ่มแรปเปอร์ชื่อดังตามรอย 1TYM(วงฮิปฮอปสังกัด YG) จนทำให้ชูก้าตัดสินใจเข้าร่วมทีม BTS
หลังจาก BTS เดบิวต์อย่างเป็นทางการแล้ว ชูก้าและอาร์เอ็ม ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมอีเวนท์พิเศษที่รายการวิทยุ(เกี่ยวกับฮิปฮอป) ซึ่งในวันนั้นก็ได้มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อเขาและอาร์เอ็มถูกแรปเปอร์คนหนึ่ง(bfree) ว่าร้ายในขณะที่รายการกำลังออนแอร์ ด้วยการเอ่ยว่าพวกเขาไม่มีความอดทนต่อความลำบากในการเป็นแรปเปอร์ใต้ดิน จนละทิ้งศักดิ์ศรีของแรปเปอร์โดยการไปเป็นไอดอล มีการแต่งหน้าเหมือนผู้หญิง และหลังจบรายการแรปเปอร์คนดังกล่าวยังมีการทวิตข้อความถึงอาร์มี่ที่ไปคอมเมนต์ด่าเขาอีกด้วย “ผมแนะนำคุณด้วยความจริงใจให้ไปหาแฟนสักคนเถอะ” และนี่คือที่มาของเพลง Cypher pt.2
ซึ่งเหตุการณ์ที่โดนดูถูกกลางการออกอากาศโดยแรปเปอร์ร่วมวงการในครั้งนั้น นับเป็นบาดแผลใหญ่ในใจของชูก้าและอาร์เอ็มอย่างมาก เพราะจุดเริ่มต้นของชูก้านั่นก็คือการเป็นแรปเปอร์ ได้แรปและเขียนเพลงเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองโดยไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์ แต่นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถทำได้หากอยู่ในฐานะไอดอล ซึ่งในที่สุดแล้วชูก้าก็เลิกอคติกับคำว่าไอดอล และนอกจากจะภาคภูมิใจในความเป็นไอดอลของตัวเองแล้ว ยังมีความสุขที่ตนเองนั้นสามารถที่จะมอบความสุขให้กับแฟนๆได้
ชูก้ารับหน้าที่เป็นทั้งแรปเปอร์ นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment ซึ่งในบทบาทการเป็นพีดีหรือนักแต่งเพลงนั้นก็โดดเด่นจนได้รับรางวัลในฐานะโปรดิวเซอร์จากงาน MMA award อีกด้วย ซึ่งหากนับตามรายงานล่าสุด(ข้อมูลปี 2020) ชูก้ามีลิขสิทธิ์เพลงถึง 116 เพลงเลยทีเดียว และนี่คือสิ่งที่จะการันตีได้ดีว่า SUGA คือหนึ่งไอดอลที่มีความสามารถในการทำเพลง เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าอาร์มี่ได้อยู่เสมอ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Keywordsfun และ quotesaboutsmile